ทุ่งดอกกระดุมเงิน หนองหญ้าม้า อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พรมดอกไม้ในดงกระสุนปืนใหญ่
ชื่อวิทยาศาสตร์ Eriocaulon henryanum Ruhleกระดุมเงิน
ชื่อวงศ์ ERIOCAULACEAE
ชื่ออื่นๆ หญ้ากระจ่อน, หญ้าตุ้มหู, มณีเทวา, หญ้ากระดุมเงิน, หญ้ากระดุม, หญ้าดอก, หญ้าหัวหงอก, หญ้าผมหงอก
กระดุมเงิน เป็นไม้ล้มลุกที่มีอายุได้เพียงฤดูเดียว มีถิ่นกำเนิดในแถบเขตร้อน โดยเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่นในบริเวณทุ่งนา ที่ราบลุ่ม หรือบนเขาสูงที่มีความชุ่มชื้นสูง สามารถพบเห็นได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย แต่จะมีเป็นจำนวนมากในบริเวณที่เป็นภูเขาของทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น
มีลักษณะเป็นกอที่เจริญจากหัวหรือเหง้าใต้ดิน รูปร่างคล้ายกอหญ้า มีความสูงประมาณ 5 ซม.
ใบ
ออกเป็นใบเดี่ยวเรียงเวียนสลับถี่ๆ เป็นกระจุกที่โคนต้น ใบเรียวยาวประมาณ 7-30 ซม. กว้างประมาณ 3-6 มม. ปลายใบเรียวแหลม แผ่นใบเรียบมีลักษณะฉ่ำน้ำ มีเส้นขนานแบบถี่ๆ ตามความยาวของใบ โคนใบมีลักษณะเป็นกาบหุ้มลำต้น
ดอก
ออกเป็นช่อกระจุกรูปทรงกลมตามซอกใบบริเวณปลายยอด ก้านดอกกลมมีความยาวประมาณ 15 ซม. ดอกมีสีขาวขนาดเล็กสวยงาม มีดอกตัวผู้และดอกตัวเมียอยู่ภายในช่อเดียวกัน มักให้ดอกในช่วงปลายฤดูฝนไปจนถึงฤดูหนาว หรือประมาณช่วงเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์
ผล
มีลักษณะแผ่กว้าง เมื่อแก่และแห้งจะไม่แตก ภายในผลมีเมล็ดรูปร่างค่อนข้างกลมขนาดเล็กเป็นจำนวนมาก ผิวเมล็ดมีลักษณะขรุขระ
การขยายพันธุ์
ทำได้โดยการเพาะเมล็ด หรือแยกกอ กระดุมเงินเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ที่มีความชื้นแฉะ และสามารถแพร่พันธุ์ได้อย่างรวดเร็วในพื้นที่โล่งโปร่งและชุ่มชื้น เป็นพืชที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี
ประโยชน์
เนื่องจากดอกที่มีสีขาวขนาดเล็ก เมื่อมีเป็นจำนวนมากจะแลดูสวยงามมาก จึงสามารถปลูกไว้เป็นไม้ประดับเพื่อตกแต่งตามอาคารสถานที่ต่างๆ ได้
สรรพคุณทางยาสมุนไพร
ทั้งต้น-มีรสจืดเย็น ใช้ทำเป็นยาระงับประสาท แก้ปวด แก้ไข้ และช่วยขับปัสสาวะได้
ข้อมูลจาก
https://www.vichakaset.com/%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99/
--------------------------
สร้อยสุวรรณา เหลืองพิศมร หญ้าสีทอง
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Utricularia bifida L.
ชื่อวงศ์ : LENTIBULARIACEAE
ชื่ออื่นๆ : หญ้าสีทอง
ลักษณะ : พืชล้มลุก ขึ้นเป็นกอเล็ก สูง 10-15 ซม. ใบ เดี่ยว ขนาดเล็ก เรียงเวียนรอบโคนต้น มีอวัยวะจับแมลงเกิดตามข้อของไหล หรือบนใบ รูปกลมขนาดเล็ก มีก้านชูสั้นๆ ดอก สีเหลือง ออกเป็นช่อตั้งจากโคนกอ มีดอกย่อย 2-6 ดอก ขนาด 6-10 มม. กลีบดอกโคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด กลีบบนมีขนาดใหญ่ประมาณ 2 เท่าของกลีบอื่น ปลายมนรูปไข่กลับ บริเวณโคนมีเส้นสีแดงเข้ม ตามยาว กลีบล่างมนกลมหรือแยกเป็น 2 พู ตรงกลางกลีบเป็นถุง รูปจงอยโค้ง ไปด้านหลัง เกสรผู้ 2 อัน ติดอยู่บนหลอดกลีบดอก ผล แบน รูปรีแกมรูปไข่ เมล็ด ขนาดเล็ก จำนวนมาก อินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอินโดนีเซีย ในประเทศไทยพบมากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ขึ้นตามพื้นที่โล่งชื้นแฉะ ออกดอกช่วงเดือน กันยายน-ธันวาคม ช่วงออกดอกจะทิ้งใบ
ข้อมูลจาก
http://stfon.blogspot.com/2014/03/blog-post_1.html
--------------------------------------
พิกัด
ดอกกระดุมเงิน (สีขาว) และดอกสร้อยสุวรรณา (สีเหลือง)
ทุ่งดอกสร้อยสุวรรณา(กระดุมเงิน,กระดุมทอง) หนองหญ้าม้า
15°09'56.2"N 104°56'18.7"E
15.165609, 104.938538
ตำบล คำขวาง อำเภอวารินชำราบ อุบลราชธานี
หรือพิกัดใน googlemap (พิกัดนี้เป็นจุดที่ผมไป ทุ่งมันกว้างมากนะครับ)
https://goo.gl/maps/Szzw6KsqGrT4veGw7
------------------------------------------------
พื้นที่นี้ไม่ใช่ที่สาธารณะนะครับ แต่เป็นพื้นที่อยู่ในความดูแลของ มทบ.22 ปกติจะใช้เป็นที่ซ้อมยิงปืนใหญ่ของกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 6 ซึ่งจะทำการฝึกยิงปืนใหญ่ด้วยกระสุนจริง ในช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี โดยจะมีการแจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้าเป็นเวลาร่วมเดือน ชาวบ้านในระแวกนั้นต่างรับรู้โดยทั่วกัน
การเดินทาง
การเดินทางไปทุ่งหนองหญ้าม้า ให้เริ่มต้นที่ ปั้มน้ำมัน ปตท. สี่แยกตลาดเจริญศรี เลี้ยวซ้ายตรงไปถึงแยกบ้านแต้ เลี้ยวขวา ตรงไปจนถึงที่ทำการ อบต.คำขวาง ตรงไปจนถึงวัดบ้านแต้ มีทางแยก ให้เลี้ยวซ้าย ตรงไป สังเกตุร้านขายของชำ ร้านที่สองด้านซ้ายมือ ข้างๆ ร้านจะมีทางแยกเข้าไป ให้ตรงไปตามทางนี้เรื่อยๆ จะพบรั้วทหาร มีช่องให้รถผ่านเข้าไปได้ ก็ถึงทุ่งหนองหญ้าม้า ครับ
คำแนะนำ สำหรับการเดินทางไปชมดอกไม้ป่า ทุ่งหนองหญ้าม้า
- เวลาที่ดีในการถ่ายภาพ คือตั้งแต่เช้าจนถึง 10 โมงเช้า และตั้งแต่บ่ายสองจนพลบค่ำ จะได้แสงสวย และอากาศไม่ร้อนมาก แต่ถ้าตอนเย็นระวังมืดเร็วนะครับ จะหาทางออกลำบาก
- ควรเติมน้ำมันรถให้มีติดถังไว้บ้าง ข้างในชุมชนไม่มีปั้มน้ำมันนะครับ เกิดน้ำมันหมดข้างใน จะหาคนช่วยลำบาก
- พื้นที่เป็นที่โล่งซะส่วนใหญ่ พกร่มกันแดดติดตัวไว้ ผิวจะได้ไม่เสีย
- เตรียมน้ำดื่มบ้างเล็กน้อย เผื่อกระหายน้ำ
- ขณะเดินชมดอกไม้ป่า พยายามเลี่ยงการเดินเหยียบดอกไม้ และดอกจอกบ่วาย ที่ขึ้นอยู่ตามพื้น เพื่อคนข้างหลังจะได้มาชมบ้าง
- หากชอบถ่ายภาพแบบมาโคร เตรียมกระบอกฉีดน้ำแบบพ่นละอองไปด้วย เพิ่มความสดชื่นให้ดอกไม้ครับ
**** อย่าทิ้งขยะ หรือแกล้งทำเศษถุงต่างๆ ปลิวทิ้งเด็ดขาด ไม่มีหน่วยงานเข้ามาเก็บ เผลอๆ ถ้าเป็นปัญหามาก ทหารเจ้าของพื้นที่ออกประกาศปิด ห้ามเข้า จะลำบากกันหมด *****
ช่วงที่เหมาะท่องเที่ยว
ช่วงหน้าหนาวราวเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงปลายเดือนมกราคม
ข้อมูลดีๆจาก
https://www.guideubon.com/2.0/go2ubon/nongyama-ubon/
[CR] ทุ่งดอกกระดุมเงิน หนองหญ้าม้า อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พรมดอกไม้ในดงกระสุนปืนใหญ่
ชื่อวิทยาศาสตร์ Eriocaulon henryanum Ruhleกระดุมเงิน
ชื่อวงศ์ ERIOCAULACEAE
ชื่ออื่นๆ หญ้ากระจ่อน, หญ้าตุ้มหู, มณีเทวา, หญ้ากระดุมเงิน, หญ้ากระดุม, หญ้าดอก, หญ้าหัวหงอก, หญ้าผมหงอก
กระดุมเงิน เป็นไม้ล้มลุกที่มีอายุได้เพียงฤดูเดียว มีถิ่นกำเนิดในแถบเขตร้อน โดยเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่นในบริเวณทุ่งนา ที่ราบลุ่ม หรือบนเขาสูงที่มีความชุ่มชื้นสูง สามารถพบเห็นได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย แต่จะมีเป็นจำนวนมากในบริเวณที่เป็นภูเขาของทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น
มีลักษณะเป็นกอที่เจริญจากหัวหรือเหง้าใต้ดิน รูปร่างคล้ายกอหญ้า มีความสูงประมาณ 5 ซม.
ใบ
ออกเป็นใบเดี่ยวเรียงเวียนสลับถี่ๆ เป็นกระจุกที่โคนต้น ใบเรียวยาวประมาณ 7-30 ซม. กว้างประมาณ 3-6 มม. ปลายใบเรียวแหลม แผ่นใบเรียบมีลักษณะฉ่ำน้ำ มีเส้นขนานแบบถี่ๆ ตามความยาวของใบ โคนใบมีลักษณะเป็นกาบหุ้มลำต้น
ดอก
ออกเป็นช่อกระจุกรูปทรงกลมตามซอกใบบริเวณปลายยอด ก้านดอกกลมมีความยาวประมาณ 15 ซม. ดอกมีสีขาวขนาดเล็กสวยงาม มีดอกตัวผู้และดอกตัวเมียอยู่ภายในช่อเดียวกัน มักให้ดอกในช่วงปลายฤดูฝนไปจนถึงฤดูหนาว หรือประมาณช่วงเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์
ผล
มีลักษณะแผ่กว้าง เมื่อแก่และแห้งจะไม่แตก ภายในผลมีเมล็ดรูปร่างค่อนข้างกลมขนาดเล็กเป็นจำนวนมาก ผิวเมล็ดมีลักษณะขรุขระ
การขยายพันธุ์
ทำได้โดยการเพาะเมล็ด หรือแยกกอ กระดุมเงินเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ที่มีความชื้นแฉะ และสามารถแพร่พันธุ์ได้อย่างรวดเร็วในพื้นที่โล่งโปร่งและชุ่มชื้น เป็นพืชที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี
ประโยชน์
เนื่องจากดอกที่มีสีขาวขนาดเล็ก เมื่อมีเป็นจำนวนมากจะแลดูสวยงามมาก จึงสามารถปลูกไว้เป็นไม้ประดับเพื่อตกแต่งตามอาคารสถานที่ต่างๆ ได้
สรรพคุณทางยาสมุนไพร
ทั้งต้น-มีรสจืดเย็น ใช้ทำเป็นยาระงับประสาท แก้ปวด แก้ไข้ และช่วยขับปัสสาวะได้
ข้อมูลจาก
https://www.vichakaset.com/%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99/
--------------------------
สร้อยสุวรรณา เหลืองพิศมร หญ้าสีทอง
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Utricularia bifida L.
ชื่อวงศ์ : LENTIBULARIACEAE
ชื่ออื่นๆ : หญ้าสีทอง
ลักษณะ : พืชล้มลุก ขึ้นเป็นกอเล็ก สูง 10-15 ซม. ใบ เดี่ยว ขนาดเล็ก เรียงเวียนรอบโคนต้น มีอวัยวะจับแมลงเกิดตามข้อของไหล หรือบนใบ รูปกลมขนาดเล็ก มีก้านชูสั้นๆ ดอก สีเหลือง ออกเป็นช่อตั้งจากโคนกอ มีดอกย่อย 2-6 ดอก ขนาด 6-10 มม. กลีบดอกโคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด กลีบบนมีขนาดใหญ่ประมาณ 2 เท่าของกลีบอื่น ปลายมนรูปไข่กลับ บริเวณโคนมีเส้นสีแดงเข้ม ตามยาว กลีบล่างมนกลมหรือแยกเป็น 2 พู ตรงกลางกลีบเป็นถุง รูปจงอยโค้ง ไปด้านหลัง เกสรผู้ 2 อัน ติดอยู่บนหลอดกลีบดอก ผล แบน รูปรีแกมรูปไข่ เมล็ด ขนาดเล็ก จำนวนมาก อินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอินโดนีเซีย ในประเทศไทยพบมากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ขึ้นตามพื้นที่โล่งชื้นแฉะ ออกดอกช่วงเดือน กันยายน-ธันวาคม ช่วงออกดอกจะทิ้งใบ
ข้อมูลจาก
http://stfon.blogspot.com/2014/03/blog-post_1.html
--------------------------------------
พิกัด
ดอกกระดุมเงิน (สีขาว) และดอกสร้อยสุวรรณา (สีเหลือง)
ทุ่งดอกสร้อยสุวรรณา(กระดุมเงิน,กระดุมทอง) หนองหญ้าม้า
15°09'56.2"N 104°56'18.7"E
15.165609, 104.938538
ตำบล คำขวาง อำเภอวารินชำราบ อุบลราชธานี
หรือพิกัดใน googlemap (พิกัดนี้เป็นจุดที่ผมไป ทุ่งมันกว้างมากนะครับ)
https://goo.gl/maps/Szzw6KsqGrT4veGw7
------------------------------------------------
พื้นที่นี้ไม่ใช่ที่สาธารณะนะครับ แต่เป็นพื้นที่อยู่ในความดูแลของ มทบ.22 ปกติจะใช้เป็นที่ซ้อมยิงปืนใหญ่ของกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 6 ซึ่งจะทำการฝึกยิงปืนใหญ่ด้วยกระสุนจริง ในช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี โดยจะมีการแจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้าเป็นเวลาร่วมเดือน ชาวบ้านในระแวกนั้นต่างรับรู้โดยทั่วกัน
การเดินทาง
การเดินทางไปทุ่งหนองหญ้าม้า ให้เริ่มต้นที่ ปั้มน้ำมัน ปตท. สี่แยกตลาดเจริญศรี เลี้ยวซ้ายตรงไปถึงแยกบ้านแต้ เลี้ยวขวา ตรงไปจนถึงที่ทำการ อบต.คำขวาง ตรงไปจนถึงวัดบ้านแต้ มีทางแยก ให้เลี้ยวซ้าย ตรงไป สังเกตุร้านขายของชำ ร้านที่สองด้านซ้ายมือ ข้างๆ ร้านจะมีทางแยกเข้าไป ให้ตรงไปตามทางนี้เรื่อยๆ จะพบรั้วทหาร มีช่องให้รถผ่านเข้าไปได้ ก็ถึงทุ่งหนองหญ้าม้า ครับ
คำแนะนำ สำหรับการเดินทางไปชมดอกไม้ป่า ทุ่งหนองหญ้าม้า
- เวลาที่ดีในการถ่ายภาพ คือตั้งแต่เช้าจนถึง 10 โมงเช้า และตั้งแต่บ่ายสองจนพลบค่ำ จะได้แสงสวย และอากาศไม่ร้อนมาก แต่ถ้าตอนเย็นระวังมืดเร็วนะครับ จะหาทางออกลำบาก
- ควรเติมน้ำมันรถให้มีติดถังไว้บ้าง ข้างในชุมชนไม่มีปั้มน้ำมันนะครับ เกิดน้ำมันหมดข้างใน จะหาคนช่วยลำบาก
- พื้นที่เป็นที่โล่งซะส่วนใหญ่ พกร่มกันแดดติดตัวไว้ ผิวจะได้ไม่เสีย
- เตรียมน้ำดื่มบ้างเล็กน้อย เผื่อกระหายน้ำ
- ขณะเดินชมดอกไม้ป่า พยายามเลี่ยงการเดินเหยียบดอกไม้ และดอกจอกบ่วาย ที่ขึ้นอยู่ตามพื้น เพื่อคนข้างหลังจะได้มาชมบ้าง
- หากชอบถ่ายภาพแบบมาโคร เตรียมกระบอกฉีดน้ำแบบพ่นละอองไปด้วย เพิ่มความสดชื่นให้ดอกไม้ครับ
**** อย่าทิ้งขยะ หรือแกล้งทำเศษถุงต่างๆ ปลิวทิ้งเด็ดขาด ไม่มีหน่วยงานเข้ามาเก็บ เผลอๆ ถ้าเป็นปัญหามาก ทหารเจ้าของพื้นที่ออกประกาศปิด ห้ามเข้า จะลำบากกันหมด *****
ช่วงที่เหมาะท่องเที่ยว
ช่วงหน้าหนาวราวเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงปลายเดือนมกราคม
ข้อมูลดีๆจาก
https://www.guideubon.com/2.0/go2ubon/nongyama-ubon/
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้