สวัสดีค่ะ วันนี้ดิฉันจะมาขอรีวิวเรื่องการจดทะเบียนสมรสกับชาวต่างชาตินั้นไม่ยากเลยยย ก่อนอื่นต้องขอบอกว่านี่เป็นกระทู้แรกที่ตนประสงค์จะทำขึ้นมาเพื่อให้เป็นวิทยาทานความรู้แก่ว่าที่สะไภ้ต่างชาติมือใหม่นะค่ะ เนื่องจากตอนเคสนี้ของเรา เราหาข้อมูลจากในเน็ตเองไม่มีเอเจ้นท์หรือใครไกด์ให้ มีมั่วบ้าง ไม่ครบบ้าง ทำผิดทำถูกกันไปเสียทั้งเงินทั้งเวลา วันนี้จึงอยากมาแชร์ประสบการณ์ค่ะ จริงๆสำหรับคนที่ไม่สะดวกจะใช้บริการเอเจนท์ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีอีกหนึ่งนะค่ะ แต่ค่าใช้จ่ายอาจจะสูงหน่อย บางที่คิด 10,000 บาท ดำเนินการให้หมด แต่สำหรับเรา เราทำงานอิสระมีเวลาว่าง และที่สำคัญเราอยากทำทุกอย่างด้วยตนเองค่ะ แต่งงานครั้งเดียวในชีวิต ไม่ว่าจะยากง่ายแค่ไหนก็อยากทำเอง เผื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำเอาไปเล่าต่อให้ลูกฟังว่า รู้ไหมกว่าพ่อกะแม่จะได้มาแต่งกันนี้ไม่ได้ง่ายๆนะ 5555
เอาละค่ะน้ำไปเยอะแล้วทีนี้เข้าเนื้อกันเลยดีกว่านะค่ะ อับดับแรกเลย
1.
ใบโสด (((สำคัญมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆค่ะ))) *****ใบโสดนี้ท่านได้แต่ใดมา
ตอบ : คุณสามีต้องไปขอใบโสดจากประเทศของเค้านะค่ะ+ประทับตราจากประเทศเค้ามาให้เรียบร้อยนะค่ะ ขั้นตอนนี้อาจให้คุณสามีเช็คกับสถานทูตของประเทศตนเองว่าจะต้องไปขอที่ไหนค่ะ ในประเทศของเค้าค่ะ ป.ล ตอนคุณสามีไปขอใบโสดต้องนำสำเนาพาสปอร์ตของคุณภรรยาไปด้วยนะค่ะ
2.กลับมาเมืองไทย เราเอาใบโสดสามีที่ได้มีการประทับตราต่างประเทศมาแล้ว นำกลับมาประทับตราที่สถานทูตของประเทศเค้าในประเทศไทยอีกรอบหนึ่งค่ะ ยกตัวอย่างกรณีเรานะค่ะ สามีเราเป็นชาวมาเลเซีย เรานำใบโสดสามี กลับมาที่สถานทูตมาเลเซียในเมืองไทย ค่ะ เพื่อประทับตราจากสถานทูตมาเลเซียในไทยอีกรอบหนึ่งนะค่ะ + แปลใบโสดเป็นภาษาไทย ค่ะ
ป.ล การแปลครั้งนี้ไม่ใช่ว่าเราจะไปจ้างใครแปลก็ได้นะค่ะต้องให้สถานทูตเค้าแปลให้เท่านั้นนนค่ะ
3.ไปต่อที่ กงสุล แจ้งวัฒนะ นะค่ะ นำใบโสดที่ได้มาจากประเทศสามีมาแปลค่ะ แปลให้ตรงเป๊ะๆกับของตัวจริงเลยนะค่ะ ในขั้นตอนนี้เราสามารถแปลเองหรือจ้างแปลได้ค่ะ ในกรณีของเรา เราจ้างแปลค่ะ ที่กงสุลจะมีเอเจนท์ ยื่นให้บริการหลายท่านค่ะ เพื่อทำการแปลเอกสารให้เราโดยเค้าจะมีข้อเสนอมากมาย ว่าเราจะให้เค้าแปลอย่างเดียว หรือต้องการให้แปลและรับเอกสารพร้อมส่งให้ทางไปรษณีย์เลยไหม เค้าก็จะบวกค่าบริการไปเล็กน้อยค่ะ ก็ขึ้นอยู่กับบางเจ้านะค่ะบางคนไม่รู้ก็เอออ่อไปสุดท้ายโดนฟันเพงกว่าเจ้าอื่นๆหลายร้อยเลยต้องระวังค่ะ สำหรับเราเลือกแปลกับพี่ที่เค้ายื่นอยู่เช่นกันค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ แชร์ให้ฟังนะค่ะ เราเลือกแปลกับพี่พันธ์ค่ะ ไปเจอพี่เค้าจากที่ยื่นๆนี่แหละค่ะ แต่หลังจากที่เจอที่คุยและแปลแล้วก็ไม่ผิดหวัง พี่เค้ามีแนะนำขั้นตอนต่างๆให้เราด้วยค่ะ เราก็แปลกับเค้าเพราะเราลองบวกราคาค่ารับรองค่าแปลดูของจริง กับเทียบที่พี่เค้ามีบริการแปลยื่นทำให้หมด แล้วแทบไม่ค่อยต่างกันเลยค่ะ เลยตกลงค่ะ ID: jirawat2411 ไอดีพี่เค้าเผื่อใครจะแปลหรือทำแบบเราก็ได้ค่ะ ไม่หวง
4.หลังจากที่เราได้เอกสารการแปลเรียบร้อยแล้ว นำ
-บัตรประชาชน สำเนาของเรา **เอาตัวจริงไปเผื่อด้วยก็ดีค่ะเผื่อเค้าเรียกดู
-พาสปอร์ต สำเนาทั้งคู่ **เอาตัวจริงไปเผื่อด้วยก็ดีค่ะเผื่อเค้าเรียกดู
-ใบโสดจากข้อ1 ((รับรอง))
-ใบโสดตัวแปลจากข้อ2 ((รับรอง))
-ใบโสดตัวแปลจากข้อ3 ((รับรอง))
เอกสารที่จะรับรองมีเพียงใบโสดนะค่ะ นอกนั้นเป็นเพียงการยื่นแนบเพื่อดูข้อมูลเฉยๆค่ะ รับรองที่ชั้น 2 นะค่ะ จากนั้นก็รอค่ะรอรอรอ ถ้าใครอยากได้ด่วนเลยก็ไปก่อน 8โมงนะค่ะ จะได้เอกสารรับรองวันนั้นเลย แต่ค่ารับรองจะแพงกว่าเท่านึงค่ะ แต่ถ้าใครไม่รีบหรือให้เจ้าหน้าที่แปลเค้ารับแทนให้ก็รอประมาณ 2 วันเท่านั้นค่ะ
5.ไปจดทะเบียนสมรสกันเลยค้าาาาาา
ขั้นตอนนี้ไม่มีอะไรยากแล้วค่ะ เราไปที่เขตได้เลยนะค่ะ สำหรับชาวต่างชาติจะมีเขต บางรัก กับเขตหลักสี่ที่เชี่ยวชำนาญทางด้านนี้ค่ะ อันนี้เผื่อเป็นทางเลือกนะค่ะ จริงๆก็ได้ทุกเขตเลยค่ะ
นำเอกสารทั้งหมดไปที่เขตนะค่ะ แนะนำไปเช้าาาๆๆๆหน่อย นะค่ะ พาพยานไปด้วย 2 คน ที่ญาติกัน และล่าม 1 คน **จริงๆล่ามเราแปลเองค่ะเลยไม่ต้องมี แต่บางเขคเค้าไม่ยอมนะค่ะยังไงก็ต้องมีล่าม อันนี้เพื่อความชัวร์แนะนำคู่บ่าวสาว โทรถามเขตที่เราจะไปก่อนนะค่ะ ว่าเค้าต้องการเอกสารต้องการพยานใครอย่างไรบ้าง เพราะแต่ละเขตก็ไม่เหมือนกันค่ะ ของเราเลือกเขตบางรักค่ะ ไม่ต้องมีล่าม แต่ต้องมีพยาน 2 คน ค่ะ
จบแล้วค้าาาาาา ขอบคุณที่นั่งอ่านกันนะค่ะ หากมีข้อผิดพลาด สะกดผิดถูกประการใด้ ขออภัยไว้นะที่นี้ด้วยน้าค้าาาา
^___^
+++++++++++ Review แต่งงานกับชาวต่างชาติ ทำเรื่องเอง ง่ายยมาก ไม่ผ่านเอเจ้นท์++++++++++
เอาละค่ะน้ำไปเยอะแล้วทีนี้เข้าเนื้อกันเลยดีกว่านะค่ะ อับดับแรกเลย
1.ใบโสด (((สำคัญมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆค่ะ))) *****ใบโสดนี้ท่านได้แต่ใดมา ตอบ : คุณสามีต้องไปขอใบโสดจากประเทศของเค้านะค่ะ+ประทับตราจากประเทศเค้ามาให้เรียบร้อยนะค่ะ ขั้นตอนนี้อาจให้คุณสามีเช็คกับสถานทูตของประเทศตนเองว่าจะต้องไปขอที่ไหนค่ะ ในประเทศของเค้าค่ะ ป.ล ตอนคุณสามีไปขอใบโสดต้องนำสำเนาพาสปอร์ตของคุณภรรยาไปด้วยนะค่ะ
2.กลับมาเมืองไทย เราเอาใบโสดสามีที่ได้มีการประทับตราต่างประเทศมาแล้ว นำกลับมาประทับตราที่สถานทูตของประเทศเค้าในประเทศไทยอีกรอบหนึ่งค่ะ ยกตัวอย่างกรณีเรานะค่ะ สามีเราเป็นชาวมาเลเซีย เรานำใบโสดสามี กลับมาที่สถานทูตมาเลเซียในเมืองไทย ค่ะ เพื่อประทับตราจากสถานทูตมาเลเซียในไทยอีกรอบหนึ่งนะค่ะ + แปลใบโสดเป็นภาษาไทย ค่ะ
ป.ล การแปลครั้งนี้ไม่ใช่ว่าเราจะไปจ้างใครแปลก็ได้นะค่ะต้องให้สถานทูตเค้าแปลให้เท่านั้นนนค่ะ
3.ไปต่อที่ กงสุล แจ้งวัฒนะ นะค่ะ นำใบโสดที่ได้มาจากประเทศสามีมาแปลค่ะ แปลให้ตรงเป๊ะๆกับของตัวจริงเลยนะค่ะ ในขั้นตอนนี้เราสามารถแปลเองหรือจ้างแปลได้ค่ะ ในกรณีของเรา เราจ้างแปลค่ะ ที่กงสุลจะมีเอเจนท์ ยื่นให้บริการหลายท่านค่ะ เพื่อทำการแปลเอกสารให้เราโดยเค้าจะมีข้อเสนอมากมาย ว่าเราจะให้เค้าแปลอย่างเดียว หรือต้องการให้แปลและรับเอกสารพร้อมส่งให้ทางไปรษณีย์เลยไหม เค้าก็จะบวกค่าบริการไปเล็กน้อยค่ะ ก็ขึ้นอยู่กับบางเจ้านะค่ะบางคนไม่รู้ก็เอออ่อไปสุดท้ายโดนฟันเพงกว่าเจ้าอื่นๆหลายร้อยเลยต้องระวังค่ะ สำหรับเราเลือกแปลกับพี่ที่เค้ายื่นอยู่เช่นกันค่ะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
4.หลังจากที่เราได้เอกสารการแปลเรียบร้อยแล้ว นำ
-บัตรประชาชน สำเนาของเรา **เอาตัวจริงไปเผื่อด้วยก็ดีค่ะเผื่อเค้าเรียกดู
-พาสปอร์ต สำเนาทั้งคู่ **เอาตัวจริงไปเผื่อด้วยก็ดีค่ะเผื่อเค้าเรียกดู
-ใบโสดจากข้อ1 ((รับรอง))
-ใบโสดตัวแปลจากข้อ2 ((รับรอง))
-ใบโสดตัวแปลจากข้อ3 ((รับรอง))
เอกสารที่จะรับรองมีเพียงใบโสดนะค่ะ นอกนั้นเป็นเพียงการยื่นแนบเพื่อดูข้อมูลเฉยๆค่ะ รับรองที่ชั้น 2 นะค่ะ จากนั้นก็รอค่ะรอรอรอ ถ้าใครอยากได้ด่วนเลยก็ไปก่อน 8โมงนะค่ะ จะได้เอกสารรับรองวันนั้นเลย แต่ค่ารับรองจะแพงกว่าเท่านึงค่ะ แต่ถ้าใครไม่รีบหรือให้เจ้าหน้าที่แปลเค้ารับแทนให้ก็รอประมาณ 2 วันเท่านั้นค่ะ
5.ไปจดทะเบียนสมรสกันเลยค้าาาาาา
ขั้นตอนนี้ไม่มีอะไรยากแล้วค่ะ เราไปที่เขตได้เลยนะค่ะ สำหรับชาวต่างชาติจะมีเขต บางรัก กับเขตหลักสี่ที่เชี่ยวชำนาญทางด้านนี้ค่ะ อันนี้เผื่อเป็นทางเลือกนะค่ะ จริงๆก็ได้ทุกเขตเลยค่ะ
นำเอกสารทั้งหมดไปที่เขตนะค่ะ แนะนำไปเช้าาาๆๆๆหน่อย นะค่ะ พาพยานไปด้วย 2 คน ที่ญาติกัน และล่าม 1 คน **จริงๆล่ามเราแปลเองค่ะเลยไม่ต้องมี แต่บางเขคเค้าไม่ยอมนะค่ะยังไงก็ต้องมีล่าม อันนี้เพื่อความชัวร์แนะนำคู่บ่าวสาว โทรถามเขตที่เราจะไปก่อนนะค่ะ ว่าเค้าต้องการเอกสารต้องการพยานใครอย่างไรบ้าง เพราะแต่ละเขตก็ไม่เหมือนกันค่ะ ของเราเลือกเขตบางรักค่ะ ไม่ต้องมีล่าม แต่ต้องมีพยาน 2 คน ค่ะ
จบแล้วค้าาาาาา ขอบคุณที่นั่งอ่านกันนะค่ะ หากมีข้อผิดพลาด สะกดผิดถูกประการใด้ ขออภัยไว้นะที่นี้ด้วยน้าค้าาาา
^___^