สวัสดีครับวันนี้ผมจะเล่าประสบการณ์ การจัดฟันควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย ผมก็เหมือนอ้วนทั่วๆไปที่ชอบกิน กินทุกอย่างทุกเวลาที่หิว กินไม่หยุดกินแบบกินล้างกินผลาญ ของมันๆทอดๆหวานๆโคตรชอบ กับข้าวก็ยังต้องกินหวานๆ ข้าวต้ม ก๋วยเตี๋ยว ราดหน้า อะไรที่ต้องใส่เครื่องปรุง น้ำตาลต้องมาก่อน อย่างต่ำ 6 ช้อน ผมกินอาหารวันละ 5 มื้อ เช้า สาย บ่าย เย็น ดึก อาหารขยะจำพวกแป้งเยอะๆมันเยอะๆชอบที่สุด อย่างมาม่าขั้นต่ำก็ 3-4 ซอง ต่อครั้ง จนวันนึงรู้สึกว่าตนเองอ้วนมาก พุงก็ใหญ่น่าเกลียด นมใหญ่ห้อยเป็นเต้านมหมาเลย จะนั่งจะนอนจะเดิน ก็รู้สึกลำบากอึดอัดร่างกายของตัวเอง แล้วรู้ว่าสึกตัวเองป่วยบ่อย โดนฝนโดนลมโดนแดดก็ป่วยแล้ว จนวันนึงคิดได้ เราต้องลุกขึ้นปฏิวัติตัวเองซะใหม่ เราต้องออกกำลัง เพื่อลดความอ้วน เริ่มจากไปหยิบรองเท้ามาสวมแล้ววิ่ง ทำอยู่ได้สักพักน้ำหนักลดไป 2 กก. จาก 99 กก. เหลือ 97 กก. โคตรดีใจ เอาอีกผมอยากลดให้ได้มากกว่านี้ ผมเลยตัดสินใจอดอาหาร กินมื้อเช้า แค่มื้อเดียว กินแบบอดๆอยากๆ กินมื้อเดียวพอ อดแบบนี้อยู่ 3 สัปดาห์ ได้ผลครับน้ำหนักผมลดไปอีก 7 กก. เหลือ 90 กก. ดีใจโคตรๆ แต่ดีใจได้ไม่นาน สุดท้ายทนไม่ไหวตบะแตก-ไม่เลือกเพราะ ภาวะโยโย่เอฟเฟคเล่นงาน กลับมาอ้วนกว่าเก่า จากน้ำหนักลดลงมาเหลือ 90 กก. ขึ้นมาเป็น 108 กก. หนักกว่าเดิมอีกเวรกรรมจริงๆ ปัญหาแบบนี้ผมว่าเป็นกันเกือบทุกคน สำหรับคนที่กำลังอยู่ในช่วงลดความอ้วน คือการควบคุมอาหารไม่ได้ และคุมแบบผิดวิธีจนทำให้เกิดภาวะโยโย่ จนในที่สุดผมก็ต้องยอมแพ้ไปกับการลดน้ำหนัก ชั่งมันอ้วนก็อ้วนไปเลยไม่สนแล้ว คุมอาหารไม่อยู่ เพราะกินแบบสนุกปาก จนวันนึงผมไปพบวิธีการคุมอาหารโดยบังเอิญ จากการติดตามวง BNK48 คือตัวผมเองก็เป็นแฟนคลับของ BNK48อยู่แล้ว วันนั้นผมไปเจอคลิปคลิปนึงของน้องเฌอปราง เป็นคลิปที่น้องเฌอปรางไปรับคำปรึกษาจากหมอเพื่อที่จะจัดฟัน ทำให้ผมเกิดแรงบันดาลใจอยากจัดฟันขึ้นมาทันที
คือเดิมทีฟันผมไม่ค่อยสวย ฟันห่าง ฟันเกผิดรูป สรุปง่ายๆคือผมอยากมีฟันที่สวยเหมือนน้องเฌอปราง คือผมไม่มีข้อมลูอะไรเลยที่เกี่ยวกับการจัดฟัน ต้องทำอย่างไรเตรียมตัวยังไง ข้อดี ข้อเสีย ของการจัดฟัน นึกอยากไปก็จะไปจัดเดี๋ยวนั้นเลย จากนั้นผมก็ตัดสินใจรีบขับรถไปคลินิกทันที พอไปถึงคลินิก ผมไปติอต่อที่หน้าเคาน์เตอร์บอกเค้าไปว่า "ผมอยากจัดฟันครับ" เจ้าหน้าที่บอกว่าได้ค่ะ แล้วให้ผมไปรอหมออยู่ในห้องตรวจ พอหมอมาตรวจเสร็จ บอกพิมพ์ฟัน เอ็กซเรย์ฟันเสร็จปั๊ป จ่ายตัง เจ้าหน้าที่บอกสะดวกมาเคลียร์ช่องปาก กับ ติดอุปกรณ์วันไหนค่ะ ผมบอกวันนี้เลยได้ไหม เจ้าหน้าที่บอกพรุ่งนี้ดีกว่า โอเคตามนั้น วันรุ่งขึ้นผมมาเคลียร์ช่องปาก เคลียร์เสร็จหมอบอกผมต้องถอดฟันด้วย 4 ซี่ งงมากคืออะไรครับ ทำไมต้องถอด ฟันดีๆถอดทิ้งทำไม หมออธิบายต้องถอดเพราะ " โน้น นี่ นั่น " ผมหน้าซีดเลย โอ้แม่เจ้า ต้องถอดฟัน4ซี่ เพราะกลัวการถอดฟันมากๆ ใครที่เคยมีประสบการณ์อันเลวร้ายเกี่ยวกับการทำฟันในวันเด็ก จะรู้เลยว่ามันน่ากลัวแค่ไหน ผมนึกในใจ อยู่ดีไม่ว่าดีหาเรื่องมาเจ็บตัวแท้ๆ แต่โชคยังดีที่ผมไม่มีฟันคุด ถ้ามีฟันคุดก็คงต้องผ่าออกเจ็บหนักกว่าเดิมอีก สุดท้ายเป็นไงเป็นกันถอดก็ถอดวะ ถอดไป2ซี่ก่อนเสร็จกลับบ้าน หมอนัดอีก7วัน กับมาถอดอีก2ซี่ที่เหลือ แผลหายแล้วค่อยมาติดอุปกรณ์ ผ่านไป 2 สัปดาห์ ผมมาติดอุปกรณ์ตามที่หมอนัด ติดเสร็จกลับบ้าน พอถึงตอนจะกินข้าวเท่านั้นแหละเป็นเรื่อง กินข้าวไม่ได้เลยครับปวดฟันสุดๆ แค่ฟันสบกับร้องโอ้ยทันที คนที่เคยจัดฟันมาแล้วจะรู้ครับว่า สัปดาห์แรกของการติดอุปกรณ์ คือสัปดาห์นรก กินอะไรไม่ได้เลยนอกจากนมกับโจ๊ก กินโจ๊กแทบจะหลอดดูดด้วยซ้ำ หมูนุ่มๆที่อยู่ในโจ๊ก ยังกัดไม่ได้เลยครับ กัดเบาๆก็ยังปวดฟัน กว่าจะปรับตัวได้ก็เกือบ 2 สัปดาห์ กลายเป็นว่าผมต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการกินใหม่หมดเลย กินอาหารแข็งๆไม่ได้ ผมเน้นกินแต่อาหารนิ่มๆ ประเภท ต้มกับนึ่ง ของทอดกรอบทุกชนิดงดหมดครับ พวกไก่ทอดหมูทอด อาหารทอดกรอบพวกนี้กินแล้วปวดฟัน พอเดือนต่อไปตามที่หมอนัดก็ต้องปวดอีก ปวดซ้ำๆทุกเดือนเวลาหมอปรับตัวเหล็กจัดฟัน และถ้าฝืนกินอาหารที่แข็งๆเคี้ยวยากอาจเสี่ยงทำให้เหล็กจัดฟันหลุดเสียหายได้ ถ้าเหล็กหลุดก็ต้องไปใส่ใหม่เสียเงินค่าทำหลุดอีก ผมเลยต้องหันไปเน้นกินอาหารจำพวก กุ้งหอยปูปลาและผักต่างๆแทน แต่เน้นต้มกับนึ่งเป็นหลัก อาหารว่างขนมหรือของกินจุกจิกก็ต้องเลิกกินเพราะ ผมต้องแปรงฟันทุกครั้งหลังอาหารทันที ผมเคยกินวันละ 5- 6 มื้อ จำต้องปรับมาเป็นกินแค่3มื้อหลักเท่านั้น เพราะขี้เกียจแปรงฟันหลังอาหารทุกครั้งที่กินอาหาร อาหารประเภทของหวานต่างๆก็เลิกกิน น้ำหวานน้ำอัดลมต่างๆ ชานม กาแฟ เครื่องดื่มหวานๆไม่แตะเลย ที่ผมไม่ยอมกินคือไม่ได้กลัวอ้วน เพราะอ้วนอยู่แล้ว แต่กลัวฟันผุมากกว่า ไม่ได้ห่วงอ้วน แต่ห่วงเรื่องสุขภาพฟันมากกว่า น้ำอัดลมตัวดีเลยทำให้ฟันผุเร็ว ส่วน ชา กาแฟ ต้นเหตุที่ทำให้ฟันเหลือง ตอนที่ผมเคลียร์ช่องปาก ผมมีฟันผุตั้ง 8 ซี่ ดีที่ผุไม่มาก ผมเห็นเด็กวัยรุ่นอายุ 14-15 ที่ไปหาหมอฟัน หลายคนใส่ฟันปลอมกันแล้ว แสดงว่าไม่ค่อยใส่ใจดูแลสุขภาพในช่องปากกันเลย ผมเลยกลายเป็นคนวิตกจริตไปเลย ส่องกระจกดูฟันตัวเองทุกชั่วโมง อันนั้นก็ห้ามกิน อันนี้ก็ห้าม อ้วนชั่งมันไม่กลัว กลัวฟันผุกลัวปากเหม็น กลัวฟันไม่สวย ผมท่องไว้ในใจตลอดเวลา อยากฟันสวยเหมือนน้องเฌอปรางต้องอดทน
และนี่คืออุปกรณ์ที่ผมใช้ดูแลทำความสะอาดฟัน แปรงฟันแต่ละครั้งเหมือนไปคาร์แคร์ ผมอาบน้ำใช้เวลาแค่ 10 นาทีก็เสร็จ แต่แปรงฟันครั้งนึงใช้เวลาครึ่งชั่วโมงเพราะใช้อุปกรณ์เยอะมาก เกิดมาไม่เคยใช้แปรงสีฟันมากถึง 5-6 อัน แล้วต้องเปลี่ยนแปรงทุกๆ 2 เดือน
สภาพฟัน 6-7 เดือนแรก
หลังจากที่ผมจัดฟันมาได้เป็นเวลา 6 เดือน ป้าข้างบ้านทักผมมา เค้าทักว่าผมไปทำอะไรมา ทำไมดูรูปร่างผอมลงเยอะเลย ผมก็ตอบไปว่า ก็เท่าเดิมครับผมก็ยังอ้วนเหมือนเดิมนั่นแหละ เริ่มมีคนทักเยอะขึ้นเรื่อยๆ ผมเลยลองไปชั่งน้ำหนักดู ปรากฏว่าน้ำหนักผมอยู่ 92 กก. อึ้งมาก น้ำหนักหายไป16กก. จากเคยหนัก 108 เหลือ 92 เป็นไปได้ไงไม่น่าเชื่อ สรุปคือ การจัดฟันทำให้ผมควบคุมพฤติกรรมการกินอาหาร ได้อย่างมีวินัยและเป็นระบบ ก่อนจัดฟันเรื่องการลดความอ้วนผมถอดใจไปนานแล้วครับ แต่หลังจัดฟันพอมาเห็นน้ำหนักตัวเองลดไป 16 กก. เริ่มมีกำลังใจขึ้นมาทันทีครับ อยากกับมาออกกำลังกายอีกครั้ง ผมนั่งคิดอยู่ 2 วัน ว่าจะออกกำลังกายด้วยวิธีไหนดี จะไปวิ่งก็คงลำบากเพราะน้ำหนักยังเยอะอยู่ ผมปวดหัวเข่ามากเวลาวิ่ง เรื่องวิ่งขอบาย ไปปั่นจักรยาน ออกจะดูเสี่ยงๆหน่อยเพราะกลัวจะถูกโดนรถชน ปั่นๆอยู่กลัวโดนกะบะพาลงข้างทางบาง สิบล้อเอาไปกินบาง ขอบาย ถ้าไปฟิตเนสก็คงไม่เวิร์ค ผมไปฟิตเนสทีไร ความรู้สึกเหมือนไปอยู่ในสมาคมพ่อบ้านแม่บ้าน ผมเข้าฟิตเนส 2 ชม. แต่ได้ออกกำลังจริงๆแค่ 10 นาที เวลาทีเหลือไปยืนเม้าท์มอยกับชาวบ้าน นั่งแชทบ้าง เจอคนรู้จัก คนนั้นชวนคุยคนนี้ชวนคุย เจอกันข้างนอกไม่เห็นอยากคุย แต่พอเจอกันในฟิตเนสชวนคุยจังเลย ไม่เอาขอผ่านเสียทั้งเงินและเวลา ผมจะกับไปเล่นกีฬาที่ผมถนัดอย่าง เปตอง กับ หมากรุก ก็คงไม่เวิร์คอีกตามเคย สุดท้ายไปลงตัวที่การออกกำลังโดยการว่ายน้ำ เพราะสมัยตอนเป็นเด็ก ผมเคยเรียนว่ายน้ำก่อนมา เริ่มจากไปหาชุด ได้ชุดแล้วก็ไปสมัครเป็นสมาชิกที่สระว่ายน้ำ หลังจากก็ลงสระทันที ตอนแรกๆยังอายๆอยู่เพราะ ผมไม่ได้ว่ายน้ำมานานเกือบ 20 ปี สระกว้างมาก ขนาดของสระว่ายน้ำมาตรฐานโอลิมปิก จะไหวไหม ไม่ไหวก็ต้องไหวครับ แต่แปลกตรงที่สระว่ายน้ำ ไม่ค่อยเห็นมีหนุ่มๆสาวๆหรือวัยรุ่นวัยโจ๋ มาใช้บริการ จะมีแต่ผู้ใหญ่วัยทำงาน คนแก่และเด็กเท่านั้น ผู้ที่มาใช้บริการส่วนใหญ่จะเป็นเด็กซะ 80% ก็เป็นเด็กที่มาเรียนว่ายน้ำ กับพวกนักกีฬาว่ายน้ำ อยู่ๆก็มีเด็กมาถามผมว่า " พี่มาเรียนว่ายน้ำเหรอไม่เคยเห็นพี่มาก่อน" ผมเลยตอบไปว่า "เปล่าเรียน พี่มาแช่ออนเซ็น" กว่าผมจะเริ่มว่ายน้ำ แช่น้ำอยู่นานเหมือนกัน ผมก็พยายามรื้อฟื้นความจำในสมัยเด็กที่เคยเรียนว่ายน้ำมา ผมต้องใช้เวลาเกือบ 1 สัปดาห์ กว่าจะรื้อฟื้นทักษะการว่ายแบบนักกีฬา คือถ้าผมว่ายน้ำแบบบ้านๆแค่ไม่ให้จมน้ำ คงไม่ช่วยให้ร่างกายผอมลงแน่นอน ถ้าจะลดน้ำหนักอย่างจริงจังก็ต้องว่ายน้ำแบบนักกีฬา ตอนแรกๆร่างกายยังปรับตัวไม่ได้ ตอนว่ายยังหายใจไม่ทัน เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก ยิ่งลงน้ำลึกยิ่งแน่น ความอ้วนทำให้เป็นอุปสรรค แรกๆก็ว่ายได้แค่ครึ่งสระ 25 เมตร หลังๆเริ่มดีขึ้น ว่ายได้ 50 เมตร แต่ก็เหนื่อยสุดๆ อยู่ๆเด็กคนเดิมก็มาแซวผม "พี่ว่ายน้ำช้าจัง มาว่ายแข่งกับหนูไหม เดี๋ยวต่อให้ครึ่งสระ " คงเป็นเด็กที่มาเรียนว่ายน้ำ สงสัยจะร้อนวิชา เลยมาท้าแข่งกับชาวบ้านเค้าไปทั่ว แข่งก็แข่งวะอย่างน้อยก็ได้รู้สมรรถภาพทางกายตัวเองแข็งแรงแค่ไหน ผมว่ายแข่งกับเด็ก สุดท้ายว่ายสู้เด็กไม่ได้เลย เด็กมันว่ายเร็วอย่างกับฉลาม ส่วนผมว่ายอืดอาดเป็นพะยูน สรุปว่าเด็กแข็งแรงกว่าผมมาก การได้แข่งกับเด็กทำให้ผมรู้สึกสนุกกับการออกกำลังและไม่น่าเบื่อ และที่สำคัญเด็กที่นี่ส่วนใหญ่เป็นเหล่าสาวก วง BNK48 นี่แหละคือสิ่งที่ผมตามหา ผมมาถูกทางแล้วบันเทิงเลยงานนี้ 555
ตัวผมเองก็ยังไม่มีสมาธิในการว่ายสักเท่าไร เพราะขาดแรงกระตุ้นและน้ำเข้าหู ผมเลยไปซื้อ sony walkman MP3 Bluetooth แบบกันน้ำ ตัวนี้ใช้ดีมาก ใส่ดำน้ำได้ลึก 2 เมตร ทั้งน้ำเค็มและน้ำจืด
แชร์ประสบการณ์ลดความอ้วน โดยการจัดฟันควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย จาก 108 กก. เหลือ 62 กก. เพราะมี BNK48 เป็นแรงบันดาลใจ
และนี่คืออุปกรณ์ที่ผมใช้ดูแลทำความสะอาดฟัน แปรงฟันแต่ละครั้งเหมือนไปคาร์แคร์ ผมอาบน้ำใช้เวลาแค่ 10 นาทีก็เสร็จ แต่แปรงฟันครั้งนึงใช้เวลาครึ่งชั่วโมงเพราะใช้อุปกรณ์เยอะมาก เกิดมาไม่เคยใช้แปรงสีฟันมากถึง 5-6 อัน แล้วต้องเปลี่ยนแปรงทุกๆ 2 เดือน
ตัวผมเองก็ยังไม่มีสมาธิในการว่ายสักเท่าไร เพราะขาดแรงกระตุ้นและน้ำเข้าหู ผมเลยไปซื้อ sony walkman MP3 Bluetooth แบบกันน้ำ ตัวนี้ใช้ดีมาก ใส่ดำน้ำได้ลึก 2 เมตร ทั้งน้ำเค็มและน้ำจืด