สวัสดีค่ะ  เพื่อนรักนักเดินทางทุกคน  วันนี้เคทขอมาเล่าประสบการณ์การเดินทางไปเมืองขั้วโลกเหนือเพื่อตามล่าหาแสงเหนือ หรือ ออโรร่า เป็นครั้งที่ 2 ในเดือนมีนาคม 2017 ที่ผ่านมา หลังจากผิดหวังอย่างแรงไม่ได้เจอแสงเหนือเลยในทริปเมื่อเดือนธันวาคม 2016   ก็ใจมันห่อเหี่ยว ทุกวัน นั่งคิด นอนคิด ว่าทำไม๊ ทำไม เราจะไม่มีบุญได้เจอแสงเหนือเหมือนคนอื่นเค้าจริงๆหรอ  เฝ้าศึกษา ค้นคว้า เก็บข้อมูลเกี่ยวกับแสงเหนือกันจนบ้าคลั่งล่ะค่ะ

เกร็ดความรู้
แสงเหนือเป็นปรากฏการณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่น่าทึงที่สุดในระบบสุริยะจักรวาล พลังแสงเหนือจะเริ่มเกิดเป็นวงนิ่งจางๆ ด้วยปฏิกิริยาของระหว่างพลังงานคลื่นแม่เหล็กบริเวณขั้วโลกกับแสงอาทิตย์ทำให้วงแสงนั้นระเบิดออกมาเป็นสีต่างๆ พุ่งกระจาย วิ่งไปวิ่งมา ราวกับเป็นมังกรบินไปมาในท้องฟ้าอันมืดมิด เราจะเห็นเหมือนแสงเหนือจะมาจากพื้น หรือพุ่งสูงขึ้นสู่ท้องฟ้า แต่ความจริงแล้ว แสงออโรรานั้นเกิดขึ้นที่ความสูงจากพื้นโลก (altitudes) ประมาณ 100 ถึง 300 กิโลเมตร บริเวณที่อยู่บริเวณบรรยากาศชั้นบนที่อยู่ใกล้กับอวกาศเชียวนะ

และแล้ว  วันนึง  ก็เจอว่าค่าตั๋วเดินทางไปกลับกรุงเทพ มอสโคว ลดลงเหลือไม่ถึง 19,000 บาท  
เฮ้ย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
                            เฮ้ย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
                                                           เฮ้ย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! จองสิคะจะรออะไร

และแล้วเคทก็ตัดสินใจกลับไปรัสเซีย  ผจญภัยในเมืองมอสโคว  เซนต์ปีเตอร์เบิร์ก  และมูร์มังส์ก  ด้วยความหวังอันเรืองรองว่าต้องเห็นแสงเหนือ  แผนการเดินทางในครั้งนี้  เคทตั้งใจว่าต้องออกมาพิเศษไม่เหมือนใคร  แหม! ก็เดี๋ยวเสียฟอร์มหมดก็มาครั้งที่ 2 แล้วยังเที่ยวแบบลูกทุ่งๆ ไม่รู้อะไร  ซื้อทัวร์มาตราฐานที่ใครๆก็ไปได้ทำไมล่ะ เนอะ  เนอะ เนอะ เนอะ

ทันใดนั้น   แผนการเดินทางก็ออกมาหลังจากวันที่เห็นโปรตั๋วเครื่องบินในไม่กี่ชั่วโมง  


รวบรวมเพื่อนร่วมเดินทางได้ทั้งหมด 16 คนในเวลาหลังจากนั้นไม่กี่วัน  ทุกอย่างก็พร้อมอย่างง่ายดาย  ก็เหลือแค่รอวันเดินทาง.....ตื่นเต้นมากๆเลยค่ะ  ตามมากันนะคะว่าพวกเราไปในครั้งนี้จะเจออะไรบ้าง  ขอเล่าเจาะตั้งแต่วันที่ 4 ถึงวันที่ 7 ที่เราไปถึงเมืองมูร์มังส์กเลยก็แล้วกัน  ขอเล่าข้ามการท่องเที่ยวในมอสโคว เซนต์ปีเตอร์เบิร์ก จุดหมายของนักเดินทางทั่วโลก  ทุกคนรับรู้ถึงความสวย สง่า อลังการ เป็นอย่างดีอยู่แล้วเนอะคะ

มาตามพวกเรามาเลยค่า  20 มีนาคม 2016 ขอเริ่มจากสนามบิน Pulkovo เพื่อบินไปที่มูร์มังส์กกันเลยค่า  

ในเวลาไม่ถึง 2 ชม. เราก็มาถึงมูร์มังส์กกันแล้วล่ะค่ะ   เย้!! เจอหิมะแล้วนะ  หลังจากที่มอสโคว กับเซนต์ปีเตอร์เบิร์กตกนิ้ด เดียวเอง  สวยไหม แหมท้องฟ้าเคลียร์มากๆเลยนะคะวันนี้  คืนนี้ก็ต้องเจอแสงเหนือล่ะสิ  อิๆ  เคทแอบคิดเข้าข้างตัวเองทันที ก็ตามตำราที่ศึกษามาเค้าบอกนิ


พอลงจากเครื่องเราก็มารอรับกระเป๋าที่สายพาน  ปรากฎว่าคุณ Oleg เข้ามารับพวกเราถึงข้างในนี้ พอเห็นพวกเรา เค้าก็จำเคทกับเพื่อนอีกคนได้เพราะเพิ่งจะจากไปไม่ถึง 3 เดือนเลย 555 เค้าเข้ามาต้อนรับ พาเราไปที่รถ  แต่ก่อนอื่นใด เค้าเปิดแชมเปญเลี้ยงเป็น welcome drink สำหรับพวกเรา วิเศษไปเลย เป็นการเปิดตัวที่น่าประทับใจที่ทาง Oleg เค้าตั้งใจวางแผนมาอย่างดี  ขอบคุณมากนะคะ  คลายเหนื่อยไปเยอะเลย 555

[
หลังจากที่พวกเราได้เข้าเช็คอินโรงแรมเรียบร้อยก็  เซิฟๆ เข้าโปรแกรมมาตราฐานของ Mr. Oleg แห่ง Visit Murmansk พาไปเที่ยวชมรอบๆ  เมืองมูร์มังส์ก จนเย็นค่ะ  ชมบรรยากาศเล็กๆได้จากรูปและคลิปด้านล่างนี้เลยนะคะ



อุณหภูมิวันนี้ค่ะ

หลังจากนั้น  พวกเรามีนัดดินเนอร์มื้อพิเศษกับ Oleg ค่ะ  เค้าตั้งใจจัดเตรียมให้เป็นพิเศษ  เคทและเพื่อนๆก็ต้องสนองสิคะ จิงไหม
และแล้ว  ไฮไลท์ของคืนนี้ก็มาถึง  ขาปูยักษ์ค่า  กิโลละ 650 บาท ทำมาร้อนๆ ใหญ่มวากกกกกกกกกกกกกกกกก  ขาปูยักษ์ฮอกไกโดชิดซ้ายไปเลย   ว้าววววววววววว   กินกันจนอิ่ม จริงๆไม่ควรสั่งอาหารเพิ่มแระ ขอเบียร์กับปูพอ 55555  ฟินฝุดๆๆๆๆๆๆ


ฟินมากเบียร์ทาวเวอร์ละ 200 บาท หารกันไม่ถูกเลยจ่ายคนละ 10 บาทนี่นะ  คิดถึงจัง

การแสดงพื้นเมืองต้อนรับแบบมูร์มังส์กค่ะ

ขอบคุณ Oleg นะคะ  จัดต้อนรับพวกเราอย่างดีเลยค่ะ


หลังจากที่อิ่มหมีพีมันแล้ว   เราก็เข้าที่พักเพื่อเตรียมตัวไปล่าแสงเหนือกันแลล้วววววค่าาาาาา  คุ้มมากๆเลยนะคะวันนี้  กิจกรรมเต็มวันเลย  

และแล้วก็ถึงเวลาออกล่า  ขณะนี้อุณหภูมิ -7 และความเป็นไปได้ที่จะเห็นแสงเหนืออยู่ที่ KP 1.7  แม่เจ้าทำไมมันต่ำนักล่ะ  ใจก็เฝ้าบอกกับตัวเองว่า  ขอเถอะ  ขอเจอสักครั้ง บางๆก่อนก็ได้   ทันใดนั้นเอง เคทก็หันไปเห็นแสงเขียวๆเล็กๆบางๆลอยอยู่ในป่าข้างทาง  รีบตะโกนถาม Oleg ผู้ที่พาพวกเราออกล่าด้วยตัวเอง ว่านั่นใช่ไหม ใช่แสงเหนือไหม  มันทำไมวิ่งไปวิ่งมา ด้านซ้าย ด้านขวา เพื่อนๆทุกคนในรถ พากันตะโกนชี้ชวนให้ดูด้านโน้นด้านนี้ เพราะแสงเต้นไปเต้นมา  ในที่สุด Oleg ก็บอกว่าใช่แล้วนี่แหล่ะแสงเหนือ  แล้วเค้าก็พาพวกเราจอดในจุดจอดเพื่อถ่ายภาพกับแสงเหนือด้วยกัน 2-3 จุด  ภาพที่ได้มาประมาณนี้ค่า  เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเจอแสง........เหนือแล้วววววววววววววว


ขอเล่าบรรยากาศ  และความรู้สึกของพวกเราตอนนั้น  ให้ฟังนิดส์นึง

ผู้ร่วมเดินทางทุกคนต่างมองแสงเต้นไปเต้นมาอย่างมีความสุขอยู่ภายในรถที่กำลังแล่นหาที่จอดที่เหมาะสม ขณะเดียวกันกับที่แสงเหนือเองก็โผล่ออกมาจากมุมโน้น มุมนี้ที ทำให้พวกเราต้องชะโง้ ชะแง้แลมองกันได้แทบตลอดเวลาเลยทีเดียว
แม้แต่ตัวไกด์ที่น่าจะได้เห็นแสงเหนือเป็นประจำเองยังแสดงความตื่นเต้นออกมาให้เราเห็นอย่างนอกหน้าคอยชี้ชวนให้พวกเราทั้ง 16 คนดูตาม
พวกเราร่วมใจร้องตะโกนลั่นว่า
'ออโรร่า ออโรร่า ออโรร่า' ไปด้วยกันตลอดทาง นับเป็นอารมณ์ที่คละเคล้าตั้งแต่สุขใจ สุดยอด โชคดี อัศจรรย์ใจ ประหลาดใจ ฮึกเหิม ทำให้ทุกขณะเวลาที่ผ่านนั้นเต็มไปด้วยความประทับใจตราบนานเท่านาน
พวกเราออกล่าแสงเหนือตั้งแต่ช่วงเวลาตั้งแต่ 4 ทุ่มถึงตี 1 ในคืนแรกที่ถึงเมอร์มังส์ก แถมพลังแสงเหนือในคืนแรกแม้ KP 1 กว่าๆ แต่ก็ทำให้เราตะลึงอยู่ร่วม กว่า 3 ชั่วโมง นับตั้งแต่บนรถจนลงมาถ่ายรูป 2 จุด ทุกคนได้ถ่ายภาพ และเรียนรู้เทคนิคการถ่ายคนกับแสงเหนือให้ออกมาสวยจนหนำใจ เป็นความรู้สึกสุดบรรยายจริงๆ



มาวันแรกก็โดนซะแล้ว ช่ายม้าาาาาาา   ยังๆๆๆๆๆ ยังมีอะไรอีกเยอะจะเล่าหลังจากนี้ ขอให้ตามติด ติดตามกันนะจ้ะ  วันนี้ดึกแล้วขอพักก่อนน้าา