สำหรับคนที่กำลังคิดจะทำประกันอะไรสักและเป็นครั้งแรก ย้ำว่าครั้งแรก อย่าพึ่งข้ามตัวอักษรที่ผมกำลังบรรยายนี้ไป
วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์และบอกให้คนที่กำลังตัดสินใจทำประกันได้ทราบ
ผมได้ทำประกันชีวิตไว้กับ บริษัท กรุงไทยแอกซ่าประกันชีวิต จำกัด (อย่าฟ้องกุนะ เพราะทำกุกับบริษัทคุณจริงๆ)
เมื่อปีก่อน วันที่ 16 มิ.ย.62 ผมทำงานอยู่ในหน่วยงานราชการแห่งหนึ่งในจังหวัดปราจีนบุรี ประมาณสักบ่ายนิดๆ ก็มีตัวแทนจากบริษัท กรุงไทยแอกซ่าประกันชีวิต จำกัด (ขอเรียกสั้นๆว่า ตัวแทน กทอ. ละกันนะ) ชื่อพี่เก่ง(หัวหน้าตัวแทน) และพี่จูน (ตัวแทนขายโดยตรง)
เออนั้นแหละก็มาเสนอขายประกัน แต่ยอมรับอย่างนึ่งเลยว่า skill การขาย
สุดจริง ประกอบด้วยผมพึ่งบรรจุข้าราชการ และมีความคิดวางแผนที่จะใช้เงินในอีก 5-7 ปีข้างหน้า (ตอนนั้นผู้อายุ 26 คับ) ตัวแทน กทอ. ก็เสนอขายประกันให้ โดยบอกผมว่าเป็นประกันชีวิตประเภทเงินออม /ออมทรัพย์
รายละเอียด
เป็นการเสนอขายประกันระยะเวลา 5 ปี จ่ายเบี้ยปีละ 25,000 บาท เมื่อครบ 5 ปี ตามสัญญา จะได้รับเงินคืน เมื่อลูกค้าจ่ายครบ 3 ปี สามารถหยุดจ่ายค่าเบี้ยประกันได้ 1 ปี และเมื่อคุณลูกค้าทำประกันกับเราวันนี้จะได้รับของกำนัลเป็นทองคำ (มูลค่าเท่าไหร่ไม่ทราบ) และผมให้ส่งตัวกรมธรรม์กลับไปยังที่อยู่ตามบัตรประชาขน(จังหวัดแพร่)ต่างจังหวัด แต่ตัวผมทำงานอยู่ที่ ปราจีนบุรี
หลังจากนั้นทางตัวแทนฯได้บอกรายละเอียดต่างๆและสิทธิประโยขน์ที่จะได้รับ อาทิเช่น ช่วยดอกเบี้ย รายปี เพราะผมจ่ายผ่านบัตร KTC จึงมีดอกเบี้ย และเมื่อครบกำหนดผมจะได้รับเงินคืนเต็มจำนวน ย้ำเต็มจำนวน เพราะผมถามแล้ว 25,000 บาท 5 ปี ก็ 125,000 บาท ใช่หรือป่าว
ปีแรก ก็ปกติดีไม่มีอะไร ปีที่ 2 เริ่มไม่จ่ายดอกเบี้ยให้ละ และที่ต้องตกใจมาก็คือ ผมมารู้ว่าผมจะไม่ได้รับเงินคืนเต็มจำนวนเมื่อจ่ายค่าเบี้ยครบ 5 ปี แต่จะได้รับคืนตามมูลค่าเวนคืนอะไรสักอย่าง และตอนที่เสนอขาย ไม่ได้พูดถึงรายละเอียดตัวนี้เลย ซึ่งเป็นประเด็นที่สำคัญมาก ผมก็ได้โทรคุยกับหัวหน้าตัวแทน เค้าก็บอกว่าไม่มีนโยบาย
จากนั้นผมก็ร้องเรียนไปยัง คปภ. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย)
ทาง คปภ. นัดไกล่เกลี่ยขั้นต้น ระหว่าง ผม บริษัทกรุงไทยแอกซ่าประกันชีวิต และตัวแทน ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 ปรากฏว่า ตัวแทนไม่มาตามที่ได้นัดหมาย ตัวผมกับบริษัทฯจึงได้คุยกัน สรุปคือทางบริษัทไม่ยินยอมที่จะคืนเบี้ยดังกล่าว เนื่องจากกรมธรรม์ได้ผ่านระยะเวลาที่ได้กำหนดมาแล้ว ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปใดๆ ทาง คปภ.จึงนัดไกล่เกลี่ยอีกระดับในวันที่ 17 ธันวาคม 2562 ซึ่งทาง คปภ.ได้ออกหนังสือเชิญตัวแทนดังกล่าวมาพูดคุยด้วย และในครั้งนี้ไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ ก็ต้องถึงกระบวนการฟ้องร้องในชั้นศาล แต่ถามหน่อย คนธรรมดาอย่างผมเนี่ย จะมีทนายอย่างบริษัทไหม? เสียเงิน เสียเวลาอีก
ข้อเท็จจริง
1. ตอนเสนอขายประกันในตอนแรกคือประกันประเภทเงินออม/ออมทรัพย์ แต่พอจริงๆคือ อยู่ในหมวดประกันโรคร้ายแรง
2. เมื่อจ่ายเบี้ยครบ 5 ปี จะไม่ได้รับเงินคืนเต็มจำนวนอย่างที่เข้าใจ แต่จะได้ตามมูลค่าเวนคืน แต่ในการขายไม่ได้บอกรายละเอียดนี้แต่อย่างใด
ข้อสงสัย
1. มูลค่าเวนคืน ที่แสดงในกรมธรรม์ ทำไมถึงไม่แสดงอยอดที่จะได้รับคืนหลักจากครบปี ให้ชัดเจน 1 ปี 2 ปี 3 ปี 4 ปี 5 ปี จะเป็น 100 ปี หรือจะกี่ปีก็ตาม ควรจะแสดองมูลค่าเวนคืนเป็นจำนวนเงินให้ชัดเจน ในเมื่อมีสูตรในการคำนวณอยู่แล้ว ตัวเลขแทนค่าสมการก็มีชัดเจนอยู่แล้ว อายุของผมก็มีระบุ จำนวนปีก็มีระบุ วันที่กรมธรรม์ได้เริ่มการคุ้มครองก็ระบุ วันสิ้นสุดก็ระบุ แต่ทางบริษัท กรุงไทยแอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด ไม่ได้แสดงข้อมูลดังกล่าว เหมือนจงใจปกปิด ไม่ให้ผู้ซื้อประกันทราบ ทางบริษัทจัดทำเล่มกรมธรรม์ขึ้นมา โดยมีรายละเอียดชัดเจนขนาดนี้ แต่ทำไมถึงไม่ระบุรายละเอียดสาระสำคัญแบบนี้เข้าในกรมธรรม์ด้วย และบริษัทฯควรกำหนดตัวแทนให้เสนอขายโดยระบุสาระสำคัญเล่านี้ให้กับผู้ซื้อด้วย อย่าให้เป็นเหมือนกันหลอกล่วงเลย
2. ตัวแทน คุณต้องมีจรรยาบรรณในการขาย ซื่อสัตว์ต่ออาชีพตัวเองด้วย คุณบอกสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับ คุณต้องบอกสิ่งที่ลูกค้าจะเสียด้วย เมื่อไม่ได้ทำตามข้อไหนๆ พอเกิดเรื่องมา ก็หนีหาย
3. บริษัท กรุงไทยแอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด ไม่ได้มีการคัดตัวแทนเข้ามาทำงานหรือป่าว หรือใครมาทำก็ได้ ขอแค่ได้ผลงาน? แค่ได้เงินเข้าบริษัทฯ ???
ข้อเสนอแนะ
คนที่กำลังคิดจะทำประกันชีวิตครั้งแรก (ย้ำว่าครั้งแรก) คุณควรรู้ถึงสิทธิประโยชน์ทั้งหมดที่จะได้รับ และคุณเสียผลประโยชน์ตรงไหนบ้างเมื่อคุณไม่เป็นไปตามกรมธรรม์ แนะนำให้ถามคำถามนี้ไปเลยว่า “ผมจะเสียผลประโยชน์อะไรบ้างเมื่อไม่เป็นไปตามกรมธรรม์ ?” ถ้าตัวแทนเสนอขาย กล้าที่จะเขียนข้อมูลที่ตัวแทนเสนอขายและเราเข้าใจแบบไหนลงในกระดาษ แล้วให้ตัวแทนลงนาม และพยานด้วย ขอสำเนาบัตรประชาชนตัวแทนไว้เลย เพื่อที่จะได้เป็นหลักฐานเมื่อไมได้เป็นไปตามที่เสนอขาย และบริษัทฯควรรับผิดชอบ ไม่ใช่ปัดไปปัดมาแบบนี้
ปล. ต้องขอขอบคุณทาง คปภ. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย) ที่พยายามช่วยเหลือเต็มที่ ถึงแม้ว่าในการไกลเกลี่ยจะไม่สำเร็จก็ตาม
ใครเคยซื้อประกันของบริษัทกรุงไทยแอกซ่าฯ หรือบริษัทประกันอื่น แล้วโดนเหมือนกันแบบนี้บ้างคับ
เสี่ยงมากแค่ไหน เมื่อคุณทำประกันชีวิตกับ”กรุงไทยแอกซ่า” คิดให้ดีก่อนทำ จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ
วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์และบอกให้คนที่กำลังตัดสินใจทำประกันได้ทราบ
ผมได้ทำประกันชีวิตไว้กับ บริษัท กรุงไทยแอกซ่าประกันชีวิต จำกัด (อย่าฟ้องกุนะ เพราะทำกุกับบริษัทคุณจริงๆ)
เมื่อปีก่อน วันที่ 16 มิ.ย.62 ผมทำงานอยู่ในหน่วยงานราชการแห่งหนึ่งในจังหวัดปราจีนบุรี ประมาณสักบ่ายนิดๆ ก็มีตัวแทนจากบริษัท กรุงไทยแอกซ่าประกันชีวิต จำกัด (ขอเรียกสั้นๆว่า ตัวแทน กทอ. ละกันนะ) ชื่อพี่เก่ง(หัวหน้าตัวแทน) และพี่จูน (ตัวแทนขายโดยตรง)
เออนั้นแหละก็มาเสนอขายประกัน แต่ยอมรับอย่างนึ่งเลยว่า skill การขายสุดจริง ประกอบด้วยผมพึ่งบรรจุข้าราชการ และมีความคิดวางแผนที่จะใช้เงินในอีก 5-7 ปีข้างหน้า (ตอนนั้นผู้อายุ 26 คับ) ตัวแทน กทอ. ก็เสนอขายประกันให้ โดยบอกผมว่าเป็นประกันชีวิตประเภทเงินออม /ออมทรัพย์
รายละเอียด
เป็นการเสนอขายประกันระยะเวลา 5 ปี จ่ายเบี้ยปีละ 25,000 บาท เมื่อครบ 5 ปี ตามสัญญา จะได้รับเงินคืน เมื่อลูกค้าจ่ายครบ 3 ปี สามารถหยุดจ่ายค่าเบี้ยประกันได้ 1 ปี และเมื่อคุณลูกค้าทำประกันกับเราวันนี้จะได้รับของกำนัลเป็นทองคำ (มูลค่าเท่าไหร่ไม่ทราบ) และผมให้ส่งตัวกรมธรรม์กลับไปยังที่อยู่ตามบัตรประชาขน(จังหวัดแพร่)ต่างจังหวัด แต่ตัวผมทำงานอยู่ที่ ปราจีนบุรี
หลังจากนั้นทางตัวแทนฯได้บอกรายละเอียดต่างๆและสิทธิประโยขน์ที่จะได้รับ อาทิเช่น ช่วยดอกเบี้ย รายปี เพราะผมจ่ายผ่านบัตร KTC จึงมีดอกเบี้ย และเมื่อครบกำหนดผมจะได้รับเงินคืนเต็มจำนวน ย้ำเต็มจำนวน เพราะผมถามแล้ว 25,000 บาท 5 ปี ก็ 125,000 บาท ใช่หรือป่าว
ปีแรก ก็ปกติดีไม่มีอะไร ปีที่ 2 เริ่มไม่จ่ายดอกเบี้ยให้ละ และที่ต้องตกใจมาก็คือ ผมมารู้ว่าผมจะไม่ได้รับเงินคืนเต็มจำนวนเมื่อจ่ายค่าเบี้ยครบ 5 ปี แต่จะได้รับคืนตามมูลค่าเวนคืนอะไรสักอย่าง และตอนที่เสนอขาย ไม่ได้พูดถึงรายละเอียดตัวนี้เลย ซึ่งเป็นประเด็นที่สำคัญมาก ผมก็ได้โทรคุยกับหัวหน้าตัวแทน เค้าก็บอกว่าไม่มีนโยบาย
จากนั้นผมก็ร้องเรียนไปยัง คปภ. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย)
ทาง คปภ. นัดไกล่เกลี่ยขั้นต้น ระหว่าง ผม บริษัทกรุงไทยแอกซ่าประกันชีวิต และตัวแทน ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 ปรากฏว่า ตัวแทนไม่มาตามที่ได้นัดหมาย ตัวผมกับบริษัทฯจึงได้คุยกัน สรุปคือทางบริษัทไม่ยินยอมที่จะคืนเบี้ยดังกล่าว เนื่องจากกรมธรรม์ได้ผ่านระยะเวลาที่ได้กำหนดมาแล้ว ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปใดๆ ทาง คปภ.จึงนัดไกล่เกลี่ยอีกระดับในวันที่ 17 ธันวาคม 2562 ซึ่งทาง คปภ.ได้ออกหนังสือเชิญตัวแทนดังกล่าวมาพูดคุยด้วย และในครั้งนี้ไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ ก็ต้องถึงกระบวนการฟ้องร้องในชั้นศาล แต่ถามหน่อย คนธรรมดาอย่างผมเนี่ย จะมีทนายอย่างบริษัทไหม? เสียเงิน เสียเวลาอีก
ข้อเท็จจริง
1. ตอนเสนอขายประกันในตอนแรกคือประกันประเภทเงินออม/ออมทรัพย์ แต่พอจริงๆคือ อยู่ในหมวดประกันโรคร้ายแรง
2. เมื่อจ่ายเบี้ยครบ 5 ปี จะไม่ได้รับเงินคืนเต็มจำนวนอย่างที่เข้าใจ แต่จะได้ตามมูลค่าเวนคืน แต่ในการขายไม่ได้บอกรายละเอียดนี้แต่อย่างใด
ข้อสงสัย
1. มูลค่าเวนคืน ที่แสดงในกรมธรรม์ ทำไมถึงไม่แสดงอยอดที่จะได้รับคืนหลักจากครบปี ให้ชัดเจน 1 ปี 2 ปี 3 ปี 4 ปี 5 ปี จะเป็น 100 ปี หรือจะกี่ปีก็ตาม ควรจะแสดองมูลค่าเวนคืนเป็นจำนวนเงินให้ชัดเจน ในเมื่อมีสูตรในการคำนวณอยู่แล้ว ตัวเลขแทนค่าสมการก็มีชัดเจนอยู่แล้ว อายุของผมก็มีระบุ จำนวนปีก็มีระบุ วันที่กรมธรรม์ได้เริ่มการคุ้มครองก็ระบุ วันสิ้นสุดก็ระบุ แต่ทางบริษัท กรุงไทยแอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด ไม่ได้แสดงข้อมูลดังกล่าว เหมือนจงใจปกปิด ไม่ให้ผู้ซื้อประกันทราบ ทางบริษัทจัดทำเล่มกรมธรรม์ขึ้นมา โดยมีรายละเอียดชัดเจนขนาดนี้ แต่ทำไมถึงไม่ระบุรายละเอียดสาระสำคัญแบบนี้เข้าในกรมธรรม์ด้วย และบริษัทฯควรกำหนดตัวแทนให้เสนอขายโดยระบุสาระสำคัญเล่านี้ให้กับผู้ซื้อด้วย อย่าให้เป็นเหมือนกันหลอกล่วงเลย
2. ตัวแทน คุณต้องมีจรรยาบรรณในการขาย ซื่อสัตว์ต่ออาชีพตัวเองด้วย คุณบอกสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับ คุณต้องบอกสิ่งที่ลูกค้าจะเสียด้วย เมื่อไม่ได้ทำตามข้อไหนๆ พอเกิดเรื่องมา ก็หนีหาย
3. บริษัท กรุงไทยแอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด ไม่ได้มีการคัดตัวแทนเข้ามาทำงานหรือป่าว หรือใครมาทำก็ได้ ขอแค่ได้ผลงาน? แค่ได้เงินเข้าบริษัทฯ ???
ข้อเสนอแนะ
คนที่กำลังคิดจะทำประกันชีวิตครั้งแรก (ย้ำว่าครั้งแรก) คุณควรรู้ถึงสิทธิประโยชน์ทั้งหมดที่จะได้รับ และคุณเสียผลประโยชน์ตรงไหนบ้างเมื่อคุณไม่เป็นไปตามกรมธรรม์ แนะนำให้ถามคำถามนี้ไปเลยว่า “ผมจะเสียผลประโยชน์อะไรบ้างเมื่อไม่เป็นไปตามกรมธรรม์ ?” ถ้าตัวแทนเสนอขาย กล้าที่จะเขียนข้อมูลที่ตัวแทนเสนอขายและเราเข้าใจแบบไหนลงในกระดาษ แล้วให้ตัวแทนลงนาม และพยานด้วย ขอสำเนาบัตรประชาชนตัวแทนไว้เลย เพื่อที่จะได้เป็นหลักฐานเมื่อไมได้เป็นไปตามที่เสนอขาย และบริษัทฯควรรับผิดชอบ ไม่ใช่ปัดไปปัดมาแบบนี้
ปล. ต้องขอขอบคุณทาง คปภ. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย) ที่พยายามช่วยเหลือเต็มที่ ถึงแม้ว่าในการไกลเกลี่ยจะไม่สำเร็จก็ตาม
ใครเคยซื้อประกันของบริษัทกรุงไทยแอกซ่าฯ หรือบริษัทประกันอื่น แล้วโดนเหมือนกันแบบนี้บ้างคับ