จขกทสงสัยว่าถ้าหลวงพ่อปราโมทย์ไม่ดีจริงอย่างที่กล่าวหา
1.ทำไมศิษย์อาวุโสของหลวงปู่ดูลย์ถึงต้องมาเยี่ยมเยียนที่วัดสวนสันติธรรมด้วย คืออันแรกองค์นึงน่าจะหลวงตาผนึกมาช่วยเหลือเรื่องสร้างสวนสันติธรรม อีกเรื่องศิษย์อาวุโสหลวงปู่ดูลย์อีกองค์มาเยี่ยมเยียนท่านถึงวัดสวนสันติธรรมเพื่อรับการอวยพรวันเกิด
2.ทำไมพระดีๆอย่างพระอาจารย์ไพศาล วิสาโลที่เด่นทั้งปฏิบัติและปริยัติถึงต้องออกมาปกป้อง(จะว่าพระอาจารย์ท่านไม่ใช่สายปฏบัติก็ไม่ได้เพราะท่านเรียนการภาวนาเจริญสติจากหลวงพ่อเทียนโดยตรง และพอสิ้นหลวงพ่อเทียนก็เรียนกับหลวงพ่อคำเขียนศิษย์อาวุโสหลวงพ่อเทียนอีก ทุกวันนี้ท่านก้เปิดสอนคนเจริญสติตามแนวทางของหลวงพ่อเทียน แถมจริยวัตร วินัยก็ไม่เคยบกพร่อง ได้รับรางวัลพระดีด้วย ที่สำคัญพระอาจารย์คลุกคลีกับหลวงพ่อปราโมทย์หลายครั้งพอสมควรทั้งในงานต่างๆทั้งหลวงพ่อปราโมทย์มาเยี่ยมสักการะหลวงพ่อคำเขียน) อีกอย่างทุกวันนี้ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโตสอนการปฏิบัติการภาวนาด้วยนะครับ ซึ่งหลวงพ่อคำเขียนก็เคยอยู่วัดป่าสุคะโตแล้วที่ผ่านมาก็ไม่ได้ปฏิเสธห้ามไม่ให้พระอาจารย์เป็นเจ้าอาวาส
3.ทำไมวัดสวนสันติธรรมถึงได้รับการมอบหมายให้จัดงานครบรอบ100ปี ชาตกาลหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต(ซึ่งหลวงปู่มั่นท่านได้ชื่อว่าเป็นพระมหาเถระผู้งดงามหมดจดทั้งอรรถทั้งธรรมที่แสดง ทั้งศีลาจริยวัตร รวมถึงเมตตาบารมีในการสั่งสอนศิษยานุศิษย์ เป็นหนึ่งในครูบาอาจารย์ที่ดีแบบหาที่เปรียบได้ยากองค์นึง) ถ้าไม่ดีจริงพระรุปอื่นๆโดยเฉพาะศิษย์สายหลวงปู่มั่น ทางการเขาคงไม่ปล่อยมามั้ง แต่นี่ทางจังหวัดชลบุรีเค้าให้วัดสวนสันติธรรมเป็นตัวแทนจัดเลยนะ
ปล.จขกทจะสรุปแบบนี้ครับที่หลวงพ่อปราโมทย์โดนต่อต้าน 1.มาจากสาวกเดิมขี้อิจฉา 2.มาจากท่านเทศน์ขัดจากจารีตพุทธแบบไทยเดิมที่นิยมรักษาธรรมเนียมกับทำฌานสมาบัติแบบฤาษีที่ผนวกเข้ามาไว้และมักจะบังคับให้ทำแบบนั้นก็พวกกองกรรมฐานอารมณ์บัญญัติที่ให้โฟกัสที่จุดเดียวให้จิตนิ่งนั่นแหละ คือจขกทไม่ได้ว่าพวกสมถะแบบฌานสมาบัติพวกรูปฌานไม่ดีนะ แต่แค่บอกว่ามันไม่ต้องทำก็ได้คือที่เรารับมาอย่างที่เห็นคือรับมาจากที่มีพระสาวกที่เป็นฤาษีดาบสมาก่อนมาบวชมีจำนวนพอสมควร ซึ่งตามแนวที่ท่านแนะนำให้ทำกับตามอริยมรรค8ประการเลยครับ ซึ่งถ้าจะเจาะในหลักการภาวนาจากภาวนาสูตรจริงๆจะเห็นว่าไม่มีข้อบังคับให้ทำโลกิยะฌานพวกฌานสมาบัติจากอารมณ์บัญญัติด้วยการเพ่งที่จุดๆเดียวมี รูปฌาน4 อรูปฌาน4เป็นต้น คือให้เริ่มต้นด้วยสติปัฏฐาน4เลย
ปล.2 ซึ่งใครจะทำก็ไม่ผิดนัก(ฌานสมาบัติหรือโลกิยฌานที่เพ่งที่อารมณ์บัญญัติเดียวที่มี รูปฌาน4 อรูปฌาน4) แต่ไม่ใช่เป็นหลักสูตรจำเป็นขนาดนั้น ถ้าทำได้แบบพระสาวกที่มีปัญญาเอามาหนุนการเจริญสติปัฏฐาน4แบบควบคู่กันไปมันก็ดีช่วยสร้างบารมีสร้างกำลังในการเจริญแบบสติปัฏฐาน4ได้พอสมควร แต่ถ้าทำโดยไม่ได้ศึกษาพระพุทธศาสนาจากตำราไม่มีสัมมาทิฏฐิไม่มีสติปัฏฐาน4กำกับก็หลงทางมากเนิ่นช้าโชคดีก็ติดความสุขจากการได้ฌานมีฌานจนเพลินลืมเจริญปัญญา โชคร้ายก็เสียเวลากับนิมิตจนจิตหลอนเสียสติวิปลาสกันไปทีเดียว แต่มีมันก็ดีเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ข้อบังคับ ถ้าสังเกตดูพระสาวกทั้งบรรพชิตและฆราวาสจะเห็นว่าบางท่านไม่มีใครได้ฌานสมาบัติก็ให้เดินสติปัฏฐานเลยตามประวัติในพระไตรปิฎกก็เป็นพระอริยบุคลกันได้
ปล.3ถ้ายังสงสัยอีกให้หาพระสูตรที่ทรงตรัสเรื่องพระอรหันต์ประเภทต่างๆทั้งที่ไม่ได้ทำฌานสมาบัติหรือฌานโลกีย์โดยเฉพาะด้วย ซึ่งก็จะสอดคล้องกับสายปัญญาวิมุติ สุกขวิปัสโก หรือสายวิปัสสนายานิก จริงๆเอาแค่พระอานนท์สอนในพระสูตรก็จบแล้ว บวกกับภาวนาสูตรที่ไม่ได้ให้เริ่มที่ฌานสมาบัติ ซึ่งใครไม่เข้าใจก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว(จริงๆแค่ดูที่มรรค8ก็รุ้แล้วว่าสัมมาสมาธิหรือโลกุตรฌานหรือฌานแบบพุทธที่เกิดตอนบรรลุธรรมทีเดียว ไม่ใช่ว่าเอาฌานสมาบัติไปหนุนสติปัฏฐาน4แต่แรกก่อนซะที่ไหน สัมมาสมาธิจะเกิดจากการมรรค7ข้องเป็นองค์ประกอบ มีการภาวนาจากสัมมาสติก่อน แล้วจึงเกิดสัมมาธิตอนบรรลุธรรม ถ้าเราสังเกตจะเห็นว่าฌาน4ในสัมมาสมาธิตามพระสูตรจะมีคำว่าทุกขนิโรธคือสิ้นทุกข์อย่างสิ้นเชิงแล้วหมายความว่าฌานตรงนี้คือฌานที่เกิดตอนบรรลุธรรมจะเรียกว่า โลกุตรฌานหรือลักขณูปนิชฌานก็ได้ แต่ประเด็นคือไม่ต้องทำโลกิยฌานก่อนก็ได้ก็คือฌานในประจำจิตของพระอริยะเป็นฌานถาวร ) ใครจะเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่ แต่จขกทเข้าใจท่านที่ยึดติดแนวที่ต้องทำสมาบัติก่อนนะเราถูกสอนฝังหัวจนฝังหัวมาแบบนี้มันก็ยากแหละที่จะเปลี่ยนความคิดได้ เอาตรงๆหลักธรรมในภาวนาสูตรจะเน้นเรื่องสติในสติปัฏฐาน4มาก่อนสมาธิเสมอ
ปล4.ซึ่งสุดท้ายถ้าเราสังเกตพระสูตรตามที่กล่าวถึงรูปฌาน4และ8หรือสมาบัติจะเห็นได้ว่าพระพุทธองค์ทรงตรัสว่าเป็นแค่เครื่องพักผ่อนเฉยๆไม่ได้จำเป็นขนาดใช้ขัดเกลากิเลสตามนี้เลยครับ
https://pratripitaka.com/12-037/ ซึ่งสัมมาสมาธิแบบชัดเจนจริงๆก็ตามนี้ครับเกิดจากองค์บริขารคืออริยมรรค7ข้อก่อนถึงเกิดสัมมาสมาธิ สังเกตจะเห็นว่าสัมมาสมาธิของผู้เป็นอริยะ ซึ่งถ้าเป็นฌาน4จริงๆก็เป็นโลกุตรฌานอันเกิดจากบำเพ็ญองค์มรรค7ข้อก่อนครบเป็นฌานตอนบรรลุ
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=5398.0;wap2 ตามนี้ครับ
อ้ออีกพระสูตรนึง
http://84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=21&A=2566&Z=2601 น่าจะครอบคลุมทั้งเรื่องพระอรหันต์และนักภาวนา4ประเภท
ถ้าหลวงพ่อปราโมทย์ไม่ดีอย่างที่ว่าทำไมศิษย์อาวุโสหลวงปุ่ดูลย์ต้องมาเยี่ยมเยียนท่านถึง2องค์และให้จัดงานวันเกิดหลวงปู่มั่น
1.ทำไมศิษย์อาวุโสของหลวงปู่ดูลย์ถึงต้องมาเยี่ยมเยียนที่วัดสวนสันติธรรมด้วย คืออันแรกองค์นึงน่าจะหลวงตาผนึกมาช่วยเหลือเรื่องสร้างสวนสันติธรรม อีกเรื่องศิษย์อาวุโสหลวงปู่ดูลย์อีกองค์มาเยี่ยมเยียนท่านถึงวัดสวนสันติธรรมเพื่อรับการอวยพรวันเกิด
2.ทำไมพระดีๆอย่างพระอาจารย์ไพศาล วิสาโลที่เด่นทั้งปฏิบัติและปริยัติถึงต้องออกมาปกป้อง(จะว่าพระอาจารย์ท่านไม่ใช่สายปฏบัติก็ไม่ได้เพราะท่านเรียนการภาวนาเจริญสติจากหลวงพ่อเทียนโดยตรง และพอสิ้นหลวงพ่อเทียนก็เรียนกับหลวงพ่อคำเขียนศิษย์อาวุโสหลวงพ่อเทียนอีก ทุกวันนี้ท่านก้เปิดสอนคนเจริญสติตามแนวทางของหลวงพ่อเทียน แถมจริยวัตร วินัยก็ไม่เคยบกพร่อง ได้รับรางวัลพระดีด้วย ที่สำคัญพระอาจารย์คลุกคลีกับหลวงพ่อปราโมทย์หลายครั้งพอสมควรทั้งในงานต่างๆทั้งหลวงพ่อปราโมทย์มาเยี่ยมสักการะหลวงพ่อคำเขียน) อีกอย่างทุกวันนี้ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโตสอนการปฏิบัติการภาวนาด้วยนะครับ ซึ่งหลวงพ่อคำเขียนก็เคยอยู่วัดป่าสุคะโตแล้วที่ผ่านมาก็ไม่ได้ปฏิเสธห้ามไม่ให้พระอาจารย์เป็นเจ้าอาวาส
3.ทำไมวัดสวนสันติธรรมถึงได้รับการมอบหมายให้จัดงานครบรอบ100ปี ชาตกาลหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต(ซึ่งหลวงปู่มั่นท่านได้ชื่อว่าเป็นพระมหาเถระผู้งดงามหมดจดทั้งอรรถทั้งธรรมที่แสดง ทั้งศีลาจริยวัตร รวมถึงเมตตาบารมีในการสั่งสอนศิษยานุศิษย์ เป็นหนึ่งในครูบาอาจารย์ที่ดีแบบหาที่เปรียบได้ยากองค์นึง) ถ้าไม่ดีจริงพระรุปอื่นๆโดยเฉพาะศิษย์สายหลวงปู่มั่น ทางการเขาคงไม่ปล่อยมามั้ง แต่นี่ทางจังหวัดชลบุรีเค้าให้วัดสวนสันติธรรมเป็นตัวแทนจัดเลยนะ
ปล.จขกทจะสรุปแบบนี้ครับที่หลวงพ่อปราโมทย์โดนต่อต้าน 1.มาจากสาวกเดิมขี้อิจฉา 2.มาจากท่านเทศน์ขัดจากจารีตพุทธแบบไทยเดิมที่นิยมรักษาธรรมเนียมกับทำฌานสมาบัติแบบฤาษีที่ผนวกเข้ามาไว้และมักจะบังคับให้ทำแบบนั้นก็พวกกองกรรมฐานอารมณ์บัญญัติที่ให้โฟกัสที่จุดเดียวให้จิตนิ่งนั่นแหละ คือจขกทไม่ได้ว่าพวกสมถะแบบฌานสมาบัติพวกรูปฌานไม่ดีนะ แต่แค่บอกว่ามันไม่ต้องทำก็ได้คือที่เรารับมาอย่างที่เห็นคือรับมาจากที่มีพระสาวกที่เป็นฤาษีดาบสมาก่อนมาบวชมีจำนวนพอสมควร ซึ่งตามแนวที่ท่านแนะนำให้ทำกับตามอริยมรรค8ประการเลยครับ ซึ่งถ้าจะเจาะในหลักการภาวนาจากภาวนาสูตรจริงๆจะเห็นว่าไม่มีข้อบังคับให้ทำโลกิยะฌานพวกฌานสมาบัติจากอารมณ์บัญญัติด้วยการเพ่งที่จุดๆเดียวมี รูปฌาน4 อรูปฌาน4เป็นต้น คือให้เริ่มต้นด้วยสติปัฏฐาน4เลย
ปล.2 ซึ่งใครจะทำก็ไม่ผิดนัก(ฌานสมาบัติหรือโลกิยฌานที่เพ่งที่อารมณ์บัญญัติเดียวที่มี รูปฌาน4 อรูปฌาน4) แต่ไม่ใช่เป็นหลักสูตรจำเป็นขนาดนั้น ถ้าทำได้แบบพระสาวกที่มีปัญญาเอามาหนุนการเจริญสติปัฏฐาน4แบบควบคู่กันไปมันก็ดีช่วยสร้างบารมีสร้างกำลังในการเจริญแบบสติปัฏฐาน4ได้พอสมควร แต่ถ้าทำโดยไม่ได้ศึกษาพระพุทธศาสนาจากตำราไม่มีสัมมาทิฏฐิไม่มีสติปัฏฐาน4กำกับก็หลงทางมากเนิ่นช้าโชคดีก็ติดความสุขจากการได้ฌานมีฌานจนเพลินลืมเจริญปัญญา โชคร้ายก็เสียเวลากับนิมิตจนจิตหลอนเสียสติวิปลาสกันไปทีเดียว แต่มีมันก็ดีเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ข้อบังคับ ถ้าสังเกตดูพระสาวกทั้งบรรพชิตและฆราวาสจะเห็นว่าบางท่านไม่มีใครได้ฌานสมาบัติก็ให้เดินสติปัฏฐานเลยตามประวัติในพระไตรปิฎกก็เป็นพระอริยบุคลกันได้
ปล.3ถ้ายังสงสัยอีกให้หาพระสูตรที่ทรงตรัสเรื่องพระอรหันต์ประเภทต่างๆทั้งที่ไม่ได้ทำฌานสมาบัติหรือฌานโลกีย์โดยเฉพาะด้วย ซึ่งก็จะสอดคล้องกับสายปัญญาวิมุติ สุกขวิปัสโก หรือสายวิปัสสนายานิก จริงๆเอาแค่พระอานนท์สอนในพระสูตรก็จบแล้ว บวกกับภาวนาสูตรที่ไม่ได้ให้เริ่มที่ฌานสมาบัติ ซึ่งใครไม่เข้าใจก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว(จริงๆแค่ดูที่มรรค8ก็รุ้แล้วว่าสัมมาสมาธิหรือโลกุตรฌานหรือฌานแบบพุทธที่เกิดตอนบรรลุธรรมทีเดียว ไม่ใช่ว่าเอาฌานสมาบัติไปหนุนสติปัฏฐาน4แต่แรกก่อนซะที่ไหน สัมมาสมาธิจะเกิดจากการมรรค7ข้องเป็นองค์ประกอบ มีการภาวนาจากสัมมาสติก่อน แล้วจึงเกิดสัมมาธิตอนบรรลุธรรม ถ้าเราสังเกตจะเห็นว่าฌาน4ในสัมมาสมาธิตามพระสูตรจะมีคำว่าทุกขนิโรธคือสิ้นทุกข์อย่างสิ้นเชิงแล้วหมายความว่าฌานตรงนี้คือฌานที่เกิดตอนบรรลุธรรมจะเรียกว่า โลกุตรฌานหรือลักขณูปนิชฌานก็ได้ แต่ประเด็นคือไม่ต้องทำโลกิยฌานก่อนก็ได้ก็คือฌานในประจำจิตของพระอริยะเป็นฌานถาวร ) ใครจะเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่ แต่จขกทเข้าใจท่านที่ยึดติดแนวที่ต้องทำสมาบัติก่อนนะเราถูกสอนฝังหัวจนฝังหัวมาแบบนี้มันก็ยากแหละที่จะเปลี่ยนความคิดได้ เอาตรงๆหลักธรรมในภาวนาสูตรจะเน้นเรื่องสติในสติปัฏฐาน4มาก่อนสมาธิเสมอ
ปล4.ซึ่งสุดท้ายถ้าเราสังเกตพระสูตรตามที่กล่าวถึงรูปฌาน4และ8หรือสมาบัติจะเห็นได้ว่าพระพุทธองค์ทรงตรัสว่าเป็นแค่เครื่องพักผ่อนเฉยๆไม่ได้จำเป็นขนาดใช้ขัดเกลากิเลสตามนี้เลยครับ https://pratripitaka.com/12-037/ ซึ่งสัมมาสมาธิแบบชัดเจนจริงๆก็ตามนี้ครับเกิดจากองค์บริขารคืออริยมรรค7ข้อก่อนถึงเกิดสัมมาสมาธิ สังเกตจะเห็นว่าสัมมาสมาธิของผู้เป็นอริยะ ซึ่งถ้าเป็นฌาน4จริงๆก็เป็นโลกุตรฌานอันเกิดจากบำเพ็ญองค์มรรค7ข้อก่อนครบเป็นฌานตอนบรรลุ http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=5398.0;wap2 ตามนี้ครับ
อ้ออีกพระสูตรนึง http://84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=21&A=2566&Z=2601 น่าจะครอบคลุมทั้งเรื่องพระอรหันต์และนักภาวนา4ประเภท