วันนี้มีโอกาสขอมาเล่าประสบการณ์ในการปฏิบัติธรรมค่ะ ปกติไม่ได้เป็นคนธรรมะธรรมโม อะไรเท่าไหร่ ปฏิบัติธรรมก็ไม่ค่อยเป็น เคยไปที่นึงแต่ก็อยู่ได้ไม่คบวันที่ตั้งไว้ สวดมนต์ก็ไม่ค่อยได้สวด แต่ไม่รู้อะไรดลจิตดลใจให้อยากปฏิบัติธรรม และก็มีโอกาสได้เจอสถานที่ปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่งหลังจากที่หามาหลายที่ พอมาเจอที่นี่แล้วต้องร้องเฮ้ยยยยย สิ่งที่สัมผัสได้อย่างแรกที่เข้ามาที่นี่คือ พลังแห่งศรัทธาที่สื่อผ่านทางพระพุทธรูปปางนาคปรกขนาดใหญ่มากและ งดงามมาก ฉันจะปฏิบัติธรรมที่นี่แหละ ชุดพร้อม ใจพร้อม เอาเลย เป้าหมายคือ 3 วัน จ้าา
พระพุทธรูปปางนาคปรกขนาดใหญ่
เริ่มแรกก็สามารถติดต่อที่เจ้าหน้าที่ที่ศาลาปฏิบัติธรรม สามารถลงทะเบียนปฏิบัติธรรมได้ถึง4 โมงเย็น ใช้บัตรประชาชนสำหรับลงทะเบียน กรอกรายละเอียด รับเสื่อ ผ้าห่ม หมอน ที่นี่ไม่อนุญาตให้ใช้โทรศัพท์ต้องฝากไว้กับเจ้าหน้าที่เท่านั้น นอกจากจะมีธุระสำคัญจริงๆเพื่อการปฏิบัติธรรมที่ก้าวหน้าค่ะ โทรศัพท์จะคืนให้ตอนสึก (จริงๆแล้วที่นี่ห้ามพกโทรศัพท์ ห้ามพกกล้อง แต่เราขออนุญาตพระอาจารย์ถ่ายตอนสึก)
สิ่งที่ต้องเตรียมมา
1.ของใช้ส่วนตัว สบู่ แชมพู ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ยากันยุง (ถ้าแพ้ยุง) ยารักษาโรคประจำตัว
2.ชุดปฏิบัติธรรม เสื้อขาว กางเกง หรือผ้าถุงก็ได้ เสื้อซับใน กางเกงซับใน สไบ (ที่นี่มีสไบสีน้ำตาล และผ้าถุงสีน้ำตาลจำหน่าย แล้วแต่จริตใครชอบค่ะ สไบ120 บาท ผ้านุ่ง200บาท )
3. ถ้าสะดวกแนะนำให้ติดผ้าห่มมาด้วยก็ดีนะคะ ตอนกลางคืนค่อนข้างหนาวเพราะต้นไม้เยอะค่ะ
4. สำคัญที่ต้องเตรียมที่สุดคือ ใจที่มีวิริยะค่ะ (ความเพียร)
5. ที่พักห้องรวมมีค่ามัดจำกุญแจ 100 บาท ( คืนให้ตอนออก ) ถ้าที่พักธรรมดาไม่ต้องมัดจำค่ะ
*********************************
สำหรับการเดินทางมาก็ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก ขับรถมาแปปเดียวก็ถึง
19 หมู่ 6 ซ.วัดสุขใจ ถ.นิมิตรใหม่ (26-28) แขวงทรายกองดิน เขตคลองสามวา กทม., (มีนบุรี สายไหม ลำลูกกา หนองจอก)
ใครไปไม่ถูกก็สามารถสอบถาม หรือ โทรจองก่อนได้ 092 261 9339
********************************
บรรยากาศด้านหน้าศาลาปฏิบัติธรรม
เจ้าแม่กวนอิม.....
ส่วนตัวชอบพระพุทธรูปปางนี้มากค่ะ ปางเปิดโลก
ขอพรท่านให้เปิดทางสว่างให้ชีวิต....
พระแม่ธรณี
หลังจากลงทะเบียนรับเครื่องนอนเสร็จ ก็จะมีเจ้าหน้าที่พาไปที่ห้องพักเราโชคดีค่ะได้นอนห้องใหญ่คนเดียว หึหึ ( ห้องพักของโยคี แม่ชี ยังมีไม่มาก ซึ่งกำลังจะมีโครงการสร้างใหม่ ) ที่นี่เรียกผู้ปฏิบัติธรรมว่าโยคี ระหว่างทางเดินมาห้องพัก จะมีสะพานไม้ข้ามคลองที่ค่อนข้างเก่า และต้นไทรขนาดใหญ่มีผ้าสีๆผูกอยู่ คิดในใจเลยค่ะว่า....เอาแล้ววววจะรอดมั้ยคืนนี้ ห้องที่เราพักเป็นห้องนอนหญิงรวม ชั้นล่างเป็นห้องน้ำหญิง คืนที่เรามานอนห้องอื่นเต็มหมดเลยต้องนอนคนเดียว
ต้นไทรต้นนี้เอง.....
ทางเดินด้านหน้า
การตกแต่งจะมีความผสมผสานของศิลปะล้านนา ร่มริ่นมาก เย็นสบาย
ที่พักน้องเณร....
มีพญานาคอยู่ทุกที่ค่ะ.....
ชอบมุมนี้มากค่ะ
ทางเดินไปที่พักโยคี
ที่พักสำหรับโยคี แม่ชี ( มีโครงการจะสร้างใหม่ เพื่อรองรับผู้ที่สนใจปฏิบัติธรรมซึ่งมีเพิ่มมากขึ้น )
พอเปลี่ยนชุดเสร็จเรียบร้อยก็จัดเลยจ้า โดนแม่ชีจัดจ้า 55555555
เริ่มแรกของการปฏิบัติ แม่ชีจะสอนเดินจงกรมระยะที่ 1( ขวาย่างหนอ ซ้ายย่างหนอ )
การเดินจงกรมจับความรู้สึกที่เท้า เพราะการเดินจงกรมจะทำให้เข้าสมาธิได้ง่ายและเร็วกว่า แม่ชีท่านจะสอนตั้งแต่พื้นฐานเลยค่ะ แม่ชีน่ารักและใจดีมากค่ะ ถ้าเราไม่ดื้ออ่ะนะ555555 น้ำเสียงตอนแม่ชีพูดว่า ขวาย่างหน่อ ซ้ายย่างหนอ ทำให้ขนลุกไปทั้งตัวเลยค่ะ ฟังมีพลังมาก
เราก็เริ่มปฏิบัติค่ะ
บรรยากาศด้านในค่ะ มีผู้ปฏิบัติธรรมมาปฏิบัติเรื่อยๆ ที่นี่ไม่จำกัดเวลา 3 วัน 5 วัน 7 วัน แล้วแต่สะดวก
บรรยากาศด้านใน
พระพุทธรูปไม้
ต่อด้วยการนั่งสมาธิ วิปัสสนากรรมฐาน แม่ชีบอกว่าให้เราจับจิต หรือกำหนดจิตอยู่ที่ท้องค่ะ ให้สังเกตอาการพอง อาการหยุบของท้องตอนหายใจ ( พองหนอ ยุบหนอ ) ตอนแรกเราก็ไม่คิดว่าแค่นั่งสมาธิต้องอดทนอะไรมากมายก็แค่นั่งๆกำหนด แต่เปล่าเลยค่ะ ใครที่ว่าเป็นสายโหดมาลองนั่งสมาธิติดกันสัก1ชม.จะรู้เลยค่ะ ความทุกข์คืออะไร เราเรียกว่าทุกขเวทนาค่ะ ซึ่งแต่ละคนไม่เหมือนกันแม่ชีบอกว่ามันคือก็เหมือนกรรมของแต่ละคนค่ะ ไม่ขอลงรายละเอียดแต่อยากให้ไปลองที่ว่าป่วยหนักๆมานั่งๆกันเนี๊ยหายไปหลายรายแล้วนะคะ ไม่ได้หายไปไหนนะคะ แต่หายจากอาการป่วยนี่แหละค่ะ
แม่ชีอ๊อด ท่านใจดีมากค่ะ...
เมื่อมีเรี่ยวแรงก็ลองมาปฏิบัติกันเถอะค่ะ...
เมื่อถึงเวลา ประมาณ 6 โมง - 1 ทุ่ม เราจะมีการสอบอารมณ์ ทุกวันยกเว้นวันเสาร์ ( วันเสาร์มีสวดมนต์ที่ฐานพระตรงพระพุทธรูปนาคปรกด้านหน้า ใครสนใจก็สามารถเข้ามาสวดมนต์เพิ่มบารมีได้นะคะ ตอนกลางคืนยิ่งมองเห็นพระจันทร์จะสวยมาก ) เราจะต้องสอบอารมณ์กับพระอาจารย์ คือการรายงานการปฏิบัติว่า รู้สึกยังไง เห็นอะไรมั้ย กำหนดรึป่าว การกำหนดถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากค่ะ พระอาจารย์จะรู้ค่ะว่าใครกำหนดหรือไม่กำหนด ใครแอบคุยกัน พระอาจารย์จะแนะนำวิธีปฏิบัติสำหรับแต่ละคน เราจะต้องพิจารณาทุกสิ่งที่เราอยาก ทุกสิ่งที่เราคิด ทุกสิ่งที่มากระทบ มันคือการฝึกสติให้อยู่กับตัวค่ะ เมื่อเราทำจนชิน ทำจนชำนาญ เราจะมีสติ แก้ปัญหาทุกอย่างได้ จะอยู่ที่ไหนก็ได้
ตอนกลางคืนยุงค่อนข้างชุม เราจะนั่งปฏิบัติกันในกลด จนถึง 3 ทุ่ม แล้วแยกย้ายกันพักผ่อน เราก็ค่อยๆกำหนดเดินออกมาจากศาลาเข้าที่พัก เราก็กลับมาพักผ่อน ซึ่งทางเดินจะมีแสงไฟรำไร ผ่านตุงที่ห้อยระย้าลงมา อากาศเย็นสบายไม่น่ากลัวอย่างที่คิด รู้สึกปลอดภัย เราเดินผ่านพี่ไทรก็กล่าวทักทายปกติ แอบขนลุกนิดหน่อย แต่พี่เค้าใจดีนะ เราอาบน้ำแล้วเข้านอนปกติ ไม่เหตุการณ์อะไรแปลกๆเกิดขึ้น หลับสนิทมาก ทั้งๆที่เป็นหลับยาก โดยเฉพาะต่างที่
ที่นี่เค้าเคาะระฆังประมาณตี3 ครึ่งค่ะ เพราะเราต้องตื่นไปปฏิบัติตอนตี4 เสียงระฆังก้องกังวานอยู่ในหัว ไม่รู้สึกว่าถูกปลุก เหมือนนาฬิกาปลุกเลย อากาศเย็นสบายตอนกลางคืนค่อนข้างหนาว ง่วงนะอยากนอนต่อ แต่เดี๋ยวคนอื่นรอ มีเวลานิดหน่อยหลังจากเสียงระฆังดังใครใคร่อยากอาบน้ำก็อาบ แต่เราไม่ใคร่อาบเพราะหนาว
ตอนตี4 เหล่าโยคี แม่ชี ต้องมารวมตัวกันเพื่อปฏิบัติ นั่งสมาธิ เดินกงกรมต่อ จะเสียงระฆังดังขึ้นเตือนว่าถึเวลาฉันเช้า
ที่นี่ฉัน 2 ครั้ง ฉันเช้า และฉันเพล อาหารส่วนหนึ่งก็มาจากผู้ที่มีจิตศรัทธาบริจาคทุนทรัพย์ และผู้ที่มีจิตศรัทธาทำอาหารมาเลี้ยง และจากที่น้องเณรขยันตื่นไปบิณฑบาตรค่ะ ต้องฉันช้าๆกำหนดทุกอย่างที่เกิดขึ้น หรือสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
พระอาจารย์ท่านสอนว่า เราทุกคนต่างมีคุณค่า ขึ้นอยู่กับว่าเราเห็นคุณค่าของตัวเองรึป่าว และเราสามารถทำหน้าที่ของเราได้อย่างเต็มที่หรือยัง แม่ชี โยคี มีหน้าที่ปฏิบัติ ดังนั้นต้องตั้งใจปฏิบัติให้ดี ให้พระธรรมชำระล้างให้สิ่งดีๆเข้ามา เราจะได้ส่งต่อสิ่งดีๆให้กับผู้อื่นได้
เณรที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กที่มีปัญหา ไม่มีพ่อ แม่ ครอบครัวแตกแยก พระอาจารย์ก็รับไว้ทั้งหมด บางคนก็ไม่ปกติ บางคนก็ส่งเสียเรียนวิชาชีพ เพื่อมีความรู้มาพัฒนาวัด น้องเณรมีหน้าที่เรียน ศึกษาพระธรรม ทำประโยชน์แก่ส่วนรวม
เณรช่วยกันถมที่เพื่อเป็นที่จอดรถสำหรับผู้มาปฏิบัติธรรม และมาทำบุญค่ะ
ไม่ต้องยิ่งใหญ่ เอาที่แรงเราไหว
ไม่มีใครรู้...แต่พระรู้
นอกจากการสอนคนให้เป็นคนแล้ว การใช้ชีวิตแบบพอเพียงเป็นสิ่งที่สถานปฏิบัติธรรมที่นี่ยึดถือด้วยเช่นกัน การแยกขยะเพื่อไปทำเป็นปุ๋ย ปลุกผัก ตั้งแต่ที่มาอยู่ที่นี่ทุกมือที่ฉันจะมีผักสด ที่ปลูกเอง งานช่าง งานซ่อมแซม หรืองานเกษตร พระกับเณร โยคก็ช่วยกันทำ
สดๆจากสวนค่ะ
กองขยะรอย่อย เพื่อไปทำเป็นปุ๋ย
ที่พักโยคี
จุดแยกขยะ
รอตัดเพื่อทำประโยชน์ต่อไป
เมื่อมาพบเจอชีวิตแบบนี้ ทำให้เราสงสัยว่า อะไรคือสิ่งที่เราต้องการที่สุดในชีวิต คำตอบคือ อิสระ อิสระที่ได้ท่องเที่ยว อิสระที่ได้ทำในสิ่งที่เรารัก อิสระที่ได้อยู่กับคนที่เรารัก แต่ทุกสิ่งที่เราคิดมันกลับไม่ใช่อิสระที่แท้จริง เพราะอิสระที่แท้จริงคือการปล่อยวาง ปล่อยวางจากความอยาก ปล่อยวางจากอิสระ และอิสระที่แท้จริงอยู่ภายใต้หน้าที่
[CR] รีวิว ศูนย์ปฏิบัติธรรมวิริยะธรรมโม
พระพุทธรูปปางนาคปรกขนาดใหญ่
เริ่มแรกก็สามารถติดต่อที่เจ้าหน้าที่ที่ศาลาปฏิบัติธรรม สามารถลงทะเบียนปฏิบัติธรรมได้ถึง4 โมงเย็น ใช้บัตรประชาชนสำหรับลงทะเบียน กรอกรายละเอียด รับเสื่อ ผ้าห่ม หมอน ที่นี่ไม่อนุญาตให้ใช้โทรศัพท์ต้องฝากไว้กับเจ้าหน้าที่เท่านั้น นอกจากจะมีธุระสำคัญจริงๆเพื่อการปฏิบัติธรรมที่ก้าวหน้าค่ะ โทรศัพท์จะคืนให้ตอนสึก (จริงๆแล้วที่นี่ห้ามพกโทรศัพท์ ห้ามพกกล้อง แต่เราขออนุญาตพระอาจารย์ถ่ายตอนสึก)
สิ่งที่ต้องเตรียมมา
1.ของใช้ส่วนตัว สบู่ แชมพู ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ยากันยุง (ถ้าแพ้ยุง) ยารักษาโรคประจำตัว
2.ชุดปฏิบัติธรรม เสื้อขาว กางเกง หรือผ้าถุงก็ได้ เสื้อซับใน กางเกงซับใน สไบ (ที่นี่มีสไบสีน้ำตาล และผ้าถุงสีน้ำตาลจำหน่าย แล้วแต่จริตใครชอบค่ะ สไบ120 บาท ผ้านุ่ง200บาท )
3. ถ้าสะดวกแนะนำให้ติดผ้าห่มมาด้วยก็ดีนะคะ ตอนกลางคืนค่อนข้างหนาวเพราะต้นไม้เยอะค่ะ
4. สำคัญที่ต้องเตรียมที่สุดคือ ใจที่มีวิริยะค่ะ (ความเพียร)
5. ที่พักห้องรวมมีค่ามัดจำกุญแจ 100 บาท ( คืนให้ตอนออก ) ถ้าที่พักธรรมดาไม่ต้องมัดจำค่ะ
*********************************
สำหรับการเดินทางมาก็ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก ขับรถมาแปปเดียวก็ถึง
19 หมู่ 6 ซ.วัดสุขใจ ถ.นิมิตรใหม่ (26-28) แขวงทรายกองดิน เขตคลองสามวา กทม., (มีนบุรี สายไหม ลำลูกกา หนองจอก)
ใครไปไม่ถูกก็สามารถสอบถาม หรือ โทรจองก่อนได้ 092 261 9339
********************************
บรรยากาศด้านหน้าศาลาปฏิบัติธรรม
เจ้าแม่กวนอิม.....
ส่วนตัวชอบพระพุทธรูปปางนี้มากค่ะ ปางเปิดโลก
ขอพรท่านให้เปิดทางสว่างให้ชีวิต....
พระแม่ธรณี
หลังจากลงทะเบียนรับเครื่องนอนเสร็จ ก็จะมีเจ้าหน้าที่พาไปที่ห้องพักเราโชคดีค่ะได้นอนห้องใหญ่คนเดียว หึหึ ( ห้องพักของโยคี แม่ชี ยังมีไม่มาก ซึ่งกำลังจะมีโครงการสร้างใหม่ ) ที่นี่เรียกผู้ปฏิบัติธรรมว่าโยคี ระหว่างทางเดินมาห้องพัก จะมีสะพานไม้ข้ามคลองที่ค่อนข้างเก่า และต้นไทรขนาดใหญ่มีผ้าสีๆผูกอยู่ คิดในใจเลยค่ะว่า....เอาแล้ววววจะรอดมั้ยคืนนี้ ห้องที่เราพักเป็นห้องนอนหญิงรวม ชั้นล่างเป็นห้องน้ำหญิง คืนที่เรามานอนห้องอื่นเต็มหมดเลยต้องนอนคนเดียว
ต้นไทรต้นนี้เอง.....
ทางเดินด้านหน้า
การตกแต่งจะมีความผสมผสานของศิลปะล้านนา ร่มริ่นมาก เย็นสบาย
ที่พักน้องเณร....
มีพญานาคอยู่ทุกที่ค่ะ.....
ชอบมุมนี้มากค่ะ
ทางเดินไปที่พักโยคี
ที่พักสำหรับโยคี แม่ชี ( มีโครงการจะสร้างใหม่ เพื่อรองรับผู้ที่สนใจปฏิบัติธรรมซึ่งมีเพิ่มมากขึ้น )
พอเปลี่ยนชุดเสร็จเรียบร้อยก็จัดเลยจ้า โดนแม่ชีจัดจ้า 55555555
เริ่มแรกของการปฏิบัติ แม่ชีจะสอนเดินจงกรมระยะที่ 1( ขวาย่างหนอ ซ้ายย่างหนอ )
การเดินจงกรมจับความรู้สึกที่เท้า เพราะการเดินจงกรมจะทำให้เข้าสมาธิได้ง่ายและเร็วกว่า แม่ชีท่านจะสอนตั้งแต่พื้นฐานเลยค่ะ แม่ชีน่ารักและใจดีมากค่ะ ถ้าเราไม่ดื้ออ่ะนะ555555 น้ำเสียงตอนแม่ชีพูดว่า ขวาย่างหน่อ ซ้ายย่างหนอ ทำให้ขนลุกไปทั้งตัวเลยค่ะ ฟังมีพลังมาก
เราก็เริ่มปฏิบัติค่ะ
บรรยากาศด้านในค่ะ มีผู้ปฏิบัติธรรมมาปฏิบัติเรื่อยๆ ที่นี่ไม่จำกัดเวลา 3 วัน 5 วัน 7 วัน แล้วแต่สะดวก
บรรยากาศด้านใน
พระพุทธรูปไม้
ต่อด้วยการนั่งสมาธิ วิปัสสนากรรมฐาน แม่ชีบอกว่าให้เราจับจิต หรือกำหนดจิตอยู่ที่ท้องค่ะ ให้สังเกตอาการพอง อาการหยุบของท้องตอนหายใจ ( พองหนอ ยุบหนอ ) ตอนแรกเราก็ไม่คิดว่าแค่นั่งสมาธิต้องอดทนอะไรมากมายก็แค่นั่งๆกำหนด แต่เปล่าเลยค่ะ ใครที่ว่าเป็นสายโหดมาลองนั่งสมาธิติดกันสัก1ชม.จะรู้เลยค่ะ ความทุกข์คืออะไร เราเรียกว่าทุกขเวทนาค่ะ ซึ่งแต่ละคนไม่เหมือนกันแม่ชีบอกว่ามันคือก็เหมือนกรรมของแต่ละคนค่ะ ไม่ขอลงรายละเอียดแต่อยากให้ไปลองที่ว่าป่วยหนักๆมานั่งๆกันเนี๊ยหายไปหลายรายแล้วนะคะ ไม่ได้หายไปไหนนะคะ แต่หายจากอาการป่วยนี่แหละค่ะ
แม่ชีอ๊อด ท่านใจดีมากค่ะ...
เมื่อมีเรี่ยวแรงก็ลองมาปฏิบัติกันเถอะค่ะ...
เมื่อถึงเวลา ประมาณ 6 โมง - 1 ทุ่ม เราจะมีการสอบอารมณ์ ทุกวันยกเว้นวันเสาร์ ( วันเสาร์มีสวดมนต์ที่ฐานพระตรงพระพุทธรูปนาคปรกด้านหน้า ใครสนใจก็สามารถเข้ามาสวดมนต์เพิ่มบารมีได้นะคะ ตอนกลางคืนยิ่งมองเห็นพระจันทร์จะสวยมาก ) เราจะต้องสอบอารมณ์กับพระอาจารย์ คือการรายงานการปฏิบัติว่า รู้สึกยังไง เห็นอะไรมั้ย กำหนดรึป่าว การกำหนดถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากค่ะ พระอาจารย์จะรู้ค่ะว่าใครกำหนดหรือไม่กำหนด ใครแอบคุยกัน พระอาจารย์จะแนะนำวิธีปฏิบัติสำหรับแต่ละคน เราจะต้องพิจารณาทุกสิ่งที่เราอยาก ทุกสิ่งที่เราคิด ทุกสิ่งที่มากระทบ มันคือการฝึกสติให้อยู่กับตัวค่ะ เมื่อเราทำจนชิน ทำจนชำนาญ เราจะมีสติ แก้ปัญหาทุกอย่างได้ จะอยู่ที่ไหนก็ได้
ตอนกลางคืนยุงค่อนข้างชุม เราจะนั่งปฏิบัติกันในกลด จนถึง 3 ทุ่ม แล้วแยกย้ายกันพักผ่อน เราก็ค่อยๆกำหนดเดินออกมาจากศาลาเข้าที่พัก เราก็กลับมาพักผ่อน ซึ่งทางเดินจะมีแสงไฟรำไร ผ่านตุงที่ห้อยระย้าลงมา อากาศเย็นสบายไม่น่ากลัวอย่างที่คิด รู้สึกปลอดภัย เราเดินผ่านพี่ไทรก็กล่าวทักทายปกติ แอบขนลุกนิดหน่อย แต่พี่เค้าใจดีนะ เราอาบน้ำแล้วเข้านอนปกติ ไม่เหตุการณ์อะไรแปลกๆเกิดขึ้น หลับสนิทมาก ทั้งๆที่เป็นหลับยาก โดยเฉพาะต่างที่
ที่นี่เค้าเคาะระฆังประมาณตี3 ครึ่งค่ะ เพราะเราต้องตื่นไปปฏิบัติตอนตี4 เสียงระฆังก้องกังวานอยู่ในหัว ไม่รู้สึกว่าถูกปลุก เหมือนนาฬิกาปลุกเลย อากาศเย็นสบายตอนกลางคืนค่อนข้างหนาว ง่วงนะอยากนอนต่อ แต่เดี๋ยวคนอื่นรอ มีเวลานิดหน่อยหลังจากเสียงระฆังดังใครใคร่อยากอาบน้ำก็อาบ แต่เราไม่ใคร่อาบเพราะหนาว
ตอนตี4 เหล่าโยคี แม่ชี ต้องมารวมตัวกันเพื่อปฏิบัติ นั่งสมาธิ เดินกงกรมต่อ จะเสียงระฆังดังขึ้นเตือนว่าถึเวลาฉันเช้า
ที่นี่ฉัน 2 ครั้ง ฉันเช้า และฉันเพล อาหารส่วนหนึ่งก็มาจากผู้ที่มีจิตศรัทธาบริจาคทุนทรัพย์ และผู้ที่มีจิตศรัทธาทำอาหารมาเลี้ยง และจากที่น้องเณรขยันตื่นไปบิณฑบาตรค่ะ ต้องฉันช้าๆกำหนดทุกอย่างที่เกิดขึ้น หรือสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
พระอาจารย์ท่านสอนว่า เราทุกคนต่างมีคุณค่า ขึ้นอยู่กับว่าเราเห็นคุณค่าของตัวเองรึป่าว และเราสามารถทำหน้าที่ของเราได้อย่างเต็มที่หรือยัง แม่ชี โยคี มีหน้าที่ปฏิบัติ ดังนั้นต้องตั้งใจปฏิบัติให้ดี ให้พระธรรมชำระล้างให้สิ่งดีๆเข้ามา เราจะได้ส่งต่อสิ่งดีๆให้กับผู้อื่นได้
เณรที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กที่มีปัญหา ไม่มีพ่อ แม่ ครอบครัวแตกแยก พระอาจารย์ก็รับไว้ทั้งหมด บางคนก็ไม่ปกติ บางคนก็ส่งเสียเรียนวิชาชีพ เพื่อมีความรู้มาพัฒนาวัด น้องเณรมีหน้าที่เรียน ศึกษาพระธรรม ทำประโยชน์แก่ส่วนรวม
เณรช่วยกันถมที่เพื่อเป็นที่จอดรถสำหรับผู้มาปฏิบัติธรรม และมาทำบุญค่ะ
ไม่ต้องยิ่งใหญ่ เอาที่แรงเราไหว
ไม่มีใครรู้...แต่พระรู้
นอกจากการสอนคนให้เป็นคนแล้ว การใช้ชีวิตแบบพอเพียงเป็นสิ่งที่สถานปฏิบัติธรรมที่นี่ยึดถือด้วยเช่นกัน การแยกขยะเพื่อไปทำเป็นปุ๋ย ปลุกผัก ตั้งแต่ที่มาอยู่ที่นี่ทุกมือที่ฉันจะมีผักสด ที่ปลูกเอง งานช่าง งานซ่อมแซม หรืองานเกษตร พระกับเณร โยคก็ช่วยกันทำ
สดๆจากสวนค่ะ
กองขยะรอย่อย เพื่อไปทำเป็นปุ๋ย
ที่พักโยคี
จุดแยกขยะ
รอตัดเพื่อทำประโยชน์ต่อไป
เมื่อมาพบเจอชีวิตแบบนี้ ทำให้เราสงสัยว่า อะไรคือสิ่งที่เราต้องการที่สุดในชีวิต คำตอบคือ อิสระ อิสระที่ได้ท่องเที่ยว อิสระที่ได้ทำในสิ่งที่เรารัก อิสระที่ได้อยู่กับคนที่เรารัก แต่ทุกสิ่งที่เราคิดมันกลับไม่ใช่อิสระที่แท้จริง เพราะอิสระที่แท้จริงคือการปล่อยวาง ปล่อยวางจากความอยาก ปล่อยวางจากอิสระ และอิสระที่แท้จริงอยู่ภายใต้หน้าที่
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้