ตามหัวข้อเลยค่ะ คือไม่เชิงเถียง แต่เป็นการโต้กัน เรื่องก็คือ แม่จะถวายข้าวพระในห้องพระกับตรงต้นไม้ทุกวันจันทร์และวันพระใหญ่ แล้วทีนี้มดมันก็มาขึ้นอาหารที่ถวายทุกครั้ง (เค้าถวายอาหารคาว อาหารหวาน ข้าวสวย ผลไม้ ดอกไม้ กับน้ำเย็นค่ะ ทำมานานมากตั้งแต่เราเกิดแล้ว) ด้วยความรำคาญ พ่อก็เลยบ่น ๆ ๆ แล้วก็พูดว่าธรรมเนียมปฏิบัตินี้เนี่ยมันไม่ใช่ของเถรวาท จะถวายทำไม ถวายให้มดกินหรือไง บลา ๆ ๆ ประมาณนี้ อ่อ..นี่แค่บ่นนะคะ ไม่ได้ทะเลาะ ส่วนแม่ก็เถียงสวนไปว่าชั้นบูชาเทวดาที่มาอาศัยอยู่ในพระพุทธรูปกับเจ้าที่ แล้วอีกอย่างพระพุทธเจ้าก็นิพพานเป็น ไม่ใช่นิพพานตาย ท่านไปอยู่ในอายตนนิพพานเรียกว่าพุทธเกษตร พี่ไม่ต้องมายุ่ง ส่วนพ่อเรา ด้วยความที่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยแล้วสอนปรัชญา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แต่แม่เราก็จบดร.เหมือนกันน่ะ เป็นคนธรรมะธัมโมด้วย
เค้าก็ไม่เห็นด้วยและมองว่าไร้สาระค่ะ เพราะพระพุทธเจ้านิพพานตายต่างหาก บูชาไปก็ไม่มีประโยชน์ มีแต่เป็นอาหารของมดกับกระรอก <<อันนี้เราเห็นด้วยนะ ซึ่งเราก็อธิบายให้แม่ฟังว่าที่ทำอยู่น่ะคือมหายาน เราเป็นเถรวาทนะ เค้าก็เบนประเด็นไป แล้วบอกเราว่าเค้าบูชาพระภูมิเจ้าที่กับเทวดาที่สถิตอยู่ในพระพุทธรูปกับต้นไม้ จะได้คุ้มครองพวกเรากับบ้าน เราจะได้โชคดีเจริญ ๆ เค้าผิดตรงไหน เราก็เลยบอกไปว่า ฝรั่งหรือคนที่นับถือศาสนาอื่น แม้แต่พวกที่ไม่มีศาสนาก็ไม่ได้บูชาข้าวพระนะ แล้วทำไมเค้าเจริญแล้วพัฒนากว่าเราหล่ะ จากนั้นเค้าก็จะวนลูปเดิมอยู่ตลอด คือย้ำว่าเค้าแค่บูชาเทวดา ขอเถอะ อะไรประมาณนี้ เอาจริง ๆ ประเด็นนี้เราไม่แน่ใจค่ะ เพราะเราไม่เคยเห็นกายละเอียดเลยในชีวิต อยากทราบเหมือนกันว่าจริง ๆ แล้วของแบบนี้มันมีจริง ๆ ใช่มั้ย หมายถึงเทวดากับเจ้าที่ที่อยู่ในพระพุทธรูปในบ้านอ่ะค่ะ แล้วเราควรจะอธิบายยังไงให้แม่เข้าใจ คือมันก็ยากที่จะให้เค้าเลิก เพราะเค้าทำตรงนี้มานานมากแล้ว
อีกประเด็นคือบูชาข้าวพระพุทธไม่มีในเถรวาท พระพุทธรูปเองก็ไม่เคยมีในสมัยพุทธกาล แต่ในมหายานนี่มีแน่ ๆ พินอินเรียกว่า “Shang Gong” ใน “อวตังสกสูตร” ปณิธานข้อที่ 3 ของพระสมันตภัทรโพธิสัตว์ คือจะต้องสักการบูชาพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ (ด้วยของ 5 อย่าง) ส่วนวัดที่บูชาข้าวพระที่ทำเป็นพิธีใหญ่โต ทำกันเป็นล่ำเป็นสันก็เห็นจะมีวัดพระธรรมกายนี่แหละ แต่พอมานึกอีกทีวัดอื่น ๆ เค้าก็ทำเหมือนกันจนมันกลายเป็นพิธีกรรมที่จำเป็นต้องทำโดยปริยาย ตกลงมันคือธรรมเนียมประเพณีของประเทศเราไปแล้ว เลิกทำก็ไม่ได้แล้วใช่มั้ย..
พ่อกับแม่เถียงกันเรื่องบูชาข้าวพระพุทธ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เค้าก็ไม่เห็นด้วยและมองว่าไร้สาระค่ะ เพราะพระพุทธเจ้านิพพานตายต่างหาก บูชาไปก็ไม่มีประโยชน์ มีแต่เป็นอาหารของมดกับกระรอก <<อันนี้เราเห็นด้วยนะ ซึ่งเราก็อธิบายให้แม่ฟังว่าที่ทำอยู่น่ะคือมหายาน เราเป็นเถรวาทนะ เค้าก็เบนประเด็นไป แล้วบอกเราว่าเค้าบูชาพระภูมิเจ้าที่กับเทวดาที่สถิตอยู่ในพระพุทธรูปกับต้นไม้ จะได้คุ้มครองพวกเรากับบ้าน เราจะได้โชคดีเจริญ ๆ เค้าผิดตรงไหน เราก็เลยบอกไปว่า ฝรั่งหรือคนที่นับถือศาสนาอื่น แม้แต่พวกที่ไม่มีศาสนาก็ไม่ได้บูชาข้าวพระนะ แล้วทำไมเค้าเจริญแล้วพัฒนากว่าเราหล่ะ จากนั้นเค้าก็จะวนลูปเดิมอยู่ตลอด คือย้ำว่าเค้าแค่บูชาเทวดา ขอเถอะ อะไรประมาณนี้ เอาจริง ๆ ประเด็นนี้เราไม่แน่ใจค่ะ เพราะเราไม่เคยเห็นกายละเอียดเลยในชีวิต อยากทราบเหมือนกันว่าจริง ๆ แล้วของแบบนี้มันมีจริง ๆ ใช่มั้ย หมายถึงเทวดากับเจ้าที่ที่อยู่ในพระพุทธรูปในบ้านอ่ะค่ะ แล้วเราควรจะอธิบายยังไงให้แม่เข้าใจ คือมันก็ยากที่จะให้เค้าเลิก เพราะเค้าทำตรงนี้มานานมากแล้ว
อีกประเด็นคือบูชาข้าวพระพุทธไม่มีในเถรวาท พระพุทธรูปเองก็ไม่เคยมีในสมัยพุทธกาล แต่ในมหายานนี่มีแน่ ๆ พินอินเรียกว่า “Shang Gong” ใน “อวตังสกสูตร” ปณิธานข้อที่ 3 ของพระสมันตภัทรโพธิสัตว์ คือจะต้องสักการบูชาพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ (ด้วยของ 5 อย่าง) ส่วนวัดที่บูชาข้าวพระที่ทำเป็นพิธีใหญ่โต ทำกันเป็นล่ำเป็นสันก็เห็นจะมีวัดพระธรรมกายนี่แหละ แต่พอมานึกอีกทีวัดอื่น ๆ เค้าก็ทำเหมือนกันจนมันกลายเป็นพิธีกรรมที่จำเป็นต้องทำโดยปริยาย ตกลงมันคือธรรมเนียมประเพณีของประเทศเราไปแล้ว เลิกทำก็ไม่ได้แล้วใช่มั้ย..