ปัญหามันมีมาตลอดอยู่แล้ว ทุกเรื่อง ทั้งเรื่องเพื่อน เรื่องงาน เรื่องความรัก และหลายๆอย่าง มันสะสมมาเรื่อยๆจนเก็บไว้เยอะ วันดีคืนดีนอนอยู่น้ำตาก็ไหลเองเฉยมันก็แปลกๆดีอธิบายไม่ถูก เราเคยไปพบจิตแพทย์นะคะแต่ก็ยังทำไม่ได้ตามคำแนะนำ
เรื่องเพื่อน เราก็ไม่ได้อยากจะโทษเรื่องทำบุญคนไม่ขึ้นแต่มันก็อดจะคิดแบบนั้นไม่ได้ เราเป็นคนพูดน้อยเพื่อนน้อย ปฏิสัมพันธ์ต่ำ เราคบใครจริงใจหมดทุกคนพร้อมช่วยเหลือตลอด มีอะไรให้ได้ก็ให้ ถึงไหนถึงกัน แต่กับคนที่ขึ้นชื่อว่าเพื่อนเรารู้สึกลึกๆแล้วเหมือนไม่ใช่ (เรามีเพื่อนทุกรุ่นอายุตั้งแต่ 20+ ไปจนถึง 40+) แรกๆก็มาดูดีแต่พอผ่านไปสักระยะรู้สึกเหมือนกับแค่คบเราแค่ผลประโยชน์ เพื่อนทุกคนขออะไรเราช่วยหมดแต่พอเรามีเรื่องอะไรอยากแชร์ให้ฟังทำกลับเหมือนจะผ่านไปแล้วข้ามไป มีเพื่อนคนนี้เราคบมาห้าหกปีแล้ว เวลาเขาไม่มีเพื่อนไปไหนเขาขอเราเราพร้อมว่างไปด้วยได้เสมอ แต่พอเราชวนบ้างเขาไม่เคยไปเลย ตั้งแต่คบมาหกปีเคยไปหนึ่งครั้ง ทุกครั้งมันจะบังเอิญอะไรขนาดที่ชวนแล้วไปไม่ได้ แต่เราก็ว่าอะไรไม่ได้หรอกก็ได้แค่น้อยใจ เพื่อนอีกคนจะไปไหนก็ต้องไปรับไปส่งตลอดทั้งๆที่ตัวเองก็เพิ่งถอยรถมา คือเมื่อก่อนเราสงสารเขากลัวลำบาก (รู้ตัวเป็นคนขี้สงสาร) เลยไปรับส่งให้ได้กลับดึกๆมันอันตราย แต่พอตัวเองบอกเพิ่งไปถอยรถหรูมา แต่ไม่เห็นยักจะขับก็นั่งรถเมย์ไปทำงานเหมือนเดิม เขาบอกสะดวกกว่าแล้วจะถอยรถมาเพื่อ ? ทุกครั้งเราแกล้งถามว่ากลับยังไงเนี้ย เขาก็ตอบแบบไม่เกรงใจทั้งๆที่รู้ว่าเรามีธุระต่อก็บอกว่าแกไปส่งไง (ให้ทำไงได้เราขี้สงสาร) อีกคนจะทักมาคุยยาวๆก็ตอนที่อยากให้แปลภาษาให้บ้าง ทำเทสให้บ้าง ปกติคุยเหมือนจะให้จบๆ ก็ตอบบ้าง แต่ส่วนใหญ่พอเหมือนอยากจะตัดแบบฉันใช้เธอเสร็จละก็จะไม่เปิดอ่านไปเลยยาวๆจนกว่าเขาจะทักมีเรื่องมาใหม่ อีกคน เราปรึกษาเรื่องความรัก บ่นนั้นนี่ไปเรื่อยตามภาษา เขาก็จะตัดบทแบบขี้เกียจคุยต่อเรื่องนี้แล้วก็จะชอบบอกว่า "เธอ..คนนั้นอะหลอกเธอชัวร์ เธอหวังไงเธอคิดไปเอง" แค่ขอความเห็นกับเรื่องหนึ่ง ไม่ได้ถามว่าหลอกไม่หลอกแต่มันคือประโยคคลาสิกที่เห็นได้บ่อยๆจนชินไม่อยากพูดอะไรกับใครแล้ว
เรื่องงานเราก็แทบจะขอปรึกษาใครไม่ได้อิงจากสภาพเพื่อนที่มีด้านบน อยากจะบ่นกระปอดกระแปดบ้าง แบบแกรรรร.... อยากบ่นเรื่องคนร่วมงานไม่ได้ดั่งใจตัวเองทำงานไม่ได้ตามแผนบ้าง หรือบางทีก็อยากได้คนสนิทปรึกษาหรือช่วยในการตัดสินใจก็ไม่มีในเรื่องการทำงานต้องรับผิดชอบหลายอย่างรวมถึงช่วยที่บ้านด้วยแต่กลับบ้านทีไรพ่อแม่ก็คุยแต่เรื่องงาน บางทีก็คิดในใจว่าคุยเรื่องอื่นบ้างก็ได้เนอะหนูก็เครียดค่ะแม๊ บางทีก็ไม่อยากเอาอะไรจุกจิกมาปรึกษาแม่ จากเล็กๆเดี่ยวจะกลายเป็นใหญ่ๆ
เรื่องความรักก็ยังพยายามจีบอยู่ ชอบมาสี่ปี แต่รู้สึกว่าพร้อมปีที่แล้วเลยเดินหน้ามาจนถึงปัจจุบันก็จะหนึ่งปีแล้ว ไม่นานมานี้เราบอกเขาว่าจีบนะ แต่เขาบอกว่าเขาอายุเยอะแล้วพี่น้องไหมหละอายุห่างกันขนาดนี้ ปากก็บอกว่าได้เจ้าค่ะแต่เราก็หน้าหนาต่อไป เขาก็ไม่ได้ตัดขาดไม่ได้รังเกียจ ทำตัวเหมือนเดิมเจอกันก็คุยเล่นจิกกัดเหมือนเดิม แต่ไลน์คุยกันนานๆทีเป็นปกติตั้งแต่ก่อนจีบอยู่แล้วเพราะเขางานยุ่งทำงานหกวัน เราก็ยุ่งหกเจ็ดวันบางที ซึ่งเราก็โอเคแล้วแต่ถ้าว่างก็คุยไม่ว่างก็ตามสบายเลยคุณ
บางทีก็คิดนะเวรกรรมอะไรถึงไม่เคยมีคนจริงใจกับเราเลยเป็นตั้งแต่เด็กๆแล้วโตมาก็ได้แต่ทำใจหัวเราะทั้งน้ำตา
เวลามีปัญหาเข้ามาพร้อมกันจะแก้ไขยังไง?
เรื่องเพื่อน เราก็ไม่ได้อยากจะโทษเรื่องทำบุญคนไม่ขึ้นแต่มันก็อดจะคิดแบบนั้นไม่ได้ เราเป็นคนพูดน้อยเพื่อนน้อย ปฏิสัมพันธ์ต่ำ เราคบใครจริงใจหมดทุกคนพร้อมช่วยเหลือตลอด มีอะไรให้ได้ก็ให้ ถึงไหนถึงกัน แต่กับคนที่ขึ้นชื่อว่าเพื่อนเรารู้สึกลึกๆแล้วเหมือนไม่ใช่ (เรามีเพื่อนทุกรุ่นอายุตั้งแต่ 20+ ไปจนถึง 40+) แรกๆก็มาดูดีแต่พอผ่านไปสักระยะรู้สึกเหมือนกับแค่คบเราแค่ผลประโยชน์ เพื่อนทุกคนขออะไรเราช่วยหมดแต่พอเรามีเรื่องอะไรอยากแชร์ให้ฟังทำกลับเหมือนจะผ่านไปแล้วข้ามไป มีเพื่อนคนนี้เราคบมาห้าหกปีแล้ว เวลาเขาไม่มีเพื่อนไปไหนเขาขอเราเราพร้อมว่างไปด้วยได้เสมอ แต่พอเราชวนบ้างเขาไม่เคยไปเลย ตั้งแต่คบมาหกปีเคยไปหนึ่งครั้ง ทุกครั้งมันจะบังเอิญอะไรขนาดที่ชวนแล้วไปไม่ได้ แต่เราก็ว่าอะไรไม่ได้หรอกก็ได้แค่น้อยใจ เพื่อนอีกคนจะไปไหนก็ต้องไปรับไปส่งตลอดทั้งๆที่ตัวเองก็เพิ่งถอยรถมา คือเมื่อก่อนเราสงสารเขากลัวลำบาก (รู้ตัวเป็นคนขี้สงสาร) เลยไปรับส่งให้ได้กลับดึกๆมันอันตราย แต่พอตัวเองบอกเพิ่งไปถอยรถหรูมา แต่ไม่เห็นยักจะขับก็นั่งรถเมย์ไปทำงานเหมือนเดิม เขาบอกสะดวกกว่าแล้วจะถอยรถมาเพื่อ ? ทุกครั้งเราแกล้งถามว่ากลับยังไงเนี้ย เขาก็ตอบแบบไม่เกรงใจทั้งๆที่รู้ว่าเรามีธุระต่อก็บอกว่าแกไปส่งไง (ให้ทำไงได้เราขี้สงสาร) อีกคนจะทักมาคุยยาวๆก็ตอนที่อยากให้แปลภาษาให้บ้าง ทำเทสให้บ้าง ปกติคุยเหมือนจะให้จบๆ ก็ตอบบ้าง แต่ส่วนใหญ่พอเหมือนอยากจะตัดแบบฉันใช้เธอเสร็จละก็จะไม่เปิดอ่านไปเลยยาวๆจนกว่าเขาจะทักมีเรื่องมาใหม่ อีกคน เราปรึกษาเรื่องความรัก บ่นนั้นนี่ไปเรื่อยตามภาษา เขาก็จะตัดบทแบบขี้เกียจคุยต่อเรื่องนี้แล้วก็จะชอบบอกว่า "เธอ..คนนั้นอะหลอกเธอชัวร์ เธอหวังไงเธอคิดไปเอง" แค่ขอความเห็นกับเรื่องหนึ่ง ไม่ได้ถามว่าหลอกไม่หลอกแต่มันคือประโยคคลาสิกที่เห็นได้บ่อยๆจนชินไม่อยากพูดอะไรกับใครแล้ว
เรื่องงานเราก็แทบจะขอปรึกษาใครไม่ได้อิงจากสภาพเพื่อนที่มีด้านบน อยากจะบ่นกระปอดกระแปดบ้าง แบบแกรรรร.... อยากบ่นเรื่องคนร่วมงานไม่ได้ดั่งใจตัวเองทำงานไม่ได้ตามแผนบ้าง หรือบางทีก็อยากได้คนสนิทปรึกษาหรือช่วยในการตัดสินใจก็ไม่มีในเรื่องการทำงานต้องรับผิดชอบหลายอย่างรวมถึงช่วยที่บ้านด้วยแต่กลับบ้านทีไรพ่อแม่ก็คุยแต่เรื่องงาน บางทีก็คิดในใจว่าคุยเรื่องอื่นบ้างก็ได้เนอะหนูก็เครียดค่ะแม๊ บางทีก็ไม่อยากเอาอะไรจุกจิกมาปรึกษาแม่ จากเล็กๆเดี่ยวจะกลายเป็นใหญ่ๆ
เรื่องความรักก็ยังพยายามจีบอยู่ ชอบมาสี่ปี แต่รู้สึกว่าพร้อมปีที่แล้วเลยเดินหน้ามาจนถึงปัจจุบันก็จะหนึ่งปีแล้ว ไม่นานมานี้เราบอกเขาว่าจีบนะ แต่เขาบอกว่าเขาอายุเยอะแล้วพี่น้องไหมหละอายุห่างกันขนาดนี้ ปากก็บอกว่าได้เจ้าค่ะแต่เราก็หน้าหนาต่อไป เขาก็ไม่ได้ตัดขาดไม่ได้รังเกียจ ทำตัวเหมือนเดิมเจอกันก็คุยเล่นจิกกัดเหมือนเดิม แต่ไลน์คุยกันนานๆทีเป็นปกติตั้งแต่ก่อนจีบอยู่แล้วเพราะเขางานยุ่งทำงานหกวัน เราก็ยุ่งหกเจ็ดวันบางที ซึ่งเราก็โอเคแล้วแต่ถ้าว่างก็คุยไม่ว่างก็ตามสบายเลยคุณ
บางทีก็คิดนะเวรกรรมอะไรถึงไม่เคยมีคนจริงใจกับเราเลยเป็นตั้งแต่เด็กๆแล้วโตมาก็ได้แต่ทำใจหัวเราะทั้งน้ำตา