เรื่องหลอน ตอน เรื่องของปริม

        เราถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เล็กจนโตถึงเรื่องบาปบุญคุณโทษ ด้วยพื้นเพการเลี้ยงดูที่แตกต่างของหลายๆครอบครัว
 ด้วยศาสนาที่มีหลากหลาย ก็ล้วนแต่สอนให้ทุกคนเป็นคนดีทั้งสิ้น แต่กรรมใครก็กรรมมัน
 บางคนต่อให้เกิดมาพร้อมสรรพทุกอย่างทั้งทรัพย์สมบัติ รูปสมบัติ แต่ถ้าเป็นคนไม่รู้จักคิด ดำเนินชีวิตในทางที่ถูกที่ควร  
ทุกอย่างที่มีอยู่นั้นก็ดูไม่มีค่าเลย อย่างเพื่อนของดิฉันคนนึง ดิฉันขอใช้ชื่อสมมุติว่าปริมก็แล้วกันนะคะ 
        ปริมเป็นสาวเหนือผมยาวสลวย ผิวพรรณผุดผ่อง หน้าตาจัดว่าดีมากๆๆ ครอบครัวของเธอทำธุรกิจเกี่ยวกับเสื้อผ้าขายส่ง
ที่จังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือ ถึงไม่ได้ร่ำรวยมากมายแต่ก็ถือว่ามีกินมีใช้ ปริมเป็นพี่สาวคนโต
และมีน้องชายกับน้องสาวต่างพ่ออีกสองคน ชื่อโป กับแป้ง สามพี่น้องหน้าตาดีทั้งบ้านเพราะแม่ของปริมเป็นคนสวยมาก
เรียกได้ว่าสมัยก่อนประกวดเทพีที่ไหนละก็ถ้าแม่ของปริมได้ลงแข่งหนึ่งในสามของรางวัลต้องเป็นของแม่ปริมแน่นอน
และก็ใช่ค่ะปริมได้ความสวยของแม่มาเต็มๆ 
 
        ดิฉันรู้จักกับปริมตอนนี้เข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งที่กรุงเทพฯ ตอนที่เราเข้ามาสมัครชมรมเพื่อทำกิจกรรม
เราเรียนคนละคณะ ดิฉันเรียนบัญชี ส่วนปริมเรียนบริหารการตลาด และก็เป็นดาวคณะเสียด้วยใครๆ ก็รู้จักเพราะออร่าความสวยของปริม
เรียกได้ว่าเป็นที่โจทขานกันมาก ปริมมีเพื่อนสนิทอีกคนชื่อตาต้า สาวสุพรรณอัธยาศัยดีที่เป็นรูมเมทของปริม
และก็เป็นเพื่อนของดิฉันด้วย ครั้งหนึงตอนไปรับน้องที่ต่างจังหวัด และบังเอิญเป็นจังหวัดบ้านเกิดของปริม
ครอบครัวของปริมเลยเอาพวกขนมปีบ และเครื่องดื่มไปให้พวกเราถึงที่พักแบบเยอะมาก นั่นแหละที่พวกเราได้เจอครอบครัวของปริม
ครั้งแรกทุกคนดูดีมากๆ พวกรุ่นพี่กับพวกเราขอบคุณและดีใจที่ทุกคนต้อนรับกลุ่มคณะของพวกเราอย่างดี
แต่แปลกที่ปริมทำเป็นยิ้มแรกๆ แต่พอคล้อยหลังตอนที่เราสามคนเข้าที่พักเพื่อรอเวลาไปทำกิจกรรมกันปริมกลับมีท่าที
โมโหและดูอารมณ์เสียขึ้นมาซะอย่างนั้น ตาต้าถึงขั้นถามปริมด้วยความสงสัยว่า

"แกเป็นอะไรว่ะปริม พ่อแม่มาไม่ดีใจหรอ"

ปริมไม่ได้หันมาแต่ก็ตอบด้วยอารมณ์หงุดหงิดว่า

"ไม่ได้อยากเจอซะหน่อย ไม่รู้จะมาทำไม รู้งี้ไม่น่าบอกอีแป้งเลย น่ารำคาญ"

ดิฉันกับตาต้าได้แต่มองหน้ากันแบบงงๆกับกิริยาที่ปริมแสดงออก มันดูแปลกๆ ดูไม่เหมือนปริมคนสวยพูดจาจ๊ะจ๋า
เวลาอยู่ต่อหน้าคนเยอะๆเลย ดิฉันก็ได้แต่นึกในใจว่าแท้จริงแล้วปริมอาจจะมีนิสัยแบบนี้มาแต่แรกก็ได้
 
           ในระหว่างที่เราทำกิจกรรมรับน้องกัน ปริมจะชอบทำตัวให้เป็นที่สนใจเสมอ ทั้งการหัวเราะเสียงดังๆ 
แกล้งทำของหล่นเพื่อให้คนหันมามอง แกล้งทำเป็นไม่สบายเพื่ออ้อนให้รุ่นพี่มาดูแล ทำไมดิฉันกับตาต้าถึงรู้นะหรือคะ 
เพราะปริมเป็นคนบอกเองว่าจะแกล้งทำแล้วกำชับว่าไม่ต้องเข้ามาช่วย ปริมกะว่าจะให้รุ่นพี่คนนึงที่นางสนใจอยู่
เป็นคนดูแลนาง เหอๆ นางเป็นจอมวางแผนมากๆ รุ่นพี่ทีปริมเล็งไว้นั้นชื่อพี่โจค่ะ พี่โจเป็นรุ่นพี่ที่จบไปแล้วแต่ด้วยความ
ที่ยังไม่ได้ทำงานจึงยังวนเวียนอยู่ที่มหาลัย เพราะเพื่อนสนิทแกยังไม่จบ หน้าตาหล่อเข้าขั้นนายแบบได้เลย ส่วนเรื่องฐานะนั้น
ตอนแรกดิฉันก็ไม่ทราบมากมาบ รู้แต่ว่าแกมีรถเก๋งเปลี่ยนขับมามหาลัยบ่อยมาก ก็คงจะมีฐานะพอสมควรเพราะจากของที่ใช้ 
เสื้อผ้าแบรนเนมทั้งตัว และก็รู้ด้วยว่าพี่เค้ามีแฟนแล้ว และก็อยู่กินกันฉันสามีภรรยาแล้วด้วย พี่โจเป็นหนุ่มฮอตของบรรดาสาวๆ 
ที่มหาลัยพอสมควรจึงมีคนสนใจเรื่องแกเยอะเพื่อนที่เรียนเซคเดียวกันกับดิฉันเคยเล่าให้ฟังว่าตอนปีหนึ่งพี่โจแกทำแฟนท้อง
ทางผู้ใหญ่เลยให้จัดพิธีผูกข้อไม้ข้อมือแล้วก็อยู่ด้วยกันส่วนแฟนพี่โจพอคลอดลูกก็ไปเรียนอีกที่หนึ่ง พวกเราก็เม้ามอยกันไปเรื่อย
และแน่นอนว่าในวงสนทนานั้นมีปริมอยู่ด้วย
 
           ปริมไม่ได้สนใจหรอกว่าพี่โจจะมีใครหรืป่าวเพราะมั่นใจว่าความสวยของตนไม่แพ้ใครอย่างไรเสียก็ได้เปรียบ
และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ค่ะปริมกับพี่โจเริ่มสานสัมพันกันอย่างลับลับ พี่โจเองก็ดูจะหลงปริมไม่น้อย ไม่นานปริมก็มาบอกตาต้า
ว่าจะย้ายออกจากหอไปอยู่คอนโดกับพี่โจ ตาต้าเองก็ทักปริมว่าคิดให้ดีๆ นะเค้ามีครอบครัวแล้วไม่ใช่หรอ แต่ความมั่นหน้า
และมั่นใจของปริมมันเกินจะท้วง ปริมบอกว่าปริมมั่นใจว่าพี่โจจะเลิกกับทางนู้นแล้วมาอยู่กับปริม เราก็เคยสงสัยนะว่าพี่โจมีดี
ขนาดนั้นเลยหรือถึงจะหล่อและมีเงิน แต่คนอื่นที่มีคุณสมบัติแบบนี้ก็มีเข้ามาให้ปริมเลือกเยอะแยะ บางทีเค้าอาจจะมีกรรมต่อกัน
ก็เป็นได้ ถึงทำให้ผู้หญิงที่มีพร้อมทุกอย่างอย่างปริมหลงได้จนหัวปักหัวปำถึงขั้นยอมทุกอย่างแม้กระทั้งยอมเป็นที่สอง
เคยมีรุ่นพี่คนนึงเล่าให้ฟังพี่โจแกเป็นลูกชายคนเดียว พ่อแม่ทำธุรกิจหลายอย่างทั้งธุรกิจเงินกู้ รวมทั้งธุรกิจเต้นรถที่บ้าน
ทำเป็นหลักหลายสาขา  เลยมีหน้าที่สานต่อธุรกิจของที่บ้านเต็มๆ  มิน่าถึงดูอู่ฟู่ เปลี่ยนรถเป็นว่าเล่นแถมใช้เงินปรนเปรอปริม
ได้เปรมปรีขนาดนั้น. อีกอย่างช่วงนี้ปริมเคยบ่นว่าการเงินทางบ้านปริมก็มีปัญหาเลยทำให้ส่งเงินให้ปริมได้น้อยลง
พี่โจก็เลยเหมือนเป็นที่พึ่งอีกทางให้ปริม.
 
         พักหลังๆ ปริมเริ่มไม่ค่อยมาเรียนตาต้าบ่นให้ดิฉันฟังบ่อยว่างานกลุ่มปริมก็ไม่คอยสนใจไม่ค่อยช่วยทำ ดิฉันก็ไม่ค่อย
เห็นปริมเข้ามาชมรมเลย ส่วนพี่โจนั้นก็หายไปเลยเช่นกัน  เย็นวันหนึ่งดิฉันกินข้าวอยู่ใต้หอพักกับตาต้าปริมก็โทรมาหาตาต้า
ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

"ต้าช่วยกูด้วย มารับกูหน่อย"

ตาต้าเลยถามว่าเป็นอะไร ปริมก็บอกว่าเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังตาต้าเลยบอกว่าได้ๆ แล้วก็ชวนดิฉันไปด้วย 
เราสองคนไปหาปริมที่คอนโดตามที่ปริมส่งโลเกชั่นมาให้ คอนโดที่ปริมพักอยู่ดูหรูหรามากๆพอไปถึง
เราก็นั่งรอปริมอยู่ที่ลอปบี้ด้านล่างสักพักหลังจากที่เราโทรบอกว่ามาถึงแล้วปริมก็ลงมารับ พวกเราเห็นปริมก็ตกใจมาก 
ปริมที่เคยสวยออร่าผุดผ่อง ตอนนี้แทบไม่เหลือเค้าเดิม ปริมผอมมาก ผิวขาวๆดูซูบซีด แถมใต้ตายังคล้ำดำเหมือนคนไม่ได้นอน
อย่างเห็นได้ชัด ปริมโผมากอดดิฉันกับตาต้าด้วยตัวที่สั่นเทา ปริมขอให้พวกเราช่วยขนของเท่าที่ขนได้ไปไว้ที่หอตาต้าก่อน 
ระหว่างที่เรากำลังเก็บของดิฉันสังเกตุว่าปริมดูลุลี้ลุกลนเหมือนกลัวอะไรบางอย่างมากๆ แล้วก็บอกให้พวกเรา
รีบพาปริมไปจากที่นี่ทันที
 
          เมื่อกลับมาที่หอปริมได้นอน แล้วก็ตื่นมาร้องไห้ไปรอบหนึ่ง ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้พวกเราฟัง
ปริมบอกว่าแรกๆ ที่พี่โจพาเธอมาอยู่ที่คอนโด พี่โจดีกับเธอมากๆ อยากได้อะไรก็ซื้อให้ทุกอย่าง เธอบอกว่าที่พี่โจมีเงินเยอะ
เพราะพ่อพี่โจออกทุนให้ทำธุรกิจเงินกู้นอกระบบ ปริมเองไม่ได้สนใจที่มาที่ไปหรอกเพราะขอแค่พี่โจมีเงินให้ใช้จ่ายก็พอ
ตัวเธอเองก็ยอมรับว่าติดนิสัยกินหรูอยู่สบายพี่โจเองก็ไม่เคยโดนจับเพราะมีผู้มีอิทธิพลคอยช่วยอยู่ ทุกอย่างดูราบรื่นไปหมด
ปริมมีความสุขมากๆ จากที่แค่จะคบเล่นๆ ก็รู้สึกรักพี่โจขึ้นมาจริงตัวเธอเองก็รับรู้ว่าพี่โจก็รักเธอ แต่เธอก็อดน้อยใจไม่ได้ที่แก
ไม่ยอมเลิกกับแฟนแกสักที ปริมอยากเป็นตัวจริงคนเดียวเท่านั้น พี่โจเองก็พูดให้ความหวังไปเรื่อยแต่ก็อ้างว่าอยู่ทุกวันนี้เพื่อลูก

         
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่