อภิสิทธิ์ แจงกมธ. ยันประยุทธ์ถวายสัตย์ฯไม่ครบตามรธน. แต่ผิดหรือไม่ขึ้นกับตีความ
https://www.matichon.co.th/politics/news_1823406
กมธ.ปราบโกงกัดไม่ปล่อย เชิญ “มาร์ค”ให้ความเห็น ปม “บิ๊กตู่” ถวายสัตย์ฯไม่ครบ “อภิสิทธิ์”ยันนายกฯ ถวายสัตย์ฯไม่ครบตามรธน.แต่จะขัดหรือแย้งเป็นเรื่องของกม.
เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.เวลา 10.00 ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีพล.ต.อ.
เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในการประชุม ได้เชิญนาย
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าชี้แจงกรณีพล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบตามรัฐธรรมนูญ ถือว่าขัดรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 161 หรือไม่ โดยพล.ต.อ.
เสรีพิศุทธ์ ได้พยายามซักนาย
อภิสิทธิ์ในฐานะเคยเป็นนายกรัฐมนตรีมาก่อนว่า การถวายสัตย์ของนายกรัฐมนตรีครั้งล่าสุดถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งนาย
อภิสิทธิ์ ก็พยายามให้ความเห็นว่า
การถวายสัตย์ของนายกรัฐมนตรีไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ แต่จะขัดหรือแย้งต่อกฎหมายหรือไม่ เป็นเรื่องของการตีความตามกฎหมาย ซึ่งไม่สามารถให้ความเห็นได้ ทั้งนี้ตนไม่สามารถระบุได้ว่าปัญหาดังกล่าวจะมีทางแก้ไขอย่างไร หากเกิดขึ้นในสมัยที่ตนดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี
เพราะเรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และตอนที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรีก็ได้กล่าวตามที่รัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้
พล.ต.อ.
เสรีพิศุทธ์ ถามต่อว่า การที่นายกรัฐมนตรีถวายสัตย์ฯไม่ครบจะทำให้ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ไม่ชอบกฎหมายด้วยหรือไม่ โดยนาย
อภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่ผ่านมานานแล้ว จึงไม่ทราบแนวปฏิบัติว่า หากถวายสัตย์ฯไม่ครบจะต้องทำอย่างไร เพราะหากจากวันนั้นมา ระยะเวลาล่วงเลยมานานแล้ว และรัฐบาลก็มีการดำเนินการหลายอย่าง ร่วมทั้งการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับสภาฯด้วย แต่ส่วนตัวตอบได้แค่ว่า
หากตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี จะถวายสัตย์ฯให้ครบตามรัฐธรรมนูญ
พล.ต.อ.
เสรีพิศุทธ์ ยังซักถามถึงการบริหารราชการแผ่นดินในสมัยที่นาย
อภิสิทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ทราบหรือไม่ว่ามีอดีตรัฐมนตรีหลายคนที่มีโทษถูกพิพากษาจำคุก ข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยงบประมาณแผ่นดิน และงบประมาณปี 2563 เมื่อผ่านสภาฯไปแล้วจะมีการทุจริตหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ชี้แจงว่า มีอดีตรัฐมนตรีถูกลงโทษว่าทำผิดกฎหมาย แต่ไม่แน่ว่าเกี่ยวข้องโดยตรงกับงบประมาณหรือไม่ ทั้งนี้ตนพูดมาตลอดว่าการทุจริตคอรัปชั่นเกิดขึ้นได้เสมอทุกยุคทุกสมัย แม้กระทั้งคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีก็ไม่สามารถที่จะไปก้าวล่วงในงานที่เป็นงานเฉพาะในหลายหน่วยงานได้ แต่ถ้าเรื่องใดที่นายกรัฐมนตรี ผู้บังคับบัญชา สามารถจะเข้าไปกำกับดูแลได้ ก็ต้องเป็นหน้าที่ที่ต้องเข้าไปดูแล และตนไม่คิดว่าจะมีใครที่สามารถรับประกันได้ว่าจะไม่มีการทุจริต ดังนั้นไม่จำเป็นว่างบประมาณปี 2563 ผ่านแล้วจะมีการทุจริต เพราะขณะนี้ก็ทุจริตได้
ขณะที่นาย
ไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกรรมาธิการฯ พยายามสอบถามนาย
อภิสิทธิ์เช่นกันว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องดังกล่าว และให้เหตุผลว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของพระมหากษัตริย์กับฝ่ายบริหารนั้น ถือว่าเรื่องดังกล่าวจบสิ้นแล้วลงหรือไม่ นาย
อภิสิทธิ์ และตอบว่า
ต้องแยกประเด็นให้ออก เพราะหากกรรมาธิการจะตรวจสอบการทำหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีว่า ครบถ้วนหรือไม่ ควรแยกออกจากเรื่องของพระราชอำนาจ
จากนั้น นาย
ธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ในฐานะกรรมาธิการฯ ได้สอบถามนายอภิสิทธิ์ ถึงการเตรียมการถวายสัตย์ฯของนายกรัฐมนตรี ส่วนใหญ่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะเป็นผู้เตรียมการให้หรือนายกรัฐมนตรีจะต้องเตรียมการเอง โดยนาย
อภิสิทธิ์ ชี้แจงว่า
โดยปกติแล้วสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี หรือสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้เตรียมไว้ให้ แต่โดยปกติแล้วนายกรัฐมนตรีจะต้องกล่าวตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ผู้เตรียมเอกสารจะเป็นใครไม่สำคัญ แต่นายกรัฐมนตรีเป็นผู้มีหน้าที่นำคณะรัฐมนตรีถวายสัตย์ฯจึงต้องเป็นคนรับผิดชอบ
'พงศกร' ปูด มีทุจริตเลือกตั้งซ่อม เขต 7 ขอนแก่น เตือน ขรก.ไม่เป็นกลาง โทษร้ายแรง
https://www.matichon.co.th/politics/news_1823253
“พงศกร” ปูด มีทุจริตเลือกตั้งซ่อม เขต 7 ขอนแก่น เตือนข้าราชการ หากไม่เป็นกลาง โทษร้ายแรง
เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม นาย
พงศกร อรรณนพพร ผู้อำนวยการเลือกตั้งซ่อม เขต 7 ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า
ขณะนี้ในหลายตำบล ทั้งในเขตอำเภอหนองเรือและอำเภอมัญจาคีรี มีเหตุการณ์ที่เชื่อได้ว่าอาจมีการกระทำทุจริตการเลือกตั้ง โดยพบว่ามีเครือข่ายผู้นำชุมชนบางหมู่บ้านเริ่มออกแจกเงิน เพื่อแลกกับบัตรประชาชนของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง โดยชาวบ้านเล่าว่า ส่วนใหญ่ไม่มีใครอยากให้บัตรเพราะทราบดีว่า จะไม่สามารถออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ แต่ก็ต้องจำใจให้เขายึดบัตรไปเพราะเกรงกลัวในอิทธิพลและหวั่นเกรงอำนาจรัฐจะมารังแกตนเองและครอบครัวได้ในอนาคต นอกจากนั้นยังได้รับรายงานว่ามีการย้ายหน่วยเลือกตั้ง หลายหน่วยออกจากสถานที่เดิมไปตั้งอยู่ในสถานที่แห่งใหม่ซึ่งลับตาคน จึงเกรงว่าจะทำให้การสังเกตการณ์ เลือกตั้งทำได้ลำบาก โดยทั้ง 2 กรณีที่กล่าวมานั้นอยากให้ กกต.ได้ช่วยลงมาตรวจสอบอย่างเข้มข้นและใกล้ ชิด เพราะตนเองเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ยุติธรรมของกรรมการทุกท่าน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเลือกตั้งซ่อม ในครั้งนี้ กกต.จะวางตัวเป็นกลางไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และจะปฏิบัติหน้าที่กับทุกๆ พรรคการเมืองอย่างเท่าเทียม
“นอกจากนี้ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังได้ทำหนังสือถึง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 23 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น นายอำเภอ หนองเรือ และนายอำเภอมัญจาคีรี ทั้งนี้เพื่อขอให้ทุกท่านที่กล่าวมาแล้วช่วยกำชับ สั่งการ ให้ข้าราชการทุกฝ่าย โดยเฉพาะฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ให้วางตัวเป็นกลางในการเลือกตั้งอย่างเคร่งครัดและขอให้สอดส่อง ดูแลอย่าให้มีการทุจริตในการเลือกตั้ง ทั้งการซื้อสิทธิ ขายเสียงและช่วยกันป้องกันอย่าให้เกิดการทุจริต จนกว่าการเลือกตั้งจะสิ้นสุด” นาย
พงศกรกล่าว
และกล่าวอีกว่า ฝากเตือนไปถึงข้าราชการในพื้นที่บางนายที่วางตัวไม่เป็นกลางในการเลือกตั้งอันอาจเป็นการให้คุณให้โทษแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง และยังมีพยานหลักฐานส่อว่าอาจมีการทุจริตด้วยการเสนอผล ประโยชน์ให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนนให้กับผู้สมัครรายใดรายหนึ่งนั้น ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และมีโทษร้ายแรง ตนเองหวังว่าใครก็ตามที่กำลังทำผิดกฎหมายอยู่ในขณะนี้ จะรีบยุติการกระทำโดยด่วน หากยังจงใจฝ่าฝืนและต้องได้รับโทษภายหลัง อย่ามาโกรธตนเองเป็นอันขาดเพราะถือว่าได้ตักเตือนและให้โอกาสทุกคนแล้ว
JJNY : อภิสิทธิ์แจงกมธ.ยันถวายสัตย์ฯไม่ครบ/ปูดมีทุจริตลต.ซ่อม/สภาพัฒน์ชำแหละหนี้ครัวเรือน/แบงก์เข้มสินเชื่อ กดยอดขายรถ
https://www.matichon.co.th/politics/news_1823406
กมธ.ปราบโกงกัดไม่ปล่อย เชิญ “มาร์ค”ให้ความเห็น ปม “บิ๊กตู่” ถวายสัตย์ฯไม่ครบ “อภิสิทธิ์”ยันนายกฯ ถวายสัตย์ฯไม่ครบตามรธน.แต่จะขัดหรือแย้งเป็นเรื่องของกม.
เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.เวลา 10.00 ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในการประชุม ได้เชิญนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าชี้แจงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบตามรัฐธรรมนูญ ถือว่าขัดรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 161 หรือไม่ โดยพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้พยายามซักนายอภิสิทธิ์ในฐานะเคยเป็นนายกรัฐมนตรีมาก่อนว่า การถวายสัตย์ของนายกรัฐมนตรีครั้งล่าสุดถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ ก็พยายามให้ความเห็นว่า
การถวายสัตย์ของนายกรัฐมนตรีไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ แต่จะขัดหรือแย้งต่อกฎหมายหรือไม่ เป็นเรื่องของการตีความตามกฎหมาย ซึ่งไม่สามารถให้ความเห็นได้ ทั้งนี้ตนไม่สามารถระบุได้ว่าปัญหาดังกล่าวจะมีทางแก้ไขอย่างไร หากเกิดขึ้นในสมัยที่ตนดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และตอนที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรีก็ได้กล่าวตามที่รัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ถามต่อว่า การที่นายกรัฐมนตรีถวายสัตย์ฯไม่ครบจะทำให้ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ไม่ชอบกฎหมายด้วยหรือไม่ โดยนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่ผ่านมานานแล้ว จึงไม่ทราบแนวปฏิบัติว่า หากถวายสัตย์ฯไม่ครบจะต้องทำอย่างไร เพราะหากจากวันนั้นมา ระยะเวลาล่วงเลยมานานแล้ว และรัฐบาลก็มีการดำเนินการหลายอย่าง ร่วมทั้งการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับสภาฯด้วย แต่ส่วนตัวตอบได้แค่ว่า หากตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี จะถวายสัตย์ฯให้ครบตามรัฐธรรมนูญ
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังซักถามถึงการบริหารราชการแผ่นดินในสมัยที่นายอภิสิทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ทราบหรือไม่ว่ามีอดีตรัฐมนตรีหลายคนที่มีโทษถูกพิพากษาจำคุก ข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยงบประมาณแผ่นดิน และงบประมาณปี 2563 เมื่อผ่านสภาฯไปแล้วจะมีการทุจริตหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ชี้แจงว่า มีอดีตรัฐมนตรีถูกลงโทษว่าทำผิดกฎหมาย แต่ไม่แน่ว่าเกี่ยวข้องโดยตรงกับงบประมาณหรือไม่ ทั้งนี้ตนพูดมาตลอดว่าการทุจริตคอรัปชั่นเกิดขึ้นได้เสมอทุกยุคทุกสมัย แม้กระทั้งคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีก็ไม่สามารถที่จะไปก้าวล่วงในงานที่เป็นงานเฉพาะในหลายหน่วยงานได้ แต่ถ้าเรื่องใดที่นายกรัฐมนตรี ผู้บังคับบัญชา สามารถจะเข้าไปกำกับดูแลได้ ก็ต้องเป็นหน้าที่ที่ต้องเข้าไปดูแล และตนไม่คิดว่าจะมีใครที่สามารถรับประกันได้ว่าจะไม่มีการทุจริต ดังนั้นไม่จำเป็นว่างบประมาณปี 2563 ผ่านแล้วจะมีการทุจริต เพราะขณะนี้ก็ทุจริตได้
ขณะที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกรรมาธิการฯ พยายามสอบถามนายอภิสิทธิ์เช่นกันว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องดังกล่าว และให้เหตุผลว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของพระมหากษัตริย์กับฝ่ายบริหารนั้น ถือว่าเรื่องดังกล่าวจบสิ้นแล้วลงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ และตอบว่า ต้องแยกประเด็นให้ออก เพราะหากกรรมาธิการจะตรวจสอบการทำหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีว่า ครบถ้วนหรือไม่ ควรแยกออกจากเรื่องของพระราชอำนาจ
จากนั้น นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ในฐานะกรรมาธิการฯ ได้สอบถามนายอภิสิทธิ์ ถึงการเตรียมการถวายสัตย์ฯของนายกรัฐมนตรี ส่วนใหญ่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะเป็นผู้เตรียมการให้หรือนายกรัฐมนตรีจะต้องเตรียมการเอง โดยนายอภิสิทธิ์ ชี้แจงว่า โดยปกติแล้วสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี หรือสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้เตรียมไว้ให้ แต่โดยปกติแล้วนายกรัฐมนตรีจะต้องกล่าวตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ผู้เตรียมเอกสารจะเป็นใครไม่สำคัญ แต่นายกรัฐมนตรีเป็นผู้มีหน้าที่นำคณะรัฐมนตรีถวายสัตย์ฯจึงต้องเป็นคนรับผิดชอบ
'พงศกร' ปูด มีทุจริตเลือกตั้งซ่อม เขต 7 ขอนแก่น เตือน ขรก.ไม่เป็นกลาง โทษร้ายแรง
https://www.matichon.co.th/politics/news_1823253
“พงศกร” ปูด มีทุจริตเลือกตั้งซ่อม เขต 7 ขอนแก่น เตือนข้าราชการ หากไม่เป็นกลาง โทษร้ายแรง
เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม นายพงศกร อรรณนพพร ผู้อำนวยการเลือกตั้งซ่อม เขต 7 ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า
ขณะนี้ในหลายตำบล ทั้งในเขตอำเภอหนองเรือและอำเภอมัญจาคีรี มีเหตุการณ์ที่เชื่อได้ว่าอาจมีการกระทำทุจริตการเลือกตั้ง โดยพบว่ามีเครือข่ายผู้นำชุมชนบางหมู่บ้านเริ่มออกแจกเงิน เพื่อแลกกับบัตรประชาชนของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง โดยชาวบ้านเล่าว่า ส่วนใหญ่ไม่มีใครอยากให้บัตรเพราะทราบดีว่า จะไม่สามารถออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ แต่ก็ต้องจำใจให้เขายึดบัตรไปเพราะเกรงกลัวในอิทธิพลและหวั่นเกรงอำนาจรัฐจะมารังแกตนเองและครอบครัวได้ในอนาคต นอกจากนั้นยังได้รับรายงานว่ามีการย้ายหน่วยเลือกตั้ง หลายหน่วยออกจากสถานที่เดิมไปตั้งอยู่ในสถานที่แห่งใหม่ซึ่งลับตาคน จึงเกรงว่าจะทำให้การสังเกตการณ์ เลือกตั้งทำได้ลำบาก โดยทั้ง 2 กรณีที่กล่าวมานั้นอยากให้ กกต.ได้ช่วยลงมาตรวจสอบอย่างเข้มข้นและใกล้ ชิด เพราะตนเองเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ยุติธรรมของกรรมการทุกท่าน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเลือกตั้งซ่อม ในครั้งนี้ กกต.จะวางตัวเป็นกลางไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และจะปฏิบัติหน้าที่กับทุกๆ พรรคการเมืองอย่างเท่าเทียม
“นอกจากนี้ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังได้ทำหนังสือถึง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 23 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น นายอำเภอ หนองเรือ และนายอำเภอมัญจาคีรี ทั้งนี้เพื่อขอให้ทุกท่านที่กล่าวมาแล้วช่วยกำชับ สั่งการ ให้ข้าราชการทุกฝ่าย โดยเฉพาะฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ให้วางตัวเป็นกลางในการเลือกตั้งอย่างเคร่งครัดและขอให้สอดส่อง ดูแลอย่าให้มีการทุจริตในการเลือกตั้ง ทั้งการซื้อสิทธิ ขายเสียงและช่วยกันป้องกันอย่าให้เกิดการทุจริต จนกว่าการเลือกตั้งจะสิ้นสุด” นายพงศกรกล่าว
และกล่าวอีกว่า ฝากเตือนไปถึงข้าราชการในพื้นที่บางนายที่วางตัวไม่เป็นกลางในการเลือกตั้งอันอาจเป็นการให้คุณให้โทษแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง และยังมีพยานหลักฐานส่อว่าอาจมีการทุจริตด้วยการเสนอผล ประโยชน์ให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนนให้กับผู้สมัครรายใดรายหนึ่งนั้น ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และมีโทษร้ายแรง ตนเองหวังว่าใครก็ตามที่กำลังทำผิดกฎหมายอยู่ในขณะนี้ จะรีบยุติการกระทำโดยด่วน หากยังจงใจฝ่าฝืนและต้องได้รับโทษภายหลัง อย่ามาโกรธตนเองเป็นอันขาดเพราะถือว่าได้ตักเตือนและให้โอกาสทุกคนแล้ว