ทริปนี้เป็น EP3 EPสุดท้ายของเราสำหรับการเดินทางในเส้นทาง พิษณุโลก-เพชรบูรณ์-เลย หลังจากที่EP1 เราได้เที่ยวกันที่พิษณุโลกกับเขาค้อกันมาแล้วในกระทู้อันนี้
https://ppantip.com/topic/39364957 สำหรับ EP2 เราก็ได้ท่องเที่ยวกันที่ภูหินร่องกล้าและภูทับเบิก ในกระทู้นี้
https://ppantip.com/topic/39386835 และใน EP3 หลังจากที่เราเดินทางลงจากภูทับเบิกกันมาแล้วเราจะพาทุกคนมุ่งหน้าสู่จังหวัดเลย
ซึ่งปลายทางของเรา คือ “เชียงคาน” พร้อมแล้วตามมาเที่ยวกันได้เลย
.
.
.
เราเดินทางลงจากภูทับเบิกโดยใช้เส้นทางเดิมที่เราขับขึ้นกันมาเมื่อวาน คือ ทางนครไทย (เส้นทางหมายเลข2013) มุ่งหน้าสู่อำเภอด่านซ้าย จ.เลย จุดหมายแรกของเราอยู่ที่ “พระธาตุศรีสองรัก”
พระธาตุศรีสองรัก เป็นโบราณสถานที่สำคัญของจังหวัดเลย และถือเป็นสัญลักษณ์และตราประจำจังหวัด สร้างขึ้นสมัยกรุงศรีอยุธยา พ.ศ. 2103 และสร้างขึ้นเพื่อเป็นสักขีพยานในการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และร่วมกันต่อสู่กับพม่า ระหว่างกรุงศรีอยุธยา (สมัยพระมหาจักรพรรดิ) และกรุงศรีสัตนาคนหุต (เวียงจันทน์) สมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ข้อปฏิบัติเกี่ยวกับองค์พระธาตุศรีสองรัก มีดังนี้ ไม่ควรนำสิ่งของหรือดอกไม้สีแดงขึ้นบูชา ไม่ควรแต่งกายด้วยชุดสีแดงขึ้นไปนมัสการ เพราะองค์พระธาตุสร้างขึ้นเพื่อสัจจะและไมตรี สีแดงเป็นสัญลักษณ์ของเลือดและความรุนแรง
ไหว้พระธาตุกันเสร็จแล้ว เราก็ลงมาหาเครื่องดื่มเย็นๆดื่มกันที่ร้าน “อุ้งอิ้งกาแฟสด”
ร้านตั้งอยู่บริเวณลานจอดรถของพระธาตุศรีสองรัก อยู่ริมแม่น้ำ บรรยากาศดี เครื่องดื่มอร่อย
เบอร์โทร : 088 562 0509
Location : พระธาตุศรีสองรัก
ไหว้พระธาตุประจำจังหวัดเพื่อเอาฤกษ์เอาชัยกันแล้ว ไปลุยต่อกันที่ “พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน วัดโพนชัย”
พิพิธภัณฑ์ผีตาโขนวัดโพนชัยเป็นสถานที่เก็บ รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับผีตาโขนไว้ ไม่ว่าจะเป็นที่มาประวัติต่างๆ การทำหน้ากากผีตาโขน วิวัฒนาการของหน้ากากเป็นอย่างไร
ต้นกำเนิดของผีตาโขนกล่าวกันมาว่า การแห่ผีตาโขนเกิดขึ้นเมื่อครั้งที่พระเวสสันดรและนางมัทรีจะเดินทางออกจากป่ากลับสู่เมือง บรรดา ผีป่าหลายตนและสัตว์นานาชนิดอาลัยรักจึงพาแห่แหนแฝงตัวแฝงตน มากับชาวบ้านเพื่อมาส่งทั้งสอง พระองค์ กลับ เมือง "ผีตามคน" หรือ "ผีตาขน" จนกลายมาเป็น "ผีตาโขน" อย่างในปัจจุบัน
ในวันที่เราไปที่นี่ ภายในพิพิธภัณฑ์มีงาน ทำให้เราไม่สามารถเข้าไปภายในตัวพิพิธภัณฑ์ได้ ได้แค่ถ่ายรูปกับหน้ากากผีตาโขนตามมุมต่างๆ
น้องๆที่เตรียมการแสดงผีตาโขนสำหรับงาน
วันนี้ แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ให้คนนอกเข้าชมการแสดง
ภายในพิพิธภัณฑ์มีมุมให้นักท่องเที่ยวได้ลองแต่งตัวเป็นผีตาโขนกันด้วยนะ
Location : “พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน วัดโพนชัย”
จากนั้นเราก็ออกเดินทางมุ่งหน้ามากกว่า 100 กิโล สู่จุดหมายต่อไปของเราก่อนพระอาทิตย์จะตกดิน นั่นก็คือ
“หมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำบ้านนาป่าหนาด”
หมู่บ้านเล็กๆ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวอำเภอเชียงคานเพียงแค่ 20 กิโลเมตร หมู่บ้านที่ยังสืบสานตำนานและประเพณีวัฒนธรรมไทดำให้คงอยู่สู่รุ่นลูกรุ่นหลานในปัจจุบัน ที่เรียกชื่อว่า ไทดำ เพราะนิยมสวมเสื้อผ้าสีดำ ซึ่งสีดำที่ใช้ย้อมสีเสื้อผ้ามาจากต้นห้อมหรือต้นคราม
การละเล่นของชาวไทดำ คือ ให้อธิษฐานก่อนโยนบอลที่ทำจากผ้าเข้าห่วง ถ้าโยนเข้า คำอธิษฐานจะเป็นจริง
ภายในหมู่บ้านมีของฝากจากชาวไทดำขายด้วยนะ
ตอนเราไปถึงค่อนข้างเย็นแล้ว ตรงหมู่บ้านไทดำวิวสวยมากตอนพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน
ถ่ายเจ้าผีเสื้อทันพอดี
มุมน่ารักๆของที่นี่มีฉากหลังเป็นภูเขาสวยๆด้วยนะ
นกน้อยบินกลับบ้านก่อนท้องฟ้าจะมืดลง
Location : หมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำบ้านนาป่าหนาด
เดินทางกันต่ออีก 20 กิโลสู่จุดหมายปลายทางของเรา คือ อ.เชียงคาน
เมื่อมาถึงเชียงคานเราเข้าที่พักกันก่อนเลย เราพักที่ “Capsule Hostle Chiangkhan”
ที่พักสไตล์โมเดิร์นอยู่ใกล้ถนนคนเดิน หน้าที่พักมี 7-11 ด้วย ที่พักมีทั้งห้องแบบแคปซูลห้องรวมและแยกชายหญิง มีห้องสำหรับครอบครัว และห้องมาตรฐานที่นอนได้ 2 คน ที่พักใหม่และสะอาด เรียกได้ว่าเป็นที่พักที่มีหลากหลายสไตล์จริงๆ นอกจากนี้ยังมีจักรยานให้ผู้ที่เข้าพักได้ปั่นริมน้ำโขงกันฟรีๆด้วยนะ แถมที่พักราคาไม่แรงด้วยนะ
โทรศัพท์ : 087 746 5335
เก็บของกันเสร็จแล้ว เราก็เดินออกจากที่พักประมาณ400เมตร เพื่อไปเดินเล่นหาอะไรทานกันที่ “ถนนคนเดินเชียงคาน”
ถนนคนเดินเชียงคาน จุดหมายยอดฮิตที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมากเมื่อมาเยือนเชียงคาน ที่ตั้งของถนนคนเดินเชียงคานอยู่ บริเวณถนนสายล่าง ในตัวอำเภอเมืองเชียงคาน ซึ่งเป็นถนนที่เลียบไปกับแม่น้ำโขง หรือที่เรียกว่า "ถนนชายโขง" ถนนเส้นนี้มีเสน่ห์ที่บ้านเรือนไม้ในบรรยากาศเก่าๆที่เป็นเสน่ห์ดึงดูดผู้คนให้มาเยือน
พอเราเดินมาถึงถนนคนเดินปุ๊ปก็ตระเวนหาอะไรทานกันเลย ทั้งข้าวเปียกที่ขึ้นชื่อของเชียงคาน ข้าวจี่ ปูปิ้งกุ้งฝอยย่างของดังของที่นี่ และของกินอีกมากมายตลอดถนนคนเดินทั้งเส้นนี้
ศิลปินตัวน้อยที่สร้างสีสันให้ถนนแห่งนี้
คลาสสิคแบบนี้แน่นอนอยู่แล้วที่จะต้องมีงานอาร์ต ทั้งภาพวาดโดยใช้มีดและการวาดสีน้ำทำเป็นโปสการ์ด
ถนนคนเดินเส้นนี้ยังคงความคลาสสิค ทั้งประเพณีวัฒนธรรมต่างๆ บ้านเรือนที่ยังคงเป็นไม้ริมฝั่งโขง สร้างบรรยากาศอบอุ่นให้ผู้ที่มาเยือนได้อย่างดี
ด้วยความชอบผีตาโขนมาก เลยซื้อหน้ากากซะเลยจากนั้นก็เดินหามุมถ่ายรูปกับหน้ากากชิคๆภายในถนนคนเดิน
Location : ถนนคนเดินเชียงคาน
ประมาณ 3 ทุ่มนิดๆถนนคนเดินก็เริ่มเงียบร้านค้าบางส่วนเริ่มทยอยปิดกันแล้ว เราก็ขอตัวไปพักเพื่อเตรียมตัวไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ภูทอกกันในวันพรุ่งนี้
เราตื่นกันตั้งแต่ตี 5 ขับรถประมาณ 8 กิโลจากที่พักไปภูทอก ภูทอกไม่สามารถขับรถขึ้นไปเองได้ต้องไปต่อรถของชาวบ้านขึ้นไปในราคาเพียงคนละ 30 บาท
“ภูทอก”
เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกชื่อดังของเชียงคาน แต่วันที่เราไปไม่มีหมอกแต่ก็ไม่เป็นไรเพราะเราเจอหมอกกันมา 2 วันติดแล้วทั้งที่เขาค้อและภูทับเบิก
(ปลอบใจตัวเอง) แต่ถึงไม่เห็นทะเลหมอกแต่ยังไงเราก็เก็บภาพวิวสวยๆของภูทอกมาฝากทุกคนกัน
วิวด้านบนภูทอกด้านซ้ายมือจะมองเห็นแก่งคุดคู้แม่น้ำโขง และด้านขวามือจะมองเห้นเป็นเทือกเขาทอดยาวสลับกันไปมา ถือเป็นจุดชมวิวที่สวยงามมากๆเลยทีเดียว
พอขึ้นไปถึงภูทอกให้ทุกคนรีบไปจับจองมุมดูพระอาทิตย์กันได้เลยจ้า เพราะคนจะเยอะมากๆ
ถ่ายรูปเล่นรอพระอาทิตย์ขึ้นกันสักแปป
ถ่ายรูปเล่นกันสักแปปพระอาทิตย์ก็เริ่มขึ้นมาจากด้านหลังภูเขาแล้ว
[CR] ไปเลย...เชียงคาน
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้