เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ มันอาจจะเป็นเรื่องราวของคนหนึ่งที่กำลังต่อสู้กับโรคซึมเศร้า โดยที่มันรู้ว่ามันจะจบลงเมื่อไหร่ และก็ไม่รู้ว่ามันจะผ่านไปแบบไหน แต่สิ่งที่หนึ่งที่รู้คือเราต้องต่อสู้กับมัน
และเรา
เพียงแค่อยากจะให้กำลังใจกับคนที่กำลังต่อสู้กับอะไรก็ตาม.
ก่อนอื่นเราต้องขอบคุณ โรคซึมเศร้านะ โรคโรคหนึ่งที่ทำให้เราพยายามมองบวก ไม่ว่าจะเป็นผู้คน สิ่งรอบข้าง หรืออะไรก็ตามแต่ ทั้งที่ในใจเรามันบอบบาง อ่อนแอ จนบางทีรู้สึกไม่มีแรงยึดเหนี่ยว เรื่องเกิดขึ้นกับเราเมื่อปีที่แล้ว มีคน คนหนึ่งถามผมว่า “เราเคยกอดตัวเองบางมั้ย”. เราตอบไปว่า กอดตลอดครับ ผมชอบกอดหมอนข้างนอนทุกคืนเลย
ไม่ใช่กอดแบบนั้น หมายถึง
กอดใจตัวเอง ให้กำลังใจตัวเองแล้วก็รักตัวเอง.
ผมได้ตอบคำถามนี้กับคนคนหนึ่งที่ทำให้เข้าใจว่า บางที สิ่งที่มนุษย์ต้องการ อาจจะเป็นแค่เรื่องการเอาใจใส่หรือการได้มาซึ้งความรัก
แต่คนที่ถามผม เขาคือคนคนหนึ่งที่ผมคงรู้สึกอะไรกับเขามากไม่ได้ นอกจากในฐานะ
หมอ กับ
คนไข้
พื้นฐานตอนเด็กๆผมโตมาในครอบครัวที่พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่เด็ก. เรื่องราวที่พ่อกับแม่แยกทางกันมันก็ดราม่ายิ่งกว่าละคร แม่ผมท้องผมกับพ่อซึ้งพ่อมีครอบครัวอยู่แล้ว พอแม่รู้ความจริง แม่ผมก็พาผมที่อยู่ในท้องตอน 2 เดือนหนีมา โดยที่ผมไม่เคยรู้จักพ่อและไม่เคยเห็นจนตัวเองอายุได้ 18 ปี จนวันหนึ่งแม่คงจะทนตอบคำถามผมไม่ไหว การได้เจอผู้ชายคนหนึ่งที่เรียกว่าพ่อมันคงเป็นตื่นเต้นและอบอุ่นมากเหลือเกิน . ใช่ครับแต่มันคงผ่านความสุขนั้นสำหรับผมไปนานละ ผมโดนเลี้ยงดูจากตายาย ฐานะที่บ้านเราปานกลาง มีพอกินพอใช้ ตอนเด็กถ้าไม่นับเลี้ยงความสมบูรณ์ทางครอบครัว ผมก็ไม่ได้ลำบากอะไร
แต่มันจะมีบางอย่างลึกๆในใจผมตั้งแต่เด็กๆคือผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องความรัก ไม่เชื่อความรักทำให้คนมีสุข หรือ คิดว่าคนเราอยู่คนเดียวได้ อาจเป็นเพราะผมไม่เคยได้รับความรักจากพ่อ แต่ด้วยสัญชาตญาณลึกๆแล้วผมว่ามนุษย์เราทุกคนบนโลกนี้ล้วนต้องการความรัก อย่างน้อยก็เป็นคนที่เราไว้วางใจได้
ผมเป็นที่ค่อนข้างเรียนดี บวกกับแม่ผมกลัวผมมีปมด้อยจึงสนับสนุนเรื่องการเรียน สิ่งหนึ่งที่ผมได้จากแม่คือ แม่พยายามทุกอย่างให้ผมสมบูรณ์แบบ แม่ไม่เคยด่า ตามใจทุกอย่าง ผมรู้ว่าแม่รักผมมาก จนผมมีนิสัยเอาแต่ใจลึกในบางครั้ง พอโตขึ้นมาประมาณ ประถม ผมต้องย้ายเข้ามาอยุ่ในตัวจังหวัดกับน้องสาวของยาย ชีวิตผมเริ่มเปลี่ยน ในที่นี้คือเปลี่ยนทั้งด้านความรู้สึกแต่จิตใจ แม่ผมอยากให้ผมเรียนในตัวจังหวัดเพื่อผมจะได้มีอนาคตที่ดี แต่มันต้องแลกกับการห่างบ้าน ห่างครอบครัว ผมเริ่มเป็นซึมเศร้าเพราะจากนิสัยเอาแต่ใจพอมาอยู่กับคนอื่น ผมต้องปรับตัว อยู่ภายใต้กฎข้อบังคับ ซึ้งบางเรื่องทันหนักเกินไปสำหรับเด็ก 6 ขวบ ผมเริ่มมีอาการวิตกกังวล เริ่มไม่มีสมาธิ เพราะกลัวโดนดุ ทำให้ความร่าเริงในวัยเด็กที่ควรจะมี มันหายไป.
เดี๋ยวมาต่อนะครับ
เมื่อเรื่องมันเศร้าเกินกว่าจะเล่าให้ใครฟัง โรคซึมเศร้าและการต่อสู้กับปมที่ค้างในใจ.
และเรา เพียงแค่อยากจะให้กำลังใจกับคนที่กำลังต่อสู้กับอะไรก็ตาม.
ก่อนอื่นเราต้องขอบคุณ โรคซึมเศร้านะ โรคโรคหนึ่งที่ทำให้เราพยายามมองบวก ไม่ว่าจะเป็นผู้คน สิ่งรอบข้าง หรืออะไรก็ตามแต่ ทั้งที่ในใจเรามันบอบบาง อ่อนแอ จนบางทีรู้สึกไม่มีแรงยึดเหนี่ยว เรื่องเกิดขึ้นกับเราเมื่อปีที่แล้ว มีคน คนหนึ่งถามผมว่า “เราเคยกอดตัวเองบางมั้ย”. เราตอบไปว่า กอดตลอดครับ ผมชอบกอดหมอนข้างนอนทุกคืนเลย
ไม่ใช่กอดแบบนั้น หมายถึง กอดใจตัวเอง ให้กำลังใจตัวเองแล้วก็รักตัวเอง.
ผมได้ตอบคำถามนี้กับคนคนหนึ่งที่ทำให้เข้าใจว่า บางที สิ่งที่มนุษย์ต้องการ อาจจะเป็นแค่เรื่องการเอาใจใส่หรือการได้มาซึ้งความรัก
แต่คนที่ถามผม เขาคือคนคนหนึ่งที่ผมคงรู้สึกอะไรกับเขามากไม่ได้ นอกจากในฐานะ หมอ กับ คนไข้
พื้นฐานตอนเด็กๆผมโตมาในครอบครัวที่พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่เด็ก. เรื่องราวที่พ่อกับแม่แยกทางกันมันก็ดราม่ายิ่งกว่าละคร แม่ผมท้องผมกับพ่อซึ้งพ่อมีครอบครัวอยู่แล้ว พอแม่รู้ความจริง แม่ผมก็พาผมที่อยู่ในท้องตอน 2 เดือนหนีมา โดยที่ผมไม่เคยรู้จักพ่อและไม่เคยเห็นจนตัวเองอายุได้ 18 ปี จนวันหนึ่งแม่คงจะทนตอบคำถามผมไม่ไหว การได้เจอผู้ชายคนหนึ่งที่เรียกว่าพ่อมันคงเป็นตื่นเต้นและอบอุ่นมากเหลือเกิน . ใช่ครับแต่มันคงผ่านความสุขนั้นสำหรับผมไปนานละ ผมโดนเลี้ยงดูจากตายาย ฐานะที่บ้านเราปานกลาง มีพอกินพอใช้ ตอนเด็กถ้าไม่นับเลี้ยงความสมบูรณ์ทางครอบครัว ผมก็ไม่ได้ลำบากอะไร
แต่มันจะมีบางอย่างลึกๆในใจผมตั้งแต่เด็กๆคือผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องความรัก ไม่เชื่อความรักทำให้คนมีสุข หรือ คิดว่าคนเราอยู่คนเดียวได้ อาจเป็นเพราะผมไม่เคยได้รับความรักจากพ่อ แต่ด้วยสัญชาตญาณลึกๆแล้วผมว่ามนุษย์เราทุกคนบนโลกนี้ล้วนต้องการความรัก อย่างน้อยก็เป็นคนที่เราไว้วางใจได้
ผมเป็นที่ค่อนข้างเรียนดี บวกกับแม่ผมกลัวผมมีปมด้อยจึงสนับสนุนเรื่องการเรียน สิ่งหนึ่งที่ผมได้จากแม่คือ แม่พยายามทุกอย่างให้ผมสมบูรณ์แบบ แม่ไม่เคยด่า ตามใจทุกอย่าง ผมรู้ว่าแม่รักผมมาก จนผมมีนิสัยเอาแต่ใจลึกในบางครั้ง พอโตขึ้นมาประมาณ ประถม ผมต้องย้ายเข้ามาอยุ่ในตัวจังหวัดกับน้องสาวของยาย ชีวิตผมเริ่มเปลี่ยน ในที่นี้คือเปลี่ยนทั้งด้านความรู้สึกแต่จิตใจ แม่ผมอยากให้ผมเรียนในตัวจังหวัดเพื่อผมจะได้มีอนาคตที่ดี แต่มันต้องแลกกับการห่างบ้าน ห่างครอบครัว ผมเริ่มเป็นซึมเศร้าเพราะจากนิสัยเอาแต่ใจพอมาอยู่กับคนอื่น ผมต้องปรับตัว อยู่ภายใต้กฎข้อบังคับ ซึ้งบางเรื่องทันหนักเกินไปสำหรับเด็ก 6 ขวบ ผมเริ่มมีอาการวิตกกังวล เริ่มไม่มีสมาธิ เพราะกลัวโดนดุ ทำให้ความร่าเริงในวัยเด็กที่ควรจะมี มันหายไป.
เดี๋ยวมาต่อนะครับ