ผู้ใหญ่ที่ต้องดูแลให้คำปรึกษา เด็กที่ท้องไม่พร้อมเรียนไม่จบ

จะขอ อภิบายเรื่องราว ก่อนนะคะ ค่อนข้างยาว

ตัวเราเอง มี ลูก 2 คน คนโต 7 ขวบ คนเล็ก 2 ขวบ สามีมีน้องชาย ไม่ได้ทำงาน ไม่มีที่อยู่ ก็เลยให้มาช่วยเลี้ยงคนเล็กและให้มาอยู่ด้วยกันที่บ้าน เราตั้งแต่ลูกคนเล็ก 3 เดือน น้องชายสามีมี ลูกสาว อายุ 16 ไม่ได้เลี้ยงเอง (ต่อไปนี้จะเรียกว่า ช) ส่งไปอยู่ต่างจังหวัดตั้งแต่เล็กๆ ปัจุบันอายุ 18 ปี 
               ย้อนไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว  ช เกือบโดน ปู่ที่เลี้ยงมาแต่เล็กแต่น้อยข่มขืน ตอนนั้น ช ป่วย ย่าไม่อยู่บ้าน ช วิ่งหนีออกจากบ้าน และโทร บอกพ่อตัวเอง พ่อตัวเอง กับสามีเราก็เลยรีบไปต่างจังหวัด เพื่อเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้น  
พอไปถึงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตอนที่ปู่ทำไม่เมาไม่ได้กินเหล้า เพราะ ช ก็ยังทำตัวปกติ คุยกับปู่ได้ ปกติ แค่ปู่บอกว่าขอโทษและจะไม่ทำอีก ปู่ตอนไม่กินเหล้าก็นิสัยดี พอกินเหล้าแล้วเปลี่ยนเป็นคนละคน ย่าร่างกายไม่แข็งแรง ไม่ได้ทำงาน อายุเกิน 50 ทั้งคู่ ช่วงอยู่ต่างจังหวัด ช ชอบออกไปกับเพื่อน ค้างคืนที่อื่นไม่ค่อยกลับบ้าน พ่อตัวเอง และสามีเรา มาโทรปรึกษาเรา เราบอกให้ถาม ช ว่าอยากอยู่ที่ไหน พอถามเจ้าตัวก็บอกว่า อยากอยู่ที่เดิมคือ อยู่กับปู่และย่า 
                กำลังจะกลับ ก่อนกลับ ปู่เมา และด่าพ่อน้อง ช และสามี พวกเค้าจึงตัดสินใจให้ น้อง ช มาอยู่ที่บ้านเรา และทำเรื่องลาออกจากโรงเรียน พอมาอยู่กับเรา รับรู้ได้ว่า เด็กคนนี้ไม่มีหัวคิดและความขยัน อดทนเลย ต้องค่อยเขี้ยวเข็นให้ไปสมัคร กศน. ต้องค่อยตอนให้ไปสมัครงาน เราบอกตรงๆ คือรับผิดชอบค่าใช้จ่ายไม่ไหว แต่ให้มาอยู่ และได้พา ช ไปฝากงานกับ เพื่อนของสามี และพ่อน้อง ช ทำร้านกับข้าว เป็น ผู้ชาย อายุมากกว่าสามี 
ทำได้ เกือบ6 เดือน ร้านไปไม่ไหว ไม่จ่ายค่าจ้าง ช และเราสังเกตว่า ระหว่าง ช กับ เพื่อนสามี น่าจะมีอะไรที่เกินเลย แต่ ช สามี และพ่อ ช ไม่เชื่อ จน เพื่อนสามี มาบอกว่า รักกันกับ  ช  เรารู้เรื่องเลยเรียก ช มาคุย ว่ายังไง สามี กับ พ่อ ช โกรธมาก เพราะเป็นเพื่อนกันทำไมทำกับหลานตัวเองได้แบบนี้ ช บอกว่า เพื่อนพ่อมาข่มขื่นหนู เพื่อนสามีเลยบอกว่าไม่ใช่ แล้วเปิดแชทที่ ช คุยกับเพื่อนสามี มีข้อความประมาณว่า ผัวกู ต้องตามใจกู อะไรประมาณนี้  เราก็อึ้ง ช ก็ไม่พูด อะไร พูดแต่ หนูจะออกจากบ้าน หนูขอออกจากบ้าน เราจะไปแจ้งความข้อหาพรากผู้เยาว์ ก็คิดหนัก เพื่อนสามี ก็อยากรับผิดชอบ แต่เค้าก็เอาตัวไม่รอดเพราะร้านก็เจ้ง เงินค่าจ้างก็ไม่ได้จ่าย 
เราถามว่า ช จะ คยกับ เพื่อนพ่อไหม ช ก็บอกว่าไม่คบ อยากเลิก งั้น โอเค เราก็ไปคุยกับเพื่อนสามี ว่าเด็กไม่อยากคบ อยากเลิก และเราก็คุยกับน้องชายสามีว่า อย่าให้กลับต่างจังหวัดเลย เรียนให้จบก่อน มันพลาดไป เราก็ต้องช่วยกันประคบประคองไป จึงจบที่ 2 ฝ่ายเลิกคบกัน และ ช เรียน กศน ต่อ ไปหางานพาร์ทามทำ

จนเมื่อไม่นานมานี้ ประมาณ เดือน พ.ย. ปีที่แล้ว ช ป่วยบ่อยมา เดี๋ยวเป็นลม จนที่ทำงานต้องพักงานแล้วให้ไป หาหมอ ช ไปหาหมอ หมอให้น้ำเกลือ ในใบรับรองแพทย์ เขียนว่าเป็น ไมเกรน แต่เราก็สงสัย ว่า ช ท้องรึป่าว ช บอกว่าไม่ได้ท้อง ให้ดูใบรับรองแพทย์ แล้ว ช ก็บอกว่า ดีใจไม่ท้อง ช มีแฟน คบกันได้ 3 เดือน ตอนนี้แฟน คนนั้น กลับไปอยู่ต่างจังหวัด เพราะแค่มาทำงานช่วงปิดเทอม หลังจากนั้น ช ก็ ยังเป็นลม ป่วย สะเอาะ สะแอะไปเรื่อย ๆ จน ไม่กี่วันที่ผ่านมา ช มาสารภาพว่าท้อง ได้ 4 เดือนแล้ว  ช บอกว่ารู้ตั้งแต่วันที่ไปหาหมอ แต่ไม่กล้าบอก กลัว และที่ผ่านมา ก็พยายาม ทำให้แท้งเอง เช่น กินยาสตรี  ไปวิ่งหนัก ๆ ไม่กินข้าว กินเหล้าตอนปีใหม่ แต่ก็ยังอยู่ และ ช บอก แฟน ช รุ้ตั้งแต่วันที่ไปตรวจว่าท้องแล้ว แฟน ช บอกแล้วแต่ ช ว่าจะเอายังไง ถ้าโดนไล่ออกจากบ้านก็ให้มาอยู่บ้านตัวเองก็ได้ แม่แฟน ช ก็รุ้ ส่วนย่า ก็รู้ว่า ช ท้อง ก่อนเรา เป็น เดือน ๆ ย่าแนะนำอย่าไปทำแท้งเป็นบาป ใครไม่เลี้ยงเดี๋ยวย่าเลี้ยงเอง  แต่เรา พ่อ ช และสามี เพิ่ม มารู้เมื่อไม่กี่วันก่อนเราโกรธมาก แต่ตอนรู้ก็ไม่ได้ ด่า อะไร ช ไป หรือซ้ำเติม แต่เราถามว่าจะเอายังไง ก็ไม่เคยได้ทำตอบอะไร เราหาที่ฝากท้องให้ เป็น รพ รัฐ ทุกอย่างมัน ตือไปหมด เห็น พฤติกรรม 4 เดือนที่ผ่านมา ช ไม่ได้ดูแลตัวเอง เลย ปากบอกจะเก็บเด็กไว้ กลัวเราไล่ไปทำแท้ง ก็จะไปอยู่กับ ย่า หรือ แฟน ระหว่างที่เรา ตื้อ ๆ คิดอะไรไม่ออก อีกวัน ช ไม่ทำงานด้วยความสาบายใจ เพราะว่า ที่บ้านไม่ได้ ว่าเหมือนที่ตัวเองคิดไว้ ช ไปบอกที่ทำงาน ว่าตัวเองท้อง ที่ทำงานเลยบีบให้ ช ไป เขียนใบลาออก 
เราถามว่าทำไมไปบอก เค้าคิดว่าเค้าจะให้ทำงานต่อ หรอ เรายังใช้สิทธิแค่ พาร์ทามเอง ก็แรก เราว่าจะไปที่ นั่นเพื่อคุยกับ รองที่เค้าให้ออก กับ ช ในวันรุ่งขึ้น แต่จุดเปลี่ยนที่ทำให้เราต้องถอย คือ เราถามว่า แล้วจะเอายังไง ต่อ ถ้าไม่ได้ทำงานแล้ว เรื่องเรียนเอาไง ช ตอบยังไม่รู้ ถามคำตอบคำ เราจึงยกเลิกที่จะไปคุย และปล่อย เบื้องต้น คือ ฝ่าย ช จะมาคุย อาทิตย์ คุยเสร็จ หาวันขอขมา แล้วให้ย้ายไปอยู่ที่บ้าน ผู้ชายเลย ไม่ให้อยู่ที่นี้ 
แต่ด้วยความที่เรา ห่วงอยากให้เรียนให้จบ ท้องอยู่ก็หางานทำต่อได้ เพื่อให้ได้สิทธิประกันสังคม ถ้าพยายามก็ทำได้ แต่ เด็กมันไม่รักดี จนเราเองที่ถอดใจ และเริ่มมีความคิดเกลียด ช ขึ้นมาเรื่อยๆ อยากให้ออกไปให้พ้นๆ เรากำลังกลัวใจตัวเอง ทั้งที่ ถ้าเรา พยายาม เคี่ยวเข็น ช บางทีเค้าอาจเรียนจบ เลี้ยงลูก และได้ทำงานที่ดีขึ้น ประคับประคองได้ แต่เราก็เกลียดที่  ช  เป็นคนไม่มีหัวคิด ขี้เกลียด ทำเป็นใสๆ ไร้เดียงสา เจอผู้ชาย ก็คุยหัวร่อต่อกระซิกไปหมด แรดเงียบ  จนตอนนี้ไปนั่งหาข้อมูลเรื่องทำแท้ง อายุ 4 เดือน ว่าจะเอาไปให้ ช  เราไม่ใช่แม่เค้า เพราะเราคิดว่า ช ไม่น่าเป็นแม่คนได้ในตอนนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่