สวัสดีค่ะชาวพันทิปทุกคน
หลังจากที่เคยมาแชร์ประสบการณ์การขอวีซ่าท่องเที่ยวญี่ปุ่นไปแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/38929882 วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์
จดทะเบียนสมรสกับต่างชาติ(อเมริกัน)ในไทย เพื่อเป็นประโยชน์แก่ชาวพันทิปท่านอื่นที่กำลังหาข้อมูลนี้ค่ะ
เรามาเริ่มกันเลยนะคะ
1. ทำการนัดหมายกับสถานฑูตอเมริกาในไทย เพื่อขอใบรับรองโสดและประทับตราสำเนาพาสปอร์ตของอเมริกันซิติเซน โดยค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่อย่างละ50$ สามารถจ่ายด้วยเงินสดเป็นดอลลาร์หรือบัตรเครดิตก็ได้ค่ะ
ขั้นตอนการนัดหมายมีดังนี้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- เข้าเว็บ https://th.usembassy.gov/u-s-citizen-services/acsappointment/ เพื่อทำการนัดหมายล่วงหน้า
เมื่อกดเข้าไปในลิ้งค์จะเจอหน้าเว็บไซต์ขึ้นมาแบบนี้
- เลื่อนลงไปจนเจอคำว่า Make an appointment โดยจะมีให้เลือกระหว่างที่กรุงเทพฯกับเชียงใหม่ ให้เลือกที่เราสะดวกเลยค่ะ
- จากนั้นจะเข้าสู่หน้าเว็บไซต์ตามรูป ให้เลือก Make appointment ค่ะ
- เมื่อกดเข้าไปแล้ว จะเปลี่ยนเป็นหน้าเว็บไซต์แบบนรูปนะคะ ตรงนี้ให้เลือกหัวข้อที่3 Request notarial and other service not listed above. แล้วก็อย่าลืมติ๊กที่ช่องล่างสุดด้วยนะคะว่าเราได้อ่านคำแนะนำของทางสถานฑูตแล้ว จากนั้นกด Submit ได้เลยค่ะ
- หลังจากนั้นจะนำเราเข้ามาสู่หน้าปฏิทิน เพื่อเลือกวันนัดหมาย โดยปกติจะเปิดให้ทำการนัดหมายล่วงหน้า1เดือน
- เมื่อเลือกวันแล้ว จะเข้ามาที่หน้าการกรอกข้อมูลผู้นัดหมาย และเลือกเวลานัดหมาย ตรงนี้ควรตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง แล้วติ๊กในช่องสี่เหลี่ยมเล็กๆด้านล่าง ก่อนกด continueนะคะ
- แล้วเราก็จะได้ไฟล์ pdf มาในอีเมล์ ซึ่งเราต้องปริ้นต์หน้านี้ไปโชว์วันนัดหมายนะคะ
เมื่อถึงวันนัดหมายเตรียมใบนัด, สำเนาพาสปอร์ต และพาสปอร์ตของอเมริกันซิติเซนไปให้ครบนะคะ (ถ้าอยากให้รวดเร็วขึ้นสามารถกรอกแบบฟอร์มใบรับรองโสดไปล่วงหน้าเลยก็ได้ค่ะ ดาวน์โหลดได้จากลิ้งค์มนสปอยล์ได้เลยค่ะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://th.usembassy.gov/wp-content/uploads/sites/90/marriage-affidavit-bangkok.pdf) ควรไปถึงสถานทูตประมาณ10นาทีก่อนเวลานัดนะคะ ถ้าไปถึงเลยเวลานัดการนัดหมายนัดจะถูกยกเลิกทันที
2. เมื่อได้ใบรับรองโสดพร้อมสำเนาพาสปอร์ตที่ได้รับการประทับตราแล้ว นำไปแปลเป็นภาษาไทย เราเลือกใช้บริการของร้านแปลที่อยู่ตรงข้ามสถานฑูต เนื่องจากราคาไม่แพงและสะดวกรวดเร็ว ชาวพันทิปท่านไหนสนใจใช้บริการ กดดูนามบัตรจากสปอยล์ได้เลยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ช่วงหลังเราย้ายมาตปท.แล้ว เราแปลกับคุณตี๋ค่ะ อยากแนะนำอีกเช่นกัน เพราะบริการดีมากๆ แถมราคาย่อมเยาว์ ถ้าอยู่ที่ไทยเขาส่งเอกสารตัวจริงไปให้ถึงบ้านด้วยค่ะ
ป.ล. ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับร้านนะคะ แค่อยากแนะนำบริการที่เราใช้จริงและได้รับความสะดวกเฉยๆ
3. หลังจากได้เอกสารที่แปลเป็นภาษาไทยแล้ว ก็นำไปขอรับรองที่สำนักงานสัญชาติและนิติกรณ์ โดยเราเลือกไปใช้บริการที่สาขาในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินคลองเตย (บริเวณเมโทรมอลล์ เปิดให้บริการทุกวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 8.30-16.30) เพราะว่าใกล้สถานฑูตอเมริกา และเดินทางไปรับเอกสารง่าย ซึ่งการรับรองเอกสารจะอยู่ที่ชุดละ200บาท (โดยต้องขอรับรองทั้งเอกสารภาษาไทยและภาษาอังกฤษอย่างละ1ชุด ของเราขอรับรองใบรับรองโสดและหน้าพาสปอร์ต จึงรวมเป็น 800บาท) ใช้เวลา3วันทำการ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตัวอย่างนะคะ หากยื่นวันจันทร์จะได้เอกสารวันพุธ หากยื่นวันศุกร์จะติดสุดสัปดาห์จะรับเอกสารได้วันอังคาร เมื่อยื่นเอกสารแล้ว ทำการชำระเงินจะได้ใบเสร็จแบบนี้มา
ห้ามทำหายนะคะ เพราะเราต้องนำใบนี้กลับมารับเอกสาร
4. เมื่อได้เอกสารของฝ่ายต่างชาติครบแล้ว ก็นำไปที่สำนักงานเขตเพื่อจดทะเบียนได้เลยค่ะ ซึ่งแต่ละสำนักงานเขตนั้นอาจจะใช้เวลาตรวจเอกสารไม่เหมือนกัน แนะนำว่าให้โทรตรวจสอบก่อนแฟนจะบินมาจดทะเบียนดีกว่าค่ะ จะได้ไม่มีปัญหาติดขัด
ขอแชร์ของเราตรงนี้นะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สำนักงานเขตที่เราเลือกไปจดทะเบียนสมรสนั้นคือเขตราษฏร์บูรณะ ซึ่งก่อนแฟนจะบินมา เราได้ทำการโทรสอบถามเรื่องเอกสารที่ต้องใช้และนัดหมายวันไว้ล่วงหน้าแล้ว หลังจากที่เราได้เอกสารฝ่ายต่างชาติที่แปลเป็นไทยมาแล้ว ก็ส่งไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและเตรียมเอกสารสำหรับจดทะเบียนไว้ให้ พอวันรุ่งขึ้นก็แค่รับเอกสารที่ขอรับรองไว้ แล้วไปจดทะเบียนสมรสตามนัดได้เลย หลังจากนั้นก็ไปทำการเปลี่ยนนามสกุล ทำบัตรประชาชนใหม่ ทุกอย่างเสร็จสิ้นภายใน3วัน
5. มาถึงเอกสารส่วนที่ฝ่ายคนไทยต้องเตรียมนะคะ
เอกสารตัวจริง
- บัตรประชาชน
- ทะเบียนบ้าน
สำเนา
- บัตรประชาชน
- ทะเบียน
- สำเนาเอกสารทุกใบที่ได้รับรองจากที่สำนักงานสัญชาติและนิติกรณ์ (ถ่าย2ด้านเลยนะคะ เพราะปั๊มรับรองปกติแล้วจะอยู่ด้านหลัง)
- สำเนาหน้าที่มีวีซ่าหรือตราปั๊มเข้าไทยรอบล่าสุดของแฟน
ในส่วนของพยานควรเป็นพ่อแม่, พี่น้อง, หรือญาติจำนวน2คน และ1ในนั้นควรเป็นคนที่สื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีสามารถเป็นล่ามให้กับฝ่ายต่างชาติได้
ป.ล. เมื่อจดทะเบียนเสร็จแล้ว สามารถให้ทางสำนักงานเขตออกเอกสารแบบภาษาอังกฤษให้ได้เลยค่ะ เมื่อนำไปใช้ประกอบการขอวีซ่าหรืออื่นๆ ก็แค่นำไปขอรับรองกับสำนักงานสัญชาติและนิติกรณ์ (บางประเทศก็ไม่จำเป็นต้องเอาไปขอรับรองนะคะ)
6. หลังจากนั้นหากใครที่จะเปลี่ยนไปใช้นามสกุลของคู่สมรสและเปลี่ยนคำนำหน้า ขั้นตอนนี้ต้องไปทำที่สำนักงานเขตที่เรามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเขตนั้นนะคะ
**เพิ่มเติม**ในส่วนของคำแนะนำภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการแต่งงานในไทยและการยื่นเรื่องปรับสถานะเป็นจดทะเบียนที่อเมริกาจากสถานฑูตอเมริกานะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้วค่ะสำหรับการจดทะเบียนสมรสสมรสกับต่างชาติในประเทศไทย หากชาวพันทิปท่านไหนมีข้อมูลเพิ่มเติมแสดงความคิดเห็นไว้ได้เลยค่ะ จะได้เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านท่านอื่นต่อไป ขอจบการแชร์ประสบการณ์เพียงเท่านี้ ส่วนครั้งหน้าจะมาแชร์เรื่องอะไรนั้น คอยติดตามนะคะ สวัสดีค่ะ
ป.ล.หากรูปใหญ่ไปต้องขออภัยด้วยค่ะ เนื่องจากสร้างกระทู้ในแอพ ไว้จะปรับปรุงแก้ไขในคอมพิวเตอร์
แชร์ประสบการณ์จดทะเบียนสมรสกับต่างชาติ (2020)
หลังจากที่เคยมาแชร์ประสบการณ์การขอวีซ่าท่องเที่ยวญี่ปุ่นไปแล้ว [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์จดทะเบียนสมรสกับต่างชาติ(อเมริกัน)ในไทย เพื่อเป็นประโยชน์แก่ชาวพันทิปท่านอื่นที่กำลังหาข้อมูลนี้ค่ะ
เรามาเริ่มกันเลยนะคะ
1. ทำการนัดหมายกับสถานฑูตอเมริกาในไทย เพื่อขอใบรับรองโสดและประทับตราสำเนาพาสปอร์ตของอเมริกันซิติเซน โดยค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่อย่างละ50$ สามารถจ่ายด้วยเงินสดเป็นดอลลาร์หรือบัตรเครดิตก็ได้ค่ะ
ขั้นตอนการนัดหมายมีดังนี้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2. เมื่อได้ใบรับรองโสดพร้อมสำเนาพาสปอร์ตที่ได้รับการประทับตราแล้ว นำไปแปลเป็นภาษาไทย เราเลือกใช้บริการของร้านแปลที่อยู่ตรงข้ามสถานฑูต เนื่องจากราคาไม่แพงและสะดวกรวดเร็ว ชาวพันทิปท่านไหนสนใจใช้บริการ กดดูนามบัตรจากสปอยล์ได้เลยค่ะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ป.ล. ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับร้านนะคะ แค่อยากแนะนำบริการที่เราใช้จริงและได้รับความสะดวกเฉยๆ
3. หลังจากได้เอกสารที่แปลเป็นภาษาไทยแล้ว ก็นำไปขอรับรองที่สำนักงานสัญชาติและนิติกรณ์ โดยเราเลือกไปใช้บริการที่สาขาในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินคลองเตย (บริเวณเมโทรมอลล์ เปิดให้บริการทุกวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 8.30-16.30) เพราะว่าใกล้สถานฑูตอเมริกา และเดินทางไปรับเอกสารง่าย ซึ่งการรับรองเอกสารจะอยู่ที่ชุดละ200บาท (โดยต้องขอรับรองทั้งเอกสารภาษาไทยและภาษาอังกฤษอย่างละ1ชุด ของเราขอรับรองใบรับรองโสดและหน้าพาสปอร์ต จึงรวมเป็น 800บาท) ใช้เวลา3วันทำการ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เมื่อยื่นเอกสารแล้ว ทำการชำระเงินจะได้ใบเสร็จแบบนี้มา
ห้ามทำหายนะคะ เพราะเราต้องนำใบนี้กลับมารับเอกสาร
4. เมื่อได้เอกสารของฝ่ายต่างชาติครบแล้ว ก็นำไปที่สำนักงานเขตเพื่อจดทะเบียนได้เลยค่ะ ซึ่งแต่ละสำนักงานเขตนั้นอาจจะใช้เวลาตรวจเอกสารไม่เหมือนกัน แนะนำว่าให้โทรตรวจสอบก่อนแฟนจะบินมาจดทะเบียนดีกว่าค่ะ จะได้ไม่มีปัญหาติดขัด
ขอแชร์ของเราตรงนี้นะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
5. มาถึงเอกสารส่วนที่ฝ่ายคนไทยต้องเตรียมนะคะ
เอกสารตัวจริง
- บัตรประชาชน
- ทะเบียนบ้าน
สำเนา
- บัตรประชาชน
- ทะเบียน
- สำเนาเอกสารทุกใบที่ได้รับรองจากที่สำนักงานสัญชาติและนิติกรณ์ (ถ่าย2ด้านเลยนะคะ เพราะปั๊มรับรองปกติแล้วจะอยู่ด้านหลัง)
- สำเนาหน้าที่มีวีซ่าหรือตราปั๊มเข้าไทยรอบล่าสุดของแฟน
ในส่วนของพยานควรเป็นพ่อแม่, พี่น้อง, หรือญาติจำนวน2คน และ1ในนั้นควรเป็นคนที่สื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีสามารถเป็นล่ามให้กับฝ่ายต่างชาติได้
ป.ล. เมื่อจดทะเบียนเสร็จแล้ว สามารถให้ทางสำนักงานเขตออกเอกสารแบบภาษาอังกฤษให้ได้เลยค่ะ เมื่อนำไปใช้ประกอบการขอวีซ่าหรืออื่นๆ ก็แค่นำไปขอรับรองกับสำนักงานสัญชาติและนิติกรณ์ (บางประเทศก็ไม่จำเป็นต้องเอาไปขอรับรองนะคะ)
6. หลังจากนั้นหากใครที่จะเปลี่ยนไปใช้นามสกุลของคู่สมรสและเปลี่ยนคำนำหน้า ขั้นตอนนี้ต้องไปทำที่สำนักงานเขตที่เรามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเขตนั้นนะคะ
**เพิ่มเติม**ในส่วนของคำแนะนำภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการแต่งงานในไทยและการยื่นเรื่องปรับสถานะเป็นจดทะเบียนที่อเมริกาจากสถานฑูตอเมริกานะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้วค่ะสำหรับการจดทะเบียนสมรสสมรสกับต่างชาติในประเทศไทย หากชาวพันทิปท่านไหนมีข้อมูลเพิ่มเติมแสดงความคิดเห็นไว้ได้เลยค่ะ จะได้เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านท่านอื่นต่อไป ขอจบการแชร์ประสบการณ์เพียงเท่านี้ ส่วนครั้งหน้าจะมาแชร์เรื่องอะไรนั้น คอยติดตามนะคะ สวัสดีค่ะ
ป.ล.หากรูปใหญ่ไปต้องขออภัยด้วยค่ะ เนื่องจากสร้างกระทู้ในแอพ ไว้จะปรับปรุงแก้ไขในคอมพิวเตอร์