ฌานไม่มีแก่ผู้ไม่มีปัญญา ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่มีฌาน....
ฌานและปัญญามีอยู่ในผู้ใด ผู้นั้นแลอยู่ในที่ใกล้นิพพาน....
ย่อมรู้นิพพาน ย่อมเห็นนิพพาน ว่าเที่ยง เป็นสุขอย่างยิ่ง ไม่มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา.....
......จงลุกขึ้นนั่งเถิดกาติยานะ อย่ามัวนอนหลับอยู่เลย จงตื่นขึ้นเถิด อย่า
ให้มัจจุราชผู้เป็นพวกพ้องของคนประมาทชนะ ท่านผู้เกียจคร้านด้วย
อุบายอันโกงเลย กำลังคลื่นแห่งมหาสมุทร ย่อมครอบงำบุรุษผู้ไม่อาจ
ข้ามมหาสมุทรนั้นได้ แม้ฉันใด ชาติและชราย่อมครอบงำท่านผู้ถูก
ความเกียจคร้านครอบงำแล้ว ฉันนั้น ขอท่านจงทำเกาะ คือ อรหัตผล
แก่ตนเถิด เพราะที่พึ่งอย่างอื่นในโลกนี้และโลกหน้า ย่อมไม่มีแก่ท่าน
ก็พระศาสดาได้ทรงบอกทางนี้ อันล่วงพ้นจากเครื่องข้องและจากภัย
คือ ชาติและชราแก่ท่านแล้ว ท่านอย่าเป็นผู้ประมาทตลอดยามต้น
และยามหลัง จงพยายามทำความเพียรให้มั่นเถิด ท่านจงปลดเปลื้อง
เครื่องผูกทั้งหลายอันเป็นของเดิมเสีย จงใช้สอยผ้าสังฆาฏิและโกนศีรษะ
ด้วยมีดโกน ฉันอาหารที่ขอเขามาได้ จงอย่าเห็นแก่การเล่นสนุกสนาน
อย่าเห็นแก่นอน จงหมั่นเพ่งดูธรรมเถิด กาติยานะ จงเจริญฌาน จงชนะ
กิเลสเถิดกาติยานะ ท่านจงเฉลียวฉลาดในทางอันปลอดโปร่งจากโยคะ
จงบรรลุถึงความบริสุทธิ์อันยอดเยี่ยม จงดับเพลิงกิเลส ดังบุคคลดับไฟ
ด้วยน้ำ ฉะนั้น ประทีปที่ส่องแสง ถ้ามีแสงน้อย ย่อมดับไปด้วยลม
ดังเถาวัลย์เหี่ยวแห้ง ฉันใด ท่านก็จงเป็นผู้ไม่ถือมั่น กำจัดมารผู้มี
โคตรเสมอด้วยพระอินทร์ฉันนั้นเถิด ก็เมื่อท่านกำจัดมารได้อย่างนี้แล้ว
เป็นผู้ปราศจากความกำหนัดพอใจในเวทนาทั้งหลาย เป็นผู้มีความเย็น
รอคอยเวลานิพพานของตน ในอัตภาพนี้ทีเดียว.
วันนี้ก็ไม่มีคำถามพ่วง.....
คนโง่ไม่เห็นนิพพานไม่รู้จักนิพพาน เลยบอกว่า นิพพานเป็นอนัตตา ?
ฌานและปัญญามีอยู่ในผู้ใด ผู้นั้นแลอยู่ในที่ใกล้นิพพาน....
ย่อมรู้นิพพาน ย่อมเห็นนิพพาน ว่าเที่ยง เป็นสุขอย่างยิ่ง ไม่มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา.....
......จงลุกขึ้นนั่งเถิดกาติยานะ อย่ามัวนอนหลับอยู่เลย จงตื่นขึ้นเถิด อย่า
ให้มัจจุราชผู้เป็นพวกพ้องของคนประมาทชนะ ท่านผู้เกียจคร้านด้วย
อุบายอันโกงเลย กำลังคลื่นแห่งมหาสมุทร ย่อมครอบงำบุรุษผู้ไม่อาจ
ข้ามมหาสมุทรนั้นได้ แม้ฉันใด ชาติและชราย่อมครอบงำท่านผู้ถูก
ความเกียจคร้านครอบงำแล้ว ฉันนั้น ขอท่านจงทำเกาะ คือ อรหัตผล
แก่ตนเถิด เพราะที่พึ่งอย่างอื่นในโลกนี้และโลกหน้า ย่อมไม่มีแก่ท่าน
ก็พระศาสดาได้ทรงบอกทางนี้ อันล่วงพ้นจากเครื่องข้องและจากภัย
คือ ชาติและชราแก่ท่านแล้ว ท่านอย่าเป็นผู้ประมาทตลอดยามต้น
และยามหลัง จงพยายามทำความเพียรให้มั่นเถิด ท่านจงปลดเปลื้อง
เครื่องผูกทั้งหลายอันเป็นของเดิมเสีย จงใช้สอยผ้าสังฆาฏิและโกนศีรษะ
ด้วยมีดโกน ฉันอาหารที่ขอเขามาได้ จงอย่าเห็นแก่การเล่นสนุกสนาน
อย่าเห็นแก่นอน จงหมั่นเพ่งดูธรรมเถิด กาติยานะ จงเจริญฌาน จงชนะ
กิเลสเถิดกาติยานะ ท่านจงเฉลียวฉลาดในทางอันปลอดโปร่งจากโยคะ
จงบรรลุถึงความบริสุทธิ์อันยอดเยี่ยม จงดับเพลิงกิเลส ดังบุคคลดับไฟ
ด้วยน้ำ ฉะนั้น ประทีปที่ส่องแสง ถ้ามีแสงน้อย ย่อมดับไปด้วยลม
ดังเถาวัลย์เหี่ยวแห้ง ฉันใด ท่านก็จงเป็นผู้ไม่ถือมั่น กำจัดมารผู้มี
โคตรเสมอด้วยพระอินทร์ฉันนั้นเถิด ก็เมื่อท่านกำจัดมารได้อย่างนี้แล้ว
เป็นผู้ปราศจากความกำหนัดพอใจในเวทนาทั้งหลาย เป็นผู้มีความเย็น
รอคอยเวลานิพพานของตน ในอัตภาพนี้ทีเดียว.
วันนี้ก็ไม่มีคำถามพ่วง.....