อินเดียไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดดดดดดดดดดดด!!! แกดูจากรูปปกสิ เฟรนลี่กว่านี้ไม่มีอีกแล้ว!! รุมขอถ่ายรูปกันประหนึ่งว่า
เจอดาราเลยจ้ะพี่จ๋า ฮ่าๆ ขอบอกเลยว่ากระทู้นี้ไม่ได้พาพวกคุณๆไปเที่ยวอย่างเดียวเด้อจ้า เราจะพาทุกคนไปเจอกับมุมมองใหม่ๆ
ที่เราก็ไม่คาดว่าเราจะได้เจอจากการเที่ยวครั้งนี้มาก๊อนนน และบอกข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทาง การขอวีซ่า อาหารการกิน
(ที่คนส่วนมากบอกกินไม่ได้ ฮ่าๆ) และภาพชีวิตการเป็นอยู่ของคนที่นี่ขอบอกเลยว่าคุณจะมองพวกเค้าเปลี่ยนไป!
ที่สำคัญ** รีวิวของเราเขียนขั้นตอนการเดินทางไปยันกลับเลยเขียนแบบจริงใจและเข้าใจง่ายแน่นอนเด้ออ่านแล้วไม่ผิดหวัง
แน่นอนจ้าคุณพี่!!!
ก่อนไปอินเดียต้องขอวีซ่าก่อนน้าลิ้งนี้เลยจ้า
https://www.paitamnam.com/visa-india-online/
ส่วนนี่แนะนำให้แลกเงินที่สนามบินไปเลย ถ้าไม่พอจริงๆสามารถกดเงินจากตู้ ATM ที่นู่นได้
และข้างล่างนี่ก็คือตัวอย่างแพลนท่องเที่ยวของเรา (แนะนำให้ทำไว้จะได้ผ่านตม.ง่ายๆเด้อ)
เอาล่ะมาเริ่มกันไวๆเลยนะ! ทริปนี้เราไป 2 เมือง คือ Ahmedabad และ Udaipur เที่ยวทั้งหมด 5 วัน 4 คืนไปเลยจ้า เราเลือกบินกับสายการบินกับ Air Asia เพราะเค้าบินตรงจากสนามบินดอนเมืองไปยังสนามบิน Ahmedabad แนะนำให้จองตั๋วพร้อมกับอาหารบนเครื่องด้วยเลย (กลัวอดเกิน555)
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงก็ถึงสนามบินอย่างปลอดภัยครบ 32 ไม่ล่วงหล่นกลางทางจ้าแม่! พอถึงแล้วเราก็เดินตรงไปให้
ตม.ตรวจวีซ่าและพาสปอตเลย ใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที ถามไม่เยอะมาก ไปเมืองไหน นอนไหน พักที่ไหน อยู่กี่วัน ประมาณนี้
ยิ่งมีแพลนเที่ยวไปด้วยนี่โคตรชิล พอผ่านตม.ก็เดินมารับกระเป๋าได้เลยจ้า
ก่อนตะลุยอินเดียเราขออธิบายอัตราการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน บาทไทย (THB) รูปีอินเดีย (INR) กันก่อนเนอะ
2.37 INR = 1 THB คิดง่ายๆคือเอาค่าเงินรูปีมาหาร 2 ก็จะเท่ากับค่าเงินบาทไทยแล้วโดยประมาณจ้า
พอถึงอินเดีย แล้วรู้สึกตัวขาวขึ้นมาทันทีเลย ฮ่าๆ
หลังจาก เราได้กระเป๋าครบแล้วก็ลุยกันเลยยยย!!!
เนื่องจากเราวางแผนว่าจะเที่ยวเมือง Udaipur ก่อน เราเลยนั่งตุ๊กๆเพื่อไปจองรถบัส โดยเสียค่าตุ๊กๆไป 300 รูปี
(ราคาสามารถต่อรองได้อีก)
ไม่กี่นาทีเราก็มาถึงที่ Shrinath Travel Agency อย่างไว เพราะรถราในช่วงกลางคืนน้อยไม่ค่อยวุ่นวายเท่าไหร่
เรามาถึงค่อนข้างที่จะดึกมากๆ คนก็น้อยมากกกด้วย
เราเดินทางช่วงกลางคืนเลยไม่ได้จองตั๋วออนไลน์ มาจองเอาดาบหน้าเลยในราคาคนละ 630 รูปี ได้รถรอบตี 2 จ้า
ต้องรอรถทัวร์ 2 ชั่วโมงกว่า นานขนาดนี้ก็หลับสิจ๊ะรออะไร ฮ่าๆ
เห็นเขานอน ก็เลยนอนตามเขาเลย 5555
แต่เอาจริงๆทุกคนสามารถเดินทางโดยการเหมารถพร้อมคนขับแบบสบายๆได้เลยนะ แต่เราสายลุยเน้นประหยัด
หรือจะเรียกว่าขี้งกก็ได้ ฮ่าๆ ก็เลยเดินทางโดยรถทัวร์แทน
เมื่อรถมาถึงเราก็พร้อมลุยต่อเลยจ้า เหมือนร่างกายทำมาจากเหล็กอ่ะ ไม่มีความอ่อนเพลียใดๆทั้งสิ้น ฮ่าๆ
รถมี 2 ชั้น สภาพไม่ได้แย่ ภายในค่อนข้างกว้างนะนอนได้สบายๆเลย
มีทีวีให้ดูด้วยนะแต่เสียดายเปิดไม่เป็นหรือเสียไม่แน่ใจ ฮ่าๆ แนะนำว่าหลับให้ได้ยาวๆเลยเพราะในรถไม่มีห้องน้ำ
พี่เค้าจะแวะจอดให้เข้าห้องน้ำที่จุดพักรถได้ 1 ครั้งถ้วนเท่านั้นจ้า
เช้าแล้วตื่น มาดูวิวข้างทางหน่อยดีกว่า
ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชม.เราก็มาถึงเมือง Udaipur อย่างปลอดภัย และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราก็นั่งตุ๊กๆในราคา 100 รูปี
เพื่อไปโรงแรมต่อเลยยยย
ลุยมากๆ 55555 ทริปนี้ต้องสุด ฮ่าๆ
ในส่วนของโรงแรมนั้นเราจองออนไลน์ทั้งหมดจ้า โรงแรมวันแรกก็คือ ANJAI HOTELจองมาในราคา 700 กว่าบาท
มุมถ่ายรูปก็มีพอกรุบกริบ แต่ความดีงามของนางก็คืออยู่ใกล้ที่เที่ยวมากๆ ใกล้แบบเดินเอาได้เลย
พอเช็คอินเสร็จ สิ่งแรกที่ทำคือ..วิ่งเปรี้ยวไปอาบน้ำจ้า ประหนึ่งไม่ได้อาบมา 365 ล้านวันแล้ว ฮ่าๆ อาบเสร็จ
ก็ไม่ขอรับความสบายจากเตียงใดๆนะจ๊ะ รีบออกไปเดินสำรวจเมืองต่อเลยทันที ฮี่ๆ
ภาพบรรยากาศโดยรวม คืนแรกของพวกเรา ^^ บรรยากาศดีใช้ได้เลย
อาบน้ำเสร็จเรียบร้อย เดินจากโรงแรมมาไม่กี่ก้าวก็แวะกินเลยจ้า กองทัพต้องเดินด้วยท้องอิอิ เค้าบอกว่ามันคือออมเล็ตค่าพี่ๆ (ไข่+ผัก+พริกไทย+ขนมปัง)
มื้อแรกแอบลุ้นอยู่น้าาา ว่าจะกินได้ม๊ายยยยยยยยยย ฮ่าๆ
เฉลย!! กินได้จ้าแม่รอดตายแล้วโว้ยยย มีกำลังใจเดินต่อเลยทีนี้5555
หลังจากกินอิ่มจนท้องโตเท่าแตงโมแล้วนั้น ลุยต่อเลยจ้าไม่ต้องรอย่อย ฮ่าๆ
เดินถ่ายรูปเล่น ดูความเป็นอยู่ของคนที่นี่หน่อยเส้ ว่าเขากินอยู่กันยังไง
เดินมาเจอกลุ่มชายฉกรรจ์ขอถ่ายรูปด้วยเลย น่ารักมากๆ เชื่อละว่าคนอินเดียชอบถ่ายรูป 5555
อาบน้ำกันริมแม่น้ำแบบนี้เลย แหม๊ถ้าไม่ติดว่าแต่งตัวสวยก็ว่าจะลงไปเล่นด้วยแล้วนะเนี่ยฮ๋าๆ
สาวๆก็นั่งรุมดูเครื่องประดับกันใหญ่ ยกเว้นสาวผมเปียกคนนี้ น่าจะสงสัยว่า มันถ่ายอะไรของมันหว่ะ ฮ่าๆ
ริมแม่น้ำก็มีพี่คนนี้คอยเล่นดนตรีให้เราฟังกันอย่างสดๆด้วยจ้า
ชอบคนที่นี่ แต่งตัวมากๆเลย สดใสสุดๆ
เดินไปเดินมาเจอวัวข้างทาง เลยแวะบันทึกไว้สัก 1 รูปอิอิ
ล่าสุดเจออูฐริมถนนเลยจ้า นางไม่ได้อยู่แค่ทะเลทรายอย่างเดียวน้า
เหมือนมีพลังงานบางอย่าง ฮ๋าๆ ดูดุดันมากจ้า
แต่ขอบอกเลยเลยว่าเป็นมิตรมาก (อย่าตัดสินคนที่หน้าตา)
แอ๊ะๆ นั่งจดหวยอยู่รึป่าวเนี่ยคุณลุง ฮ่าๆ
รูปนี้ได้มาจากคนแถวนั้นถ่ายให้เว้ยแก พี่แกมาชวนคุย
แล้วก็อาสาถ่ายรูปคู่ให้ เห็นมะว่าคนที่นี่โคตรน่ารัก
เดินเล่นไปเรื่อยก็แอบเห็นมุมชิคๆ ที่บ้านหลังนี้อยู่น้า
ไม่รู้บ้านใครแต่ขอแฉะภาพหน่อยแล้วกันอิอิ
บรรยากาศยามเย็นก่อนจะหมดวันแรกที่อุทัยปุระ อากาศดีมากก
คืนนี้เรามาฝากท้องกันที่.....จำชื่อร้านไม่ได้ค่ะแล้วก็ไม่ถ่ายรูปมาด้วย ต้องกราบขอโทษ8พันล้านครั้งจริงๆค่ะ เลยเก็บภาพมาให้
ดูแทนละกันเนอะ แต่รู้แค่ว่าใกล้โรงแรมมากๆ มีทั้งอาหารอินเดียไปถึงอาหารฝรั่ง มีเมนูให้เลือกหลากหลายมาก ราคาก็ไม่แพง
แค่หลักร้อยจ้าบอกเลยว่าคุ้มค่า ที่สำคัญคือรสชาติอร่อยด้วย กินเกลี้ยงจานเลยจ้า ไหนใครบอกอาหารอินเดียไม่อร่อยไงหะ ฮ่าๆ
และนี่คือหน้าตาอาหารมื้อนี้ของพวกเราา หน้าตาเหมือนไม่น่ากิน แต่เราว่าอร่อยเลยแหละ โดยเฉพาะข้าวผัดพริกอะไรสักอย่าง มีใส่เนื้อไก่เข้าไป อร่อยมากก
เดี๋ยวหาว่าโม้ กินเกลี้ยงไม่เหลือเลยจ้าาาา 55555+
หลังจากที่กินอิ่มนอนหลับลึกไปถึงแก่นโลกแล้ว เราก็ตื่นเช้ามาเช่ารถเลยเป็นอย่างแรก โดนค่าเสียหาย 350 รูปี
มีค่ามัดจำ(ได้คืน)อีก 1000 รูปี ขอบอกเลยว่าเป็นประสบการณ์ใหม่มากในการขับรถที่นี่ เพราะเค้าไม่มีไฟแดงเลยเว้ยเมืองนี้
จะเลี้ยวจะแซงก็บีบแตรเอาจ้า เสียงแตรที่นี่ก็เลยยืนหนึ่งจ๊ะพี่จ๋า
ลุงแกสอนใช้รถสักหน่อย กลัวเราใช้ไม่เป็น 5555
หลังจากเช็ครถ สอนนู่นนี่นั่น กันเรียบร้อยแล้ว ก็ออกลุยกันเลยยจ้าาา
แว้นมาร้านนี้ก่อนเลยจ้าาา จากที่เดินสำรวจเมืองเมื่อวานแล้ว เห็นคนมามุงร้านนี้เยอะมากก็เลยคิดเองเออเองว่าต้องอร่อยแน่นอน
อันที่ไม่มีถั่วอารมณ์เหมือนข้าวยำโรยมาม่าแห้งอ่ะ ไม่ได้แซ่บเหมือนบ้านเรานะแต่อร่อยเฉยเลย ส่วนอันที่มีถั่วจะรสชาติแปลกๆหน่อย
แต่ก็พอกินได้อยู่น้า
คนเยอะมากๆ ต้องฝ่าวงล้อม ฮุกวงใน เข้าไปซื้อเลยทีเดียวจ้า
และนี่คือหน้าตาอาหารของเรา ราคาถูกมากก ประมาณ 20-30 รูปีเองค่าาา
นั่งกินกันข้างทางไปเลย ฮ่าา
ไปต่อกันที่ร้านโรตีของแท้! มันไม่ใช่โรตีใส่ไข่ใส่นมอย่างบ้านเราเด้อ นางเป็นแผ่นโรตีกรอบๆ จิ้มน้ำเหลืองๆ
อร่อยจริงไม่แสดงเลยจ้ะแม่จ๋า น้ำชานางก็เริศเอาเรื่องเว้ยกินละเย็นๆด้วยนะ ถือว่าดีย์อ่ะ!
พิกัดร้านอยู่ขวามือของทางเข้าไป City Palace จ้า
กินกันทั้งครอบครัวเลย น่ารักมากก
หลังจากกินกันจนอิ่มท้อง เราก็ไปเช็คอิน เก็บของที่โรงแรมคืนที่2กันต่อเลยค่ะ ^^
[CR] ไปเที่ยวอินเดีย ง่ายกว่าที่คิดเว้ย !! (อาเมดาบัด-อุทัยปุระ) อาหารอินเดียอร่อยเด้ออ
อินเดียไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดดดดดดดดดดดด!!! แกดูจากรูปปกสิ เฟรนลี่กว่านี้ไม่มีอีกแล้ว!! รุมขอถ่ายรูปกันประหนึ่งว่า
เจอดาราเลยจ้ะพี่จ๋า ฮ่าๆ ขอบอกเลยว่ากระทู้นี้ไม่ได้พาพวกคุณๆไปเที่ยวอย่างเดียวเด้อจ้า เราจะพาทุกคนไปเจอกับมุมมองใหม่ๆ
ที่เราก็ไม่คาดว่าเราจะได้เจอจากการเที่ยวครั้งนี้มาก๊อนนน และบอกข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทาง การขอวีซ่า อาหารการกิน
(ที่คนส่วนมากบอกกินไม่ได้ ฮ่าๆ) และภาพชีวิตการเป็นอยู่ของคนที่นี่ขอบอกเลยว่าคุณจะมองพวกเค้าเปลี่ยนไป!
ที่สำคัญ** รีวิวของเราเขียนขั้นตอนการเดินทางไปยันกลับเลยเขียนแบบจริงใจและเข้าใจง่ายแน่นอนเด้ออ่านแล้วไม่ผิดหวัง
แน่นอนจ้าคุณพี่!!!
ก่อนไปอินเดียต้องขอวีซ่าก่อนน้าลิ้งนี้เลยจ้า https://www.paitamnam.com/visa-india-online/
ส่วนนี่แนะนำให้แลกเงินที่สนามบินไปเลย ถ้าไม่พอจริงๆสามารถกดเงินจากตู้ ATM ที่นู่นได้
และข้างล่างนี่ก็คือตัวอย่างแพลนท่องเที่ยวของเรา (แนะนำให้ทำไว้จะได้ผ่านตม.ง่ายๆเด้อ)
เอาล่ะมาเริ่มกันไวๆเลยนะ! ทริปนี้เราไป 2 เมือง คือ Ahmedabad และ Udaipur เที่ยวทั้งหมด 5 วัน 4 คืนไปเลยจ้า เราเลือกบินกับสายการบินกับ Air Asia เพราะเค้าบินตรงจากสนามบินดอนเมืองไปยังสนามบิน Ahmedabad แนะนำให้จองตั๋วพร้อมกับอาหารบนเครื่องด้วยเลย (กลัวอดเกิน555)
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงก็ถึงสนามบินอย่างปลอดภัยครบ 32 ไม่ล่วงหล่นกลางทางจ้าแม่! พอถึงแล้วเราก็เดินตรงไปให้
ตม.ตรวจวีซ่าและพาสปอตเลย ใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที ถามไม่เยอะมาก ไปเมืองไหน นอนไหน พักที่ไหน อยู่กี่วัน ประมาณนี้
ยิ่งมีแพลนเที่ยวไปด้วยนี่โคตรชิล พอผ่านตม.ก็เดินมารับกระเป๋าได้เลยจ้า
ก่อนตะลุยอินเดียเราขออธิบายอัตราการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน บาทไทย (THB) รูปีอินเดีย (INR) กันก่อนเนอะ
2.37 INR = 1 THB คิดง่ายๆคือเอาค่าเงินรูปีมาหาร 2 ก็จะเท่ากับค่าเงินบาทไทยแล้วโดยประมาณจ้า
พอถึงอินเดีย แล้วรู้สึกตัวขาวขึ้นมาทันทีเลย ฮ่าๆ
หลังจาก เราได้กระเป๋าครบแล้วก็ลุยกันเลยยยย!!!
เนื่องจากเราวางแผนว่าจะเที่ยวเมือง Udaipur ก่อน เราเลยนั่งตุ๊กๆเพื่อไปจองรถบัส โดยเสียค่าตุ๊กๆไป 300 รูปี
(ราคาสามารถต่อรองได้อีก)
ไม่กี่นาทีเราก็มาถึงที่ Shrinath Travel Agency อย่างไว เพราะรถราในช่วงกลางคืนน้อยไม่ค่อยวุ่นวายเท่าไหร่
เรามาถึงค่อนข้างที่จะดึกมากๆ คนก็น้อยมากกกด้วย
เราเดินทางช่วงกลางคืนเลยไม่ได้จองตั๋วออนไลน์ มาจองเอาดาบหน้าเลยในราคาคนละ 630 รูปี ได้รถรอบตี 2 จ้า
ต้องรอรถทัวร์ 2 ชั่วโมงกว่า นานขนาดนี้ก็หลับสิจ๊ะรออะไร ฮ่าๆ
เห็นเขานอน ก็เลยนอนตามเขาเลย 5555
แต่เอาจริงๆทุกคนสามารถเดินทางโดยการเหมารถพร้อมคนขับแบบสบายๆได้เลยนะ แต่เราสายลุยเน้นประหยัด
หรือจะเรียกว่าขี้งกก็ได้ ฮ่าๆ ก็เลยเดินทางโดยรถทัวร์แทน
เมื่อรถมาถึงเราก็พร้อมลุยต่อเลยจ้า เหมือนร่างกายทำมาจากเหล็กอ่ะ ไม่มีความอ่อนเพลียใดๆทั้งสิ้น ฮ่าๆ
รถมี 2 ชั้น สภาพไม่ได้แย่ ภายในค่อนข้างกว้างนะนอนได้สบายๆเลย
มีทีวีให้ดูด้วยนะแต่เสียดายเปิดไม่เป็นหรือเสียไม่แน่ใจ ฮ่าๆ แนะนำว่าหลับให้ได้ยาวๆเลยเพราะในรถไม่มีห้องน้ำ
พี่เค้าจะแวะจอดให้เข้าห้องน้ำที่จุดพักรถได้ 1 ครั้งถ้วนเท่านั้นจ้า
เช้าแล้วตื่น มาดูวิวข้างทางหน่อยดีกว่า
ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชม.เราก็มาถึงเมือง Udaipur อย่างปลอดภัย และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราก็นั่งตุ๊กๆในราคา 100 รูปี
เพื่อไปโรงแรมต่อเลยยยย
ลุยมากๆ 55555 ทริปนี้ต้องสุด ฮ่าๆ
ในส่วนของโรงแรมนั้นเราจองออนไลน์ทั้งหมดจ้า โรงแรมวันแรกก็คือ ANJAI HOTELจองมาในราคา 700 กว่าบาท
มุมถ่ายรูปก็มีพอกรุบกริบ แต่ความดีงามของนางก็คืออยู่ใกล้ที่เที่ยวมากๆ ใกล้แบบเดินเอาได้เลย
พอเช็คอินเสร็จ สิ่งแรกที่ทำคือ..วิ่งเปรี้ยวไปอาบน้ำจ้า ประหนึ่งไม่ได้อาบมา 365 ล้านวันแล้ว ฮ่าๆ อาบเสร็จ
ก็ไม่ขอรับความสบายจากเตียงใดๆนะจ๊ะ รีบออกไปเดินสำรวจเมืองต่อเลยทันที ฮี่ๆ
ภาพบรรยากาศโดยรวม คืนแรกของพวกเรา ^^ บรรยากาศดีใช้ได้เลย
อาบน้ำเสร็จเรียบร้อย เดินจากโรงแรมมาไม่กี่ก้าวก็แวะกินเลยจ้า กองทัพต้องเดินด้วยท้องอิอิ เค้าบอกว่ามันคือออมเล็ตค่าพี่ๆ (ไข่+ผัก+พริกไทย+ขนมปัง)
มื้อแรกแอบลุ้นอยู่น้าาา ว่าจะกินได้ม๊ายยยยยยยยยย ฮ่าๆ
เฉลย!! กินได้จ้าแม่รอดตายแล้วโว้ยยย มีกำลังใจเดินต่อเลยทีนี้5555
หลังจากกินอิ่มจนท้องโตเท่าแตงโมแล้วนั้น ลุยต่อเลยจ้าไม่ต้องรอย่อย ฮ่าๆ
เดินถ่ายรูปเล่น ดูความเป็นอยู่ของคนที่นี่หน่อยเส้ ว่าเขากินอยู่กันยังไง
เดินมาเจอกลุ่มชายฉกรรจ์ขอถ่ายรูปด้วยเลย น่ารักมากๆ เชื่อละว่าคนอินเดียชอบถ่ายรูป 5555
อาบน้ำกันริมแม่น้ำแบบนี้เลย แหม๊ถ้าไม่ติดว่าแต่งตัวสวยก็ว่าจะลงไปเล่นด้วยแล้วนะเนี่ยฮ๋าๆ
สาวๆก็นั่งรุมดูเครื่องประดับกันใหญ่ ยกเว้นสาวผมเปียกคนนี้ น่าจะสงสัยว่า มันถ่ายอะไรของมันหว่ะ ฮ่าๆ
ริมแม่น้ำก็มีพี่คนนี้คอยเล่นดนตรีให้เราฟังกันอย่างสดๆด้วยจ้า
ชอบคนที่นี่ แต่งตัวมากๆเลย สดใสสุดๆ
เดินไปเดินมาเจอวัวข้างทาง เลยแวะบันทึกไว้สัก 1 รูปอิอิ
ล่าสุดเจออูฐริมถนนเลยจ้า นางไม่ได้อยู่แค่ทะเลทรายอย่างเดียวน้า
เหมือนมีพลังงานบางอย่าง ฮ๋าๆ ดูดุดันมากจ้า
แต่ขอบอกเลยเลยว่าเป็นมิตรมาก (อย่าตัดสินคนที่หน้าตา)
แอ๊ะๆ นั่งจดหวยอยู่รึป่าวเนี่ยคุณลุง ฮ่าๆ
รูปนี้ได้มาจากคนแถวนั้นถ่ายให้เว้ยแก พี่แกมาชวนคุย
แล้วก็อาสาถ่ายรูปคู่ให้ เห็นมะว่าคนที่นี่โคตรน่ารัก
เดินเล่นไปเรื่อยก็แอบเห็นมุมชิคๆ ที่บ้านหลังนี้อยู่น้า
ไม่รู้บ้านใครแต่ขอแฉะภาพหน่อยแล้วกันอิอิ
บรรยากาศยามเย็นก่อนจะหมดวันแรกที่อุทัยปุระ อากาศดีมากก
คืนนี้เรามาฝากท้องกันที่.....จำชื่อร้านไม่ได้ค่ะแล้วก็ไม่ถ่ายรูปมาด้วย ต้องกราบขอโทษ8พันล้านครั้งจริงๆค่ะ เลยเก็บภาพมาให้
ดูแทนละกันเนอะ แต่รู้แค่ว่าใกล้โรงแรมมากๆ มีทั้งอาหารอินเดียไปถึงอาหารฝรั่ง มีเมนูให้เลือกหลากหลายมาก ราคาก็ไม่แพง
แค่หลักร้อยจ้าบอกเลยว่าคุ้มค่า ที่สำคัญคือรสชาติอร่อยด้วย กินเกลี้ยงจานเลยจ้า ไหนใครบอกอาหารอินเดียไม่อร่อยไงหะ ฮ่าๆ
และนี่คือหน้าตาอาหารมื้อนี้ของพวกเราา หน้าตาเหมือนไม่น่ากิน แต่เราว่าอร่อยเลยแหละ โดยเฉพาะข้าวผัดพริกอะไรสักอย่าง มีใส่เนื้อไก่เข้าไป อร่อยมากก
เดี๋ยวหาว่าโม้ กินเกลี้ยงไม่เหลือเลยจ้าาาา 55555+
หลังจากที่กินอิ่มนอนหลับลึกไปถึงแก่นโลกแล้ว เราก็ตื่นเช้ามาเช่ารถเลยเป็นอย่างแรก โดนค่าเสียหาย 350 รูปี
มีค่ามัดจำ(ได้คืน)อีก 1000 รูปี ขอบอกเลยว่าเป็นประสบการณ์ใหม่มากในการขับรถที่นี่ เพราะเค้าไม่มีไฟแดงเลยเว้ยเมืองนี้
จะเลี้ยวจะแซงก็บีบแตรเอาจ้า เสียงแตรที่นี่ก็เลยยืนหนึ่งจ๊ะพี่จ๋า
ลุงแกสอนใช้รถสักหน่อย กลัวเราใช้ไม่เป็น 5555
หลังจากเช็ครถ สอนนู่นนี่นั่น กันเรียบร้อยแล้ว ก็ออกลุยกันเลยยจ้าาา
แว้นมาร้านนี้ก่อนเลยจ้าาา จากที่เดินสำรวจเมืองเมื่อวานแล้ว เห็นคนมามุงร้านนี้เยอะมากก็เลยคิดเองเออเองว่าต้องอร่อยแน่นอน
อันที่ไม่มีถั่วอารมณ์เหมือนข้าวยำโรยมาม่าแห้งอ่ะ ไม่ได้แซ่บเหมือนบ้านเรานะแต่อร่อยเฉยเลย ส่วนอันที่มีถั่วจะรสชาติแปลกๆหน่อย
แต่ก็พอกินได้อยู่น้า
คนเยอะมากๆ ต้องฝ่าวงล้อม ฮุกวงใน เข้าไปซื้อเลยทีเดียวจ้า
และนี่คือหน้าตาอาหารของเรา ราคาถูกมากก ประมาณ 20-30 รูปีเองค่าาา
นั่งกินกันข้างทางไปเลย ฮ่าา
ไปต่อกันที่ร้านโรตีของแท้! มันไม่ใช่โรตีใส่ไข่ใส่นมอย่างบ้านเราเด้อ นางเป็นแผ่นโรตีกรอบๆ จิ้มน้ำเหลืองๆ
อร่อยจริงไม่แสดงเลยจ้ะแม่จ๋า น้ำชานางก็เริศเอาเรื่องเว้ยกินละเย็นๆด้วยนะ ถือว่าดีย์อ่ะ!
พิกัดร้านอยู่ขวามือของทางเข้าไป City Palace จ้า
กินกันทั้งครอบครัวเลย น่ารักมากก
หลังจากกินกันจนอิ่มท้อง เราก็ไปเช็คอิน เก็บของที่โรงแรมคืนที่2กันต่อเลยค่ะ ^^
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้