เสน่ห์ของหนังจีนกำลังภายในหายไปไหนหมด

ทุกวันนี้ตีตั๋วไปดูหนังจีนกำลังภายในย้อนยุค โดยเฉพาะหนังที่เป็นแนวเทพเซียนมีอิทธิฤทธิ์ก็ต้องคอยทำใจ ส่วนใหญ่ผิดหวัง หนังไม่ขลังเหมือนสมัยก่อน 
ยกตัวอย่างครั้งแรกที่ดู ซูซัน เทพยุทธเขามหัศจรรย์ Zu Warriors From The Magic Mountain (1983) ช่วงกลางเรื่องมาท้ายทำดีมากแต่มาเสียตรงที่ช่วงบู๊ใกล้จะจบที่ดันกลายเป็นปล่อยแสงเหมือนหนังเรื่อง Tron ไปซะงั้น
 
หนังอย่าง เดชคัมภีร์เทวดา ทำได้ดีเยี่ยมมาก 
เทพกระเรียนเซียนเหยียบฟ้า The Magic Crane

หรือ กระบี่ผีเสื้อ บารมีสะท้านภพ ฉากฟันดาบ คิวบู๊ตื่นเต้นเร้าใจ 
แต่พอมายุคนี้คืออะไรก็ไม่รู้ บางทีใช้เทคนิคตัดต่อภาพ ส่ายกล้องไปมา หรือเน้นท่าสวยจนมองข้ามว่านี่มันหนังบู๊นะ หรือบางเรื่องก็เน้นดราม่าซะจนเกินพอดี 

เพิ่งไปดูหนังจีนเรื่องที่เพิ่งเข้าโรง เป็นหนังแนวเทพเซียน เทคนิคซีจีสวยงาม ท่วงท่าก็สวยแต่หนังเน้นตรงนี้มากเกินไป ปูเรื่องเยอะจนดูนาฬิกามันหมดไปครบชั่วโมงแล้วยังไม่มีอะไรเลย ตัวร้ายจอมมารก็ยังไม่โผล่ หนังไปเล่นฉากตลกขำขันตรงนั้นทีตรงนี้ที 
ส่วนการปล่อยพลังก็เล่นใหญ่รัชดาลัยกันเกิน จะกินข้าวก็ต้องปล่อยพลังยุทธ เอะอะก็ปล่อยพลังภายในกัน แต่ฟันดาบมีให้เห็นน้อย ฉากแอคชั่นจริงๆ ก็มีให้เห็นในตัวอย่างหนังหรือในยูทูปนั่นแหละ 
ความกลมกล่อมพอดิบพอดีเหมือนตอนที่ดูหนังอย่าง โปเยโปโลเย เดชคัมภีร์เทวดา หรือ crouncing tiger hidden dragon ที่โชว์คิวบู๊แบบต่อเนื่องของจริงไม่ใช้เทคนิคกล้องเข้าช่วยมากนัก (นักแสดงและสตันท์ต้องฝึกซ้อมท่วงท่าคิวบู๊เยอะกว่าจะได้แบบนั้น) 
ดูเรื่องนี้แล้วผิดหวังมาก แต่สำหรับคนที่อยากเข้าไปดูความน่ารักของพระนางก็คงได้เห็นจุใจกันล่ะครับ 
รึว่านี่จะหมดยุคของหนังจีนกำลังภายใน ส่วนใหญ่ท่าดีทีเหลว 
แม้ว่าหนังอย่าง บ้านมีดบิน ฮีโร่ จะเป็นหนังคุณภาพ แต่ระยะหลังฉากบู๊จะถูกลดทอนความสำคัญลง 
หนังของโจว ชิง สือเรื่อง คนเล็กหมัดเทวดา ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมมาก ทุกอย่างครบองค์ประกอบ ตลก แอคชั่น คิวบู๊ ความหลุดโลก 
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่