สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -12 พ.ย. 62 12:28 น.
SHR ยอมรับงบขาดทุน 9 เดือน ขาดทุนกว่า 299 ล้านบาท กระทบจิตวิทยา ทำราคาหุ้นเทรดวันแรกต่ำจอง ยันไม่ได้ตั้งราคาแพง ชูเป็น Growth Stock พร้อมตั้งเป้ารายได้กำไรปี 63-67 โตไม่ต่ำกว่าปีละ 20% และวางงบลงทุนปีละ 1 หมื่นล้านบาท
นายนริศ เชยกลิ่น ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR เปิดเผยว่า สาเหตุที่ราคาหุ้น SHR เปิดการซื้อขายวันนี้ (12 พ.ย.62) เป็นแรก มีราคาต่ำกว่าราคาจอง เนื่องจากผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 62 มีผลขาดทุน 299.87 ล้านบาท ส่งผลต่อจิตวิทยาในการลงทุนระยะสั้น ไม่เกี่ยวกับการเข้าจดทะเบียนด้วยเกณฑ์มาร์เก็ตแคป หรือ การตั้งราคาแพงเกินไป
"ขอย้ำว่าหุ้นไอพีโอ 1,437 ล้านหุ้น มีนักลงทุนสถาบันที่เน้นถือลงทุนระยาวจองซื้อไปกว่า 50% สะท้อนความเชื่อมั่นในธุรกิจ แต่แรงขายวันนี้อาจจะมาจากกลุ่มรายย่อยที่กังวลเกี่ยวกับงบการเงิน"
และยอมรับว่าปีนี้ยังมีผลขาดทุน สาเหตุเกิดจากมีค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการเปิดโครงการใหม่ ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการเตรียมตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ แล ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ระยะสั้น (Bridge Loan) ที่เกิดจากการเข้าซื้อกิจการของ "Outrigger" ซึ่งทั้งหมดเป็นค่าใช้จ่ายพิเศษครั้งเดียวในปีนี้
ด้านราคาไอพีโอที่ 5.20 บาท ไม่ได้แพงเกินไป แม้จะมีอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ (P/E) ถึง 165.40 เท่า เทียบอุตสาหกรรมที่ระดับเพียง 30 เท่า แต่ราคาไอพีโอที่ 5.20 บาท เท่ากับราคามูลค่าหุ้นทางบัญชีต่อหุ้น (Book Value per Share) สะท้อนว่านักลงทุนมีโอกาสเข้าลงทุนในราคาเดียวกันกับบริษัท ซึ่งมีโอกาสเติบโตสูงระยะยาว
"ก่อนเข้าตลาดฯ เรามีค่าใช้จ่ายพิเศษครั้งเดียวหลายรายการ ส่งผลต่องบการเงิน ทำให้ราคาไอพีโอมีค่าพีอีสูงกว่าอุตสาหกรรม แต่ราคาดังกล่าวเท่ากับ Book Value ของบริษัท ถือว่าไม่แพง นักลงทุนมีโอกาสซื้อหุ้น Growth Stock ในราคาเดียวกันกับบริษัท ซึ่งมั่นใจว่า SHR จะเติบโตโดดเด่นอย่างน้อยอีก 5 ปีข้างหน้าทั้งรายได้และกำไร ซึ่งตอนนั้น P/E จะปรับลดลงมาเอง" นายนริศ กล่าว
บริษัทตั้งเป้ารายได้-กำไรปี 2563-2567 เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ต่อปี มาจากการเติบโตทรัพย์สินปัจจุบันของบริษัทฯ (Organic Growth) และการเข้าซื้อกิจการ (Merger and Acquisition) พร้อมตั้งงบลงทุนประมาณ 1 หมื่นล้านบาทต่อปี สำหรับการลงทุนโรงแรมต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ ตั้งเป้ามีโรงแรมแตะ 80 แห่งในปี 2568 จากปัจจุบันที่ 39 แห่ง
ส่วนที่มาของเงินลงทุน จะมาจากเงินระดมทุนไอพีโอ ขณะเดียวกันหลังเข้าจดทะเบียนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน (IBD/E) ของบริษัทฯ จะลดลงเหลือต่ำ 0.5 จากปัจจุบันที่ 1.1 เท่า ทำให้มีศักยภาพในการกู้เพิ่มขึ้น รวมถึงในปี 66-67 จะมีการพิจารณานำสินทรัพย์ขายเข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) อีกด้วย ....
https://www.efinancethai.com/LastestNews/LatestNewsMain.aspx?release=y&ref=M&id=SS96bmNZUytRazg9 
SHR รับงบขาดทุนกระทบจิตวิทยา ทำหุ้นต่ำจอง ยันไม่ได้ตั้งราคาแพง
SHR ยอมรับงบขาดทุน 9 เดือน ขาดทุนกว่า 299 ล้านบาท กระทบจิตวิทยา ทำราคาหุ้นเทรดวันแรกต่ำจอง ยันไม่ได้ตั้งราคาแพง ชูเป็น Growth Stock พร้อมตั้งเป้ารายได้กำไรปี 63-67 โตไม่ต่ำกว่าปีละ 20% และวางงบลงทุนปีละ 1 หมื่นล้านบาท
นายนริศ เชยกลิ่น ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR เปิดเผยว่า สาเหตุที่ราคาหุ้น SHR เปิดการซื้อขายวันนี้ (12 พ.ย.62) เป็นแรก มีราคาต่ำกว่าราคาจอง เนื่องจากผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 62 มีผลขาดทุน 299.87 ล้านบาท ส่งผลต่อจิตวิทยาในการลงทุนระยะสั้น ไม่เกี่ยวกับการเข้าจดทะเบียนด้วยเกณฑ์มาร์เก็ตแคป หรือ การตั้งราคาแพงเกินไป
"ขอย้ำว่าหุ้นไอพีโอ 1,437 ล้านหุ้น มีนักลงทุนสถาบันที่เน้นถือลงทุนระยาวจองซื้อไปกว่า 50% สะท้อนความเชื่อมั่นในธุรกิจ แต่แรงขายวันนี้อาจจะมาจากกลุ่มรายย่อยที่กังวลเกี่ยวกับงบการเงิน"
และยอมรับว่าปีนี้ยังมีผลขาดทุน สาเหตุเกิดจากมีค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการเปิดโครงการใหม่ ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการเตรียมตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ แล ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ระยะสั้น (Bridge Loan) ที่เกิดจากการเข้าซื้อกิจการของ "Outrigger" ซึ่งทั้งหมดเป็นค่าใช้จ่ายพิเศษครั้งเดียวในปีนี้
ด้านราคาไอพีโอที่ 5.20 บาท ไม่ได้แพงเกินไป แม้จะมีอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ (P/E) ถึง 165.40 เท่า เทียบอุตสาหกรรมที่ระดับเพียง 30 เท่า แต่ราคาไอพีโอที่ 5.20 บาท เท่ากับราคามูลค่าหุ้นทางบัญชีต่อหุ้น (Book Value per Share) สะท้อนว่านักลงทุนมีโอกาสเข้าลงทุนในราคาเดียวกันกับบริษัท ซึ่งมีโอกาสเติบโตสูงระยะยาว
"ก่อนเข้าตลาดฯ เรามีค่าใช้จ่ายพิเศษครั้งเดียวหลายรายการ ส่งผลต่องบการเงิน ทำให้ราคาไอพีโอมีค่าพีอีสูงกว่าอุตสาหกรรม แต่ราคาดังกล่าวเท่ากับ Book Value ของบริษัท ถือว่าไม่แพง นักลงทุนมีโอกาสซื้อหุ้น Growth Stock ในราคาเดียวกันกับบริษัท ซึ่งมั่นใจว่า SHR จะเติบโตโดดเด่นอย่างน้อยอีก 5 ปีข้างหน้าทั้งรายได้และกำไร ซึ่งตอนนั้น P/E จะปรับลดลงมาเอง" นายนริศ กล่าว
บริษัทตั้งเป้ารายได้-กำไรปี 2563-2567 เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ต่อปี มาจากการเติบโตทรัพย์สินปัจจุบันของบริษัทฯ (Organic Growth) และการเข้าซื้อกิจการ (Merger and Acquisition) พร้อมตั้งงบลงทุนประมาณ 1 หมื่นล้านบาทต่อปี สำหรับการลงทุนโรงแรมต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ ตั้งเป้ามีโรงแรมแตะ 80 แห่งในปี 2568 จากปัจจุบันที่ 39 แห่ง
ส่วนที่มาของเงินลงทุน จะมาจากเงินระดมทุนไอพีโอ ขณะเดียวกันหลังเข้าจดทะเบียนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน (IBD/E) ของบริษัทฯ จะลดลงเหลือต่ำ 0.5 จากปัจจุบันที่ 1.1 เท่า ทำให้มีศักยภาพในการกู้เพิ่มขึ้น รวมถึงในปี 66-67 จะมีการพิจารณานำสินทรัพย์ขายเข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) อีกด้วย .... https://www.efinancethai.com/LastestNews/LatestNewsMain.aspx?release=y&ref=M&id=SS96bmNZUytRazg9