กระทู้นี้จะชอแชร์ประสบการณ์ผ่าตัดเนื้องอกในมดลูกค่ะ ยาวหน่อย แต่มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดนะ
เราตรวจเจอเนื้องอกเมื่อสามปีก่อนค่ะ เนื่องจากเวลามีประจำเดือน เราจะปวดท้องมากๆ ปวดจนเดินแทบไม่ไหว พออัลตร้าซาวน์ดูก็พบเนื้องอกขนาดใหญ่สุดคือ 7 ซม คุณหมอให้ทานยาคุมให้หยุดการมีประจำเดือน เพื่อไม่ให้เลือดไปเลี้ยงเจ้าเนื้องอก และมันอาจจะลดขนาดลงไปเอง เราทานอยู่เป็นเวลา 2 ปี ซึ่งคุณหมอที่นี่ไม่ได้แนะนำให้ผ่าตัด
เดือนมีนา 2561 เนื่องจากคุณหมอ รพ. แรก ย้ายไปประจำที่ รพ. ต่างจังหวัด เราเลยเปลี่ยนไปปรึกษาคุณหมอที่ รพ. เซ็นหลุยส์ เพราะเรามีแพลนจะแต่งงานตอนปลายปี 2561 แต่งแล้วก็อยากมีน้องเลย อยากรู้ว่าเจ้าเนื้องอกมันเป็นอุปสรรคต่อการมีน้องมั้ย อีกอย่างเรายังคงทานยาคุมอยู่อย่างต่อเนื่อง ถ้าหยุดทานจะได้มั้ย เพราะนึกกลัวว่าทานยาคุมเพื่อหยุดประจำเดือนไปนานๆ มันจะมีผลอะไรต่อมดลูกหรือเปล่า คุณหมอจากเซ็นหลุยส์ก็แนะนำให้เราไปรักษาที่นวบุตร เพราะเราน่าจะเข้าข่ายภาวะผู้มีบุตรยาก
ราวเมษา 2561 เราจึงไปปรึกษาคุณหมอที่นวบุตร บอกคุณหมอเรามีแพลนแต่งงานตอนปลายปี 2561 หลังแต่งก็อยากมีน้องเลย เนื่องจากเราอายุ 34 ปีแล้ว คุณหมอจับอัลตร้าซาวน์อีกรอบ คราวนี้เจอเนื้องอกขนาดใหญ่สุด 5 ซม และก้อนเล็กก้อนน้อยอีกเพียบ แถมคราวนี้ตรวจพบเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่แถมมาอีกหนึ่งอย่างด้วย ทั้งหมดเป็นเหตุให้มีลูกยาก หรือถ้าท้องก็ค่อนข้างเสี่ยงอันตรายกับเด็ก คุณหมอให้กลับมาตัดสินใจ แต่เรายังไม่อยากผ่าช่วงนั้น เนื่องจากเป็นช่วงที่ต้องเตรียมงานแต่ง และคิดเองเออเองว่าหลังแต่งอาจจะท้อง และเจ้าเนื้องอกมันจะฝ่อไปเองโดยไม่ต้องผ่าให้เจ็บตัวและเสียตังค์
ข้ามมาธันวา 2562 แต่งงานมาเกือบปี น้องยังไม่มา เลยกลับไปหาคุณหมออีกรอบ ตัดสินใจทำตามคำแนะนำของคุณหมอ ผ่าก็ผ่า เผื่อมดลูกเราจะคลีนๆ ติดลูกง่ายขึ้น โดยครั้งนี้จะผ่าด้วยวิธีการเปิดหน้าท้อง ตื่นเต้นมาก เกิดมาไม่เคยผ่าตัด ป่วยจนต้องนอนโรงพยาบาลยังไม่เคยเลย
คุณหมอนัดวันผ่า เป็นเสาร์ที่ 14 ธค 62 ตอน 7.00 น. เช้าตรู่เลย โดยเราต้องไปนอนสแตนบายเตรียมกายเตรียมใจ ที่ รพ. ตั้งแต่คืนวันศุกร์ที่ 13 ธค งดน้ำและอาหารหลัง 4 ทุ่มเป็นต้นไป พอ 4 ทุ่มเป๊ะ คุณพยาบาลก็เข้ามาสวนถ่ายอุจจาระ เจาะเลือด และโกนขนหน้าท้อง คืนนั้นนอนไม่หลับเลยทั้งคืน สงสัยจะตื่นเต้น
เช้าวันที่ 14 ธค วันดีเดย์ คุณพยาบาลเข้ามาปลุกตั้งแต่ตี 5 ให้เตรียมตัวอาบน้ำทำธุระต่างๆ เราไม่ลืมที่จะไหว้พระ ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้การผ่าตัดผ่านพ้นไปได้ราบรื่น จนเกือบๆ 6 โมงเช้า คุณหมอวิสัญญีแวะมาเซย์ไฮ และบอกว่าเราจะใช้วิธีบล็อกหลังและให้ยานอนหลับนะคะ คนไข้จะได้ไม่ต้องกังวล คิดในใจว่าดีเลยค่ะหมอ จากนั้นรถเข็นผ่าตัดมารับตัวตอน 6 โมงเช้า นอนเข้าห้องผ่าตัดไปสวยๆ เป็นครั้งแรกที่ได้เข้าห้องผ่าตัด โอวว เหมือนในซีรีย์เลย คือต้องผ่านหลายประตูกว่าจะถึงห้องผ่าตัดจริงๆ ในห้องผ่าตัดหนาวมากกกกกก ดีที่มีท่อลมร้อนมาวางให้กลางตัว ไม่งั้นคงแข็งตายก่อนได้เจอมีดหมอ จากนั้นเจ้าหน้าที่ห้องผ่าตัดจัดแจงถอดเสื้อผ้า แปะนั่นนี่บนตัว ทั้งเครื่องวัดความดัน เครื่องวัดชีพจร สายน้ำเกลือ ฉีดยานอนหลับ หมอวิสัญญีให้นอนตัวงอๆ เพื่อฉีดยาบล็อกหลัง ใส่สายสวนปัสสาวะ ออพชั่นเต็มร่างเลย แต่เรายังไม่ทันได้เซย์ไฮกับคุณหมอผ่าตัดเจ้าของเคส เพราะว่าหลับไม่รู้เรื่องไปซะก่อน
ลืมตาขึ้นมา เบลอๆ เจอหน้าสมี ถามว่าเสร็จละหรอ หรือยังไม่ได้ผ่า หรือหมอยังไม่มา หรือวิญญาณออกจากร่างไปแล้ว งงๆ มึนๆ สมีบอกเสร็จแล้ว ตอนนี้อยู่ที่ห้องพักฟื้นนะ นอนรอดูอาการแทรกซ้อน ช่วงนั้นก็หลับๆ ตื่นๆ มึนงง เหมือนยานอนหลับยังไม่หมดฤทธิ์ดี คุณสมีโชว์เนื้องอกที่ใส่ถุงน้ำยาไว้ มีหลายก้อนอยู่ เป็นก้อนขาวๆ อยู่ในถุงน้ำแดงๆ จากนั้นคุณพยาบาลเดินมาบอกรอขาหายชา ขยับได้ แล้วจะปล่อยกลับห้อง แล้วก็เข้ามาเช็คเป็นระยะๆ ว่าขาขยับได้ยัง แต่ก็ยังไม่ได้สักที เริ่มใจคอไม่ดี ทำไมมันชานานจัง คิดไปต่างๆ นานา หรือจะอัมพาตครึ่งตัว ขายังอยู่มั้ย ทำไมช่วงล่างลงไปไม่รู้สึกไรเลยอะ เป็นชั่วโมงผ่านไป น่าจะเป็นชั่วโมงนะ เพราะไม่รู้เวลาเลย รู้แต่ว่านานมากกกก ขาขยับได้แล้วว รอดค่ะรอด
โดนเข็นกลับห้อง ใจชื้นละ ขณะนั้นยังต้องนอนราบ อยู่นิ่งๆไปจนถึงช่วงบ่ายๆ พอถึงช่วงเย็นๆ เริ่มเจ็บแผลนะ แต่พอทนไหว ยังแอ๊บเป็นสาวสตรองไม่ขอยาแก้ปวด คุณพยาบาลเข้ามาวัดไข้ อ้าวว ไข้ขึ้นเฉย รีบจัดแจงเช็คตัวยกใหญ่จนไข้ลด พอตกกลางคืน ได้เรื่องเลยค่ะ กดเรียกคุณพยาบาล ขอยาแก้ปวด แก้คัน ขนมาให้หมดค่ะ ปวดไม่ไหวแล้วว พอได้ยาหยอดใส่ในสายน้ำเกลือไป ค่อยได้หลับได้นอนหน่อย
เช้าวันที่ 15 ธค หลังผ่าตัดวันแรก คุณหมอมาเยี่ยมตั้งแต่หกโมงเช้า หมอบอกทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ใช้เวลาผ่าราวชั่วโมง ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง พร้อมแตะขาสองทีบอกเก่งมาก พอสายๆ เอาสายน้ำเกลือ กับสายสวนปัสสาวะออก ให้กินอาหารและน้ำได้ มื้อแรกคือน้ำข้าวต้มกับน้ำซุป อย่าถามถึงรสชาติเลยนะคะ พอออพชั่นเสริมที่ติดตัวมาเอาออกไปหมด ก็ต้องเดินเข้าห้องน้ำเอง ลุกทีเจ็บแผลมาก แล้วเป็นคนฉี่บ่อยด้วย ลุกจากเตียงทีนรกจริง แต่ก็ต้องพยายามขยับตัวบ่อยๆ เพื่อไม่ให้แผลเป็นพังผืด คืนนี้คุณพยาบาลยังคงเข้าออกวัดไข้และความดันทั้งคืนเหมือนเมื่อคืน
วันที่ 16 ธค เริ่มดีขึ้น เจ็บน้อยลงหน่อย เดินได้สะดวกขึ้นนิดนึง วันนี้มีญาติๆ ที่ทำงาน เพื่อนสนิทมาเยี่ยมกันคับคั่ง ทุกคนต่างยิงมุกกันสนุกสนาน จะขำก็ขำไม่ได้ ได้แต่ยิ้มกว้าง ไม่ใช่มุกฝืด แต่มันหัวเราะไม่ได้ กระเทือนแผลสุดๆ
วันที่ 17 ธค หมอมาเยี่ยมหกโมงเช้าเช่นเคย มาบอกข่าวดีเรื่องผลชิ้นเนื้อว่าไม่ใช่เนื้อร้าย วันนี้กลับบ้านได้ และอีกสามเดือนก็พร้อมมีน้องได้เลย ก่อนที่เจ้าเนื้องอกส่วนเกินมันอาจจะ return กลับมาได้อีก โอย พอเถอะ ไปแล้วไปลับ ไม่ต้องกลับมาแล้ว ไม่อยากเจ็บตัวบ่อยๆ ตอนบ่ายเคลียร์ค่าใช้จ่าย และเก็บของกลับบ้าน
ชีวิตหลังผ่าตัด slow life มาก ประหนึ่งสลอต ต้องเดินช้าๆ ทำไรช้าๆ ขัดใจตัวเองนิดหน่อย เพราะปกติเป็นคนชอบทำอะไรเร็วๆ คุณหมอให้พักลางานหนึ่งเดือนสามสัปดาห์ แต่หลังปีใหม่ถ้าอยากกลับไปทำงานก็ทำได้ หมอขออย่างเดียว ห้ามยกของหนัก นอกนั้นก็จะใช้ชีวิตได้ปกติ ทานอาหารได้ปกติ ไม่มีข้อห้ามใดๆ สาวๆ ที่คิดว่าตัวเองผิดปกติ ปวดประจำเดือนหนักๆ ควรไปตรวจนะ มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
จบสิ้นสักที ลาก่อยยย เนื้องอกที่ฉันแบกแกมาตั้งหลายปี ถ้าใครอยากปรึกษาเรื่องการเตรียมตัว หรือข้อมูลเพิ่มเติม สามารถถามมาได้เลยนะคะ ยินดีตอบค่า
แชร์ประสบการณ์ผ่าตัดเนื้องอกในมดลูก ขนาด 5 ซม. และก้อนเล็กก้อนน้อย
เราตรวจเจอเนื้องอกเมื่อสามปีก่อนค่ะ เนื่องจากเวลามีประจำเดือน เราจะปวดท้องมากๆ ปวดจนเดินแทบไม่ไหว พออัลตร้าซาวน์ดูก็พบเนื้องอกขนาดใหญ่สุดคือ 7 ซม คุณหมอให้ทานยาคุมให้หยุดการมีประจำเดือน เพื่อไม่ให้เลือดไปเลี้ยงเจ้าเนื้องอก และมันอาจจะลดขนาดลงไปเอง เราทานอยู่เป็นเวลา 2 ปี ซึ่งคุณหมอที่นี่ไม่ได้แนะนำให้ผ่าตัด
เดือนมีนา 2561 เนื่องจากคุณหมอ รพ. แรก ย้ายไปประจำที่ รพ. ต่างจังหวัด เราเลยเปลี่ยนไปปรึกษาคุณหมอที่ รพ. เซ็นหลุยส์ เพราะเรามีแพลนจะแต่งงานตอนปลายปี 2561 แต่งแล้วก็อยากมีน้องเลย อยากรู้ว่าเจ้าเนื้องอกมันเป็นอุปสรรคต่อการมีน้องมั้ย อีกอย่างเรายังคงทานยาคุมอยู่อย่างต่อเนื่อง ถ้าหยุดทานจะได้มั้ย เพราะนึกกลัวว่าทานยาคุมเพื่อหยุดประจำเดือนไปนานๆ มันจะมีผลอะไรต่อมดลูกหรือเปล่า คุณหมอจากเซ็นหลุยส์ก็แนะนำให้เราไปรักษาที่นวบุตร เพราะเราน่าจะเข้าข่ายภาวะผู้มีบุตรยาก
ราวเมษา 2561 เราจึงไปปรึกษาคุณหมอที่นวบุตร บอกคุณหมอเรามีแพลนแต่งงานตอนปลายปี 2561 หลังแต่งก็อยากมีน้องเลย เนื่องจากเราอายุ 34 ปีแล้ว คุณหมอจับอัลตร้าซาวน์อีกรอบ คราวนี้เจอเนื้องอกขนาดใหญ่สุด 5 ซม และก้อนเล็กก้อนน้อยอีกเพียบ แถมคราวนี้ตรวจพบเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่แถมมาอีกหนึ่งอย่างด้วย ทั้งหมดเป็นเหตุให้มีลูกยาก หรือถ้าท้องก็ค่อนข้างเสี่ยงอันตรายกับเด็ก คุณหมอให้กลับมาตัดสินใจ แต่เรายังไม่อยากผ่าช่วงนั้น เนื่องจากเป็นช่วงที่ต้องเตรียมงานแต่ง และคิดเองเออเองว่าหลังแต่งอาจจะท้อง และเจ้าเนื้องอกมันจะฝ่อไปเองโดยไม่ต้องผ่าให้เจ็บตัวและเสียตังค์
ข้ามมาธันวา 2562 แต่งงานมาเกือบปี น้องยังไม่มา เลยกลับไปหาคุณหมออีกรอบ ตัดสินใจทำตามคำแนะนำของคุณหมอ ผ่าก็ผ่า เผื่อมดลูกเราจะคลีนๆ ติดลูกง่ายขึ้น โดยครั้งนี้จะผ่าด้วยวิธีการเปิดหน้าท้อง ตื่นเต้นมาก เกิดมาไม่เคยผ่าตัด ป่วยจนต้องนอนโรงพยาบาลยังไม่เคยเลย
คุณหมอนัดวันผ่า เป็นเสาร์ที่ 14 ธค 62 ตอน 7.00 น. เช้าตรู่เลย โดยเราต้องไปนอนสแตนบายเตรียมกายเตรียมใจ ที่ รพ. ตั้งแต่คืนวันศุกร์ที่ 13 ธค งดน้ำและอาหารหลัง 4 ทุ่มเป็นต้นไป พอ 4 ทุ่มเป๊ะ คุณพยาบาลก็เข้ามาสวนถ่ายอุจจาระ เจาะเลือด และโกนขนหน้าท้อง คืนนั้นนอนไม่หลับเลยทั้งคืน สงสัยจะตื่นเต้น
เช้าวันที่ 14 ธค วันดีเดย์ คุณพยาบาลเข้ามาปลุกตั้งแต่ตี 5 ให้เตรียมตัวอาบน้ำทำธุระต่างๆ เราไม่ลืมที่จะไหว้พระ ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้การผ่าตัดผ่านพ้นไปได้ราบรื่น จนเกือบๆ 6 โมงเช้า คุณหมอวิสัญญีแวะมาเซย์ไฮ และบอกว่าเราจะใช้วิธีบล็อกหลังและให้ยานอนหลับนะคะ คนไข้จะได้ไม่ต้องกังวล คิดในใจว่าดีเลยค่ะหมอ จากนั้นรถเข็นผ่าตัดมารับตัวตอน 6 โมงเช้า นอนเข้าห้องผ่าตัดไปสวยๆ เป็นครั้งแรกที่ได้เข้าห้องผ่าตัด โอวว เหมือนในซีรีย์เลย คือต้องผ่านหลายประตูกว่าจะถึงห้องผ่าตัดจริงๆ ในห้องผ่าตัดหนาวมากกกกกก ดีที่มีท่อลมร้อนมาวางให้กลางตัว ไม่งั้นคงแข็งตายก่อนได้เจอมีดหมอ จากนั้นเจ้าหน้าที่ห้องผ่าตัดจัดแจงถอดเสื้อผ้า แปะนั่นนี่บนตัว ทั้งเครื่องวัดความดัน เครื่องวัดชีพจร สายน้ำเกลือ ฉีดยานอนหลับ หมอวิสัญญีให้นอนตัวงอๆ เพื่อฉีดยาบล็อกหลัง ใส่สายสวนปัสสาวะ ออพชั่นเต็มร่างเลย แต่เรายังไม่ทันได้เซย์ไฮกับคุณหมอผ่าตัดเจ้าของเคส เพราะว่าหลับไม่รู้เรื่องไปซะก่อน
ลืมตาขึ้นมา เบลอๆ เจอหน้าสมี ถามว่าเสร็จละหรอ หรือยังไม่ได้ผ่า หรือหมอยังไม่มา หรือวิญญาณออกจากร่างไปแล้ว งงๆ มึนๆ สมีบอกเสร็จแล้ว ตอนนี้อยู่ที่ห้องพักฟื้นนะ นอนรอดูอาการแทรกซ้อน ช่วงนั้นก็หลับๆ ตื่นๆ มึนงง เหมือนยานอนหลับยังไม่หมดฤทธิ์ดี คุณสมีโชว์เนื้องอกที่ใส่ถุงน้ำยาไว้ มีหลายก้อนอยู่ เป็นก้อนขาวๆ อยู่ในถุงน้ำแดงๆ จากนั้นคุณพยาบาลเดินมาบอกรอขาหายชา ขยับได้ แล้วจะปล่อยกลับห้อง แล้วก็เข้ามาเช็คเป็นระยะๆ ว่าขาขยับได้ยัง แต่ก็ยังไม่ได้สักที เริ่มใจคอไม่ดี ทำไมมันชานานจัง คิดไปต่างๆ นานา หรือจะอัมพาตครึ่งตัว ขายังอยู่มั้ย ทำไมช่วงล่างลงไปไม่รู้สึกไรเลยอะ เป็นชั่วโมงผ่านไป น่าจะเป็นชั่วโมงนะ เพราะไม่รู้เวลาเลย รู้แต่ว่านานมากกกก ขาขยับได้แล้วว รอดค่ะรอด
โดนเข็นกลับห้อง ใจชื้นละ ขณะนั้นยังต้องนอนราบ อยู่นิ่งๆไปจนถึงช่วงบ่ายๆ พอถึงช่วงเย็นๆ เริ่มเจ็บแผลนะ แต่พอทนไหว ยังแอ๊บเป็นสาวสตรองไม่ขอยาแก้ปวด คุณพยาบาลเข้ามาวัดไข้ อ้าวว ไข้ขึ้นเฉย รีบจัดแจงเช็คตัวยกใหญ่จนไข้ลด พอตกกลางคืน ได้เรื่องเลยค่ะ กดเรียกคุณพยาบาล ขอยาแก้ปวด แก้คัน ขนมาให้หมดค่ะ ปวดไม่ไหวแล้วว พอได้ยาหยอดใส่ในสายน้ำเกลือไป ค่อยได้หลับได้นอนหน่อย
เช้าวันที่ 15 ธค หลังผ่าตัดวันแรก คุณหมอมาเยี่ยมตั้งแต่หกโมงเช้า หมอบอกทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ใช้เวลาผ่าราวชั่วโมง ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง พร้อมแตะขาสองทีบอกเก่งมาก พอสายๆ เอาสายน้ำเกลือ กับสายสวนปัสสาวะออก ให้กินอาหารและน้ำได้ มื้อแรกคือน้ำข้าวต้มกับน้ำซุป อย่าถามถึงรสชาติเลยนะคะ พอออพชั่นเสริมที่ติดตัวมาเอาออกไปหมด ก็ต้องเดินเข้าห้องน้ำเอง ลุกทีเจ็บแผลมาก แล้วเป็นคนฉี่บ่อยด้วย ลุกจากเตียงทีนรกจริง แต่ก็ต้องพยายามขยับตัวบ่อยๆ เพื่อไม่ให้แผลเป็นพังผืด คืนนี้คุณพยาบาลยังคงเข้าออกวัดไข้และความดันทั้งคืนเหมือนเมื่อคืน
วันที่ 16 ธค เริ่มดีขึ้น เจ็บน้อยลงหน่อย เดินได้สะดวกขึ้นนิดนึง วันนี้มีญาติๆ ที่ทำงาน เพื่อนสนิทมาเยี่ยมกันคับคั่ง ทุกคนต่างยิงมุกกันสนุกสนาน จะขำก็ขำไม่ได้ ได้แต่ยิ้มกว้าง ไม่ใช่มุกฝืด แต่มันหัวเราะไม่ได้ กระเทือนแผลสุดๆ
วันที่ 17 ธค หมอมาเยี่ยมหกโมงเช้าเช่นเคย มาบอกข่าวดีเรื่องผลชิ้นเนื้อว่าไม่ใช่เนื้อร้าย วันนี้กลับบ้านได้ และอีกสามเดือนก็พร้อมมีน้องได้เลย ก่อนที่เจ้าเนื้องอกส่วนเกินมันอาจจะ return กลับมาได้อีก โอย พอเถอะ ไปแล้วไปลับ ไม่ต้องกลับมาแล้ว ไม่อยากเจ็บตัวบ่อยๆ ตอนบ่ายเคลียร์ค่าใช้จ่าย และเก็บของกลับบ้าน
ชีวิตหลังผ่าตัด slow life มาก ประหนึ่งสลอต ต้องเดินช้าๆ ทำไรช้าๆ ขัดใจตัวเองนิดหน่อย เพราะปกติเป็นคนชอบทำอะไรเร็วๆ คุณหมอให้พักลางานหนึ่งเดือนสามสัปดาห์ แต่หลังปีใหม่ถ้าอยากกลับไปทำงานก็ทำได้ หมอขออย่างเดียว ห้ามยกของหนัก นอกนั้นก็จะใช้ชีวิตได้ปกติ ทานอาหารได้ปกติ ไม่มีข้อห้ามใดๆ สาวๆ ที่คิดว่าตัวเองผิดปกติ ปวดประจำเดือนหนักๆ ควรไปตรวจนะ มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
จบสิ้นสักที ลาก่อยยย เนื้องอกที่ฉันแบกแกมาตั้งหลายปี ถ้าใครอยากปรึกษาเรื่องการเตรียมตัว หรือข้อมูลเพิ่มเติม สามารถถามมาได้เลยนะคะ ยินดีตอบค่า