อาเคอร์เทคกะ (Akhal-Teke)
ม้าสายพันธุ์นี้มีต้นกำเนิดมาจากมือง Achal ประเทศเติร์กเมนิสถานตั้งแต่เมื่อ 3,000 ปีที่แล้ว ถือได้ว่าเป็นม้าสายพันธุ์เก่าแก่อีกสายพันธุ์หนึ่ง
ลักษณะพิเศษของยอดอาชาสายพันธุ์นี้ก็คือ ขนที่มันเงาและสวยงาม ซึ่งโดยทั่วไปพวกมันจะมีขนสีเทา, ดำ, สีเม็ดเกาลัด แต่สีที่เรียกได้ว่ามีความพิเศษสุดๆ ก็คือขนที่ทองมันวาว ที่ดูคล้ายกับผ้าไหมราคาแพง
และด้วยความแข็งแรงบวกกับต้นกำเนิดที่มาจากแถบทะเลยทราย จึงทำให้เจ้าม้าสายพันธุ์นี้มีจุดเด่นอยู่ที่ความรวดเร็ว อดทน และสภาพร่างกายที่ยอดเยี่ยม รวมไปถึงท่าวิ่งเหยาะๆ ที่แสนสง่างามอันเป็นเอกลักษณ์
ความสวยงามของมันนั้นทำให้ได้รับการขนานนามจากชาวจีนว่า “ม้าที่มาจากสวรรค์” และนอกจากนี้ยังมีตำนานเล่าว่าม้าสายพันธุ์นี้ยังเคยถูกใช้เป็นพาหนะของเจงกีสข่านอีกด้วย
(ถ้าใครเคยอ่านมังกรหยกภาคก๊วยเจ๋ง ม้าเหงื่อโลหิตของก๊วยเจ๋ง คือม้าพันธุ์นี้นั่นเอง)
ด้วยความสวยงามและความหายากของมันนั้นทำให้เจ้าม้าสายพันธุ์นี้มีค่าตัวสูงถึง 10 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 300 ล้านบาท
Cr.catdumb.com/
Haflinger
หรือที่เรียกว่า Avelignese เป็นสายพันธุ์ของม้าที่พัฒนาขึ้นในออสเตรียและตอนเหนือของอิตาลีในช่วงปลายศตวรรษที่สิบเก้า มีความสง่า แข็งแรง ว่องไว Haflinger เป็นม้าที่มีขนที่แผงคอที่ยาวสลวย เหมือนเส้นผมของมนุษย์ ไม่สูงใหญ่มากและอยู่ในสภาพอากาศเย็น วิ่งบนหิมะได้ดี เป็นอีกหนึ่งสายพันธ์ที่สวยงาม
ล่าสุดมีการนำเสนอเรื่องราวของม้า Haflinger ชื่อว่า Storm เจ้าของม้ามีชื่อว่า Naomi Beckers อายุ 24 ปี อาศัยอยู่ใน Limburg ประเทศเนเธอร์แลนด์ ม้าของเธอได้รับการยกย่องให้เป็นม้าราพันเซล เนื่องจากมีแผงคอที่ยาว ราวกับเส้นผมของเจ้าหญิงราพันเซล
ในพื้นที่ราบสูงอย่างเทือกเขาแอลป์ Haflinger เป็นยอดอาชาที่เป็นเสมือนสายใยชีวิตของผู้คนในพื้นที่ เพราะไม่เพียงแต่ช่วยในการทำการเกษตร และขนส่งสินค้า แต่ขนที่สั้นและหนานุ่มยังสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องนุ่งห่มที่ปกป้องร่างกายจากความหนาวเย็นได้เป็นอย่างดี และยังมีนมกับเนื้อที่นำมาใช้เป็นอาหารในยามฉุกเฉิน สำหรับผู้คนบนเทือกเขาแอลป์แล้ว Haflinger คือตัวแทนแห่งการมีชีวิต
Cr.waywarddaughterband.com/ toptenthailand.com
Percheron
ม้า Percheron ที่มีความสง่างามอย่างมาก มีรูปร่างสูงใหญ่ และยังเป็นม้าที่ดูแข็งแรงทรงพลัง เป็นม้าจากภาคตะวันตกของฝรั่งเศส
สายพันธุ์ Percheron มีประวัติต้นกำเนิดที่ค่อนข้างน่าสนใจ ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ของนักเพาะพันธุ์ม้าและนักวิทยาศาสตร์ มีความคิดเห็นที่ค่อนข้างขัดแย้งกัน หนึ่งคือมันเป็นลูกหลานของม้าฝรั่งเศสโบราณ ความคิดเห็นที่สองบอกว่าเป็นสายพันธุ์ใหม่ ยังมีอีกหลายทฤษฎีเกี่ยวกับต้นกำเนิดของพวกมัน ต่อมาในช่วงปี ค.ศ. 1800 รัฐบาลฝรั่งเศสได้พัฒนาสายพันธุ์นี้ขึ้นเพื่อใช้เป็นม้าโคบาล
ความจริงมันเป็นที่รู้จักในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 มันเป็นม้าของอัศวินที่ถือว่าเป็นบรรพบุรุษโดยตรงของสายพันธุ์ Percheron มีความสง่างามอย่างมาก มีรูปร่างสูงใหญ่ และทรงพลัง มีความแข็งแรง แข็งแกร่งมากและ มีความอดทนอย่างไม่น่าเชื่อ
Cr.todoinfor.com/
Friesian
เป็นม้าที่มีแหล่งกำเนิดที่ประเทศ เนเธอร์แลนด์ หรือ ฮอลแลนด์หรือฮอลันดาในสมัยโบราณ มีลักษณะเด่นคือมีขนสีดำมันสนิทไม่มีสีอื่นแซม การวางเท้าเวลาทร็อทยกขาหน้าสูงมาก แลดูสวยงาม
อุปนิสัยนิ่งว่านอนสอนง่ายและติดไปทางค่อนข้างจะคึกคัก ร่างกายกำยำล่ำสัน สง่างามและแลดูปราดเปรียว ส่วนสูงมีตั้งแต่ 15 -17 แฮนด์ แผงขนคอหนาดกรวมทั้งขนหน้าผาก หางยาวแตะพื้น ข้อเท้ามีพู่ห้อยระย้าสวยงาม (feather )
ระหว่างยุคกลาง ม้าสายนี้เป็นที่ต้องการของทหาร เพราะต้องการเอาไปให้อัศวินที่ใส่เกราะเหล็กออกทำการรบ ความต้องการใช้ม้าในสงครามนั้นส่งจึงผลให้ม้าสายนี้เกือบสูญพันธุ์ไปหลายหน จนล่วงมาถึงในยุคปัจจุบันม้าพันธุ์นี้กลับเป็นที่นิยมนำมาขี่เล่น ใช้เทียมรถม้า และมีบ้างที่นำมาใช้ขี่แบบเดรสสาจ
บางกระแสเชื่อกันว่า ม้าสายนี้สืบทอดสายพันธุ์มาจากม้าจากป่าหรือป่าดำ Black Forest ของประเทศอังกฤษ โดยในยุคโรมันเรืองอำนาจ ได้มีการนำเข้าม้าบรรพบุรุษสายนี้ไปยังอังกฤษ ภายหลังก็ได้ผสมกับม้าพื้นเมืองของอังกฤษ เช่น ม้า ไชร์ ม้าไคล์เดสเดล ม้าพันธุ์เฟลโพนี่ และเดลโพนี่ และปล่อยทิ้งไว้ในป่า ภายหลังคนเห็นลักษณะดีก็เริ่มเอามาพัฒนาพันธุ์
Cr.xn--42c1dg3dbb0n.blogspot.com/
Rocky Mountain Horse
ม้าป่าสายพันธุ์แท้แห่งอเมริกาที่ได้รับการยืนยันเมื่อต้นศตวรรษที่ 20 หลังจากที่เคยคิดว่ามันได้สูญพันธุ์ไปจากอเมริกาแล้วในช่วงศตวรรษที่ 19 แต่จากการค้นพบม้าฝูงใหม่ในรัฐเคนตักกี้ ที่มีลักษณะสีพิเศษที่ไม่พบในม้าชนิดใดในโลกนั่นคือสีแชมเปญโดดเด่นสะดุดตา จึงทำให้อเมริกันชนเริ่มต้นโครงการขยายพันธุ์ Rocky Mountain เพื่อปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ และนำม้าบางส่วนมีฝึกเพื่อใช้งานในปศุสัตว์ และทำให้พวกมันเริ่มมีสีใหม่ๆ มากขึ้น เช่น สีช็อคโกแลต สี chestnut และสี cremello หรือบางครั้งก็เป็นกลุ่มสีดังกล่าวกระจายอยู่ทั่วตัว
ม้า Rocky Mountain Horse เป็นม้าที่มีรูปทรงดูสง่างาม แผงขนสวย หางเป็นพวง นักลักษณะที่สมส่วนพร้อมอวดโฉมที่มีความคล่องตัวสูง
ถึงจะชื่อว่าม้าภูเขาร็อคกี้ แต่จริงๆแล้วมีต้นกำเนิดมาจากรัฐ Kentucky
Cr.toptenthailand.com/
Thoroughbred
สำหรับสายพันธุ์นี้ หากแปลความหมายก็คือม้าที่เกิดจากการผสมพันธุ์ของม้าสายพันธุ์พื้นเมืองทั่วไป ไม่ได้เป็นม้าพันธุ์แท้ตามสายเลือด ลักษณะของม้าประเภทนี้ก็คือ รูปร่างสูง กำยำ เพรียวแน่นกล้ามเนื้อชัดเจน ขายาวแต่เรียวเล็ก มักจะเป็นม้าที่มีสีเดียวตลอดทั้งตัว อย่างสีน้ำตาลเป็นต้น
ม้าสายพันธุ์นี้มักจะถูกเลี้ยงเพื่อให้ลงสนามแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันด้านความเร็ว และก้าวข้ามสิ่งกีดขวาง ไม่นิยมเอาไปแข่งประเภทสวยงาม
และมักจะเอาไปพัฒนาสายพันธุ์ร่วมกับม้าพื้นเมืองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากม้านี้เดิมทีก็เป็นม้าพื้นเมืองอยู่แล้วทำให้การพัฒนาสายพันธุ์ทำได้ดีกว่า
ตามประวัติ ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 16-17 มีการนำม้าอาหรับไปผสมพันธุ์ข้ามไปจับคู่กับม้าพื้นเมืองที่เกาะอังกฤษ ซึ่งแม่ม้าที่เกาะอังกฤษนั้นเชื่อว่ามีบางตัวเป็นสายอาหรับด้วย จากนั้นก็ได้ผลผลิตมา ปรากฏว่าเป็นม้าที่ออกมาดีทีเดียว จึงแพร่พันธุ์ออกมาแล้วนิยมไปทั่วโลก จนถึงอเมริกาเหนือ, ออสเตรเลีย จนถึงญี่ปุ่น เชื่อกันว่าตอนนี้มีม้าสายพันธุ์ดังกล่าวกว่าแสนตัวทั่วโลก
Cr.haynet.net/
Arabian Horse
มีถิ่นกำเนิดอยู่ใน ดินแดนทะเลทรายแห่งอารเบีย ดินแดนที่พิสูจน์ธรรมชาติความทรหดของสายพันธุ์ที่มีต่อสภาวะแห้งแล้ง เป็นที่เลื่องลือในฐานะพาหนะอันแข็งแกร่งในสมรภูมิของชาวอาหรับ เชื่อกันว่า ม้าอารเบียน นั้น คงความเป็น “เลือดแท้” ที่เก่าแก่ที่สุดสายพันธุ์หนึ่งของโลก และยังคงความโดดเด่นทางพันธุกรรม มาไว้อย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน
ปรากฏหลักฐานว่า เริ่มถูกนำมาใช้งานเป็น “ม้าขี่” ในราว 1500 ปีก่อนคริสตกาล หากแต่ย้อนหลังไปกว่า 3500 ปีก่อน ม้าอารเบียน ได้รับการขนานนามไว้ว่า เป็น “ผู้สร้างกษัตริย์” ด้วยความที่พวกมันได้ถูกใช้เป็น ม้าเทียมพาหนะ รับใช้เหล่า ฟาโรต์ ยุคอิยิปต์โบราณในการศึกเผยแผ่อิทธิพลขยายดินแดน จนจวบสมัยที่จักรวรรดิโรมันเข้ายึดครอง แต่เรื่องราวอันเรื่องลือของ ม้าอารเบียน กลับมักจะเป็นองค์ประกอบสำคัญของชีวิตชาวเผ่าเร่ร่อนเบดูอีน ผู้เชี่ยวชาญ และรักษาความเป็น “เลือดแท้” ของสายพันธุ์ไว้อย่างเป็นเลิศ ที่ซึ่ง แม่ม้าอารเบียน นั้นเปรียบได้กับสมบัติล้ำค่าของตระกูล
ม้าอาราเบียน มีความกล้าหาญ อดทน ฉลาด ตื่นตัว และว่องไว (เชื่อกันว่า ม้าเซ็กเทา ม้าชั้นดี ฝีเท้าพันลี้ ขนสีแดงทั้งตัว ที่ได้ถูกใช้เป็นของกำนัลที่ ตั๋งโต๊ มอบให้ ลิโป้ เพื่อให้ยอมทรยศต่อพ่อบุญธรรม และต่อมาตกถึงมือ โจโฉ นำมากำนัลให้ กวนอู เพื่อหวังให้ทรยศ เล่าปี่ เชื่อกันว่า เป็นม้าอารเบียน จากดินแดนเปอร์เซีย* ที่มา- sextao.blogspot.com)
Cr.nattawut030942.blogspot.com/
Appaloosa / quarter horses
เป็นม้าพันธุ์ผสม ที่เกิดจากหลายสายพันธุ์ จุดเด่นของมันคือมีหลายสี และมีลายจุดๆ สีดำคล้ายลายเสือดาวบนพื้นขาว พวกเสปนนำม้าพวกนี้เข้าไปในเม็กซิโก และเท็กซัสตอนใต้ในช่วงปี 1600 กว่าๆ และมันกลายเป็นม้าป่าไปบางส่วนเมื่อถูกทอดทิ้ง เพราะสงครามและการต่อสู้กับคนท้องถิ่น พวกอินเดียนแดงก็จับไปใช้
พวกคาวบอยและทหารม้ายุคแรกๆ ดูถูกม้าแบบนี้ ไม่นิยมเพราะถือว่าสายพันธุ์ไม่บริสุทธิ์ แต่ม้าพวกนี้ทรหดอดทนและแสนรู้ ทำให้ตอนหลังก็มานิยมกัน เหมาะกับการเดินทางในที่ทรุกันดาน พวกอินเดียนแดงขี่มันได้เร็วโดยไม่ต้องมีเกือกม้า
ม้าควอเตอร์ ก็คือม้าหลายสายพันธุ์ในยุคตะวันตกที่มีการพัฒนาสายพันธุ์ให้วิ่งได้เร็วมากในระยะ 1/4 ไมล์ เพื่อใช้งานในการต้อนวัว เนื่องจากการต้อนวัวแตกฝูงให้เข้ากลุ่มมันจะใช้ระยะทางกันประมาณนี้ แต่ต้องกวดวัวให้ทันในระยะสั้น เพื่อไปดักหน้ามัน ม้าพวกนี้จะตัวเล็ก เตี้ยกว่าม้ายุโรปพันธุ์บริสุทธิ์ แต่มันจะคล่องตัวมาก วิ่งเลี้ยวซ้ายขวา ถอยหลังได้รวดเร็ว ตอบสนองกับคำสั่งได้เร็วมาก
Cr.cowboylifeandsong.com/
Gypsy Horse
Gypsy Vanner เป็นม้าในกลุ่มของม้าลากรถ ของชาวยิปซี แต่มีคนรู้เกี่ยวกับสายเลือดของม้าพันธุ์นี้น้อยมาก เนื่องจากมันเป็นความลับสุดยอดของเจ้าของสายพันธุ์ พฤศจิกายน 1996 ได้มีการกำหนดมาตรฐานสายพันธุ์ ม้าพันธุ์ยิปซี แวนเนอร์ โดยกำหนดจากความสูง ดังนี้
ถ้าความสูงน้อยกว่า 14 hands เรียกว่า มินิยิปซี ( Mini Gypsy )
ถ้าความสูงระหว่าง 14 - 15.2 hands เรียกว่า คราสสิคยิปซี ( Grand Gypsy )
ถ้าความสูงกว่า 15.2 hands เรียกว่า แกรนด์ยิปซี ( Grand Gypsy )
หมายเหตุ หน่วยวัด hand คือหน่วยวัดโบราณโดยใช้มือผู้ชาย โดยการกางนิ้วหัวแม่มือออกจนตั้งฉากกับฝ่ามือ แล้ววัดจากริมฝ่ามือถึงปลาย นิ้วหัวแม่มือ ( 10 เซ็นติเมตร )
โดยทั่วไปแล้ว มีสองสีเป็นแบบแต้มใหญ่สีดำ และแบบแต้มใหญ่สีออกสีแดงลูกวัว มีขนยาวตรงคล้ายเส้นไหม
ความยาวประมาณ 14 ถึง 17 hands ก้นใหญ่ ไหล่แข็งแรงด้วยรูปร่างที่สมส่วน การเดินการวิ่งที่สง่างาม จึงทำให้ม้า สายพันธุ์ยิปซีแวนเนอร์ เป็นม้า สวยที่สุดในโลก
Cr.board.postjung.com/
War Horse ถูกดัดแปลงมาจากวรรณกรรมสำหรับเด็กชื่อเดียวกันกับภาพยนตร์ของ Michael Morpurgo ซึ่งว่าด้วยเรื่องความรักความสัมพันธ์ฉันเพื่อนมิตรระหว่างเด็กหนุ่ม อัลเบิร์ต นาราค็อตต์ กับ ม้าโจอี้ ซึ่งมีอันต้องพลัดพรากจากกันในคราวที่ ม้าโจอี้ ถูกเกณฑ์ไปช่วยประเทศอังกฤษรบในสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยอัลเบิร์ตสัญญาว่าจะต้องหาโจอี้ให้พบในสักวันหนึ่ง
ผลงานกำกับโดย สตีเว่น สปีลเบิร์ก
Cr.a-bellamy.com/
สายพันธุ์ม้าแปลกตาและสวยงาม
ม้าสายพันธุ์นี้มีต้นกำเนิดมาจากมือง Achal ประเทศเติร์กเมนิสถานตั้งแต่เมื่อ 3,000 ปีที่แล้ว ถือได้ว่าเป็นม้าสายพันธุ์เก่าแก่อีกสายพันธุ์หนึ่ง
ลักษณะพิเศษของยอดอาชาสายพันธุ์นี้ก็คือ ขนที่มันเงาและสวยงาม ซึ่งโดยทั่วไปพวกมันจะมีขนสีเทา, ดำ, สีเม็ดเกาลัด แต่สีที่เรียกได้ว่ามีความพิเศษสุดๆ ก็คือขนที่ทองมันวาว ที่ดูคล้ายกับผ้าไหมราคาแพง
และด้วยความแข็งแรงบวกกับต้นกำเนิดที่มาจากแถบทะเลยทราย จึงทำให้เจ้าม้าสายพันธุ์นี้มีจุดเด่นอยู่ที่ความรวดเร็ว อดทน และสภาพร่างกายที่ยอดเยี่ยม รวมไปถึงท่าวิ่งเหยาะๆ ที่แสนสง่างามอันเป็นเอกลักษณ์
ความสวยงามของมันนั้นทำให้ได้รับการขนานนามจากชาวจีนว่า “ม้าที่มาจากสวรรค์” และนอกจากนี้ยังมีตำนานเล่าว่าม้าสายพันธุ์นี้ยังเคยถูกใช้เป็นพาหนะของเจงกีสข่านอีกด้วย
(ถ้าใครเคยอ่านมังกรหยกภาคก๊วยเจ๋ง ม้าเหงื่อโลหิตของก๊วยเจ๋ง คือม้าพันธุ์นี้นั่นเอง)
ด้วยความสวยงามและความหายากของมันนั้นทำให้เจ้าม้าสายพันธุ์นี้มีค่าตัวสูงถึง 10 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 300 ล้านบาท
Cr.catdumb.com/
Haflinger
หรือที่เรียกว่า Avelignese เป็นสายพันธุ์ของม้าที่พัฒนาขึ้นในออสเตรียและตอนเหนือของอิตาลีในช่วงปลายศตวรรษที่สิบเก้า มีความสง่า แข็งแรง ว่องไว Haflinger เป็นม้าที่มีขนที่แผงคอที่ยาวสลวย เหมือนเส้นผมของมนุษย์ ไม่สูงใหญ่มากและอยู่ในสภาพอากาศเย็น วิ่งบนหิมะได้ดี เป็นอีกหนึ่งสายพันธ์ที่สวยงาม
ล่าสุดมีการนำเสนอเรื่องราวของม้า Haflinger ชื่อว่า Storm เจ้าของม้ามีชื่อว่า Naomi Beckers อายุ 24 ปี อาศัยอยู่ใน Limburg ประเทศเนเธอร์แลนด์ ม้าของเธอได้รับการยกย่องให้เป็นม้าราพันเซล เนื่องจากมีแผงคอที่ยาว ราวกับเส้นผมของเจ้าหญิงราพันเซล
ในพื้นที่ราบสูงอย่างเทือกเขาแอลป์ Haflinger เป็นยอดอาชาที่เป็นเสมือนสายใยชีวิตของผู้คนในพื้นที่ เพราะไม่เพียงแต่ช่วยในการทำการเกษตร และขนส่งสินค้า แต่ขนที่สั้นและหนานุ่มยังสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องนุ่งห่มที่ปกป้องร่างกายจากความหนาวเย็นได้เป็นอย่างดี และยังมีนมกับเนื้อที่นำมาใช้เป็นอาหารในยามฉุกเฉิน สำหรับผู้คนบนเทือกเขาแอลป์แล้ว Haflinger คือตัวแทนแห่งการมีชีวิต
Cr.waywarddaughterband.com/ toptenthailand.com
Percheron
ม้า Percheron ที่มีความสง่างามอย่างมาก มีรูปร่างสูงใหญ่ และยังเป็นม้าที่ดูแข็งแรงทรงพลัง เป็นม้าจากภาคตะวันตกของฝรั่งเศส
สายพันธุ์ Percheron มีประวัติต้นกำเนิดที่ค่อนข้างน่าสนใจ ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ของนักเพาะพันธุ์ม้าและนักวิทยาศาสตร์ มีความคิดเห็นที่ค่อนข้างขัดแย้งกัน หนึ่งคือมันเป็นลูกหลานของม้าฝรั่งเศสโบราณ ความคิดเห็นที่สองบอกว่าเป็นสายพันธุ์ใหม่ ยังมีอีกหลายทฤษฎีเกี่ยวกับต้นกำเนิดของพวกมัน ต่อมาในช่วงปี ค.ศ. 1800 รัฐบาลฝรั่งเศสได้พัฒนาสายพันธุ์นี้ขึ้นเพื่อใช้เป็นม้าโคบาล
ความจริงมันเป็นที่รู้จักในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 มันเป็นม้าของอัศวินที่ถือว่าเป็นบรรพบุรุษโดยตรงของสายพันธุ์ Percheron มีความสง่างามอย่างมาก มีรูปร่างสูงใหญ่ และทรงพลัง มีความแข็งแรง แข็งแกร่งมากและ มีความอดทนอย่างไม่น่าเชื่อ
Cr.todoinfor.com/
Friesian
เป็นม้าที่มีแหล่งกำเนิดที่ประเทศ เนเธอร์แลนด์ หรือ ฮอลแลนด์หรือฮอลันดาในสมัยโบราณ มีลักษณะเด่นคือมีขนสีดำมันสนิทไม่มีสีอื่นแซม การวางเท้าเวลาทร็อทยกขาหน้าสูงมาก แลดูสวยงาม
อุปนิสัยนิ่งว่านอนสอนง่ายและติดไปทางค่อนข้างจะคึกคัก ร่างกายกำยำล่ำสัน สง่างามและแลดูปราดเปรียว ส่วนสูงมีตั้งแต่ 15 -17 แฮนด์ แผงขนคอหนาดกรวมทั้งขนหน้าผาก หางยาวแตะพื้น ข้อเท้ามีพู่ห้อยระย้าสวยงาม (feather )
ระหว่างยุคกลาง ม้าสายนี้เป็นที่ต้องการของทหาร เพราะต้องการเอาไปให้อัศวินที่ใส่เกราะเหล็กออกทำการรบ ความต้องการใช้ม้าในสงครามนั้นส่งจึงผลให้ม้าสายนี้เกือบสูญพันธุ์ไปหลายหน จนล่วงมาถึงในยุคปัจจุบันม้าพันธุ์นี้กลับเป็นที่นิยมนำมาขี่เล่น ใช้เทียมรถม้า และมีบ้างที่นำมาใช้ขี่แบบเดรสสาจ
บางกระแสเชื่อกันว่า ม้าสายนี้สืบทอดสายพันธุ์มาจากม้าจากป่าหรือป่าดำ Black Forest ของประเทศอังกฤษ โดยในยุคโรมันเรืองอำนาจ ได้มีการนำเข้าม้าบรรพบุรุษสายนี้ไปยังอังกฤษ ภายหลังก็ได้ผสมกับม้าพื้นเมืองของอังกฤษ เช่น ม้า ไชร์ ม้าไคล์เดสเดล ม้าพันธุ์เฟลโพนี่ และเดลโพนี่ และปล่อยทิ้งไว้ในป่า ภายหลังคนเห็นลักษณะดีก็เริ่มเอามาพัฒนาพันธุ์
Cr.xn--42c1dg3dbb0n.blogspot.com/
Rocky Mountain Horse
ม้าป่าสายพันธุ์แท้แห่งอเมริกาที่ได้รับการยืนยันเมื่อต้นศตวรรษที่ 20 หลังจากที่เคยคิดว่ามันได้สูญพันธุ์ไปจากอเมริกาแล้วในช่วงศตวรรษที่ 19 แต่จากการค้นพบม้าฝูงใหม่ในรัฐเคนตักกี้ ที่มีลักษณะสีพิเศษที่ไม่พบในม้าชนิดใดในโลกนั่นคือสีแชมเปญโดดเด่นสะดุดตา จึงทำให้อเมริกันชนเริ่มต้นโครงการขยายพันธุ์ Rocky Mountain เพื่อปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ และนำม้าบางส่วนมีฝึกเพื่อใช้งานในปศุสัตว์ และทำให้พวกมันเริ่มมีสีใหม่ๆ มากขึ้น เช่น สีช็อคโกแลต สี chestnut และสี cremello หรือบางครั้งก็เป็นกลุ่มสีดังกล่าวกระจายอยู่ทั่วตัว
ม้า Rocky Mountain Horse เป็นม้าที่มีรูปทรงดูสง่างาม แผงขนสวย หางเป็นพวง นักลักษณะที่สมส่วนพร้อมอวดโฉมที่มีความคล่องตัวสูง
ถึงจะชื่อว่าม้าภูเขาร็อคกี้ แต่จริงๆแล้วมีต้นกำเนิดมาจากรัฐ Kentucky
Cr.toptenthailand.com/
Thoroughbred
สำหรับสายพันธุ์นี้ หากแปลความหมายก็คือม้าที่เกิดจากการผสมพันธุ์ของม้าสายพันธุ์พื้นเมืองทั่วไป ไม่ได้เป็นม้าพันธุ์แท้ตามสายเลือด ลักษณะของม้าประเภทนี้ก็คือ รูปร่างสูง กำยำ เพรียวแน่นกล้ามเนื้อชัดเจน ขายาวแต่เรียวเล็ก มักจะเป็นม้าที่มีสีเดียวตลอดทั้งตัว อย่างสีน้ำตาลเป็นต้น
ม้าสายพันธุ์นี้มักจะถูกเลี้ยงเพื่อให้ลงสนามแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันด้านความเร็ว และก้าวข้ามสิ่งกีดขวาง ไม่นิยมเอาไปแข่งประเภทสวยงาม
และมักจะเอาไปพัฒนาสายพันธุ์ร่วมกับม้าพื้นเมืองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากม้านี้เดิมทีก็เป็นม้าพื้นเมืองอยู่แล้วทำให้การพัฒนาสายพันธุ์ทำได้ดีกว่า
ตามประวัติ ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 16-17 มีการนำม้าอาหรับไปผสมพันธุ์ข้ามไปจับคู่กับม้าพื้นเมืองที่เกาะอังกฤษ ซึ่งแม่ม้าที่เกาะอังกฤษนั้นเชื่อว่ามีบางตัวเป็นสายอาหรับด้วย จากนั้นก็ได้ผลผลิตมา ปรากฏว่าเป็นม้าที่ออกมาดีทีเดียว จึงแพร่พันธุ์ออกมาแล้วนิยมไปทั่วโลก จนถึงอเมริกาเหนือ, ออสเตรเลีย จนถึงญี่ปุ่น เชื่อกันว่าตอนนี้มีม้าสายพันธุ์ดังกล่าวกว่าแสนตัวทั่วโลก
Cr.haynet.net/
Arabian Horse
มีถิ่นกำเนิดอยู่ใน ดินแดนทะเลทรายแห่งอารเบีย ดินแดนที่พิสูจน์ธรรมชาติความทรหดของสายพันธุ์ที่มีต่อสภาวะแห้งแล้ง เป็นที่เลื่องลือในฐานะพาหนะอันแข็งแกร่งในสมรภูมิของชาวอาหรับ เชื่อกันว่า ม้าอารเบียน นั้น คงความเป็น “เลือดแท้” ที่เก่าแก่ที่สุดสายพันธุ์หนึ่งของโลก และยังคงความโดดเด่นทางพันธุกรรม มาไว้อย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน
ปรากฏหลักฐานว่า เริ่มถูกนำมาใช้งานเป็น “ม้าขี่” ในราว 1500 ปีก่อนคริสตกาล หากแต่ย้อนหลังไปกว่า 3500 ปีก่อน ม้าอารเบียน ได้รับการขนานนามไว้ว่า เป็น “ผู้สร้างกษัตริย์” ด้วยความที่พวกมันได้ถูกใช้เป็น ม้าเทียมพาหนะ รับใช้เหล่า ฟาโรต์ ยุคอิยิปต์โบราณในการศึกเผยแผ่อิทธิพลขยายดินแดน จนจวบสมัยที่จักรวรรดิโรมันเข้ายึดครอง แต่เรื่องราวอันเรื่องลือของ ม้าอารเบียน กลับมักจะเป็นองค์ประกอบสำคัญของชีวิตชาวเผ่าเร่ร่อนเบดูอีน ผู้เชี่ยวชาญ และรักษาความเป็น “เลือดแท้” ของสายพันธุ์ไว้อย่างเป็นเลิศ ที่ซึ่ง แม่ม้าอารเบียน นั้นเปรียบได้กับสมบัติล้ำค่าของตระกูล
ม้าอาราเบียน มีความกล้าหาญ อดทน ฉลาด ตื่นตัว และว่องไว (เชื่อกันว่า ม้าเซ็กเทา ม้าชั้นดี ฝีเท้าพันลี้ ขนสีแดงทั้งตัว ที่ได้ถูกใช้เป็นของกำนัลที่ ตั๋งโต๊ มอบให้ ลิโป้ เพื่อให้ยอมทรยศต่อพ่อบุญธรรม และต่อมาตกถึงมือ โจโฉ นำมากำนัลให้ กวนอู เพื่อหวังให้ทรยศ เล่าปี่ เชื่อกันว่า เป็นม้าอารเบียน จากดินแดนเปอร์เซีย* ที่มา- sextao.blogspot.com)
Cr.nattawut030942.blogspot.com/
Appaloosa / quarter horses
เป็นม้าพันธุ์ผสม ที่เกิดจากหลายสายพันธุ์ จุดเด่นของมันคือมีหลายสี และมีลายจุดๆ สีดำคล้ายลายเสือดาวบนพื้นขาว พวกเสปนนำม้าพวกนี้เข้าไปในเม็กซิโก และเท็กซัสตอนใต้ในช่วงปี 1600 กว่าๆ และมันกลายเป็นม้าป่าไปบางส่วนเมื่อถูกทอดทิ้ง เพราะสงครามและการต่อสู้กับคนท้องถิ่น พวกอินเดียนแดงก็จับไปใช้
พวกคาวบอยและทหารม้ายุคแรกๆ ดูถูกม้าแบบนี้ ไม่นิยมเพราะถือว่าสายพันธุ์ไม่บริสุทธิ์ แต่ม้าพวกนี้ทรหดอดทนและแสนรู้ ทำให้ตอนหลังก็มานิยมกัน เหมาะกับการเดินทางในที่ทรุกันดาน พวกอินเดียนแดงขี่มันได้เร็วโดยไม่ต้องมีเกือกม้า
ม้าควอเตอร์ ก็คือม้าหลายสายพันธุ์ในยุคตะวันตกที่มีการพัฒนาสายพันธุ์ให้วิ่งได้เร็วมากในระยะ 1/4 ไมล์ เพื่อใช้งานในการต้อนวัว เนื่องจากการต้อนวัวแตกฝูงให้เข้ากลุ่มมันจะใช้ระยะทางกันประมาณนี้ แต่ต้องกวดวัวให้ทันในระยะสั้น เพื่อไปดักหน้ามัน ม้าพวกนี้จะตัวเล็ก เตี้ยกว่าม้ายุโรปพันธุ์บริสุทธิ์ แต่มันจะคล่องตัวมาก วิ่งเลี้ยวซ้ายขวา ถอยหลังได้รวดเร็ว ตอบสนองกับคำสั่งได้เร็วมาก
Cr.cowboylifeandsong.com/
Gypsy Horse
Gypsy Vanner เป็นม้าในกลุ่มของม้าลากรถ ของชาวยิปซี แต่มีคนรู้เกี่ยวกับสายเลือดของม้าพันธุ์นี้น้อยมาก เนื่องจากมันเป็นความลับสุดยอดของเจ้าของสายพันธุ์ พฤศจิกายน 1996 ได้มีการกำหนดมาตรฐานสายพันธุ์ ม้าพันธุ์ยิปซี แวนเนอร์ โดยกำหนดจากความสูง ดังนี้
ถ้าความสูงน้อยกว่า 14 hands เรียกว่า มินิยิปซี ( Mini Gypsy )
ถ้าความสูงระหว่าง 14 - 15.2 hands เรียกว่า คราสสิคยิปซี ( Grand Gypsy )
ถ้าความสูงกว่า 15.2 hands เรียกว่า แกรนด์ยิปซี ( Grand Gypsy )
หมายเหตุ หน่วยวัด hand คือหน่วยวัดโบราณโดยใช้มือผู้ชาย โดยการกางนิ้วหัวแม่มือออกจนตั้งฉากกับฝ่ามือ แล้ววัดจากริมฝ่ามือถึงปลาย นิ้วหัวแม่มือ ( 10 เซ็นติเมตร )
โดยทั่วไปแล้ว มีสองสีเป็นแบบแต้มใหญ่สีดำ และแบบแต้มใหญ่สีออกสีแดงลูกวัว มีขนยาวตรงคล้ายเส้นไหม
ความยาวประมาณ 14 ถึง 17 hands ก้นใหญ่ ไหล่แข็งแรงด้วยรูปร่างที่สมส่วน การเดินการวิ่งที่สง่างาม จึงทำให้ม้า สายพันธุ์ยิปซีแวนเนอร์ เป็นม้า สวยที่สุดในโลก
Cr.board.postjung.com/
War Horse ถูกดัดแปลงมาจากวรรณกรรมสำหรับเด็กชื่อเดียวกันกับภาพยนตร์ของ Michael Morpurgo ซึ่งว่าด้วยเรื่องความรักความสัมพันธ์ฉันเพื่อนมิตรระหว่างเด็กหนุ่ม อัลเบิร์ต นาราค็อตต์ กับ ม้าโจอี้ ซึ่งมีอันต้องพลัดพรากจากกันในคราวที่ ม้าโจอี้ ถูกเกณฑ์ไปช่วยประเทศอังกฤษรบในสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยอัลเบิร์ตสัญญาว่าจะต้องหาโจอี้ให้พบในสักวันหนึ่ง
ผลงานกำกับโดย สตีเว่น สปีลเบิร์ก
Cr.a-bellamy.com/