สมาธิประหลาด3 : การเตรียมตัวและวิธีทำสมาธิ

สวัสดีครับ ยิ้ม



เป็นการยากสำหรับการตั้งกระทู้เรื่องนี้
แต่ตอนนี้ผมมาทำงานที่อันตราย
จึงควรตั้งกระทู้ เพื่อบอกกล่าวไว้ก่อนดีกว่าครับ 
ยิ้ม

ความจริงผมเรียนจบ ป.โท ถึงสองใบ ทาง M.Sc และ M.Ed (เป็น ตย.ของความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด) โดยก่อนหน้าจะมาทำงานกรรมกร ผมทำงานเกี่ยวกับไอที การศึกษาพิเศษ และระบบประมวลผลดีเอ็นเอ ต่อมาตกงานเพราะงบประมาณหมด  ต่อมาเมื่อมีข่าวดีได้งบประมาณมาใหม่
ผมก็พยายามสร้างคอมพิวเตอร์ต้นแบบความเร็วสูง (HPC) ที่สามารถประมวลผล Human whole genome ได้ในเวลาและเงื่อนไขที่กำหนดด้วยทุนส่วนตัวทั้งหมด แล้วนำเสนอเพื่อขอเข้าทำงาน แต่ไม่ได้รับการพิจารณาจึงรู้สึกแย่มากๆ รู้สึกว่าตนเองมีกรรมหนัก จึงลองปฏิบัติสมาธิมากขึ้น จากเดิมที่เน้นฝึกเจริญสติ แล้วทานอาหารเนื้อสัตว์น้อยลงๆ อาหารหลักเป็นไข่ต้มกับกล้วยสุก

การทำสมาธินั้นไม่มีครูผู้ชำนาญสอน
โดยตรง เพียงทบทวนจากความจำ จึงทำสมาธิแบบทั่วไป ไม่ชำนาญ หวังเพียงสงบ
แต่ก็ได้สมาธินิ่งๆ ไม่สุขไม่ทุกข์ ไม่มีภาพนิมิต เป็นแสงสว่างเฉยๆ ผมสามารถกำหนดเวลาเข้าออกสมาธิได้ล่วงหน้า มักทำสมาธิระยะสั้นๆ 15 นาที 30 นาที เป็นต้น....

ปกติผมจะสวดมนต์ แล้วเปิดคลิป
อิติปิโส 108 จบ หรือชินบัญชร 108 จบ
เพื่อใช้เป็นเสียงนำสมาธิ ช่วยคุ้มครองระหว่างทำสมาธิ และดูเวลาหลังออกสมาธิว่าผ่านไปกี่นาทีครับ

เนื่องจากผมทำสมาธิไม่เก่งจึงใช้ทำความรู้สึกเคลิ้มๆ
(แปลกมารู้ทีหลัง บังเอิญตรงกับวิธีที่หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ผู้เชี่ยวชาญสมาธิแนะนำ ลองหาคลิปดูครับ)

เพื่อนำเข้าสู่ภวังค์แล้วรู้สึกตัว
ในสมาธิ เป็นความสว่างนิ่งๆ ไม่สุขไม่ทุกข์
ไม่รับรู้กาย (ฌาน4?)
อยู่สักพัก จนรู้สึกตัวออกจากสมาธิ
เมื่อดูเวลาที่ผ่านไปก็พบว่าเป็นเวลาที่
ตั้งใจไว้
ยิ้ม

วันหนึ่งผมนอนหลับดี
ร่างกายสดชื่นไม่ง่วงเลย
ก็สงสัยว่าจะเข้าสมาธิแบบเดิมได้ไหม

แล้วนึกถึงคนที่เข้านิโรธสมาบัติได้
ก็อยากทดลองทำดู
(ต่อไปเป็นการคุยกับตัวเอง)
ยิ้ม
หลังจากสวดมนต์และเปิดคลิปชินบัญชรแล้วก็บอกกับตัวเองว่าจะเข้านิโรธฯ 2 ชม.
อีกเสียงก็ตอบว่า ต้องบอกว่าเข้าสู่จิตเดิม
ผมจึงบอกตนเองว่าจะเข้าสู่จิตเดิม
แล้วปล่อยวางกายและใจโดยคิดว่า
กายไม่ใช่เราของเรา
อีกเสียงก็ถามว่าของใคร ผมตอบว่าของพระเจ้า(หมายถึงธรรมชาติ) ผมนึกต่อว่าจิตก็ไม่ใช่เราของเรา
อีกเสียงถามว่าของใคร ผมตอบว่าของพระเจ้า
เสียงนั้นถามอีกว่าต้องตายนะ
ผมก็ตอบว่าตายก็ไม่เป็นไร
อีกเสียงตอบว่าตายแป๊บเดียวเอง ไม่เป็นไร
ยิ้ม

จากนั้นก็ทำความรู้สึกเคลิ้มๆ สักพัก แล้วเหมือนวูบไป (นิโรธฯ)
..........(เวลาจริงผ่านไปแล้วเกือบสองชั่วโมง)
.........แล้วเกิดรู้สึกตัวในสมาธิทันที
ยิ้ม
(เวลาจริงผ่านไปแล้วเกือบสองชั่วโมงผมเข้าใจผิดว่ากำลังเข้าสมาธิอยู่ แต่ความจริงกำลังออกจากสมาธิ)

..........มีความรู้สึกต่อเนื่องกับตอนเข้าสมาธิเลยครับ จึงนึกว่ากำลังจะเข้าสมาธิ
ความรู้สึกเริ่มแรก วูบๆ เหมือนการกระพริบของหลอดไฟ (ฌาน8 สมองเริ่มทำงาน) แล้วจึงรู้สึกตัวเต็มที่ (ในสมาธิ) มืดๆ (ฌาน7)
แล้วเห็นเป็นจุดเล็กๆ สว่าง (ฌาน6  ประสาทตาเริ่มทำงาน) ค่อยขยายใหญ่ขึ้นช้าๆ จนเหมือนไม่สิ้นสุด(ฌาน5)
แล้วสงบนิ่งๆ อยู่สักพัก (ฌาน4)

เริ่มรู้สึกอึดอัด แล้วรู้สึกตัวหายใจเข้า (ฌาน3 ระบบหายใจ ประสาทหูเริ่มทำงาน )
รับรู้กาย ได้ยินเสียงวิ้งๆในหู แล้วตามดูตามรู้ปฏิกริยาทางหูและทางกายอื่นๆ
มีอาการชาตามการไหลของเลือดที่ผ่านไปตามขาและเท้า พอหายชาจึงลองกระดิกนิ้วมือเท้า...แล้วลืมตา

(มีต่อ)
ไม่มีความรู้สึกนึกคิดอะไรในช่วงเวลาที่หายไปเลยครับ ความรู้สึกความจำก็ต่อเนื่องกันระหว่างตอนเข้ากับตอนออก
แต่เวลาหายไปเฉยๆ สติสมบูรณ์ดี
ส่วนการลำดับฌานผมมาอ่านมาศึกษาเรื่องฌานแล้วเทียบเคียงเอาครับ

(มีต่อ)
การทำสมาธินี้ผมนั่งบนเก้าอี้มีพนัก
เท้าแตะพื้น มือวางซ้อนกันบนตัก แขนพิงพนักเก้าอี้ ตัวตั้งตรง เปิดพัดลมเบาๆ อากาศค่อนข้างร้อน 
แต่เมื่อเริ่มรู้สึกตัว ตอนฌาน4 จะรู้สึกสงบอยู่สักพัก แล้วเริ่มมีความอึดอัดเพิ่มขึ้น (ฌาน3) คงเพราะสมองส่วนควบคุมการหายใจเริ่มทำงาน (ลองกลั้นหายใจเบาๆ ดูครับ) จนหายใจเข้า
จึงรู้สึกตัวว่ากำลังออกจากสมาธิ
รู้สึกถึงเสียงในหูค่อยๆ ดังจนดังสุด (เสียงเหมือนไมค์หอนดังสุด) แล้วเบาลง ได้ยินเสียงภายนอกไกลๆเบาๆ แล้วดังขึ้นชัด

เสียงในหูหายไป (ความจริงไม่หาย แต่เสียงข้างนอกดังขึ้น ทำให้ประสาทการรับรู้ปรับตัว หากไปอยู่ในห้องเงียบๆ เช่น ห้องเก็บเสียง จะได้ยินเสียงนี้ชัด เป็นเสียงวิ้งๆ
ทุกคนคงเคยได้ยิน แต่หากได้ยินเสียงนี้ดังมากในห้องปกติ หมอบอกว่าเป็นประสาทหูเสื่อม)

ท่านั่งเป็นท่านั่งคอตก
แบบคนนังเสียชีวิต รู้สึกตึงที่ผิวหนังต้นคอมาก จนรู้สึกเจ็บ กระดูกต้นคอแหลมขึ้นมาเหมือนไม่มีกล้ามเนื้อยึด
กระดูกท่อนแขนเหมือนแตะอยู่กับพนักเก้าอี้โดยมีเพียงผิวหนังกั้นไว้
เท้ารู้สึกเหมือนเป็นกระดูกเหยียบบนแผ่นหนังหยุ่นๆ (หนังฝ่าเท้า)

มือที่วางซ้อนกันบนตักแข็ง เหี่ยวและเย็น ตัวเย็น บอกตนเองว่านี่คือศพ มือศพ
(ผมเคยจับมือศพแล้วมีลักษณะแบบเดียวกัน.  ดูกระทู้สมาธิประหลาด1)

############
สรุปวิธีการ ดังนี้ครับ :
1. ฝึกเจริญสติจนสามารถปล่อยวางกายใจได้
2. ฝึกสมาธิจนได้อย่างน้อยฌาน 1
3. เมื่อจะเข้าสมาธิให้ตั้งใจว่า
     จะเข้าสู่จิตเดิม เป็นเวลา...ชม.
4. ปล่อยวางกายและใจ บอกตัวเองว่า
     กายและใจไม่ใช่เราไม่ใช่ของเรา
     (บางคนอาจมีเสียงตัวเองถามว่า
      จะต้องตายนะ ให้ตอบว่าตายก็ยอม)
5. เข้าสมาธิ
ยิ้ม
##########

ใจสงบมากขึ้น. เห็นความตายเป็นปกติ.
ไม่กลัวความสูง เมื่อเห็นประกาศรับสมัครโรยตัวตึกสูง จึงสมัครทันทีและสามารถทำได้ไม่กลัว 

key : มรรค vs ผล

ยิ้ม
จาก 
สมาธิประหลาด 1
https://m.ppantip.com/topic/38691976
สมาธิประหลาด 2
https://m.ppantip.com/topic/39291580?

การเจริญสติ
https://m.ppantip.com/topic/37487612?
การฝึกสมาธิ
https://youtu.be/Ptrf_l0zmgk

จิตเดิม:
....กา. ดูกรคฤหบดี ภิกษุเมื่อจะเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติ ไม่ได้คิด
อย่างนี้ว่า เราจักเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธบ้าง เรากำลังเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธบ้าง
เราเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธแล้วบ้าง โดยที่ถูกก่อนแต่จะเข้า ท่านได้อบรมจิตที่
จะน้อมไปเพื่อความเป็นจิตแท้ (จิตดั้งเดิม) ฯ...
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/item.php?book=18&item=565&items=1&preline=9

ยิ้ม

....
กา. ดูกรคฤหบดี เมื่อภิกษุเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธอยู่ วจีสังขารดับก่อน
ต่อจากนั้นกายสังขารดับ ต่อจากนั้นจิตตสังขารจึงดับ ฯ
             [๕๖๕] จิตตคฤหบดีกล่าวว่า ดีละ ท่านผู้เจริญ ดังนี้แล้ว ได้ถามปัญหา
ยิ่งขึ้นไปอีกว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ คนที่ตายแล้ว ทำกาละแล้ว กับภิกษุผู้เข้า
สัญญาเวทยิตนิโรธ ทั้งสองนี้มีความต่างกันอย่างไร ฯ
             กา. ดูกรคฤหบดี คนที่ตายแล้ว 
ทำกาละแล้ว มีกายสังขารดับสงบ
มีวจีสังขารดับสงบ มีจิตตสังขารดับสงบ 
มีอายุสิ้นไป ไออุ่นสงบ อินทรีย์
แตกกระจาย 

ส่วนภิกษุผู้เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธ 
กายสังขารดับสงบ วจีสังขาร
ดับสงบ จิตตสังขารดับสงบ 
(แต่) ยังไม่สิ้นอายุ ไออุ่นยังไม่สงบ อินทรีย์
ผ่องใส ดูกรคฤหบดี คนตายแล้ว 
ทำกาละแล้ว กับภิกษุผู้เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธ
มีความต่างกันอย่างนี้ ฯ

             เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๘ บรรทัดที่ ๗๔๗๘-๗๔๙๕.  หน้าที่  ๓๒๔.
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=18&A=7478&Z=7495&pagebreak=0

ปล.ผมยังไม่บรรลุธรรมเป็นอรหันต์



ปล.รูปพระอาทิตย์ทรงกลดไม่มีผมอยู่ในรูป

ปล.เสียงที่ได้ยินขณะประสาทหูเริ่มทำงาน  พอดีไปค้นเจอมา 
ใกล้เคียงที่ได้ยินมากๆ ต่างจากเสียงไมค์หอนมาก และผมทดสอบการได้ยินเสียงจากคลิป ผลคือได้ excellent ประสาทหูยังได้ยินเสียงดีมาก(นาทีที่ 9)

ใส่หูฟังคลิปเสียงในหู เฉพาะนาทีที่ 4 ถึง 4.13
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
https://youtu.be/J0a2Prc_MQo
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่