ทริปนี้เราเริ่มจากเราไปเห็นภาพตามทะลสาปน้ำแข็งไบคาลตาม Facebook ตามรีวิวต่างๆที่มีคนเที่ยว เลยอยากมาบ้าง แต่ตอนที่เราตัดสินใจจะมา มันเป็นกลางเดือน มีนาคม ของปี 2016 ซึ่งถ้าตัดสินใจมาปีนั้น ก็กลัวว่าจะไม่ทันและน้ำแข็งจะเริ่มละลายแล้ว เราเลยแพลนกันว่า ตกลงเราจะไปกันในปี 2017 เรียกว่าวางแผนกันข้ามปีเลย จากนั้นเราก็เริ่ม กูเกิ้ลหาเอเย่นไกค์ท้องถิ่นที่พาเที่ยวทะเสาปในช่วงหน้าหนาว ได้มาเจอไกค์คนนึง เห็นว่ามีคนไทยใช้บริการเค้าเยอะพอสมควร ชื่อ Jack เราก็เลยไปขอ แอด Facebook ของเขาและส่งข้อความไปคุยกัน เรื่องรายละเอียดต่างๆ ตกลงเรื่องจำนวนวันที่จะไป และ ราคา กันเรียบร้อย ก็เริ่มเช็คราคาตั๋ว บินตรงของสายการบิน S7 Bangkok-Irkutsk ไปกลับ ช่วงเดือน กุมภา ปี 2017 ตอนนั้นตั้งใจอย่างเดียวว่าจะไปเที่ยวแค่ทริปทะเลสาปไบคาลเท่านั้น ใจร้อน จองตั๋วไปก่อนใคร จากนั้นได้ไปอ่านเจอกระทู้นึงไปดูแสงเหนือที่ เมือง Murmansk ทางตอนเหนือสุดของรัสเซีย ไอเดียบรรเจิดอีก เลยคิดว่าไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว บินต่อไปอีกดีกว่า ยังงัยมันก็หน้าหนาวเหมือนกัน มีโอกาสได้เห็นแสงเหนือด้วย แต่ดันจองตั๋ว S7 ไป-กลับสะแล้ว ดีว่าสามารถทำ Refund ตั๋วได้สบายไป อิอิ ส่วนตั๋วที่เหลือที่จะไปดูแสงเหนือต่อเราค่อยๆทะยอยจองกัน จนครบทุกไฟล์ ทริปทะเลสาปไบคาล รวบรวมสมาชิกได้ 16 คน  แต่ไม่ไปดูแสงเหนือต่อ 4 คน ทริปเป็นการชวนกัน เพื่อนต่อเพื่อนบอกต่อๆกัน บางคนไม่รู้จักกันมาก่อนเลย บางคนเคยเดินทางเที่ยวด้วยกันมาก่อนบ้าง ทุกคนรู้ว่าจะต้องเจอกับสภาพอากาศที่หนาวขนาดติดลบทุกวัน เราคุยกันข้ามปีจึงมีเวลาค่อนข้างนานในการเตรียมตัวหาชุดและอุปกรณ์กันหนาวต่างๆ
การรอคอยข้ามปีในที่สุดก็มาถึงวันเดินทางของพวกเรา พร้อมชุดกันหนาวแบบจัดเต็มถือขึ้นเครื่องกันไปเลย เพราะลงเครื่องปุ๊ปจะเจอกับอากาศติดลบที่หนาวมากทันที เรานัดเจอกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิตอนประมาณบ่ายโมง พร้อมเดิน จาก กรุงเทพ - เอียร์คุส ใช้เวลาในการบินประมาณ 6 ชม เรามาถึงสนามบินเอียร์คุสประมาณ เที่ยงคืนกว่าๆ กว่าจะผ่านการตรวจเอกสารออกมาก็ประมาณ ตี 1 เจอกับไกค์แจ็คที่มารอรับที่สนามบิน แจ็คทักทายทุกคนในทริป เฟรนลี่มากๆ
เราได้ขึ้นรถที่แจ็คมารับเดินทางต่อไปยังเกาะ Olkhon ใช้เวลาเดินทาง ทางรถอีกประมาณ 6 ชม ก็มาถึงที่พักซึ่งตั้งในหมูบ้าน Khuzhir อยู่บนเกาะ Olkhon ที่พักพวกเราเป็นเกสท์เฮ้าท์ มีบ้านเป็นหลังๆ พวกเราได้อยู่บ้านหลังใหญ่ มีชั้นบนและล่าง กระจายอยู่ ห้องละ 2 คน และ 3 คน
ในห้องมีฮีทเตอร์ สะดวกสบายไม่หนาว ห้องน้ำสะอาดมีน้ำอุ่นให้ สบายมาก เราจะนอนกันที่นี่เป็นเวลา 4 คืน
เก็บของเข้าที่พัก พักผ่อนจากนั้นลงไปทานอาหารมื้อเช้าที่ทางเกสเฮ้าท์มีให้ เรามาถึงกันวันแรกแจ็คพาออกไปเดินชมวิวบริเวณรอบๆเกาะเบาๆก่อน โฉมหน้าแจ็คผู้ใจดีของเรา
แจ็คพาเดินดูหมู่บ้าน โรงเรียน ไปจนถึงจุดชมวิว ในรูปนี้เป็นบริเวณหน้าที่พักของเรา ถนนคลุมด้วยหิมะ เดินผ่านโรงเรียน ไปเกาะรั้วดูเด็กๆกำลังเล่น ฮ๊อกกี้คลายความหนาวกัน
บ้านของชาวบ้านบนเกาะ หนาวแค่ไหนสังเกตุจากน้ำที่ไหลมาตามร่องหลังคา กลายเป็นน้ำแข็งหมด หมูบ้านบนเกาะค่อนข้างเงียบ นานๆจะมีรถวิ่งผ่านมาสักคันนึง คงเป็นเพราะเป็นช่วงฤดูหนาว แต่ถึงจะเงียบๆ บนเกาะก็มีร้านค้าให้เข้าไปหาซื้อขนมได้หลายร้าน เข้าไปพักความหนาวและละลายทรัพย์ได้ด้วย เดินชมวิวไปจิบเบียร์ไป มีความฟิน^^ เดินผ่านหมูบ้านขึ้นมาเป็นเนินเขา ซึ่งเป็นจุดชมวิว มองลงจะเห็นเป็นลานทะเลสาปที่เป็นน้ำแข็งลานกว้างใหญ่มากขาวไปหมด มองลงไปเห็นมีหมาลากเลื่อนกำลังวิ่งบริการนักท่องเที่ยว รูปพร้อมหน้าพร้อมตาสมาชิกทริปนี้ ช่วงเที่ยงเราเดินกลับที่พักเพื่อทานมื้อกลางวันและพักผ่อน เพราะเมื่อคืนเราเดินทางกันมาทั้งคืน แล้วนัดมาเจอกันอีกทีตอน 4 โมงเย็น ออกไปถ่ายรูปกัน

ช่วงเย็นเราเดินกันมาที่ Shaman Rock ซึ่งเป็น Landmark อีกแห่งนึงของทะเลสาปไบคาล เก็บภาพกันช่วงพระอาทิตย์ตก อากาศหนาวมากกก

เช้าวันรุ่งขึ้น วันนี้แจ็คพาพวกเราขึ้นรถไปเที่ยวทางเหนือของทะเลสาปไบคาล รถแล่นไปบนทะเลสาปที่เป็นแผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่
พวกเราแวะถ่ายรูปกันเป็นระยะๆ ทะเลสาปที่แข็งจนแตกเป็นแผ่นๆ เป็นทุ่ง Blue ice สีฟ้า สวยงามมาก
บางช่วงก็เป็นเหมือนน้ำไหลลงมาเป็นน้ำตก
สวยมากก เหมือนได้มาเที่ยวโรงงานผลิตน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในโลก^^ ช่วงกลางวันเราทานอาหารมื้อกลางวันกันในรถเป็นแบบปิคนิค หน้าตาอาหารมื้อปิคนิดของเราประมาณนี้^^"
ไกค์เราน่ารักมาก เตรียมทำ ห้องน้ำแบบชั่วคราวไปตั้งระหว่างที่เราแวะพักกันบริเวณ แหลม Khoboi แจ็คบอกเพิ่งซื้อมาก่อนที่ กรุ๊ปของเราจะมาถึง 1 วันเท่านั้น และได้ใช้ครั้งนี้เป็นครั้งแรก
สมาชิก 2 คนแรกที่ใช้ สุขาเคลื่อนที่ก่อนใคร ออกมาหน้าตาคุณแม่มีความสุขมากก 55555555
พักแป๊ปเดี๋ยวมาต่อ^^