สวัสดีค่ะทุกท่าน
มีเรื่องอยากสอบถามความคิดเห็นในกรณีแต่งงานกับสามี แล้วจดทะเบียนสมรสกัน
ก่อนอื่นต้องเล่าก่อนว่าดิฉันแต่งงานกับสามีสมรสได้สามปี ย่างปีที่สี และย้ายเข้าไปอยู่บ้านที่มีแม่สามี เหตุการณ์แม่ผัวลูกสะใภ้จะมีทุกครัวเรือน แต่นี้น่าจะเหมือนนิยายเรื่องหนึ่งที่ยิ่งกว่าละคร
เพราะดิฉันเป็นครูสอนในรร. แห่งหนึ่งตำแหน่งครูอัตราจ้าง ส่วนสามีเป็นครู ครอบครัวสามีพ่อและแม่สามีเป็นครูเกษียณแล้วค่ะ ตั้งแต่พอคลอดน้องออกมา ดิฉันคลอดน้องเองตามธรรมชาติและตกเลือดเกือบเสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีหมอนรองกระดูกเคลื่อนหลังคลอดต้องทำกายภาพบำบัดหกเดือน ก็เป็นจุดเริ่มต้น ที่ไม่ดี เนื่องจากให้นมบุตรเอง สองอาทิตย์หลังคลอดแม่สามีไม่พอใจ ที่นอนระหว่างวัน ให้ไปทำงานบ้านก่อนอื่นต้องบอกว่า บ้านยาวมากประมาณหกเจ็ดห้องที่ต้องกวาดถูทุกวัน ครอบครัวนี้เป็นคนจีนค่ะ ดิฉันต้องตื่นตั้งแต่ 7 โมงเช้า เข้านอนต้องพร้อมแม่สาทีคือสี่ห้าทุ่มทำให้มีอยู่วันนึงที่เพลียมากเวียนหัว หน้ามืดเลยล้มลงนอน แกเลยไม่พอใจ ให้ฉันทำกับข้าวหากินเอง กวาดถูทุกวัน จนเคยหนีออกมาจากบ้านเขา 1 ครั้ง แต่ต้องกลับมาอีก เพราะ อยากอยู่เป็นครอบครัวกับสามี หลังจากมาอยู่ ก็ ถูกกล่าวหาว่าขโมยของตลอด โดยสามีมีน้องสาวหนึ่งคนอยู่กรุงเทพ ซึ่งฐาะครอบครัวดิฉันไม่รวย ทำให้อาจเป็นสาเหตุที่ถูกกระทำแบบนี้ มาตลอด หลังจากกลับเข้ามาอยู่ก็จะทะเลาะเรื่องของหายเป็นประจำ โดยกล่าวหาดิฉันเป็นขโมยเพราะเป็นคนนอก ดิฉันกลับจากทำงาน ทุกวัน มีสอนพิเศษบางวันเลิกประมาณหนึ่งทุ่มต้องกวาดเช็ดถูกว่าจะเสร็จ สามทุ่ม สี่ ทุ่ม เมื่อใด ที่เหนื่อย จะให้สามีช่วยแต่พอสามีช่วย เพื่อที่ดิฉันจะได้อยู่กับลูกปรากฏว่าแกก็เดินมาเอาลูกดิฉันไป และให้ไปช่วยสามี แม้กระทั่งตอนนอน ก็ไม่ให้ลูกนอนกับดิฉัน กีดกั้น โดยอ้างว่าให้พักผ่อน สามีพูดอะไรไม่ได้ตามม่ เคยจะแยกบ้ายแต่เขาไม่แยก เราสามีไม่เคยมีโอกาสพาลูกเที่ยวแบบครอบครัวเพราะแกเป็นใหญ่ที่สุดในบ้าน นอกจากนี้ จุดแตกหักคือ วันนั้นตีสี่แกกวักมือเรียกดิฉันให้ไปดูที่แกซ่อนครีมเอสเต้ไว้แกบอกขวดสี่พันห้า มันหายไป ขโมยไปแน่นอน ดิฉันปฏิเสธว่าหนูไม่ได้เอาไป แกก็ไม่หยุดบอกว่าไม่ได้ เอาไปน้องที่มาเยี่ยมหลานต้องเอาไปแน่นอน ครอบครัวเป็นขโมย เป็นโจร ดิฉันก็ทนไม่ไหวเพราะกล่าวหาครอบครัวดิฉันเกินไปเลยบอกว่า ไปแจ้งตำรวจไหม ได้ชัดเจน แกไม่ยอมไปแจ้งค่ะ แกบอกกูมีหลักฐานไม่พอ ส่วนสามีเชื่อแม่ค่ะ ว่าเอาไป ดิฉันเลย สาบานต่อหน้าพระว่าไม่ได้เอาไป ครอบครัวไม่ได้เอาไปถ้าเอา ขอให้ตายภายในสามวัน แต่ถ้าไม่ได้ เอาไปขอให้แก มีอันเป็นไป แกเลยหยุด และบอกกูเชื่อไม่ได้เอาไป แต่น้องแน่นอน น้องดิฉันมาเยี่ยมหลานค่ะ ไม่ได้รู้เห็นเลย เคยทราบมาก่อนหน้านี้ค่ะว่าแกเคยกล่าวหาครูที่ รร ที่แกไปนอนด้วยว่าแอบใช้ครีม จนโกรธกัน ครูคนนั่นยังไม่เกษียณนะคะอยู่รรเดียวกับดิฉัน แกบอกว่าแกโดนมาแล้ว วันนั้นก็มีปากเสียงรุนแรงด่าท่อกันแลย แกไล่ดิฉันออกจากบ้าน พร้อม กับบอกว่าอยากได้ลูกไปฟ้อง เอา กูมีเงินทองมากมายกลายกองหลานกูได้กินปลาเซลมอนทุกวัน และ แพ้แน่นอน แม้กระทั่งน้องสาวเขาก็ให้เพื่อนเป็นทนายโทรมาข่มขู่ค่ะว่าดิฉันไม่ได้ลูก
หลังจากกินฉัน ออกจากบ้าน แกก็ไม่ให้พบลูก อ้อแกมีประวัติมากมายค่ะที่ดิฉันพึ่งทราบว่าสมัยที่แกเป็นครูแกถูกผปค นักเรียน ครูประท้วงไล่จาก รรเก่า จนต้องย้ายรรด่วน แต่แกให้ลูกทั้งสองอยู่ในกะลาว่าย้ายเพื่อความก้าวหน้า ค่ะ ลูกชายแก เลยต้องทำตามคำสั่ง ดิฉันเลยไปหาอัยการนัดไกล่เกลี่ย ปรากฏว่าไม่สามารถไหล่เกลี่ยได้ แกให้เหตุผลไม่ชอบดิฉันเพราะทำงานบ้านไม่เนี้ยบ ไม่ออกค่าใช้จ่ายเลี้ยงในครอบครัวแก แต่สามีไม่เคยออกเลยค่ะ และบอกสามีแล้ว จะออกให้ สามีไม่ยอมเอา สรุปวันนั้นตกลงกันไม่ได้กับอัยการ อีกอย่างแกก็พาสามีไปหาหมอดูคนทรง ว่าดิฉันทำของใส่ จะวางยาพิษ เพราะสามีบอก กว่า จะออกมาสร้างบ้านอยู่เป็นครอบครัวแต่แกก็ยื่นคำขาดไม่ให้ไป แต่สามีเป็นคนโลเลค่ะ เห็นแก่ตัวค่อนข้างมาก เพราะ บรรจุแล้วไม่อยากกู้ จะให้ดิฉันกู้แทน เพื่อซื้อบ้าน เขาไม่ยอมอยู่บ้านเช่าค่ะกลัวความลำบาก แม่สามีก็เป่า น้องนี้ตัวดีเลยค่ะ ยุว่าฉันทำของใส่ แกดูเรณูมากไปค่ะ คราวนี้แกรับปากกับอัยการจะให้ลูกมาหาดิฉัน1 วัน สิบโมงถึงห้าโมงเย็น ระหว่าง รอดำเนินการ แต่เอาเข้าจิง แกจะให้ฉันไปบ้านแกแทนค่ะ ซึ่งถ้าเข้าไป แสดงว่า แกต้องกล่าวหาอีกค่ะ
ดิฉัน สงสารตัวเองที่ต้องทนอยู่มานาน และอยากกลับไปใช้ชีวิตปกติแม่ลูก ที่ได้เลี้ยงลูก เพราะแก เลี้ยงด้วยมือถือ และในบ้านแกด่าท่อ ประจำ เหมือนวันนี้ฉันเจอลูก ลูกร้องบอกหาแม่จะอยู่กับแม่ แต่แกอุ้มหนี ค่ะ
ดิฉันอยากถามคนมีประสบการณ์กรณีดิฉันครูอัตราจ้าง แต่มีเงินนอกจากสอนพิเศษกับสามีครูบรรจุ โอกาส ความเสี่ยง ดิฉันจะเป็นอย่างไรบ้างค่ะ
แม่สามียึดลูกสาววัยสองขวบไว้ โดยสามีไม่สามารถขัดคำสั่งแม่ได้
มีเรื่องอยากสอบถามความคิดเห็นในกรณีแต่งงานกับสามี แล้วจดทะเบียนสมรสกัน
ก่อนอื่นต้องเล่าก่อนว่าดิฉันแต่งงานกับสามีสมรสได้สามปี ย่างปีที่สี และย้ายเข้าไปอยู่บ้านที่มีแม่สามี เหตุการณ์แม่ผัวลูกสะใภ้จะมีทุกครัวเรือน แต่นี้น่าจะเหมือนนิยายเรื่องหนึ่งที่ยิ่งกว่าละคร
เพราะดิฉันเป็นครูสอนในรร. แห่งหนึ่งตำแหน่งครูอัตราจ้าง ส่วนสามีเป็นครู ครอบครัวสามีพ่อและแม่สามีเป็นครูเกษียณแล้วค่ะ ตั้งแต่พอคลอดน้องออกมา ดิฉันคลอดน้องเองตามธรรมชาติและตกเลือดเกือบเสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีหมอนรองกระดูกเคลื่อนหลังคลอดต้องทำกายภาพบำบัดหกเดือน ก็เป็นจุดเริ่มต้น ที่ไม่ดี เนื่องจากให้นมบุตรเอง สองอาทิตย์หลังคลอดแม่สามีไม่พอใจ ที่นอนระหว่างวัน ให้ไปทำงานบ้านก่อนอื่นต้องบอกว่า บ้านยาวมากประมาณหกเจ็ดห้องที่ต้องกวาดถูทุกวัน ครอบครัวนี้เป็นคนจีนค่ะ ดิฉันต้องตื่นตั้งแต่ 7 โมงเช้า เข้านอนต้องพร้อมแม่สาทีคือสี่ห้าทุ่มทำให้มีอยู่วันนึงที่เพลียมากเวียนหัว หน้ามืดเลยล้มลงนอน แกเลยไม่พอใจ ให้ฉันทำกับข้าวหากินเอง กวาดถูทุกวัน จนเคยหนีออกมาจากบ้านเขา 1 ครั้ง แต่ต้องกลับมาอีก เพราะ อยากอยู่เป็นครอบครัวกับสามี หลังจากมาอยู่ ก็ ถูกกล่าวหาว่าขโมยของตลอด โดยสามีมีน้องสาวหนึ่งคนอยู่กรุงเทพ ซึ่งฐาะครอบครัวดิฉันไม่รวย ทำให้อาจเป็นสาเหตุที่ถูกกระทำแบบนี้ มาตลอด หลังจากกลับเข้ามาอยู่ก็จะทะเลาะเรื่องของหายเป็นประจำ โดยกล่าวหาดิฉันเป็นขโมยเพราะเป็นคนนอก ดิฉันกลับจากทำงาน ทุกวัน มีสอนพิเศษบางวันเลิกประมาณหนึ่งทุ่มต้องกวาดเช็ดถูกว่าจะเสร็จ สามทุ่ม สี่ ทุ่ม เมื่อใด ที่เหนื่อย จะให้สามีช่วยแต่พอสามีช่วย เพื่อที่ดิฉันจะได้อยู่กับลูกปรากฏว่าแกก็เดินมาเอาลูกดิฉันไป และให้ไปช่วยสามี แม้กระทั่งตอนนอน ก็ไม่ให้ลูกนอนกับดิฉัน กีดกั้น โดยอ้างว่าให้พักผ่อน สามีพูดอะไรไม่ได้ตามม่ เคยจะแยกบ้ายแต่เขาไม่แยก เราสามีไม่เคยมีโอกาสพาลูกเที่ยวแบบครอบครัวเพราะแกเป็นใหญ่ที่สุดในบ้าน นอกจากนี้ จุดแตกหักคือ วันนั้นตีสี่แกกวักมือเรียกดิฉันให้ไปดูที่แกซ่อนครีมเอสเต้ไว้แกบอกขวดสี่พันห้า มันหายไป ขโมยไปแน่นอน ดิฉันปฏิเสธว่าหนูไม่ได้เอาไป แกก็ไม่หยุดบอกว่าไม่ได้ เอาไปน้องที่มาเยี่ยมหลานต้องเอาไปแน่นอน ครอบครัวเป็นขโมย เป็นโจร ดิฉันก็ทนไม่ไหวเพราะกล่าวหาครอบครัวดิฉันเกินไปเลยบอกว่า ไปแจ้งตำรวจไหม ได้ชัดเจน แกไม่ยอมไปแจ้งค่ะ แกบอกกูมีหลักฐานไม่พอ ส่วนสามีเชื่อแม่ค่ะ ว่าเอาไป ดิฉันเลย สาบานต่อหน้าพระว่าไม่ได้เอาไป ครอบครัวไม่ได้เอาไปถ้าเอา ขอให้ตายภายในสามวัน แต่ถ้าไม่ได้ เอาไปขอให้แก มีอันเป็นไป แกเลยหยุด และบอกกูเชื่อไม่ได้เอาไป แต่น้องแน่นอน น้องดิฉันมาเยี่ยมหลานค่ะ ไม่ได้รู้เห็นเลย เคยทราบมาก่อนหน้านี้ค่ะว่าแกเคยกล่าวหาครูที่ รร ที่แกไปนอนด้วยว่าแอบใช้ครีม จนโกรธกัน ครูคนนั่นยังไม่เกษียณนะคะอยู่รรเดียวกับดิฉัน แกบอกว่าแกโดนมาแล้ว วันนั้นก็มีปากเสียงรุนแรงด่าท่อกันแลย แกไล่ดิฉันออกจากบ้าน พร้อม กับบอกว่าอยากได้ลูกไปฟ้อง เอา กูมีเงินทองมากมายกลายกองหลานกูได้กินปลาเซลมอนทุกวัน และ แพ้แน่นอน แม้กระทั่งน้องสาวเขาก็ให้เพื่อนเป็นทนายโทรมาข่มขู่ค่ะว่าดิฉันไม่ได้ลูก
หลังจากกินฉัน ออกจากบ้าน แกก็ไม่ให้พบลูก อ้อแกมีประวัติมากมายค่ะที่ดิฉันพึ่งทราบว่าสมัยที่แกเป็นครูแกถูกผปค นักเรียน ครูประท้วงไล่จาก รรเก่า จนต้องย้ายรรด่วน แต่แกให้ลูกทั้งสองอยู่ในกะลาว่าย้ายเพื่อความก้าวหน้า ค่ะ ลูกชายแก เลยต้องทำตามคำสั่ง ดิฉันเลยไปหาอัยการนัดไกล่เกลี่ย ปรากฏว่าไม่สามารถไหล่เกลี่ยได้ แกให้เหตุผลไม่ชอบดิฉันเพราะทำงานบ้านไม่เนี้ยบ ไม่ออกค่าใช้จ่ายเลี้ยงในครอบครัวแก แต่สามีไม่เคยออกเลยค่ะ และบอกสามีแล้ว จะออกให้ สามีไม่ยอมเอา สรุปวันนั้นตกลงกันไม่ได้กับอัยการ อีกอย่างแกก็พาสามีไปหาหมอดูคนทรง ว่าดิฉันทำของใส่ จะวางยาพิษ เพราะสามีบอก กว่า จะออกมาสร้างบ้านอยู่เป็นครอบครัวแต่แกก็ยื่นคำขาดไม่ให้ไป แต่สามีเป็นคนโลเลค่ะ เห็นแก่ตัวค่อนข้างมาก เพราะ บรรจุแล้วไม่อยากกู้ จะให้ดิฉันกู้แทน เพื่อซื้อบ้าน เขาไม่ยอมอยู่บ้านเช่าค่ะกลัวความลำบาก แม่สามีก็เป่า น้องนี้ตัวดีเลยค่ะ ยุว่าฉันทำของใส่ แกดูเรณูมากไปค่ะ คราวนี้แกรับปากกับอัยการจะให้ลูกมาหาดิฉัน1 วัน สิบโมงถึงห้าโมงเย็น ระหว่าง รอดำเนินการ แต่เอาเข้าจิง แกจะให้ฉันไปบ้านแกแทนค่ะ ซึ่งถ้าเข้าไป แสดงว่า แกต้องกล่าวหาอีกค่ะ
ดิฉัน สงสารตัวเองที่ต้องทนอยู่มานาน และอยากกลับไปใช้ชีวิตปกติแม่ลูก ที่ได้เลี้ยงลูก เพราะแก เลี้ยงด้วยมือถือ และในบ้านแกด่าท่อ ประจำ เหมือนวันนี้ฉันเจอลูก ลูกร้องบอกหาแม่จะอยู่กับแม่ แต่แกอุ้มหนี ค่ะ
ดิฉันอยากถามคนมีประสบการณ์กรณีดิฉันครูอัตราจ้าง แต่มีเงินนอกจากสอนพิเศษกับสามีครูบรรจุ โอกาส ความเสี่ยง ดิฉันจะเป็นอย่างไรบ้างค่ะ