JJNY : ปิยบุตรชี้กกต.ไม่ทำตามม.41/ปิยบุตรปัดเกมยื้อ แต่ไม่แน่ใจองค์ประชุมครบ/จับตาหนี้ครัวเรือนออมน้อยหนี้สูงผ่อนนาน

ปิยบุตร งัด พรป.กกต.โชว์ ชี้ กกต.ไม่ทำตามม.41 ไต่สวนแล้วไม่พบมูลผิด กลับไม่ยุติเรื่อง
https://www.matichon.co.th/politics/news_1890515

เมื่อวันที่ 15 มกราคม นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และส.ส.ของพรรค โพสต์ข้อความแสดงความเห็นเรื่องการพิจารณาคดีของ กกต. กรณียุบพรรคอนาคตใหม่ ระบุว่า 

กฎหมายก็เขียนชัด ถ้าสืบสวนไต่สวนแล้วไม่มีมูลความผิดต้องยุติเรื่อง แต่ กกต. กลับไม่สน พฤติกรรมแบบนี้มีธงหรือไม่? 

ตามรายงานการสืบสวนสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ระหว่าง นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้ร้องที่ 1 นายสุรวัชร สังขฤกษ์ ผู้ร้องที่ 2 กับ พรรคอนาคตใหม่ ผู้ถูกร้องที่ 1 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ถูกร้องที่ 2 ลงวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2562 ปรากฏว่า 

คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน เห็นว่า ข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่า เป็นการบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดให้พรรคการเมืองที่มีมูลค่าเกินกว่าสิบล้านบาท อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 66 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนมีความเห็นเป็นเอกฉันท์เห็นควรยกคำร้อง ข้อเท็จจริงตามคำร้องนี้ เป็นกรณีที่ผลการสืบสวนและไต่สวนของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนปรากฏว่า ไม่มีความผิด ฉะนั้น คณะกรรมการการเลือกตั้งจึงมีอำนาจผูกพันตามมาตรา 41 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2561 ที่ต้องสั่งยุติเรื่อง และจำหน่ายคำร้องออกจากสารบบความ 
 
อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริง คณะกรรมการการเลือกตั้งไม่ปฏิบัติตามมาตรา 41 ซึ่งเป็นอำนาจผูกพันและเป็นหน้าที่ที่คณะกรรมการการเลือกตั้งต้องสั่งยุติเรื่อง แต่ปรากฏว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งกลับนำคำร้องดังกล่าวมาพิจารณาและสั่งฟ้องคดีโดยไม่แจ้งข้อกล่าวหาอีกด้วย พฤติการณ์ของคณะกรรมการการเลือกตั้งเช่นนี้ ส่อให้เห็นถึงการใช้อำนาจหน้าที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ ขอให้ท่านทั้งหลายพิจารณาด้วยใจอันเป็นธรรม
 
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560
 
มาตรา 41 เมื่อมีเหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฏต่อคณะกรรมการไม่ว่าโดยทางใดไม่ว่าจะมีผู้แจ้งหรือผู้กล่าวหาหรือไม่ ถ้ามีหลักฐานพอสมควรหรือมีข้อมูลเพียงพอที่จะสืบสวนต่อไปว่ามีการกระทำใดอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง หรือจะมีผลให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย คณะกรรมการมีหน้าที่ต้องดำเนินการให้มีการสืบสวน หรือไต่สวน เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงและหลักฐานโดยพลัน
 
ถ้าผลการสืบสวนหรือไต่สวนปรากฏว่า ไม่มีมูลความผิดให้สั่งยุติเรื่อง หากปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อว่ามีผู้กระทำการตามที่มีการสืบสวนหรือไต่สวน ให้คณะกรรมการสั่งให้ดำเนินคดีโดยเร็ว หรือในกรณีจำเป็นจะสั่งระงับสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้กระทำการดังกล่าวไว้เป็นการชั่วคราวก็ได้ 
 
https://www.facebook.com/PiyabutrOfficial/photos/a.2260389780911559/2600499713567229/
 

   
4 ส.ส.งูเห่า ระทึก! ‘ปิยบุตร’ ปัดดึงเกมยื้อ แต่ไม่แน่ใจ วันลงมติ องค์ประชุมครบหรือไม่?
https://www.matichon.co.th/politics/news_1890719
 
‘ปิยบุตร’ ปัดดึงเกมยื้อ 4 ส.ส.งูเห่า ขู่ใครชื่อซ้ำซ้อน 2 พรรคมีสิทธิหลุดคุณสมบัติ โยนหน้าที่ กกต. ชี้ขาด
 
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 15 มกราคม ที่รัฐสภา นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกรณีความไม่ชัดเจนของพรรคอนาคตใหม่ในการขับ 4 ส.ส. อนาคตใหม่ออกจากพรรคว่า เรื่องนี้กำลังดำเนินการตรวจสอบตามขั้นตอน ตกใจอยู่ที่เห็นข่าวเช่นนี้ แต่คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา เดิมที่ประชุมวิสามัญเสนอให้ขับ 4 ส.ส.อนาคตใหม่ออกจากพรรค แต่ตามรัฐธรรมนูญจะต้องใช้มติที่ประชุมส.ส. และกรรมการบริหารพรรค ซึ่งพรรคได้จัดประชุมพรรคทันทีในวันรุ่งขึ้น และมีมติขับออก อย่างไรก็ตามมติที่เกิดขึ้นจะต้องตรวจสอบรายชื่อผู้เข้าร่วมประชุม และจัดทำรายงานการประชุมให้คณะกรรมการ (กกต.) ต่อไป 
  
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ กกต.ยังไม่ได้รับรายงานการประชุมเรื่องการขับอดีต 4 ส.ส. อนาคตใหม่ออกจากพรรค เนื่องจากมีปัญหาการประชุม ส.ส.อนาคตใหม่ในวันดังกล่าว มีองค์ประชุมไม่ครบ ขาดตัวแทนภาคร่วมประชุม นายปิยบุตรตอบว่า กำลังตรวจสอบ แต่ขั้นตอนในวันดังกล่าวค่อนข้างรีบเร่ง จึงต้องไปตรวจสอบรายละเอียดและลายเซ็นผู้เข้าร่วมประชุมว่า ครบองค์ประชุมหรือไม่ มิเช่นนั้นจะกลายเป็นมติไม่ชอบ ส.ส.เหล่านั้นจะไม่ถูกขับออกจากพรรคจริงๆ เมื่อถามว่า ถ้าองค์ประชุมวันดังกล่าวไม่ครบจริงๆ จะดำเนินการอย่างไร นายปิยบุตรตอบว่า ยังไม่แน่ใจว่ามีปัญหาเรื่องใด เรื่องนี้ต้องทำให้รอบคอบ เพื่อให้เกิดผลสมบูรณ์ 
 
เมื่อถามย้ำว่า มติที่ประชุมไม่สมบูรณ์ใช่หรือไม่ นายปิยบุตรตอบว่า หน้าที่ของพรรคอนาคตใหม่คือการตรวงสอบทางเอกสารว่า ผู้เข้าร่วมประชุมครบหรือไม่ และทำตามข้อบังคับใหม่หรือไม่ เพราะเรื่องนี้เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ กำลังตรวจสอบอยู่ ส่วนหากพรรคอนาคตใหม่ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการประชุมพรรคในวันดังกล่าวมีความถูกต้องหรือไม่ อาจจะส่งผลให้ 4 อดีต ส.ส.อนาคตใหม่ต้องสิ้นสภาพ ส.ส. ในวันที่ 16 มกราคม ที่จะต้องหาสังกัดใหม่ภายใน 30 วัน นั้น เป็นเรื่องของ กกต.จะระบุว่า ใครจะอยู่ในสังกัดพรรคใด แต่ถ้ามีชื่อซ้ำซ้อนกันทั้งสองพรรคถือว่า หลุดจากส.ส.ทั้งสองพรรค เป็นแนวที่กกต.ดำเนินการมา 
 
ตอนนี้ผมกำลังตามเรื่องอยู่ทุกวัน พรรคเรามีหลายเรื่องมาก ถ้าลดจำนวนคดีให้เราน้อยๆ หน่อย จะได้มีเวลาไปทำเรื่องพวกนี้ ขณะนี้เราต้องแก้คดีทุกวันเต็มไปหมด ทั้ง 4 คน คงไม่ต้องกังวลใจอะไร เพราะประกาศตัวชัดเจนแล้ว ถ้าไปปรากฏชื่อซ้อนกัน 2 พรรคก็เป็นหน้าที่ของกกต.” นายปิยบุตรกล่าวว่า 
  
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคไม่ยืนยันใช่หรือไม่ว่า ทั้ง 4 คนยังไม่พ้นจากสมาชิกพรรคตามกฎหมาย นายปิยบุตรตอบว่า ต้องไปเช็กว่าวันนั้นมีการเซ็นชื่อเข้าประชุมครบองค์ประชุมหรือไม่ พอมีมติเกิดขึ้น ไม่ใช่ว่าจะมีความสมบูรณ์ทันที ต้องรอการส่งเอกสารหนังสือรับรองให้ กกต.เพื่อยืนยันอย่างเป็นทางการ 
  
เมื่อถามว่า ตั้งใจหรือไม่ที่ต้องให้ 4 ส.ส.มีชื่อซ้ำซ้อนกัน 2 พรรค นายปิยบุตรตอบว่า จะทำไปทำไม ภารกิจของเราคือการจัดทำเอกสารให้ครบถ้วน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของพรรคอนาคตใหม่ แต่เป็นเรื่องของทั้งสี่คนที่ต้องรับผิดชอบเองต่อสิ่งที่กระทำไป แต่กลายเป็นว่า พรรคอนาคตใหม่ต้องไปตามรับผิดชอบให้ ทั้ง 4 คนคงต้องดูแลตัวเองด้วย ขอให้ใจเย็นๆ ดูแล้วออกอาการไปนิด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่