เจอข้อความแบบนี้ในสมุดวาดเล่นของลูกสาว

ผมพึ่งจะมีเวลาว่างมาเก็บบ้านเมื่อวันก่อน เลยถือโอกาสเก็บห้องให้ลูกสาวด้วย เจอสมุดวาดเล่น ก็อยากจะแอบดูว่าลูกสาววาดอะไรบ้าง เลยแอบเปิดดู แต่กลับเจอข้อความแนวตัดพ้อ ต่างๆนาๆ ผมอ่านไปร้องไห้ไปไม่รู้จะทำยังไง ผมควรพูดหรือช่วยลูกสาวยังไงดีครับ

ข้อความที่ลูกผมเขียน

ไม่ชอบให้ใครทำแบบไหนก็อย่าไปทำแบบนั้นกับคนอื่น

ทำไมเราต้องเก็บความรู้สึกทั้งๆที่เรามีสิทธิ์จะแสดงมันออกมา

เราไม่มีสิทธิ์จะทำอะไรเลยเหรอ

บางคนทำอะไรที่เราไม่ชอบเราต้องก้มหน้ายอมรับมันเหรอ

ทำไมอะ

เราแค่อยู่ของเราเงียบๆ  ไม่ได้เหรอ

ถ้าโลกความจริงมันจะโหดร้ายขนาดนี้เราขอตายได้ไหม

ตายไปแบบไม่รับรู้อะไรตายแบบที่ไม่ต้องการให้ใครมาสงสาร

ตายไปแล้วจะได้ไม่ต้องเผชิญโลกความจริงที่เขาบอกกันว่าโลกความจริงมันก็เป็นอย่างนี้แหละ

ไม่อยากเจอไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น

ขออยู่เงียบๆคนเดียวได้ไหม

เหนื่อย

ไม่อยากทำอะไรแล้ว

ท้อท้อที่สุด

คิดถึงแม่กับป๊า

ไม่มีใครมาคอยโอ๋เราเลย

เหมือนเสียงของเรายิ้มไม่เคยมีความหมายตะโกนออกไปแค่ไหนก็ไม่มีใครได้ยิน

ความตายยิ้มเสียงดังกว่าความเจ็บปวดจริงๆ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
อย่าให้เขารู้ว่าคุณแอบอ่านของเค้านะคะ ความเชื่อใจจะหายไปหมดเลย แล้วเขาจะยิ่งหมดที่ระบาย เพราะเขียนส่วนตัวแล้วคุณยังมาแอบอ่านอีก

ต่อจากนี้ ให้เวลาลูกมากขึ้น คุยกันมากขึ้น เล่าเรื่องคุณบ้าง วันนี้เจอไรมา ทำไรมาบ้าง แนวๆ แชร์ความคิดเห็น พอเขาพูดอะไรก็รับฟังอย่างตั้งใจ อย่าพูดขัด อย่าแนะนำแบบยัดเยียดแนวคิด  คุณต้องเป็นที่พึ่งทางใจให้ได้ และอย่าลืมย้อนมองดูตัวเองว่าอะไรที่คุณทำแล้วลูกอึดอัดรึป่าว ลองปรับ ลองจูนดูค่ะ ทำบ้านให้เป็นบ้าน ไม่ใช่แค่ที่อาศัย บ้านที่มีความรักความอบอุ่นรอน้อง บ้านที่คอยปลอบน้องเป็นที่พึ่งพิงยามน้องเจอปัญหาอะไรข้างนอกมา

ปล.ถ้าเหตุการณ์ยังไม่ดีขึ้น ลองศึกษาเรื่องโรคซึมเศร้าดูด้วยนะคะ เผื่อน้องเข้าข่ายจะได้เตรียมรับมือทัน
ความคิดเห็นที่ 13
ถ้าไม่มีความรู้ด้านจิตวิทยา ไม่ควรให้คำแนะนำในเคสนี้

แนะนำให้คุยกับนักจิตวิทยา หรือ จิตแพทย์โดยตรง
มี suicidal ideation ควรได้รับการบำบัดโดยทีมที่เข้าใจวัยรุ่นโดยตรงครับ

เริ่มที่คุณ ที่เป็นคุณพ่อก่อนเลย เริ่มเข้าไปปรึกษาก่อน ว่าด้วยเรื่อง จะพาลูกมาพบทีมดูแลได้อย่างไร

ทำตามที่ทีมให้คำแนะนำครับ
ความคิดเห็นที่ 8
จากใจคนเป็นลูกครับ

ถ้าจะให้พ่อแม่มาซักถามผมว่าเป็นอะไร ผมไม่ค่อยอยากบอกหรอกครับ ปกติผมก็สนิทกับพ่อแม่นะ สนิทเท่าๆกันคุยกันทุกเรื่องอยู่แล้ว แต่ส่วนมากเรื่องส่วนตัวผมไม่อยากบอก อย่างเรื่องแฟน( ทั้งๆที่แม่ผมแกชอบบอกว่าถ้าจะมีแฟนแม่ไม่ว่า เวลามีแฟนอยากให้แม่รู้ด้วยก็ไม่เป็นไร ) เรื่องโดนเพื่อนแกล้ง เรื่องยืมเงินเพื่อนเพราะตัวเองไม่มีเงินใช่แล้วแต่ไม่อยากบอกทางครอบครัวเพราะเคยบอกไปแล้วโดนว่า ถึงแกจะด่าแล้วให้ก็ตาม แต่มันเสียสุขภาพจิตผม ผมเลยเลี่ยงที่จะไม่บอก  ลูกคุณอาจจะเป็นมากกว่าผมนิดหน่อย ถ้าพ่อผมถามว่าเป็นอะไร มีเรื่องอะไรมั้ย เป็นผมผมก็เลี่ยงและบอกว่าไม่มีอะไร ถึงการเรียน การโดนบูลลี่จะเจอมาหนักแค่ใหนผมไม่บอกนะ เพราะผมคิดว่าบอกไปพ่อกับแม่อย่างมากก็แค่บอกให้อดทน แล้วการที่ผมไม่ชอบที่สุดคือตอนเด็กๆผมถูกเพื่อนบูลลี่แล้วผมไปบอกพ่อแม่ ไปเล่าระบายให้แกฟัง ช่วงนั้นพึ่งป.5-6เองมั้ง แล้วพ่อแม่ไปโวยใส่เพื่อนที่แกล้งผม มันทำให้เพื่อนยิ่งชังผมมากขึ้นไปอีก จนเพื่อนบอกเพื่อนทั้งห้องไม่ให้คุยกับผม คิดดูละกันครับ
เด็ก 16 เขาไม่ใช่เด็กแล้วนะครับ สำหรับผม 16 คิดเป็นแล้ว ไม่ควรที่จะคิดว่าเขาเป็นเด็กแล้วให้คำแนะนำแบบเด็กๆ  ปัญหาที่ลูกคุณเจออาจมาจากโรงเรียนซะส่วนใหญ่ ครอบครัวก็ส่วนหนึ่ง

ถ้าคุณพ่อยังไม่มีทางออกก็ลองหลังไมค์มาหาคนเป็นลูกอย่างผมก็ได้ครับ ผมชอบศึกษาคนว่าคนแบบนี้ ความคิดน่าจะเป็นแบบใหน คนที่อายุไล่เลี่ยกันน่าจะเข้าใจครับ ถึงผมอายุจะยังไม่บรรลุนิติภาวะ แต่ผมก็ผ่านเรื่องเจอเรื่องอะไรมามากโขเหมือนกันครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่