"กิตติรัตน์" ออกโรง สวน "วทันยา" แจงยิบ หนี้สาธารณะเดิมลดลง ไม่ใช่ฝีมือคสช.
https://www.matichon.co.th/politics/news_1720748
เมื่อวันที่ 21 ต.ค. กรณี น.ส.
วทันยา วงษ์โอภาส ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อภิปรายพรบ.งบประมาณ ช่วงหนึ่งชี้แจงการขาดดุลเงินงบประมาณ โดยการกู้เงินของรัฐบาลประยุทพะ์ เพื่อชดเชยการขาดดุลจากนโยบายจำนำข้าว ก่อนจะถูกส.ส.เพื่อไทย โต้กลับ
ล่าสุด นาย
กิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯ สมัยรัฐบาล
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แสดงความเห็น ตอบโต้ น.ส.
วทันยา โดยระบุว่า
ผมเบื่อที่จะอธิบาย (ซ้ำแล้ว ซ้าเล่า) เรื่องความคุ้มค่าของโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ในช่วงปี 2554-2557 และกลไกการลดภาระคงค้างด้วยสินค้าคงคลัง และการจัดสรรงบประมาณ ที่ทุกๆ รัฐบาลจะดูแลดำเนินการให้แก่กันอย่างต่อเนื่อง
เพียงอยากตั้งข้อสังเกตว่า “อคติ และ/หรือ ความไม่รู้” ทำให้มองไม่เห็นว่า หนี้สาธารณะดั้งเดิมมียอดเงินต้นลดลงเกือบสามแสนล้าน ในช่วงของรัฐบาล คสช. เกิดจากการที่รัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ วางระบบการชำระ ทั้งเงินต้น และดอกเบี้ย ที่ไม่ต้องใช้งบประมาณแผ่นดินมาตั้งแต่ปีงบประมาณ 2556 ชัดนะครับว่าหนี้ที่ลดลงไม่ใช่ฝีมือรัฐบาล คสช.
ส่วนที่เป็นฝีมือของรัฐบาล คสช.แน่ๆ คือ ยอดเงินกู้ใหม่กว่าสองล้านๆ บาท ในห้าปีงบประมาณของ รัฐบาล คสช. (2558-2562; ไม่รวมอีกเกือบสี่แสนเจ็ดหมื่นล้านของปีงบประมาณ 2563 ที่กำลังถกกันอยู่ในสภาฯ) ทั้งนี้ยังไม่รวมภาระที่สั่งการให้ธนาคารของรัฐ จ่ายเงินอุดหนุนแก่เกษตรกรไปก่อน โดยไม่บันทึกว่าเป็นหนี้ แต่ครม.มีมติว่าจะใช้คืนให้ด้วยงบประมาณในภายหลัง
สร้างหนี้เองกันขนาดนี้ ยังจะไปโทษคนอื่น แถมยังไม่สนใจจะค้นหาคำตอบว่า “สร้างหนี้ขนาดนี้ ทำไมเศรษฐกิจจึงย่ำแย่?” หรือยังไงก็ไม่มีปัญญาจะตอบ จึงทำได้เพียงแค่เบี่ยงประเด็น
https://www.facebook.com/kittirattnofficial/posts/2507528752672071
ด่วน! “สมัชชาคนจน” ประชิด รั้วทำเนียบฯ บีบรัฐบาล ออกมา “เจรจาเสมอหน้า!!”
https://www.khaosod.co.th/politics/news_2989468
สมัชชาคนจน ประชิด ทำเนียบ กดดัน รัฐบาล เปิดเจรจาเสมอหน้า แก้ปัญหาคนจนด้วยความจริงใจ
ย้ำ ประชาธิปไตยที่กินได้ การเมืองที่เห็นหัวคนจน
เมื่อเวลา 08.30 น. ที่ประตู5 ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มผู้ชุมนุมสมัชชาคนจน ได้เคลื่อนขบวนจากบริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม ด้านข้างกระทรวงศึกษาธิการ มาที่หน้าทำเนียบ ด้านถนนราชดำเนิน และได้อ่านแถลงการณ์สมัชชาคนจนฉบับที่ 11 เรื่อง “
เมื่อการแสดงความจริงใจไม่มีผล การกดดันก็ตามมา”
โดยระบุว่า
ใน 3 วันที่ผ่านมา เราได้แสดงความจริงใจต่อรัฐบาลให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แล้ว และเราได้รับการตอบรับจากรัฐบาลด้วยดี โดยการนัดหมายให้มีการเจรจาในเช้าวันนี้ แต่เมื่อหลังจากการที่เราได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 10 เรื่องรัฐบาลต้องเปิดการเจรจาอย่างเสมอหน้าอีกครั้งหนึ่ง ปรากฎว่าทางรัฐบาลกลับยกเลิกนัดหมายการเจรจาในช่วงเช้าของวันนี้ และได้เปลี่ยนเวลาการเจรจาไปเป็นช่วงบ่าย ทำให้พวกเรารู้สึกผิดหวังกับท่าทีของรัฐบาลที่ทำให้ดูเสมือนว่าไม่มีความจริงใจและความตั้งใจในการแก้ไขปัญหา แต่กลับมีเจตนาที่จะยื้อเวลาออกไปเรื่อยๆ
ในเมื่อการแสดงความจริงใจของพวกเรา ไม่ได้รับผลตอบรับไปในทางที่ดี เราจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาล ซึ่งการเคลื่อนไหวนี้อาจจะทำให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางในการสัญจรไปมาในบริเวณนี้ ไม่ได้รับความสะดวกอยู่บ้าง พวกเราต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย และพวกเราขอยืนยันว่าพวกเราต้องการให้รัฐบาลเปิดเจรจาอย่างเสมอหน้ากับพวกเรา แต่รัฐบาลกลับผิดสัญญากับพวกเราเอง ดังนั้นในวันนี้เราจะทำการกดดันจนกว่ารัฐบาลจะเปิดการเจรจาอย่างเสมอหน้ากับพวกเราอีกครั้งหนึ่ง ประชาธิปไตยที่กินได้ การเมืองที่เห็นหัวคนจน
JJNY : "กิตติรัตน์"สวน"วทันยา"แจงหนี้สาธารณะเดิมลดลง ไม่ใช่ฝีมือคสช./“สมัชชาคนจน”ประชิดรั้วทำเนียบฯ/ส่งออก9ด. ติดลบ 2.1%
https://www.matichon.co.th/politics/news_1720748
เมื่อวันที่ 21 ต.ค. กรณี น.ส.วทันยา วงษ์โอภาส ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อภิปรายพรบ.งบประมาณ ช่วงหนึ่งชี้แจงการขาดดุลเงินงบประมาณ โดยการกู้เงินของรัฐบาลประยุทพะ์ เพื่อชดเชยการขาดดุลจากนโยบายจำนำข้าว ก่อนจะถูกส.ส.เพื่อไทย โต้กลับ
ล่าสุด นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯ สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แสดงความเห็น ตอบโต้ น.ส.วทันยา โดยระบุว่า
ผมเบื่อที่จะอธิบาย (ซ้ำแล้ว ซ้าเล่า) เรื่องความคุ้มค่าของโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ในช่วงปี 2554-2557 และกลไกการลดภาระคงค้างด้วยสินค้าคงคลัง และการจัดสรรงบประมาณ ที่ทุกๆ รัฐบาลจะดูแลดำเนินการให้แก่กันอย่างต่อเนื่อง
เพียงอยากตั้งข้อสังเกตว่า “อคติ และ/หรือ ความไม่รู้” ทำให้มองไม่เห็นว่า หนี้สาธารณะดั้งเดิมมียอดเงินต้นลดลงเกือบสามแสนล้าน ในช่วงของรัฐบาล คสช. เกิดจากการที่รัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ วางระบบการชำระ ทั้งเงินต้น และดอกเบี้ย ที่ไม่ต้องใช้งบประมาณแผ่นดินมาตั้งแต่ปีงบประมาณ 2556 ชัดนะครับว่าหนี้ที่ลดลงไม่ใช่ฝีมือรัฐบาล คสช.
ส่วนที่เป็นฝีมือของรัฐบาล คสช.แน่ๆ คือ ยอดเงินกู้ใหม่กว่าสองล้านๆ บาท ในห้าปีงบประมาณของ รัฐบาล คสช. (2558-2562; ไม่รวมอีกเกือบสี่แสนเจ็ดหมื่นล้านของปีงบประมาณ 2563 ที่กำลังถกกันอยู่ในสภาฯ) ทั้งนี้ยังไม่รวมภาระที่สั่งการให้ธนาคารของรัฐ จ่ายเงินอุดหนุนแก่เกษตรกรไปก่อน โดยไม่บันทึกว่าเป็นหนี้ แต่ครม.มีมติว่าจะใช้คืนให้ด้วยงบประมาณในภายหลัง
สร้างหนี้เองกันขนาดนี้ ยังจะไปโทษคนอื่น แถมยังไม่สนใจจะค้นหาคำตอบว่า “สร้างหนี้ขนาดนี้ ทำไมเศรษฐกิจจึงย่ำแย่?” หรือยังไงก็ไม่มีปัญญาจะตอบ จึงทำได้เพียงแค่เบี่ยงประเด็น
https://www.facebook.com/kittirattnofficial/posts/2507528752672071
ด่วน! “สมัชชาคนจน” ประชิด รั้วทำเนียบฯ บีบรัฐบาล ออกมา “เจรจาเสมอหน้า!!”
https://www.khaosod.co.th/politics/news_2989468
ย้ำ ประชาธิปไตยที่กินได้ การเมืองที่เห็นหัวคนจน
โดยระบุว่า
ใน 3 วันที่ผ่านมา เราได้แสดงความจริงใจต่อรัฐบาลให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แล้ว และเราได้รับการตอบรับจากรัฐบาลด้วยดี โดยการนัดหมายให้มีการเจรจาในเช้าวันนี้ แต่เมื่อหลังจากการที่เราได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 10 เรื่องรัฐบาลต้องเปิดการเจรจาอย่างเสมอหน้าอีกครั้งหนึ่ง ปรากฎว่าทางรัฐบาลกลับยกเลิกนัดหมายการเจรจาในช่วงเช้าของวันนี้ และได้เปลี่ยนเวลาการเจรจาไปเป็นช่วงบ่าย ทำให้พวกเรารู้สึกผิดหวังกับท่าทีของรัฐบาลที่ทำให้ดูเสมือนว่าไม่มีความจริงใจและความตั้งใจในการแก้ไขปัญหา แต่กลับมีเจตนาที่จะยื้อเวลาออกไปเรื่อยๆ
ในเมื่อการแสดงความจริงใจของพวกเรา ไม่ได้รับผลตอบรับไปในทางที่ดี เราจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาล ซึ่งการเคลื่อนไหวนี้อาจจะทำให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางในการสัญจรไปมาในบริเวณนี้ ไม่ได้รับความสะดวกอยู่บ้าง พวกเราต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย และพวกเราขอยืนยันว่าพวกเราต้องการให้รัฐบาลเปิดเจรจาอย่างเสมอหน้ากับพวกเรา แต่รัฐบาลกลับผิดสัญญากับพวกเราเอง ดังนั้นในวันนี้เราจะทำการกดดันจนกว่ารัฐบาลจะเปิดการเจรจาอย่างเสมอหน้ากับพวกเราอีกครั้งหนึ่ง ประชาธิปไตยที่กินได้ การเมืองที่เห็นหัวคนจน