JJNY : พท.รับฟังชาวสวนมะพร้าวปัญหาราคาตกต่ำ/เพจดังถามรัฐเก็บภาษีสินค้าตปท./ธุรกิจน้ำเมาแฝงหน่วยงานรัฐ/ไฟป่าไหม้ไร่อ้อย

เพื่อไทย รับฟัง ชาวสวนมะพร้าว สะท้อนปัญหาราคาตกต่ำ จี้ รบ.ฟังก่อนนำเข้า-ยกเป็นพืช ศก.
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_1820034
 
 
เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประธานคณะทำงานรับเรื่องราวร้องทุกข์ของพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายพรเทพ สุทธิวัฒนศักดิ์ ส.ส.เขต2 จ.ประจวบคีรีขันธ์ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนมะพร้าว อ.ทับสะแก อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ซึ่งมีพื้นที่ปลูกมากที่ในประเทศ โดยรับฟังปัญหาจากนายพงษ์ศักดิ์ บุตรรักษ์ แกนนำเครือข่ายชาวสวนมะพร้าวจังหวัดประจวบฯ ที่ศูนย์พัฒนาเกษตรอินทรีย์ บ้านกรูด ต.ธงชัย อำเภอบางสะพาน หลังจากที่ผ่านมาประสบปัญหาราคามะพร้าวตกต่ำมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ปัจจุบันผลผลิตมีราคาสูงผลละ 20 บาท แต่ชาวสวนไม่มีมะพร้าวจำหน่าย นอกจากนั้นยังประสบปัญหาการลักลอบมะพร้าวเถื่อน การอนุมัติมะพร้าวนอกเข้ามากดราคาผลผลิตภายในประเทศ
 
นางลดาวัลลิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้สรุป 6 ประเด็นปัญหาของชาวสวนมะพร้าว หากนำไปปฎิบัติทันทีเชื่อว่าจะมีผลดีกับทุกฝ่ายในระยะยาว
 
1. รัฐมนตรี ข้าราชการทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ควรรับฟังข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วนจากชาวสวนมะพร้าวก่อนการพิจารณาให้มีการนำเข้ามะพร้าวจากต่างประเทศทั้งจำนวนผลผลิต และ ความต้องการใช้ที่แท้จริง
 
2. ควรกำหนดกฎระเบียบการนำเข้ามะพร้าว เช่น การตรวจ ดีเอ็นเอ การออกใบกำกับการเคลื่อนย้าย เพื่อให้ทราบต้นทางและปลายทางอย่างชัดเจน ป้องกันการลักลอบนำเข้ามะพร้าวได้อย่างเบ็ดเสร็จ และควรให้ชาวสวนมะพร้าวมีส่วนร่วมในการกำหนดกฎระเบียบต่างๆ
  
3. ควรกำหนดกรอบเวลาการนำเข้าอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้นำเข้ามาช่วงที่มะพร้าวไทยกำลังมีผลผลิตมาก เพื่อป้องกันการกดราคา รวมทั้งควรปรับปรุงมาตรการการนำเข้า
 
4. ควรมีมาตรการควบคุมผลิตภัณฑ์แปรรูปกะทิที่นำเข้าให้ชัดเจน เพื่อให้สอดคล้องกับการคำนวณปริมาณผลผลิตและความต้องการใช้ที่แท้จริง
 
5. ควรกำหนดราคาขายเฉลี่ยทั้งปีผลผละ 15 บาท โดยคำนึงถึงต้นทุนบวกค่าครองชีพ
 
6. ควรยกระดับให้มะพร้าวเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่นเดียวกับ ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง
 
“จากข้อมูลที่รับฟังจากชาวสวนมะพร้าวทำให้มีข้อสงสัยว่า ทำไมมาตรการการนำเข้ามะพร้าวที่สามารถควบคุมและป้องกันการลักลอบนำเข้า จึงไม่นำมาประกาศใช้ มีปัญหาติดขัดตรงไหนหรือไม่ รัฐบาลไม่ควรทำนโยบายที่เอื้อประโยชน์โดย หวังลดต้นทุนให้โรงงานอุตสาหกรรม และผู้นำเข้า
 
“แต่ควรคำนึงถึงการช่วยเหลือ เพื่อให้ขาวสวนมะพร้าวสามารถขายมะพร้าวได้ในราคาที่คุ้มทุน และที่ผ่านมามีการปล่อยปละละเลย ทำให้ชาวสวนขายมะพร้าวขาดทุนต่อเนื่องยาวนานกว่า 5 ปี บางรายต้องขายสวนใช้หนี้สินหรือไปประกอบอาชีพอื่น ทั้งที่มะพร้าวเป็นพืชเศรษฐกิจที่ปลูกมานานกว่า 100 ปี “นางลดาวัลลิ์ กล่าว
 

 
เพจดังถาม 'ไม่หนักไปเหรอ' รัฐเก็บภาษีสินค้าจากตปท.ทั้งหมด เลิกเพดานขั้นต่ำ ของลืมไว้ส่งกลับยังโดน
https://www.matichon.co.th/social/news_1819989
 
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ระบุว่า จากกรณี กระทรวงการคลังจะพิจารณาปฏิรูปโครงสร้างภาษีใหม่ โดยจะให้มีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม(แวท) 7% ในสินค้าที่สั่งซื้อออนไลน์และส่งไปรษณีย์เข้ามาจากต่างประเทศทุกชนิดราคา พร้อมกับเลิกยกเว้นการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในสินค้านำเข้าที่มีมูลค่าไม่เกิน 1,500 บาท โดย กรมศุลกากรจะมีการตรวจสแกนสินค้าที่ส่งนำเข้ามาได้ทั้ง 100% โดยไม่ใช่วิธีสุ่มตรวจอีก
 
ล่าสุดเฟซบุ๊กแฟนเพจ อีเจี๊ยบ เลียบด่วน ได้โพสต์ข้อความถามความคิดเห็นแฟนเพจจำนวนกว่า 3 ล้านคนถึงมาตรการดังกล่าวว่าคิดเห็นอย่างไร พร้อมกับ ตั้งคำถามว่า การยกเลิกเพดานขั้นต่ำ รวมไปถึงเก็บภาษีสินค้าทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่ “ของที่ลืมไว้ที่โรงแรมในต่างประเทศแล้วทางโรงแรมส่งคืนให้” นั้น “ไม่หนักไปหน่อยเหรอ
 
โดยข้อความระบุว่า
 
อันนี้ไม่เกี่ยวกะการเมืองนะ ใครมาด่าการเมือง ปลิวแน่นอน 😁
พอดีเพื่อนในออฟฟิศเค้าสงสัย ฝากมาถาม
ในข่าวเค้าบอกว่าจะมีการพิจารณาปฏิรูปโครงสร้างภาษีใหม่
“คลังจะให้มีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม(แวท) 7% ในสินค้าที่สั่งซื้อออนไลน์และส่งไปรษณีย์เข้ามาจากต่างประเทศทุกชนิดราคา พร้อมกับเลิกยกเว้นการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในสินค้านำเข้าที่มีมูลค่าไม่เกิน 1,500 บาท “
 
และ
 
“ทั้งนี้ในแผนการปฏิรูปภาษี ต่อไปกรมศุลกากรจะต้องตรวจสแกนสินค้าที่ส่งนำเข้ามาได้ทั้ง 100% โดยไม่ใช่วิธีสุ่มตรวจอีก”
เท่าที่อ่าน เข้าใจว่า
เค้าจะใช้ระบบนี้กับไปรษณีย์ทุกกล่อง ไม่ว่าจะเป็นของซื้อมา หรือใครส่งมาให้ก็ตาม
คือเพื่อนในออฟฟิศ ไอ้คนที่ฝากมาถามนี่แหละ
ไปถ่ายงานที่ต่างประเทศ แล้วไปลืมที่ชาร์จแบตไว้ที่โรงแรม
ทางโรงแรมเค้าก็ส่งกลับมาให้ที่ไทย ที่ชาร์จมันก็เกิน 1,500 บาท พอขาเข้าไทยก็ต้องเสียภาษี
แม้ว่าทางโรงแรมจะมีการเขียนไว้ว่าเป็นของ Lost & Found ส่งกลับเจ้าของ
เค้าก็ตกใจเหมือนกันนะ ที่กฏมันเป็นแบบนี้ เห็นทางไปรษณีย์บอกว่าไม่สามารถแยกของขวัญกับของซื้อ หรือของเก่าส่งกลับได้ ถ้าเกิน 1,500 บาทก็ต้องเสียภาษี
มันก็คิดว่า ไม่น่าจะต้องจ่าย แต่คงทำอะไรไม่ได้ เพราะเจ้าหน้าที่ก็คงแยกไม่ได้จริงๆ แหละ
และก็ยังดีที่ยังมีการยกเว้นภาษีให้กับของที่ไม่เกิน 1,500 บาทอยู่ (แม้ว่าในหลายๆ ประเทศเค้าจะมีเพดานยกเว้นที่สูงกว่านี้ก็ตาม อย่างญี่ปุ่นก็ยกเว้นได้ 200,000 เยน หรือ หกหมื่นบาท )
แต่พอบอกจะมีการพิจารณาเก็บภาษีทุกกล่อง และยกเลิกเพดานขั้นต่ำนี่… มันจะไม่หนักไปหน่อยเหรอ (ไม่ว่าจะกี่บาทก็ต้องไปเสียภาษีนะ)
ก็เลยอยากรู้ว่าคิดยังไงกัน
 
https://www.facebook.com/ejeab/posts/1258376534368680?__xts__%5B0%5D=68.ARB8Cts94Cm4AgNcn5cMyoqueLhm8SSq0Zjd796fvL50M9WhC2zHaE01zkkWptQ-iVseJmsSK0x7xRP-akZ7J1pxsIf9Z6ZI1A4eq8TAu32N89MLAjRjgx65qHcHBLgi2jsgmH1o-WRREppfClvf1D1xpD3p4yU8fV_ZmfakynNbLi1hqMAbQ6qOAvwSePO5l0YHBetgRoEXJUGWismUv6jCVhl-tvGv0j3T3Fe5-dr2Z-zjzFS0pm0UCit1umB9e-OxtAwoe2qXHSI9_LRVYBccfqYe46xw4gNt4QcoqZjXLKwY5e8xguZvZoOveAbaiLPWm8M_B2BsJ4YpaSGutE33Bg&__tn__=-R
 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่