คือแม่ของหนูจะไปซื้อรองเท้าเดินถือกระเป๋าเงินแบบหิ้วสีออกน้ำตาลเข้าไปในร้านซึ่งไม่มีคนอยู่เลยเดินออกมาแต่เจ้าของร้านเห็นจากด้านหลังว่าแม่หยิบสิ่งของใส่หน้ารถก็คือเป๋าเงินนั่นแหละค่ะ วันต่อมาญาติหนูโทรมาบอกว่าให้ไปจ่ายเงินแม่หนูหยิบรองเท้ามาถ้าไม่จ่ายจะแจ้งตำรวจ ซึ่งญาติหนูคนนี้ได้รับรู้เรื่องจากคนรู้จักอีกคนเจ้าของร้านฝากคนนี้มาบอกญาติหนู แม่หนูเลยไปถามว่าขโมยอะไรมา แม่หนูบอกไปแจ้งความเลยเพราะบริสุทธิใจซึ่งเขาบอกถ้าไม่ได้เอาไปก็แล้วกันไป แต่แม่หนูเสียหายไปแล้วจากคำพูดของเขา กล้องวงจรปิดมีแต่เขาบอกเปิดไม่เป็น แม่หนูเลยแจ้งข้อหาหมิ่นประมาทและข่มขู่ด้วย เขาบอกเขายอมรับว่าพูดจริงแต่จะขอโทษคือจบเรื่อง แม่หนูไม่ยอมเขาเลยบอกไปฟ้องเอา ตำรวจก็ทำสำนวนให้แม่หนูตรงนี้หนูไม่รู่รายละเอียดเท่าไหร่ จนผ่านมา2เดือนกว่า แม่สงสัยว่าทำไมนานจัง พอโทรไปถามตำรวจเขาบอกว่าสำนวนไม่ผ่านอัยการส่งกลับ แล้วก็พึ่งเรียกอีกฝ่ายมาปั๊มนิ้วมือส่งใหม่ ซึ่งถ้าแม่ไม่โทรไปก็ไม่คืบหน้า เขาบอกจะพิมพ์สำนวนใหม่ แต่คราวนี้คนที่กล่าวหาแม่หนูบอกตัวเองมีพยานเห็น แล้วถามแม่กลับว่าเขามั่นใจได้ยังไงว่าไม่ได้ขโมยจริง หนูสงสัยคือทำไมตั้งแต่ครั้งแรกเขาไม่เอาพยานมา ซึ่งกล้องวงจรเขาก็มีทุกมุมเห็นหน้าชัด แต่พอมาวันนี้ภาพจากกล้องวงจรปิดมันหมดอายุแล้วพึ่งจะมาบอกมีพยาน ตอนนี้แม่หนูควรทำยังไงต่อคะ
แม่โดนกล่าวหาว่าเป็นขโมยแต่ไม่ได้ทำตำรวจก็ดูนิ่งเฉยควรทำไงดีคะ