สวัสดีค่ะแม่หมูปีกุนนะคะ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยนะคะว่าไม่ได้ค่าโฆษณาหรืออะไรทั้งสิ้นอยากจะแชร์ประสบการณ์จริงๆ
ขออนุญาตแชร์ประสบการณ์การคลอดลูกครั้งแรกที่โรงพยาบาลเอกชนโรงพยาบาลนนทเวชจังหวัดนนทบุรีใกล้ๆกับเดอะมอลล์งามวงศ์วานค่ะ
หมอของเราชื่อหมอจิรพล นิสัยดีอารมณ์ดีพูดจาเพราะใส่ใจคนไข้มากค่ะ ก่อนที่จะเข้าสู่ประสบการณ์การผ่าคลอดนะคะขอท้าวความเบื้องต้นก่อนนิดนึง
การตั้งครรภ์ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของเรา ซึ่งเราพยายามมาประมาณ 10 เดือนค่ะถึงติด ตอนแรกที่ไปตรวจว่าท้องหรือไม่ก็ยังไม่ได้เลือกหมอค่ะแต่สุดท้ายตอนที่จะฝากครรภ์ก็ไปลงเอยที่คุณหมอจิรพล เหตุผลที่เลือกคุณหมอจิรพลเพราะว่าคุณหมอใส่ใจให้คำแนะนำเยอะมากและทำให้เรารู้สึกว่าคำถามที่เตรียมไปมันไม่ลำบากมากเกินพอในการตอบสำหรับคุณหมอ (เราแล้วแฟนเป็นพวกที่ช่างสงสัยค่ะทุกครั้งที่เข้าไปพบคุณหมอจะเตรียมคำถามเอาไว้ก่อน)
การคลอดครั้งนี้ตั้งใจจะคลอดแบบธรรมชาติ แต่กลับเป็นว่าเมื่อสัปดาห์ที่ 37 น้องไม่ยอมกลับหัวเลยต้องคลอดแบบผ่าคลอดค่ะ
เนื่องด้วยเรารับราชการเราจึงขอใช้สิทธิ์ราชการในการผ่าคลอดได้เพราะน้องไม่ยอมกลับหัว สำหรับราคาแพ็คเกจของนนทเวชในการผ่าคลอด (ใช้สิทธิ์ราชการ) คือ 51100 บาทรวมค่าทุกอย่างและนอนที่โรงพยาบาล 3 คืน 4 วัน
เข้าสู่ประสบการณ์แล้วกันนะคะ
คุณหมอนัดวันจันทร์ให้ไปถึงที่โรงพยาบาลตอนตี 5 โดยคนรับไข้เป็นไฟฉุกเฉินเราก็เข้าไปชั่งน้ำหนักแล้วก็มีคนพาไปที่ชั้น 2 ห้องคลอดค่ะ เมื่อไปถึงที่ห้องคลอดก็มีการเตรียมตัวก่อนเข้าห้องผ่าตัดตอนแรกคนเข็นรถเข้าไปในห้องวีไอพีตกใจเพราะตอนที่ไปทัวร์ห้องคลอดนั้นเข้าใจว่าถ้าใช้ห้องดังกล่าวจะมีค่าใช้จ่าย 6 ชั่วโมงแรกเท่ากับ 3,000 แต่เนื่องจากว่าไม่มีใครมาคลอดในช่วงเวลาเดียวกันเท่ากับห้องว่างเราเลยได้ใช้ห้อง VIP ก่อนเข้าห้องผ่าตัดค่ะ
หลังจากนั้นคุณพยาบาลก็มาเตรียมเจาะน้ำเกลือ สวนทวาร ตรวจความดันวัดไข้ monitor หัวใจน้อง ทั้งหมดนี้คือเตรียมตัวก่อนที่จะเข้าห้องผ่าตัดค่ะ สักพักประมาณเวลา 6:00 น. มาทักทายแล้วก็บอกว่าไม่ต้องกังวล คุณหมอจิรพลยังคงน่ารักเสมอ เราก็มีคุณหมอวางยาเข้ามาอธิบายรายละเอียดว่าจะทำอย่างไรบ้างในห้องโดยเน้นว่ายาจะออกฤทธิ์ได้ผลมากน้อยนั้นก็ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของคุณแม่ค่ะ พอเวลาประมาณ 7:00 น. ก็เริ่มเคลื่อนที่ไปยังห้องผ่าตัด ณเวลานั้นก็เริ่มตื่นเต้นแล้วค่ะเพราะเข้าไปก็เห็นคุณหมอจิรพลนั่งรออยู่ข้างหน้าแล้วก็ถูกเข็นเข้าไปที่ห้องผ่าตัด คุณหมอจิรพลมีความเป็นห่วงเป็นใยและก็เอนชัวร์ว่าทุกอย่างจะปลอดภัยดี ทำให้ยิ่งมั่นใจก่อนเข้าห้องผ่าตัดค่ะ
จำได้ว่าตอนเข้าไปในห้องผ่าตัด มันไม่เหมือนกับในซีรีย์หรือว่าหนังที่เราดูเลย ห้องกว้างลงและหนาวมาก เราบอกพยาบาลว่าหนาวแต่คุณพยาบาลก็บอกว่าต้องเป็นอุณหภูมิเท่านี้เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค พอเข้าไปถึงสักพักคุณหมอดมยาก็เข้ามาสิ่งที่ต้องทำคือต้องนอนตะแคงและงอตัวกอดเข่าให้คงที่สุดเหมือนตัวกุ้งหลังจากนั้นก็เริ่มฉีดยาชาเข้าไปที่ตรงกลางของหลังจำได้ว่าเจ็บมาก เมื่อฉีดเสร็จสักพัก ช่วงล่างเริ่มไม่รู้สึกอะไร หลังจากนั้นก็ไม่รู้เลยว่าหมอทำอะไรกับเราบ้างจนถึงระยะหนึ่งที่ถามคุณหมอว่าเริ่มผ่าแล้วหรอคะ คุณหมอตอบว่าใช่ค่ะจะได้เห็นหน้าลูกแล้วเกือบถึงลูกแล้ว ตอนนั้นน้ำตาเต็มเบ้าตาเลยค่ะ เพราะรู้ว่าแม่จะได้เห็นหน้าลูกพี่อุ้มท้องมา 9 เดือนแล้วสักพักนึงก็รู้สึกเหมือนคุณหมอจะต้องกระทงแล้วขยับตัวเราเพื่อที่จะให้ได้ลูกออกมา หมอบอกว่าลูกออกมาแล้วค่ะแต่ยังไม่ได้ยินเสียงลูก ถามว่าลูกโอเคไหมครบไหม หมอก็บอกว่าทุกอย่างโอเค สักพักก็ได้ยินเสียงลูกร้อง แล้วคุณพ่อก็เดินมาดูลูก
ใจจริงเราอยากจะให้ลูกได้ดูดนมแล้วตั้งแต่ออกจากเรามา และแจ้งไปกับทางคุณหมอ ซึ่งคุณหมอเด็กก็ได้พยายามให้ลูกดูดนม แต่เนื่องด้วยการวางฉากกั้นเวลาผ่าไม่ค่อยอำนวยเท่าไหร่ลูกเลยไม่ได้ดูดนมเลย หมอบอกว่าช่วงหนึ่งชั่วโมงแรกที่ลูกออกมาในโลกภายนอกนี้เป็นช่วงที่วิกฤต critical ที่สุด ดังนั้นจึงจะต้องพาเด็กไปอ๊อฟเสิร์ฟแล้วก็ดูแลให้เร็วที่สุดหลังจากออกมาจากแม่ ทุกคนจึงพาลูกออกไปและพอก็ตามไปด้วยเช่นเดียวกัน
หลังจากนั้นคุณหมอจิรพลก็เริ่มเย็บแผลและเมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วคุณหมอนั่งรอเราอยู่หน้าห้องผ่าเพื่อที่จะแอบบอกว่าลูกหนักเท่าไหร่และสูงเท่าไหร่
หลังจากนั้นก็ไปเข้าไปรอที่ห้องพักฟื้นประมาณ 1 ชั่วโมง ก็จะมึนๆหน่อย เราก็หลังจากที่ยาชาเริ่มลดลงเริ่มมีสติมากขึ้น เจ้าหน้าที่ก็พาขึ้นไปที่ห้อง ชั้น 9 ซึ่งสามีก็รออยู่ที่ห้องอยู่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้น้องก็อยู่ที่ห้องนะเชอรี่ที่ชั้นเดียวกัน เหตุการณ์ทั้งหมดเสร็จสิ้นก่อนเที่ยง สรุปก็คือมาลงทะเบียนตอน 05:00 น. เตรียมตัวเข้าห้องผ่า ลูกเกิด 8.00 น ขึ้นไปที่ห้องพักตอน 11 โมงกว่าๆ
หลังจากนั้นช่วงบ่าย ประมาณ 15:00 น. พยาบาลก็เข็นน้องมาให้เจอหน้าครั้งแรกค่ะ
จำได้ว่ายังเมายาอยู่ พูดเบามาก และแพ้มอร์ฟีน คันมากๆ แต่คันแค่สองวัน เพราะฤทธิ์ยาชาก็หายไปในที่สุด พยาบาลจะเข็นน้องมาให้อยู่กับเราให้มากที่สุด และจะเอาน้องเข้าเต้าและสอนเราตลอด ยอมรับว่า ขนาดให้นมน้องทั้งเช้าและกลางคืน (ต้องเดินไป nursery เพราะพยาบาลเข้าเวรไม่พอไม่สามารถนำน้องมาส่งที่ห้องได้) ยังรู้สึกว่ายังรู้ไม่พอเลย ยังมีคำถามอยู่ตลอด
คุณหมอจิรพลใส่ใจมาก คุณหมอจิรพลจะมาหาทุกเช้า ส่วนมากจะเจอกันตรง nursery เพราะเราไปให้นมลูกตอนเช้า (เราอยู่ รพ. สามคืนสี่วัน) และแผลที่ผ่ามาดูดี ไม่น่ากลัว พยาบาลบอกว่า รพ. นี้ก็มีหมอที่เจ็บสวยไม่กี่คน ซึ่ง หมอจิรพลก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ
เอาแผลให้ดู นะคะ อันนี้คือ แผลผ่าและเย็บโดยหมอจิรพล และใช้ Dermatix สามเดือนแรก และสามเดือนที่เหลือใช้ แผ่นเจล Cica Care นะคะ
หลังคลอดสามเดือน
หลังตลอดหกเดือน
คำแนะนำสำหรับคุณแม่ทุกคน
ช่วงเวลาที่สามารถพักผ่อนได้ พักให้เยอะๆ เพราะน้ำนมจะได้มา เราตัดสินใจถูกต้องว่าคืนสุดท้าย เราจะนอน ก็ดีใจเพราะเมื่อนอนพักผ่อนเพียงพอแล้ว น้ำนมมาแบบทะลักมาก หวังว่าจะพอเห็นภาพนะคะ ปล. สิ่งที่เจ็บที่สุดไม่ใช่แผล แต่คือหัวนม ถ้ามีคนให้ปรึกษา ให้คุยด้วย เอาเป็นแม่ๆ ที่มีประสบการณ์จะช่วยได้มาก แต่สุดท้าย เราก็ต้องเลือกวิธีและแบบของเราเองค่ะ
สรุปให้คะแนนคุณหมอ
คุณหมอ 10/10 น่ารัก เป็นกันเอง เป็นห่วง ดูแลดีมาาาาก
ห้องพัก 9/10 หัก 1 คะแนน เพราะช่วงที่มีคนมาเยี่ยม ไม่มี รปภ. ตรวจก่อนว่าจะมาเยี่ยมใคร ชื่ออะไร ให้ขึ้นมาเลย
อาหาร 10/10 อร่อยมาก (มีวันไหนที่ยังทานไม่ได้ รพ. ก็จัดให้ญาติทานแทนค่ะ)
พยาบาล 9/10 เหมือนจะเด็ก แต่ก็ดูแลดี
ผู้ช่วยพยาบาล 9/10 มีคนดี อีกคนหน้าบูดๆ หน่อย แต่ก็ไม่เป็นไร
บริการแจ้งเกิดทำสูติบัตร 10/10
[CR] รีวิวการผ่าคลอดที่โรงพยาบาลนนทเวช เมษายน 2562
ขออนุญาตแชร์ประสบการณ์การคลอดลูกครั้งแรกที่โรงพยาบาลเอกชนโรงพยาบาลนนทเวชจังหวัดนนทบุรีใกล้ๆกับเดอะมอลล์งามวงศ์วานค่ะ
หมอของเราชื่อหมอจิรพล นิสัยดีอารมณ์ดีพูดจาเพราะใส่ใจคนไข้มากค่ะ ก่อนที่จะเข้าสู่ประสบการณ์การผ่าคลอดนะคะขอท้าวความเบื้องต้นก่อนนิดนึง
การตั้งครรภ์ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของเรา ซึ่งเราพยายามมาประมาณ 10 เดือนค่ะถึงติด ตอนแรกที่ไปตรวจว่าท้องหรือไม่ก็ยังไม่ได้เลือกหมอค่ะแต่สุดท้ายตอนที่จะฝากครรภ์ก็ไปลงเอยที่คุณหมอจิรพล เหตุผลที่เลือกคุณหมอจิรพลเพราะว่าคุณหมอใส่ใจให้คำแนะนำเยอะมากและทำให้เรารู้สึกว่าคำถามที่เตรียมไปมันไม่ลำบากมากเกินพอในการตอบสำหรับคุณหมอ (เราแล้วแฟนเป็นพวกที่ช่างสงสัยค่ะทุกครั้งที่เข้าไปพบคุณหมอจะเตรียมคำถามเอาไว้ก่อน)
การคลอดครั้งนี้ตั้งใจจะคลอดแบบธรรมชาติ แต่กลับเป็นว่าเมื่อสัปดาห์ที่ 37 น้องไม่ยอมกลับหัวเลยต้องคลอดแบบผ่าคลอดค่ะ
เนื่องด้วยเรารับราชการเราจึงขอใช้สิทธิ์ราชการในการผ่าคลอดได้เพราะน้องไม่ยอมกลับหัว สำหรับราคาแพ็คเกจของนนทเวชในการผ่าคลอด (ใช้สิทธิ์ราชการ) คือ 51100 บาทรวมค่าทุกอย่างและนอนที่โรงพยาบาล 3 คืน 4 วัน
เข้าสู่ประสบการณ์แล้วกันนะคะ
คุณหมอนัดวันจันทร์ให้ไปถึงที่โรงพยาบาลตอนตี 5 โดยคนรับไข้เป็นไฟฉุกเฉินเราก็เข้าไปชั่งน้ำหนักแล้วก็มีคนพาไปที่ชั้น 2 ห้องคลอดค่ะ เมื่อไปถึงที่ห้องคลอดก็มีการเตรียมตัวก่อนเข้าห้องผ่าตัดตอนแรกคนเข็นรถเข้าไปในห้องวีไอพีตกใจเพราะตอนที่ไปทัวร์ห้องคลอดนั้นเข้าใจว่าถ้าใช้ห้องดังกล่าวจะมีค่าใช้จ่าย 6 ชั่วโมงแรกเท่ากับ 3,000 แต่เนื่องจากว่าไม่มีใครมาคลอดในช่วงเวลาเดียวกันเท่ากับห้องว่างเราเลยได้ใช้ห้อง VIP ก่อนเข้าห้องผ่าตัดค่ะ
หลังจากนั้นคุณพยาบาลก็มาเตรียมเจาะน้ำเกลือ สวนทวาร ตรวจความดันวัดไข้ monitor หัวใจน้อง ทั้งหมดนี้คือเตรียมตัวก่อนที่จะเข้าห้องผ่าตัดค่ะ สักพักประมาณเวลา 6:00 น. มาทักทายแล้วก็บอกว่าไม่ต้องกังวล คุณหมอจิรพลยังคงน่ารักเสมอ เราก็มีคุณหมอวางยาเข้ามาอธิบายรายละเอียดว่าจะทำอย่างไรบ้างในห้องโดยเน้นว่ายาจะออกฤทธิ์ได้ผลมากน้อยนั้นก็ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของคุณแม่ค่ะ พอเวลาประมาณ 7:00 น. ก็เริ่มเคลื่อนที่ไปยังห้องผ่าตัด ณเวลานั้นก็เริ่มตื่นเต้นแล้วค่ะเพราะเข้าไปก็เห็นคุณหมอจิรพลนั่งรออยู่ข้างหน้าแล้วก็ถูกเข็นเข้าไปที่ห้องผ่าตัด คุณหมอจิรพลมีความเป็นห่วงเป็นใยและก็เอนชัวร์ว่าทุกอย่างจะปลอดภัยดี ทำให้ยิ่งมั่นใจก่อนเข้าห้องผ่าตัดค่ะ
จำได้ว่าตอนเข้าไปในห้องผ่าตัด มันไม่เหมือนกับในซีรีย์หรือว่าหนังที่เราดูเลย ห้องกว้างลงและหนาวมาก เราบอกพยาบาลว่าหนาวแต่คุณพยาบาลก็บอกว่าต้องเป็นอุณหภูมิเท่านี้เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค พอเข้าไปถึงสักพักคุณหมอดมยาก็เข้ามาสิ่งที่ต้องทำคือต้องนอนตะแคงและงอตัวกอดเข่าให้คงที่สุดเหมือนตัวกุ้งหลังจากนั้นก็เริ่มฉีดยาชาเข้าไปที่ตรงกลางของหลังจำได้ว่าเจ็บมาก เมื่อฉีดเสร็จสักพัก ช่วงล่างเริ่มไม่รู้สึกอะไร หลังจากนั้นก็ไม่รู้เลยว่าหมอทำอะไรกับเราบ้างจนถึงระยะหนึ่งที่ถามคุณหมอว่าเริ่มผ่าแล้วหรอคะ คุณหมอตอบว่าใช่ค่ะจะได้เห็นหน้าลูกแล้วเกือบถึงลูกแล้ว ตอนนั้นน้ำตาเต็มเบ้าตาเลยค่ะ เพราะรู้ว่าแม่จะได้เห็นหน้าลูกพี่อุ้มท้องมา 9 เดือนแล้วสักพักนึงก็รู้สึกเหมือนคุณหมอจะต้องกระทงแล้วขยับตัวเราเพื่อที่จะให้ได้ลูกออกมา หมอบอกว่าลูกออกมาแล้วค่ะแต่ยังไม่ได้ยินเสียงลูก ถามว่าลูกโอเคไหมครบไหม หมอก็บอกว่าทุกอย่างโอเค สักพักก็ได้ยินเสียงลูกร้อง แล้วคุณพ่อก็เดินมาดูลูก
ใจจริงเราอยากจะให้ลูกได้ดูดนมแล้วตั้งแต่ออกจากเรามา และแจ้งไปกับทางคุณหมอ ซึ่งคุณหมอเด็กก็ได้พยายามให้ลูกดูดนม แต่เนื่องด้วยการวางฉากกั้นเวลาผ่าไม่ค่อยอำนวยเท่าไหร่ลูกเลยไม่ได้ดูดนมเลย หมอบอกว่าช่วงหนึ่งชั่วโมงแรกที่ลูกออกมาในโลกภายนอกนี้เป็นช่วงที่วิกฤต critical ที่สุด ดังนั้นจึงจะต้องพาเด็กไปอ๊อฟเสิร์ฟแล้วก็ดูแลให้เร็วที่สุดหลังจากออกมาจากแม่ ทุกคนจึงพาลูกออกไปและพอก็ตามไปด้วยเช่นเดียวกัน
หลังจากนั้นคุณหมอจิรพลก็เริ่มเย็บแผลและเมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วคุณหมอนั่งรอเราอยู่หน้าห้องผ่าเพื่อที่จะแอบบอกว่าลูกหนักเท่าไหร่และสูงเท่าไหร่
หลังจากนั้นก็ไปเข้าไปรอที่ห้องพักฟื้นประมาณ 1 ชั่วโมง ก็จะมึนๆหน่อย เราก็หลังจากที่ยาชาเริ่มลดลงเริ่มมีสติมากขึ้น เจ้าหน้าที่ก็พาขึ้นไปที่ห้อง ชั้น 9 ซึ่งสามีก็รออยู่ที่ห้องอยู่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้น้องก็อยู่ที่ห้องนะเชอรี่ที่ชั้นเดียวกัน เหตุการณ์ทั้งหมดเสร็จสิ้นก่อนเที่ยง สรุปก็คือมาลงทะเบียนตอน 05:00 น. เตรียมตัวเข้าห้องผ่า ลูกเกิด 8.00 น ขึ้นไปที่ห้องพักตอน 11 โมงกว่าๆ
หลังจากนั้นช่วงบ่าย ประมาณ 15:00 น. พยาบาลก็เข็นน้องมาให้เจอหน้าครั้งแรกค่ะ
จำได้ว่ายังเมายาอยู่ พูดเบามาก และแพ้มอร์ฟีน คันมากๆ แต่คันแค่สองวัน เพราะฤทธิ์ยาชาก็หายไปในที่สุด พยาบาลจะเข็นน้องมาให้อยู่กับเราให้มากที่สุด และจะเอาน้องเข้าเต้าและสอนเราตลอด ยอมรับว่า ขนาดให้นมน้องทั้งเช้าและกลางคืน (ต้องเดินไป nursery เพราะพยาบาลเข้าเวรไม่พอไม่สามารถนำน้องมาส่งที่ห้องได้) ยังรู้สึกว่ายังรู้ไม่พอเลย ยังมีคำถามอยู่ตลอด
คุณหมอจิรพลใส่ใจมาก คุณหมอจิรพลจะมาหาทุกเช้า ส่วนมากจะเจอกันตรง nursery เพราะเราไปให้นมลูกตอนเช้า (เราอยู่ รพ. สามคืนสี่วัน) และแผลที่ผ่ามาดูดี ไม่น่ากลัว พยาบาลบอกว่า รพ. นี้ก็มีหมอที่เจ็บสวยไม่กี่คน ซึ่ง หมอจิรพลก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ
เอาแผลให้ดู นะคะ อันนี้คือ แผลผ่าและเย็บโดยหมอจิรพล และใช้ Dermatix สามเดือนแรก และสามเดือนที่เหลือใช้ แผ่นเจล Cica Care นะคะ
หลังคลอดสามเดือน
หลังตลอดหกเดือน
คำแนะนำสำหรับคุณแม่ทุกคน
ช่วงเวลาที่สามารถพักผ่อนได้ พักให้เยอะๆ เพราะน้ำนมจะได้มา เราตัดสินใจถูกต้องว่าคืนสุดท้าย เราจะนอน ก็ดีใจเพราะเมื่อนอนพักผ่อนเพียงพอแล้ว น้ำนมมาแบบทะลักมาก หวังว่าจะพอเห็นภาพนะคะ ปล. สิ่งที่เจ็บที่สุดไม่ใช่แผล แต่คือหัวนม ถ้ามีคนให้ปรึกษา ให้คุยด้วย เอาเป็นแม่ๆ ที่มีประสบการณ์จะช่วยได้มาก แต่สุดท้าย เราก็ต้องเลือกวิธีและแบบของเราเองค่ะ
สรุปให้คะแนนคุณหมอ
คุณหมอ 10/10 น่ารัก เป็นกันเอง เป็นห่วง ดูแลดีมาาาาก
ห้องพัก 9/10 หัก 1 คะแนน เพราะช่วงที่มีคนมาเยี่ยม ไม่มี รปภ. ตรวจก่อนว่าจะมาเยี่ยมใคร ชื่ออะไร ให้ขึ้นมาเลย
อาหาร 10/10 อร่อยมาก (มีวันไหนที่ยังทานไม่ได้ รพ. ก็จัดให้ญาติทานแทนค่ะ)
พยาบาล 9/10 เหมือนจะเด็ก แต่ก็ดูแลดี
ผู้ช่วยพยาบาล 9/10 มีคนดี อีกคนหน้าบูดๆ หน่อย แต่ก็ไม่เป็นไร
บริการแจ้งเกิดทำสูติบัตร 10/10
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้