ห้องลึกลับในสถานที่ต่างๆทั่วโลก

ห้องแห่งความลับ ที่ภูเขารัชมอร์



ที่มาของห้องลับแห่งนี้มีอยู่ว่า กัตซอน บอร์กลัม (Gutzon Borglum) ประติมากรผู้ออกแบบวางแผนการก่อสร้างอนุสาวรีย์เมาต์รัชมอร์ ต้องการที่จะสร้างจารึกขนาดใหญ่บอกเล่าเหตุการณ์สำคัญของสหรัฐฯ ประกบคู่กับรูปแกะสลักของเขา เพื่อบอกเรื่องราวให้กับคนรุ่นหลัง

ภาพจำลองแนวคิดในการสลักจารึกเหตุการณ์สำคัญของ บอร์กลัม (National Park Service)


เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก เนื่องจากไม่อาจสลักตัวอักษรได้ใหญ่พอที่จะสามารถอ่านเห็นได้จากระยะไกล ประกอบกับต้องกันพื้นที่ให้กับรูปสลักของ อับราฮัม ลินคอล์น จึงทำให้แผนที่จะสร้างจารึกขนาดใหญ่ต้องล้มไป
บอร์กลัม จึงเปลี่ยนใจหันมาสร้างห้องขนาดใหญ่ด้วยการเจาะภูเขาแห่งนี้ เพื่อเป็นที่เก็บรักษาเอกสาร และวัตถุสำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศแทน

แบบที่เขาวางเอาไว้ ห้องแห่งนี้จะมีขนาดราว 24.38 เมตร คูณ 30.48 เมตร มีทางเข้าอยู่ด้านหลังรูปสลักของ ลินคอล์น บนประตูทางเข้าประดับด้วยรูปปั้นนกอินทรีย์สัมฤทธิ์ และเหนือนกอินทรีย์ขึ้นไปมีจารึกระบุว่าเป็น “The Hall of Records” แต่เมื่อเข้าปี 1939 หลังการก่อสร้างดำเนินไปได้เพียงไม่ถึงหนึ่งปี ทางรัฐบาลก็สั่งให้ยุติการก่อสร้างห้องดังกล่าว และสั่งให้ บอร์กลัม มุ่งทำการสลักหน้าของประธานาธิบดีทั้ง 4 ให้สำเร็จเท่านั้น

หอเก็บบันทึกสำคัญจึงถูกทิ้งร้างไปนานหลายสิบปี ทำให้หลายคนไม่รู้มาก่อนว่ามีห้องที่ว่านี้อยู่บนเมาต์รัชมอร์ แต่เจตนารมณ์ของ บอร์กลัม ก็ได้รับการสานต่อ แม้จะไม่ได้เป็นไปตามแผนเดิมที่เขาวางไว้ โดยในปี 1998 เอกสารสำคัญซึ่งจารึกลงบนเครื่องเคลือบ 16 ชิ้น ก็ได้ถูกบรรจุลงในกล่องไม้สัก ก่อนนำไปใส่ในตู้เซฟไทเทเนียมอีกชั้นหนึ่ง แล้วครอบทับด้วยแผ่นหินแกรนิต ติดตั้งไว้ที่ทางเข้าของห้องที่เขาตั้งใจจะให้เป็นหอเก็บบันทึกสำคัญ
Cr.silpa-mag.com

ห้องลับ ‘ประตูชุมพล’ 


ประตูเมืองชุมพลสร้างขึ้นในสมัย สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ช่วงพ.ศ. 2199 – พ.ศ. 2231 ไว้เพื่อป้องกันการรุกรานจากศัตรู ชื่อประตู “ชุมพล” นั้นหมายความถึง ที่ชุมนุมพลส่วนใหญ่ เป็นประตูสำหรับเตรียมไพร่พลและออกศึก เนื่องจากมีภูมิประเทศเปิดกว้าง ไม่มีป้อมปราการตามธรรมชาติเหมือนประตูอื่นๆ ในอดีตมีความเชื่อว่า เมื่อลอดผ่านประตูชุมพลไปทำศึกแล้ว จะแคล้วคลาดได้กลับบ้านเมือง

ประตูชุมพล ทางกรมศิลปากร ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณวัตถุสถานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2480 และกำแพงเมืองโคราช ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณวัตถุสถานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2479

บนซุ้มประตูชุมพล มีประตูทางเข้าอยู่ข้างซุ้มประตูชุมพล ซึ่งต้องไขกุญแจเข้าไปด้านในและเดินเท้าขึ้นบันไดบนความสูงประมาณ 5 เมตร ไปบ้านย่าโม ชื่อเรียกตามหลักวิชาการคือหอยามรักษาการณ์เชิงเทิน รูปแบบทรงไทยโบราณ ศิลปะสมัยอยุธยาหลังคามุงด้วยกระเบื้องดินเผาช่อฟ้าใบระกา  มีสภาพค่อนข้างเก่า แม้ทาสีเนื้อไม้ แต่สังเกตเห็นความชำรุด ทรุดโทรมจากอายุการใช้งานหลายจุด สิ่งของที่อยู่ด้านในส่วนใหญ่เป็นดาบโบราณ รูปหล่อท้าวสุรนารี รูปไม้แกะสลักย่าโม,ช้างและม้า ตุ๊กตา,นางรำ,พานบายศรีและชุดไทยโบราณ ผู้ดูแลเปิดเผยว่า สิ่งของต่างๆ ที่อยู่ภายในห้อง เช่นดาบนักรบไทยโบราณ ทั้งหมดได้สลักชื่อยศตำแหน่ง ทั้งหมดเป็นของนายทหาร นายตำรวจและข้าราชการระดับสูงที่มาดำรงตำแหน่งในพื้นที่ จ.นครราชสีมา
Cr.komchadluek.net/

ห้องลับในพีระมิดแห่งกิซ่า


การค้นพบล่าสุดเรื่องพื้นที่ว่างในมหาพีระมิด มาจากการดำเนินงานของโครงการชื่อ ScanPyramids Project ที่เป็นความร่วมมือกันระหว่างมหาวิทยาลัยไคโรกับสถาบัน Heritage Innovation Preservation (HIP) โครงการนี้เริ่มดำเนินงานเมื่อตุลาคม 2015 โดยอาศัยเทคโนโลยีตรวจจับรังสีคอสมิก วิธีการนี้เคยนำไปใช้กับวิหารขนาดใหญ่ พีระมิดของพวกมายา และภูเขาไฟ
เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน นิตยสาร Nature ได้พิมพ์บทความของคณะทำงานโครงการนี้ ที่ได้ค้นพบพื้นที่ว่างขนาดใหญ่ในมหาพีระมิด บทความมีชื่อว่า “การค้นพบพื้นที่ว่างขนาดใหญ่ในพีระมิดคูฟู โดยการสังเกตรังสีคอสมิกมิวออนส์”

รังสีคอสมิกพุ่งมายังโลกอยู่ตลอดเวลา เมื่อรังสีนี้กระทบกับอะตอมในโลกเรา จะเปลี่ยนเป็นอนุภาคมิวออนส์ (Muons) เมื่อมิวออนส์ผ่านวัตถุมีมวลมากก็จะถูกวัตถุมีมวลมากดูดซับ เช่น ก้อนหินของพีระมิด หากผ่านพื้นที่ว่างเปล่า ปริมาณมิวออนส์จะมีสูงกว่า การใช้เครื่องตรวจจับอนุภาคมิวออนส์ กับโครงสร้างต่างๆ ทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถทำแผนที่ออกมาได้ว่าส่วนไหนของโครงสร้างเป็นพื้นที่แข็งหนาทึบ และส่วนไหนเป็นพื้นที่ว่างเปล่า

นักวิทยาศาสตร์ ScanPyramids ค้นพบพื้นที่ว่างที่ตั้งอยู่เหนือห้อง Grand Gallery ห้องว่างนี้ยาว 30 เมตร สูง 8 เมตร กว้าง 2 เมตร เทียบกับห้อง Grand Gallery ที่ยาว 48 เมตร สูง 8.5 เมตร พื้นที่ว่างทั้งหมดมีขนาดพอๆ กับห้อง Grand Gallery นักวิทยาศาสตร์โครงการนี้ไม่เรียกพื้นที่ว่างนี้ว่า “ห้องลับ” เพราะรายละเอียดของบริเวณพื้นที่ว่างนี้ยังไม่ชัดเจน

มาร์ก เลห์เนอร์ (Mark Lehner) นักพีระมิดวิทยาที่มีชื่อเสียงให้ความเห็นว่า พื้นที่ว่างดังกล่าวคงไม่ใช่พื้นที่ที่เหมาะสำหรับบรรจุร่างคน พื้นที่ว่างน่าจะเป็นจุดพักของคนงานในช่วงการก่อสร้าง ที่ต้องเข้าถึงห้องฝังพระศพและห้อง Grand Gallery 
แต่นักอียิปต์วิทยาส่วนหนึ่งก็เห็นว่า ถ้าได้เห็นภาพชัดเจนว่าพื้นที่ว่างมีโครงสร้างแบบไหนและทำหน้าที่อะไร จะช่วยให้ได้คำตอบชัดเจนมากขึ้นว่า พีระมิดสร้างขึ้นมาได้อย่างไร เช่น จากทางลาดที่ตั้งอยู่ภายนอกตัวพีระมิด หรือมีทางเคลื่อนย้ายก้อนหินที่สร้างอยู่ภายในพีระมิด เพื่อที่ก้อนหินจะถูกลากขึ้นไปตั้งในระดับที่สูงขึ้นของพีระมิด
Cr.thaipublica.org

อพาร์ทเม้นท์ชั้นบนสุดของหอไอเฟล
 

หอไอเฟลเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่โด่งดังที่สุดของโลก สร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1889  และยังเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลก (ในขณะนั้น)
หลายคนอาจไม่รู้ว่าบนยอดของหอไอเฟล ที่สูงมากกว่า 300 เมตร มีอพาร์ทเม้นท์ลับขนาดเล็กซ่อนอยู่ ซึ่งเป็นของ กุสตาฟ ไอเฟล สถาปนิกและวิศวกรชั้นนำของฝรั่งเศส คนออกแบบหอคอยนี้

กุสตาฟ ห่วงแหนอพาร์ทเมนท์แห่งนี้เป็นอย่างมาก มีน้อยคนนักที่จะได้รับเชิญให้ไปที่ห้องของเขา ซึ่งต้องเป็นแขกที่มีความสำคัญจริงๆ ถึงจะได้รับเชิญ
อย่าง Tomas Edison ผู้คิดค้นหลอดไฟ ก็เคยได้รับเชิญจากกุสตาฟ  ภายในอพาร์ทเม้น ประกอบไปด้วย 1ห้องนั่งเล่น 1ห้องครัว 1ห้องน้ำ และ 2ห้องนอน เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดก็ทำมาจากไม้
ในปัจจุบัน อพาร์ทเม้นของกุสตาฟ ได้ถูกเปิดเป็นพิพิทธภัณฑ์ ซึ่งยังคงไว้ลักษณะห้องเช่นเดิม เพิ่มเติมคือมีหุ่นขี้ผึ้งของกุสตาฟ และ โทมัส อยู่ในห้องนั่นเอง
Cr.rulerpaw.com

ห้องลับใต้ดินของคริสตจักรมอร์มอน


  คริสตจักรมอร์มอน หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ ศาสนาจักรของพระเยซูคริสต์แห่งสิทธิชนยุคสุดท้าย (The Church of Jesus Christ of Latter-day Saints) เป็นกลุ่มศาสนิกชนที่มีประวัติยาวนาน และด้วยเหตุนี้เอง พวกเขาจึงมีหนังสือจดหมายเหตุ รวมถึงม้วนไมโครฟิล์มที่บรรจุข้อมูลมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1930 และเพื่อที่จะให้ข้อมูลเหล่านี้คงอยู่ไปตลอดกาล คริสตจักรมอร์มอนจึงต้องเฟ้นหาสถานที่สำหรับเก็บข้อมูลที่ดีที่สุด พวกเขาเลือกที่จะสร้างห้องนิรภัยลับในภูเขาหินแกรนิตชื่อ Little Cottonwood Canyon ในรัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา และไม่อนุญาตให้ประชาชนคนธรรมดาเข้าใกล้ห้องนิรภัยนี้โดยเด็ดขาด ว่ากันว่าในปัจจุบัน มีม้วนไมโครฟิล์มที่เก็บข้อมูลมากกว่า 100,000 ชิ้น และที่เป็นหน้ากระดาษอีกมากกว่า 100,000 แผ่น
Cr.hilight.kapook.com

ห้องสมุดลับขนาดเล็กที่ถูกซ่อนไว้กว่า 200 ปี


มีการค้บพบขุมสมบัติเก่าแก่ที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์มากในเมือง Bouillon ทางตอนใต้ของประเทศเบลเยี่ยม โดย Henri Godts ตัวแทนที่พักอาศัยได้รับแจ้งว่ามีการค้นพบ “ห้องสมุดลับ” ขนาดเล็ก  โดยเจ้าของเดิมของห้องสมุดเป็นปัญญาชนชาวฝรั่งเศสที่ถูกกล่าวหาว่าหลบหนีการปฏิวัติฝรั่งเศสมาลี้ภัยอยู่ที่เมือง Bouillon และห้องสมุดแห่งนี้ไม่มีใครแตะต้องมันมานานกว่า 200 ปีแล้ว ทั้งภายในยังเก็บรวบรวมภาพและบันทึกมากมายจากหลายยุค
ภายในห้องสมุดมีหนังสือหายากกว่า 182 เล่ม ตั้งแต่คริสตศักราชที่ 18 – 19 ทั้งยังมีเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์โบราณอีกมากมาย

หนังสือและเอกสารส่วนใหญ่จะอธิบายถึงประเทศที่แปลกใหม่ที่ตั้งอบู่ห่างไกลออกไปและอารยธรรมที่แตกต่าง นอกจากวรรณกรรมที่น่าสนใจแล้วยังมีแผนที่เก่าที่สร้างขึ้นโดย Antwerp Abraham Ortelius เขาเป็นนักเขียนแผนที่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสมัยนั้น ถูกพิมพ์ขึ้นหลายร้อยฉบับแต่กลับสูญหายหรือเสียหายไปจนกลายเป็นของหายาก และคาดว่าน่าจะมีมูลค่าประมาณ 40,000 – 45,000 ยูโร (ประมาณ 1.5 – 1.7 ล้านบาท) แต่ในแง่ของความสำคัญต่อวัฒนธรรมกลับไม่มีค่าเลย

และห้องสมุดลับแห่งนี้จะถูกประมูลขึ้นในวันที่ 20 มิถุนายน 2017โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 32,500 – 41,000 ยูโร (ประมาณ 1.2 – 1.5 ล้านบาท) และมีคนสนใจมากมายโดยเฉพาะคนท้องถิ่นและคนจากต่างประเทศที่อยากเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ที่น่าทึ่งนี้
Cr.clipmass.com

ห้องลับ ในพระราชวัง อายุ 2,000 ปี


 
 เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมา ทางอุทยานโบราณคดีแห่งโคลีเซียมในกรุงโรม ได้ออกมาประกาศการค้นพบห้องลับในซากโบราณสถาน “Domus Aurea” พระราชวังของจักรพรรดิเนโร หลังจากที่มันถูกซ่อนจากสายตาคนบนโลกมานานถึง 2,000 ปี
  
ห้องลับนี้ เป็นห้องเพดานโค้งที่เชื่อกันว่าถูกสร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศักราชที่ 65-68 และมีลักษณะเด่นอยู่ที่รูปภาพฝาผนังของสัตว์ในเทพนิยายอย่างสฟิงซ์ ซึ่งวาดขึ้นโดยสีแดง เขียว เหลือง ซึ่งมีสภาพสมบูรณ์อย่างไม่น่าเชื่อแม้เวลาจะผ่านไปเป็นพันๆ ปีแล้วก็ตาม
นอกจากรูปภาพของสฟิงซ์แล้ว ภายในห้องแห่งนี้ยังมีภาพของ เซนทอร์ เทพซึ่งมีช่วงล่างเป็นแพะอย่างแพน (ฟอนัสในเทพปกรณัมโรมัน) เครื่องประดับรูปพืช และภาพของชายถือดาบสู้กับเสืออีกด้วย
  
อ้างอิงจากข้อมูลที่ถูกเปิดเผยออกมา ห้องที่ถูกเรียกกันด้วยชื่อเล่นว่า “ห้องสฟิงซ์” แห่งนี้ ถูกพบโดยบังเอิญในขณะที่นักวิจัยทำการบูรณะกำแพงพระราชวังอยู่ และในตอนที่ถูกพบแรกๆ ห้องแห่งนี้แทบจะเต็มไปด้วยเศษดิน
นับว่าเป็นหนึ่งในห้องกว่า 300 ห้องที่ถูกสร้างขึ้นมาพร้อมๆ กับพระราชวังตามคำสั่งของจักรพรรดิเนโรในอดีต และตั้งแต่ที่แหล่งโบราณสถานแห่งนี้ถูกค้นพบในช่วงศตวรรษที่ 15 นักโบราณคดีก็ยังสามารถพบห้องใหม่ๆ ในที่แห่งนี้ด้วย 
ที่มา livescience, telegraph และ independent
Cr.catdumb.com
 
 
                                                              “The Disappointments Room”
บอกเล่าถึงเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งที่ประกอบไปด้วยที่เพิ่งย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านใหม่แห่งหนึ่งในย่านชนบท … วันเวลาผ่านไป พบว่าภายในบ้านหลังนี้ได้เกิดเหตุการณ์อันน่ากลัวและอธิบายไม่ได้อยู่บ่อยครั้ง จนนำพาให้ได้พบเข้ากับ ห้องลึกลับ ที่ไม่มีอยู่แม้ในแบบพิมพ์เขียว

การไขปริศนาค้นหาความจริงที่ซ่อนอยู่ในห้องลึกลับนี้ด้วยการพยายามตามหากุญแจหลากหลายดอก แต่เมื่อยิ่งค้นเข้าไปลึกเท่าไหร่ ความลับอันดำมืดนี้ก็ดูจะมาพร้อมกับภัยร้ายแสนสะพรึงมากยิ่งขึ้น
Cr.senseonfilms.com
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
อ่านตั้งนาน โฆษณาหนังนี่เอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่