คันถธุระ วิปัสสนาธุระ แต่ว่าบางทีมักจะเรียกกันว่าทำวิปัสสนานั้น
ก็โดยที่ได้มีแสดงธุระ คือข้อที่จะพึงปฏิบัติไว้ 2 อย่าง คือ คันถธุระ และ วิปัสสนาธุระ
คันถธุระ
ธุระคือการเรียนพระคัมภีร์ อันได้แก่การเล่าเรียนศึกษาพระพุทธศาสนา
ดังที่มีการเล่าเรียนตามหลักสูตรของนักธรรมบาลี
หรือแม้ว่าการมาฟังธรรมบรรยายนี้ ก็ชื่อว่าเป็นคันถ-ธุระคือการเล่าเรียนพระคัมภีร์เช่นเดียวกัน
เพราะว่าการแสดงธรรมบรรยายก็แสดงไปตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
ที่เดิมผู้ฟังจำกันมา และต่อมาก็จารึกลงเป็นตัวอักษรในใบลานเป็นต้น
ตลอดจนถึงมาพิมพ์เป็นเล่มหนังสือดังที่ได้ใช้อ่านเล่าเรียนกันอยู่
แต่แม้เช่นนั้นก็จะต้องมีอาจารย์เป็นผู้บรรยายแสดงอธิบายประกอบอีกด้วย
การเล่าเรียนจึงใช้ตาใช้หู เดิมก็ใช้หูเป็นส่วนใหญ่
ในบัดนี้ก็ใช้ทั้งหูทั้งตา หูฟังตาอ่าน ก็เป็นคันถธุระ ธุระคือการเรียนพระคัมภีร์
วิปัสสนาธุระ
นั้นก็คือการปฏิบัติทำจิตตภาวนา หรือทำกรรมฐานนั้นเอง
ซึ่งก็มีทั้งฝ่ายสมถะทั้งฝ่ายวิปัสสนา ทั้งฝ่ายสมาธิทั้งฝ่ายปัญญา
แต่ว่ายกเอาวิปัสสนาเป็นประธาน เพราะว่า วิปัสสนาปัญญาเท่านั้นจึงจะกำจัดกิเลสได้เด็ดขาด
เป็นเหตุละกิเลสได้เป็นอย่างดี ลำพังสมาธิหรือสมถะนั้น ถ้าไม่มีปัญญาก็ยังละกิเลสไม่ได้เด็ดขาด
แต่แม้เช่นนั้นจะได้ปัญญาก็จะต้องมี
สมาธิเป็นบาท คือเป็นเท้าให้บรรลุถึงความสำเร็จ
เหมือนอย่างที่คนจะไปไหนก็ต้องมีเท้าสำหรับที่จะเดินไปให้ถึง
สมาธิก็เป็นบาทอันจะนำให้เกิดปัญญา และเมื่อเกิดปัญญาจึงจะเห็นธรรม
ปัญญาที่เห็นธรรมนี้เองเป็นตัวปัญญาที่เป็นส่วนผล
หรือเป็นตัวญาณคือความหยั่งรู้
อันเกิดมาจากการปฏิบัติทางวิปัสสนา โดยที่จะต้องมีสมาธิเป็นบาท
ฉะนั้น เมื่อกล่าวโดยย่อจึงยกเอาแต่
วิปัสสนาเพียงอย่างเดียว เรียกว่า วิปัสสนาธุระ ซึ่งก็จะต้องประกอบด้วย สมถะธุระ รวมอยู่ด้วย
คนที่สอนว่าไม่ต้องไปทำสมถะให้ทำวิปัสสนาอย่างเดียว อย่าไปเชื่อ
พวกนี้อ่านตำราจนหลงเชื่อตไราแต่ปฏิบัติไม่เป็น
คันถธุระ วิปัสสนาธุระ