[SR] รีวิวห้องอาหาร Scalini โรงแรม Hilton สุขุมวิท อร่อยกับ Saturday Brunch ล๊อปสเตอร์เป็นๆทานได้ไม่อั้น!

วันนี้ผมได้รับการรับเชิญจาก PR ของโรงแรม Hilton Sukhumvit Bangkok ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 24 โดยวันนี้เราจะเข้ามารีวิวห้องอาหาร Scalini ในเทศกาล Saturday Brunch จัดทุกวันเสาร์ บุฟเฟ่ต์เริ่มเวลา 12.30 - 15.00 น. ราคาท่านละ 2,400++ (ราคาสุทธิ 2,825 บาท) เด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบทานฟรี ส่วนอายุ 6 - 12 ปี จ่ายเพียงครึ่งราคา และโปรโมชั่นพิเศษ เพียงจองผ่าน Line@ ของทางโรงแรม ที่ลิงค์นี้ http://bit.ly/2ICqRPX ลดพิเศษเหลือเพียงท่านละ 2,400 บาทถ้วน (ราคานี้รวมน้ำเปล่าให้เรียบร้อยแล้ว) ห้องอาหารนี้สิ่งที่ขึ้นชื่อที่สุดนั่นก็คือ แคนาเดียนล๊อปสเตอร์แบบมีชีวิต เดินเล่นได้ในครัว สั่งให้ทานได้ไม่อั้น นอกจากนี้ยังมีไข่หอยเม่น คาร์เวียร์ ฟัวกรา ให้สั่งได้ทานไม่อั้นอีกด้วย ตอนแรกก็ว่าแพงนะสำหรับบุฟเฟ่ต์ราคานี้ แต่พอได้ยินวัตถุดิบต่างๆที่ทางโรงแรมนำมาเสิร์ฟในบุฟเฟ่ต์แล้ว ถือว่าสมเหตุสมผลครับ แต่คุณภาพจะดีอย่างที่เขาว่ากันมาหรือไม่ วันนี้เรามาชิมกันเลยครับ

เมื่อเข้ามาในโรงแรมแล้ว ให้ขึ้นมาที่ชั้น 2 ก็จะพบกับห้องอาหาร Scalini การตกแต่งที่นี่เน้นหนักไปในสไตล์ตะวันตก คล้ายกับร้านอาหารฝรั่งเก่าๆ มีให้เลือกนั่งทั้งโต๊ะไม้และโต๊ะหินอ่อน เก้าอี้เป็นทรงย้อนยุค มีทั้งแบบหุ้มหนังและแบบผ้าเล่นลายสีสันต่างๆ เลือกนั่งได้ทั้งมุมริมหน้าต่างและห้องไวน์ บรรยากาศค่อนข้างสลัว ใช้ไฟสีส้มทั้งห้องอาหาร บาร์อาหารก็เป็นเค้าท์เตอร์หินอ่อนสีดำทั้งหมด โดยรวมแล้วดูค่อนข้างเก่าแต่ยังคงความหรูหราอยู่ครับ

มาถึงทางห้องอาหารจะมี Welcome Drink มาให้กับลูกค้าคนละ 1 แก้ว เป็นม๊อกเทลโซดาที่ด้านล่างเป็นไซรัปกลิ่นสตรอเบอรี่มีความอมเปรี้ยวนิดๆ ตัดด้วยความกรอบของเนื้อแอปเปิ้ลและน้ำแข็งป่นด้านบน ช่วยทำให้สดชื่นดีครับ นอกจากราคาบุฟเฟ่ต์ที่เราบอกไปเบื้องต้นแล้ว หากใครต้องการทานเครื่องดื่มแบบพิเศษ ที่นี่ก็มีให้เลือกหลายแบบหลายราคา ทั้ง Non-Alcoholic 299++ / Beer Lover 499++ / Sparkle Wine 799++ และราคาแพงสุดสำหรับใครที่อยากทานเชมเปญไม่อั้นก็เพิ่มเงินอีก 1,399++ สั่งเป็น Flow Of Champagne และบุฟเฟ่ต์นี้ยังสามารถสั่ง Main Course ที่ไม่มีในไลน์บุฟเฟ่ต์ได้อีก 5 เมนู เดี๋ยวเราสั่งทุกอย่างอย่างละ 1 จานมารีวิวกันครับผม

เดินมาสำรวจไลน์อาหารเริ่มจากจุดแรกที่ใครๆต่างก็อยากพุ่งตรงมาทานที่ห้องอาหารนี้ แคนาเดียนล๊อปสเตอร์ตัวใหญ่แบบเป็นๆ ก้ามดิ้น/หนวดกระดิกให้เห็นว่าสดจริงๆไม่กำมะลอ และหอยนางรมระดับพรีเมี่ยมอย่าง Fin De Claire ตัวเล็กแต่หวานอร่อยกับ Irish West-Coast ที่เค็มน้ำทะเล เมื่อเราสั่งปุ๊บ (มีเลขโต๊ะสำหรับสั่งอาหารวางไว้ให้ที่โต๊ะ) เลือกได้เลยว่าจะเอาน้องกุ้งไปย่าง/นึ่ง/หรืออบชีส ส่วนหอยจะทานแบบไหน/กี่ตัว เชฟจะทำการปรุงให้เราเห็นที่ท้ายครัวไกลๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกสลับเอากุ้งตายมาให้เราทาน (ใครใจไม่แข็งพออย่ามาดูขั้นตอนนี้นะครับ)

โซนต่อมาข้างๆก็อลังการไม่แพ้กัน เป็นโซนวัตถุดิบสดคุณภาพระดับพรีเมี่ยมรวมรวมเอาไว้ทั้ง ซาชิมิปลาทูน่า/หอยเชลล์/ปลาแซลมอน ตักทานได้ไม่อั้น เนื้อทูน่าสับ/ปลาแซลมอนสับ/เนื้อหอยเชลล์สับ/เนื้อปลากระพงปรุงรสสับ/ไข่ปลาแซลมอน/ไข่หอยเม่นและคาร์เวียร์ แต่ที่เห็นนอกจากซาชิมิเนี่ย ไม่ใช่ว่าจะตักได้ตามใจนะครับ เป็นเมนูที่พนักงานจะทำการฉีดวิปครีมปรุงรสเอาไว้ด้านล่าง และให้เราเลือกท็อปปิ้งต่างๆใส่ลงในแก้วค๊อกเทลขนาดเล็ก ใส่ให้อย่างละนิดหน่อย เราพยายามสั่งแต่ของแพงอย่าง ไข่ปลาแซลมอน/ไข่หอยเม่น/คาร์เวียร์ในแก้วเดียว ถามว่าดีไหม ? คุณภาพวัตถุดิบที่ห้องอาหารนี้ถือว่าอยู่ในระดับใช้ได้ครับ ไม่ได้ว่าดีแบบที่ร้านซูชิใช้กันจริงๆ ต้องขอยอมรับว่า 3 วัตถุดิบที่ผมสั่งมา เคยทานที่คุณภาพดีกว่านี้มาก่อน แต่ก็อย่างว่าเป็น "บุฟเฟ่ต์" ต้องทำใจเผื่อก่อนมานิดนึง

น้ำจิ้มต่างๆสำหรับทานคู่กับอาหารทะเล/ซาชิมิก็มีให้เลือกทานแบบครบเครื่อง (ขาดแค่ยอดกระถินกับน้ำพริกเผา) ที่วางข้างกันนั้นเป็นหมูย่างเมืองตรัง มาแบบทั้งตัว โดยที่ทางโรงแรมบอกว่าหมูย่างตัวนี้ ได้นำขึ้นรถกระบะมาจากจังหวัดตรังทุกๆคืนวันศุกร์ ถึงที่นี่เช้าวันเสาร์ โดยวิธีการขนส่งแบบพิเศษ ที่ยังคงความกรอบของหนังหมู กลิ่นของเครื่องเทศ ความชุ่มฉ่ำของเนื้อและมันหมูเอาไว้อย่างเต็มที่ โดยเราสามารถสั่งเชฟได้เลยว่า อยากทานหมูตรงส่วนไหน เลือกทานได้กับน้ำจิ้ม 4 แบบคือ น้ำจิ้มซีฟู๊ด/ซีอิ๊วดำหวาน/บาร์บีคิว/และซอสแอปเปิ้ล นอกจากไลน์ของ สดที่บอกไปเบื้องต้นแล้ว หมูย่างเมืองตรังของที่นี่ก็ถือว่าเป็น The Best ที่มาแล้วต้องทานให้ได้เช่นเดียวกันครับ 

ข้างๆกันเป็น Seafood Fideua หรือพาสต้าแบบ Fideua ผัดซีฟู๊ดสไตล์สเปน ที่มีความหอมเนยและเครื่องซีฟู๊ดทานง่าย มาพร้อมเครื่องเคียงอย่างมันฝรั่งทอดและมันฝรั่งอบ ที่เห็นตรงหน้าก้อนสีดำนั่นคือเนื้อส่วนซี่โครงอบแบบรมควัน ด้านในสุกนุ่มสีอมชมพูกำลังดี สามารถสั่งกับเชฟให้ตัดเนื้อส่วนที่ต้องการ ใส่จานของเราได้ทันที เลือกทานได้กับ 4 ซอสคือ/ซอสเห็ด/ซอสพริกไทยสด/ซอสครีมเห็ดทรัฟเฟิลและซอสชีส Gorgonzola มีให้เยอะดีครับ

กลับหลังหันมาก็จะพบกับกุ้งแม่น้ำเผาที่เราตักได้เอง เสิร์ฟมาพร้อมเลมอน/น้ำส้มสายชู-หอมแดง/ซอสเพสโตและน้ำจิ้มซีฟู๊ด ข้างกันเป็นหม้อเครื่องเคียงและซุปทั้ง มันฝรั่งบด/เห็ดผัดเนย/ผักรวมย่าง/ซุปล๊อปสเตอร์เข้มข้น

โซนต่อมาเป็นสลัดพร้อมทาน มีให้เลือกทั้งหมด 4 เมนูได้แก่ Mixed Salad / Tomato Burrata / Fresh Tuna Salad / Chicken Caesar Salad พร้อมมุมขนมปัง ในถาดขนมปังที่เห็นนั้นมีเมนูนึงที่ทางห้องอาหารขอภูมิใจนำเสนอ เป็นขนมปังที่รสเค็ม หอมเนย ใส่มะเขือเทศอบแห้งด้านบน ให้ได้รสเค็ม/มันตัดเปรี้ยวเล็กน้อยช่วยลดความเลี่ยนได้อีกเยอะ ส่วนขนมปังตัวนี้ชื่อว่าอะไรนั้นรบกวนสอบถามกับห้องอาหารโดยตรงนะครับ ผมจำชื่อไม่ได้

มุมต่อมาเป็นชีสและ Cold Cut ที่มีให้เลือกอย่างหลากหลายและเยอะที่สุดเท่าที่เคยเจอมา ทั้ง Brie Cheese / Blue Cheese / Chili Cheese พร้อมองุ่นสด-ถั่ว-ผลไม้แห้งต่างๆสำหรับทานคู่กับชีส Chorizo / Smoked Salmon / Copa / Terrine / Parma Ham / Tuna Confit / White Anchovies In Vinegar พร้อมแตง กวาดอง-มะกอกเขียว-มะกอกดำ สำหรับไว้ทานกับเมนู Cold Cut ที่หลากหลาย ข้างๆกันเป็นเหมือนตู้ขายเนื้อที่โชว์ว่าเป็นเนื้อส่วนใด มาจากที่ไหน และราคาต่อ 1 เสิร์ฟ สอบถามทาง PR เนื้อในตู้นี้ สามารถสั่งเพื่อลิ้มรสเนื้อกันได้ตลอดเวลานะครับ เพราะห้องอาหารนี้มีเมนู A La Carte จำหน่ายด้วยเช่นกัน ซึ่งเนื้อพวกนี้มีอยู่ในเมนูครับผม

****** เกิน10,000 ตัวอักษรขอรีวิวต่อในช่อง Comment นะครับ ******
ชื่อสินค้า:   Scalini Saturday Brunch
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้าหรือบริการมาใช้รีวิวฟรี โดยไม่ต้องคืนสินค้าหรือบริการนั้น
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่