อยากขอความเห็นค่ะ อายุ 30 แล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกทำงานสายไหนดีค่ะ

ยาวหน่อยนะคะ...


เรื่องมีอยู่ว่า เราว่าจบป.ตรี รัฐศาสตร์ จาก ม.รัฐแห่งหนึ่งในกรุงเทพค่ะ


ตอนแรกที่จบมาใหม่ๆ ก็ทำงานทางด้าน HR ได้ 4 เดือน ก็ลาออกมาเป็นเซลล์ค่ะ


ที่ตอนนั้นเลือกมาเป็นเซลล์ เพราะคิดว่าเงินเยอะค่ะ แล้วก็น่าจะสนุกดีที่ได้เจอคนเยอะ


เป็นเซลล์ขายบ้านค่ะ ถ้ารวมๆก็ทำมาทั้งหมดประมาณ 6 ปีได้ค่ะ


แต่ที่ล่าสุดทำมาประมาณ 3 ปีกว่าๆค่ะ สวัสดิการก็ค่อนข้างดีในระดับนึง แต่กฎเหล็กคือ ห้ามหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ เด็ดขาด


มีฐานเงินเดือนให้ค่ะ เงินเดือน 28,000 บาท (ยังไม่รวมคอมมิชชั่นนะคะ แต่ค่าคอมฯไม่เยอะค่ะ รวมๆก็ได้ประมาณ 30,000 กว่าบาท)


ทีนี้เรามีปัญหากับหัวหน้า และผู้จัดการค่ะ คือเหมือนเค้าไม่ค่อยชอบเรา แบบไม่ถูกชะตา อะไรทำนองนี้ (แต่ ผอ. โอเคกะเราอยู่นะ เพราะเค้าเป็นคนรับเราเข้ามาเอง เราเข้ามาทำงานก่อนหัวหน้ากับผู้จัดการค่ะ)


แล้วพอหัวหน้ากับผู้จัดการไม่ชอบเรา กลายเป็นว่าคนที่ไม่ใช่ทำอะไรก็ผิดค่ะ


เราจะโดนว่าตลอด ทั้งๆที่เพื่อนคนอื่นๆในทีมทำผิด แต่แทบไม่เคยโดนว่า (เพื่อนๆคนอื่นในทีมเป็นลูกน้องเก่าของหัวหน้ากับผู้จัดการ เค้าชักชวนกันมาทำงานที่นี่ค่ะ)


รวมถึงทั้งหัวหน้าและผู้จัดการ จะบี้ยอดเราหนักกว่าคนอื่นๆในทีมเลย ทั้งๆที่เราก็มียอดตลอด (ยอดขายอยู่ในระดับค่อนข้างดีค่ะ)


มันทำให้เราเครียดมากๆ อารมณ์อ่อนไหวด้วย แบบหงุดหงิดง่าย เวลาอยู่คนเดียวบางทีก็ร้องไห้


จนเมื่อก่อนจะลาออกได้ 2-3 เดือน มีเช้าวันนึงที่ตื่นมาแล้วก็ร้องไห้หนักมาก รวมไปถึงวางแผนคิดฆ่าตัวตาย ว่าจะตายแบบไหนดี


แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทำ เพราะร้องไห้จนเพลียหลับไป


เลยเริ่มรู้สึกว่าไม่ไหวแล้วล่ะ เราคงต้องหางานใหม่แล้วล่ะ เลยลองหางานใหม่ดู


ซึ่งแพลนไว้ว่าไม่อยากเป็นเซลล์แล้วค่ะ เพราะรู้สึกว่าตัวเองทนรับแรงกดดันไม่ไหวละ บวกกับอยากมีโอกาสหยุดวันเสาร์-อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์บ้าง


ก็พยายามหางานด้านเลขานุการ กับ HR (อย่างที่บอกไปตอนต้นค่ะ ว่าตอนจบใหม่ๆเคยทำงานด้าน HR เลยคิดว่าตัวเองน่าจะทำได้ค่ะ)


สมัครไปหลายที่มากๆ ไม่มีที่ไหนรับเลย เค้าให้เหตุผลเราว่า เราไม่เหมาะ แต่เราคิดว่าอาจเพราะเราเรียกเงินเดือนสูงด้วย คือเงินเดือนที่ต้องการไปประมาณ 20,000


แล้วก็มีเพื่อนมาชวนไปทำงานเป็นเซลล์ขายรถยนต์ค่ะ เพื่อนบอกว่าแบรนด์นี้กำลังมาแรง (แบรนด์ที่ซีพีเป็นเจ้าของอ่ะค่ะ)


เพื่อนบอกแบรนด์นี้ขายง่ายมากๆ เพื่อนเพิ่งมาทำได้ไม่นานก็มียอดจองรถเยอะเลย ได้ปล่อยรถหลายคันแล้ว


ใจตอนนั้นก็ไม่อยากเป็นเซลล์แล้วนะคะ แต่อยากไปให้พ้นๆจากตรงนั้น


เลยตัดสินใจลาออก แต่ไม่ได้แจ้งไปตรงๆ ว่าจะไปขายรถ เพราะไม่อยากให้เค้ามาดูถูก ว่างานขายรถไม่ดี ไม่มีเงินเดือน


เราอ้างว่าจะไปทำงานกับเพื่อน มีเพื่อนสนิทเปิดบริษัท และเพื่อนมีบุญคุณกับครอบครัว ยังไงก็ต้องไปทำงานกับเพื่อน


พอไปขายรถยนต์ มันยากมากๆค่ะ แตกต่างจากงานขายบ้านเลย


งานขายรถนี้เป็นลักษณะฟรีแลนซ์ค่ะ คือไม่มีเงินเดือน จะมีแค่ค่าคอมมิชชั่นอย่างเดียว


ด้วยความที่ขายไม่ได้ เราก็ต้องเอาเงินเก็บที่มีอันน้อยนิดออกมาใช้ (สาเหตุที่เงินเก็บน้อย เพราะต้องรับช่วงต่อในการใช้หนี้แทนพ่อแม่ค่ะ)


ใช้เงินเก็บจนหมดเลยค่ะ รวมถึงหนี้สินบางตัวก็ต้องค้างชำระไว้ก่อน (จนเค้าจะฟ้องแล้วค่ะ)


แฟนที่อยู่ด้วยกันก็ต้องให้เงินเราใช้ทุกวัน เพราะเราไม่มีเงินเลย


จนแฟนบอกให้เลิกขายรถได้แล้ว ไปหางานอย่างอื่นทำเถอะ ไปหางานเป็นงานแอดมินที่เงินเดือน 15,000 บาท ก็ยังจะดีกว่า


ก็ทำตามที่แฟนบอกนะคะ มีสมัครงานแอดมิน กับ HR ไปบ้างแล้วในเว็บ job ต่างๆ (เรียกเงินเดือนไว้แค่ 18,000 ค่ะ) ก็ยังเงียบๆอยู่ ยังไม่มีโทรมาเรียกไปสัมภาษณ์ค่ะ


แล้วก็มีโทรไปถามพี่ฝ่ายอื่นในที่ทำงานเก่า(ที่ลาออกมา)ว่ามีรับสมัครแอดมินมั๊ย เค้าก็ถามว่าเอาจริงหรอ เงินน้อยนะ แค่ 15,000 บาทเอง


ถ้าจะทำจริงๆ พี่เค้าจะเกริ่นๆกับหัวหน้าของเค้าให้ แต่ตอนนี้มันเต็ม ยังไม่เปิดรับ


เราตอบไปว่าเอาจริงๆค่ะ เพราะไม่อยากเป็นเซลล์แล้วมันกดดัน


แต่พอมาคิดอีกที เราก็อายุตั้ง 30 แล้ว จะไปทำงานเงินเดือนแค่นั้นจริงๆหรอ


ทีนี้น้องที่ทำงานเก่า ไลน์มาบอกว่าที่เก่ารับสมัครเซลล์ขายบ้านอยู่นะ ถ้าพี่สนใจพี่ก็โทรหาหัวหน้าเลย น้องบอกว่าเค้าน่าจะรับ เพราะเค้าเคยเห็นการทำงานของเรามาแล้ว


แต่เราก็มานึกถึงตอนที่เคยเกิดเรื่องต่างๆ ตอนทำงานที่เก่า


มันทำให้สับสนไปหมดเลยค่ะ ใจนึงก็เสียดายเงินเดือน 20,000 ปลายๆ (เคยลองหางานเซลล์ขายบ้านที่อื่นแล้วค่ะ แต่ให้เงินเดือนไม่สูงเท่าที่นี่)


อีกใจก็ไม่อยากเป็นเซลล์แล้ว เพราะงานก็ค่อนข้างกดดันมากๆ


ตอนนี้ภาระหนี้ก็มาจ่อรอแล้ว คงต้องรีบตัดสินใจว่าจะเอาไงต่อไป


จากทั้งหมดที่เล่ามา... เพื่อนๆ พี่ไ จะตัดสินใจกันยังไงคะ


จะเลือกกลับไปสมัครงานขายบ้านที่ในบริษัทที่เคยลาออกมา


หรือจะเลือกไปทำงานทางด้านแอดมิน หรือ HR ที่ไม่ต้องรับแรงกดดันหนักเท่า Sales ดีค่ะ



ปล. 1 ขอบคุณที่อ่านมาจนจบถึงตรงนี้นะคะ
ปล. 2 ไม่มีรถยนต์ส่วนตัวค่ะ เลยไม่กล้าและไม่สามารถหางานเซลล์ที่ต้องวิ่งงานได้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่