“ลับแล เมืองห้ามพูดโกหก” เมืองลับแล เมืองน่าอยู่ ไปแล้วหลงรัก จริง ๆ น๊า ไม่โกหก ;) ซึ่งทริปนี้เริ่มออกเดินทางโดยรถยนต์จากจังหวัดพิษณุโลกตั้งแต่เช้า ถึง อ.ลับแลก็ปาไปเกือบเที่ยงเลยล่ะ แหะ ๆ - - -
เริ่มเช็คอินจากสถานที่ที่ที่อยากไปมากกกกกก กอ.ไก่ ล้าน ๆ ตัว คือ วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง หรือวัดพระบรมธาตุ ตั้งอยู่ ต.ทุ่งยั้ง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 5 กิโลเมตร มีจุดไฮไลท์ที่น่าสนใจคือ วิหารหลวง สีน้ำเงินที่มีความสวยงดงาม ตระการตา ภายในประดิษฐานพระประธานปางมารวิชัยบนฐานชุกชี ซึ่งเป็นที่สักการะบูชาของชาวลับแลเป็นอย่างมาก
เดินทางกันต่อไปยัง วัดพระยืนพุทธบาทยุคล ซึ่งวัดนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาเต่า หรือเขาทอง บ้านพระแท่น ต.ทุ่งยั้ง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ติดอยู่กับวัดพระแท่นศิลาอาสน์ เพียงแค่อยู่คนละยอดเขาเท่านั้นเอง จึงจอดรถและเดินขึ้นบันไดนาคเพื่อไปยังมณฑป ซึ่งภายในประดิษฐานหลวงพ่อพุทธรังสี เป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ปางมารวิชัย และสักการะรอยพระพุทธบาทคู่ ที่เป็นเอกลักษณ์ของวัดพระยืนพุทธบาทยุคลอีกด้วย
หลังจากนั้นจึงขับรถต่อไปยัง วัดพระแท่นศิลาอาสน์ ซึ่งอยู่ใกล้กันนิดเดียว
ภายในมีมณฑปประดิษฐานพระแท่นศิลาอาสน์ ที่เชื่อกันว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาประทับบนพระแท่นแห่งนี้ ซึ่งลักษณะของพระแท่นเป็นศิลาแลงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ฐานของพระแท่นนั้นโดยรอบประดับด้วยลายกลีบบัว ด้วยชาวอุตรดิตถ์ให้ความสำคัญ และศรัทธาพระแท่นศิลาอาสน์เป็นอย่างมาก จึงทำให้จังหวัดใช้พระแท่นศิลาอาสน์เป็นตราสัญลักษณ์ประจำจังหวัดอุตรดิตถ์
นอกจากนี้ภายในวัด ยังมีพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ซึ่งเปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 08:00 - 17:00 น. ทางเดินเข้าพิพิธภัณฑ์ต้องบอกว่าได้ฟีลของธรรมชาติสุด ๆ เพราะบริเวณทางเดินประดับประดาด้วยดอกไม้ ต้นไม้ สมุนไพรนานาพรรณ ภายในพิพิธภัณฑ์ตกแต่งแบบล้านนา ชั้นล่างมีการจัดแสดงภาพเขียน ภาพถ่ายในอดีตของวัด มุมจัดแสดงชุดและผ้าไทยล้านนา และมีการจำหน่ายสินค้าจากชุมชน ส่วนชั้นบนนั้น จัดแสดงพระพุทธรูปเก่าแก่ และจัดแสดงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอุตรดิตถ์
ทริปสายบุญยังคงมุ่งหน้าต่อไปยังวัดดอนสัก ... บานประตูแห่งพุทธศาสนา ตั้งอยู่ ต.ฝายหลวง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ที่พลาดไม่ได้เลยคือ บานประตูวิหาร ที่เป็นไม้สักแกะสลักทั้งบาน เป็นรูปลายกนกก้านขด ที่มีความอ่อนช้อยสวยงาม และถือว่าเป็นบานประตูพุทธศาสนาที่มีความสำคัญและสวยงามที่สุด 1 ใน 3 คู่ของจังหวัดอุตรดิตถ์ด้วย บรรยากาศของที่นี่ เงียบสงบ เหมาะกับการแวะมาพักใจจริง ๆ เลย ^^
เวลาไล่ตามมาจนปาเข้าไปเกือบบ่ายสองแล้ว หิวน่ะสิ -- เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้อง......จึงตัดสินใจขับรถมุ่งไปยังร้านป้าหว่างหมี่พันลับแลที่เลื่องลือของ อ.ลับแล สั่งจัดหนักกันไปเลยทีเดียว อิ่มแปล้ในสนนที่ราคาย่อมเยา อร่อยถูกใจ แถมป้า ๆ เจ้าของร้าน น่ารัก เป็นกันเอง ใจดีสุด ๆ ใครมาลับแล พลาดแล้วจะเสียใจ
เมื่ออิ่มท้องแล้ว หนังตาก็หย่อน เอ้ย ยัง ๆ เรายังมีแรงไปกันต่อจ้า ก่อนจบทริปต้องไปจุดแลนด์มาร์คที่ใครไม่มา แสดงว่าคุณยังมาไม่ถึง เมืองลับแล นะจ๊ะ ซุ้มประตูเมืองลับแล ต้องถือว่าเป็นจุดแลนด์มาร์คที่สำคัญของ อ.ลับแลเลยล่ะ ข้างซุ้มประตูเมือง มีประติมากรรมแม่ม่ายเมืองลับแล ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองลับแล ไหน ๆ ก็ลงจากรถแล้ว อย่าลืมเดินแวะเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์เมืองลับแลกันด้วยนะจ๊ะ เป็นสถานที่รวบรวมเรื่องราวประวัติศาสตร์ของเมืองลับแล บอกเล่าวิถีชีวิตความเป็นอยู่ และขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมของคนเมืองลับแลให้ได้เรียนรู้กัน เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 09:00 - 16:00 น. ไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ค่ะ
เดินเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์เมืองลับแลกันอย่างจุใจ ก็ถึงเวลากลับก่อนนะ เมืองลับแล แล้วจะมาใหม่ เมื่อมีโอกาส ต้องบอกว่า คุ้มจริง ๆ ค่ะ ที่เลือกทริปมา อ.ลับแล นอกจากจะอิ่มบุญแล้ว ยังอิ่มท้อง อิ่มใจด้วยนะ คนที่นี่พูดจาน่าฟัง แถมใจดี น่ารัก สถานที่ที่นี่ สวยทุกที่เลย วันหยุดใครยังไม่ทริปไปไหน ไปลับแลได้นะจ๊ะ รับรอง ไปแล้วคุ้ม!!!
[CR] One Day Trip : 1 วัน กิน เที่ยวเมืองลับแล จ.อุตรดิตถ์
เริ่มเช็คอินจากสถานที่ที่ที่อยากไปมากกกกกก กอ.ไก่ ล้าน ๆ ตัว คือ วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง หรือวัดพระบรมธาตุ ตั้งอยู่ ต.ทุ่งยั้ง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 5 กิโลเมตร มีจุดไฮไลท์ที่น่าสนใจคือ วิหารหลวง สีน้ำเงินที่มีความสวยงดงาม ตระการตา ภายในประดิษฐานพระประธานปางมารวิชัยบนฐานชุกชี ซึ่งเป็นที่สักการะบูชาของชาวลับแลเป็นอย่างมาก
เดินทางกันต่อไปยัง วัดพระยืนพุทธบาทยุคล ซึ่งวัดนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาเต่า หรือเขาทอง บ้านพระแท่น ต.ทุ่งยั้ง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ติดอยู่กับวัดพระแท่นศิลาอาสน์ เพียงแค่อยู่คนละยอดเขาเท่านั้นเอง จึงจอดรถและเดินขึ้นบันไดนาคเพื่อไปยังมณฑป ซึ่งภายในประดิษฐานหลวงพ่อพุทธรังสี เป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ปางมารวิชัย และสักการะรอยพระพุทธบาทคู่ ที่เป็นเอกลักษณ์ของวัดพระยืนพุทธบาทยุคลอีกด้วย
หลังจากนั้นจึงขับรถต่อไปยัง วัดพระแท่นศิลาอาสน์ ซึ่งอยู่ใกล้กันนิดเดียว ภายในมีมณฑปประดิษฐานพระแท่นศิลาอาสน์ ที่เชื่อกันว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาประทับบนพระแท่นแห่งนี้ ซึ่งลักษณะของพระแท่นเป็นศิลาแลงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ฐานของพระแท่นนั้นโดยรอบประดับด้วยลายกลีบบัว ด้วยชาวอุตรดิตถ์ให้ความสำคัญ และศรัทธาพระแท่นศิลาอาสน์เป็นอย่างมาก จึงทำให้จังหวัดใช้พระแท่นศิลาอาสน์เป็นตราสัญลักษณ์ประจำจังหวัดอุตรดิตถ์
นอกจากนี้ภายในวัด ยังมีพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ซึ่งเปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 08:00 - 17:00 น. ทางเดินเข้าพิพิธภัณฑ์ต้องบอกว่าได้ฟีลของธรรมชาติสุด ๆ เพราะบริเวณทางเดินประดับประดาด้วยดอกไม้ ต้นไม้ สมุนไพรนานาพรรณ ภายในพิพิธภัณฑ์ตกแต่งแบบล้านนา ชั้นล่างมีการจัดแสดงภาพเขียน ภาพถ่ายในอดีตของวัด มุมจัดแสดงชุดและผ้าไทยล้านนา และมีการจำหน่ายสินค้าจากชุมชน ส่วนชั้นบนนั้น จัดแสดงพระพุทธรูปเก่าแก่ และจัดแสดงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอุตรดิตถ์
ทริปสายบุญยังคงมุ่งหน้าต่อไปยังวัดดอนสัก ... บานประตูแห่งพุทธศาสนา ตั้งอยู่ ต.ฝายหลวง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ที่พลาดไม่ได้เลยคือ บานประตูวิหาร ที่เป็นไม้สักแกะสลักทั้งบาน เป็นรูปลายกนกก้านขด ที่มีความอ่อนช้อยสวยงาม และถือว่าเป็นบานประตูพุทธศาสนาที่มีความสำคัญและสวยงามที่สุด 1 ใน 3 คู่ของจังหวัดอุตรดิตถ์ด้วย บรรยากาศของที่นี่ เงียบสงบ เหมาะกับการแวะมาพักใจจริง ๆ เลย ^^
เวลาไล่ตามมาจนปาเข้าไปเกือบบ่ายสองแล้ว หิวน่ะสิ -- เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้อง......จึงตัดสินใจขับรถมุ่งไปยังร้านป้าหว่างหมี่พันลับแลที่เลื่องลือของ อ.ลับแล สั่งจัดหนักกันไปเลยทีเดียว อิ่มแปล้ในสนนที่ราคาย่อมเยา อร่อยถูกใจ แถมป้า ๆ เจ้าของร้าน น่ารัก เป็นกันเอง ใจดีสุด ๆ ใครมาลับแล พลาดแล้วจะเสียใจ
เมื่ออิ่มท้องแล้ว หนังตาก็หย่อน เอ้ย ยัง ๆ เรายังมีแรงไปกันต่อจ้า ก่อนจบทริปต้องไปจุดแลนด์มาร์คที่ใครไม่มา แสดงว่าคุณยังมาไม่ถึง เมืองลับแล นะจ๊ะ ซุ้มประตูเมืองลับแล ต้องถือว่าเป็นจุดแลนด์มาร์คที่สำคัญของ อ.ลับแลเลยล่ะ ข้างซุ้มประตูเมือง มีประติมากรรมแม่ม่ายเมืองลับแล ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองลับแล ไหน ๆ ก็ลงจากรถแล้ว อย่าลืมเดินแวะเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์เมืองลับแลกันด้วยนะจ๊ะ เป็นสถานที่รวบรวมเรื่องราวประวัติศาสตร์ของเมืองลับแล บอกเล่าวิถีชีวิตความเป็นอยู่ และขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมของคนเมืองลับแลให้ได้เรียนรู้กัน เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 09:00 - 16:00 น. ไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ค่ะ
เดินเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์เมืองลับแลกันอย่างจุใจ ก็ถึงเวลากลับก่อนนะ เมืองลับแล แล้วจะมาใหม่ เมื่อมีโอกาส ต้องบอกว่า คุ้มจริง ๆ ค่ะ ที่เลือกทริปมา อ.ลับแล นอกจากจะอิ่มบุญแล้ว ยังอิ่มท้อง อิ่มใจด้วยนะ คนที่นี่พูดจาน่าฟัง แถมใจดี น่ารัก สถานที่ที่นี่ สวยทุกที่เลย วันหยุดใครยังไม่ทริปไปไหน ไปลับแลได้นะจ๊ะ รับรอง ไปแล้วคุ้ม!!!
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้