สถานการณ์คร่าวๆเป็นงี้นะครับ สมัครตำแหน่ง QA Manager ที่ออฟฟิศใหญ่แถวอโศกมา ปัจจุบันเป็น Senior Testing Analyst อายุงานห้าปีนับจากเรียนจบ

1. สัมภาษณ์รอบแรก กับ  Manager คนปัจจุบัน  คุยกันแต่เรื่องเทคนิคัลสกิล กับผลงานที่เคยทำ ผลคือผ่าน 
2. สัมภาษณ์รอบสอง กับ Senior Manager คุยกันแต่เรื่องทีม การปรับตัว การบริการคน ผลคือผ่านเช่นกัน
3. สัมภาษณ์รอบสาม ได้คุยกับ Director บริษัท  รอบนี้คือชิลล์มากๆครับ ส่วนใหญ่เป็นการถามเพื่อทำความเข้าใจทิศทางของแผนกของทั้งสองฝั่งคือทั้งผู้สัมภาณ์และผู้ถูกสัมภาษณ์ แทบไม่คุยกันเรื่องงานเลย ผลตอบรับคือแฮปปี้มากๆแบบสัมผัสได้ในห้องประชุม แต่เค้าบอกกับผมว่าเดี๊ยวจะมีออฟเฟอร์ไปถ้าคุณถูกเลือกจริงๆ แต่ในขณะนี้เรามีแคนดิดเดตราวๆ4คน ขอให้อดทนรอ ถ้าได้หรือไม่ได้ HRจะโทรไปยืนยันอีกครั้ง

พอคุยกับเขาเสร็จ HR บอกว่าขอให้นั่งรอสักหนึ่งชั่วโมง พอผ่านไปครบชั่วโมงเค้าก็มาพร้อมกับแบบฟอร์มขอตรวจประวัติอาชญากรรม ณ จังหวะนั้นผมยิ้มในใจแล้ว เพราะถ้า HR ขอตรวจประวัติ แปลว่าคงจะได้งานที่นี้แล้ว พอกรอกเสร็จ HR ก็บอกว่าเดี๊ยวจะติดต่อกลับไปนะคะ 

สัมภาษณ์เสร็จบ่าย กลับคอนโดอาบน้ำนอน กะว่าเย็นๆจะออกไปหาอะไรกินในห้าง พอหกโมงเย็นHRคนเดิมโทรมาตอนกำลังนั่งกินข้าวในห้างว่า ใจความประมาณว่าผมได้รับออฟเฟอร์นะครับ หลักๆก็เป็นการอธิบายเบเนฟิตทั้งหลายเช่น ค่าประกันสุขภาพ ปก.ชีวิต ค่าแว่น ค่าฟิตเนส ค่าโทรศัพท์ เงินสวัสดิการสำหรับพัฒนาความรู้ ค่าทำฟัน ค่าแท็กซี่เดินทางไปทำงานไซท์ลูกค้า เป็นต้น 

แต่ตัว Base salary หรือฐานเงินเดือน ถูกลดไป 10,000บาทถ้วน จากที่ขอไว้ 70,000 เหลือ 60,000บาท

ผมก็ถามกลับไปว่า "ไม่ทราบว่าที่ผมขอไปนี่สูงไปเหรอครับ" เพราะเอาจริงๆผมก็ทำการบ้านมาจากคนในองค์กรอีกทีแล้วครับว่าตำแหน่งนี้ในบริษัทนี้ได้กันราวๆที่ผมเขียนในช่อง Expected salary ไว้ แต่ที่เขียนไป 7หมื่นก็เพราะเผื่อไว้ว่าเค้าจะต่อลงมาไม่น่าเกลียดคือสัก 65,0000 จะได้แฮปปี้ทั้งสองฝ่าย

HR บอกมาว่าเหตุผลที่ต่อลงมาก็เพราะฐานเงินเดือนบริษัทในตำแหน่งนี้คือเพดานเท่านี้ค่ะ แล้วก็ไม่อยากให้สูงไปกว่าพนง.ปัจจุบันที่เค้าได้กันอยู่

(ซึ่งผมก็คิดในใจว่า เอ๋..แต่เท่าที่ทราบคือสตาร์ทกันหลัก7 แล้วก็ผมไม่คิดว่าเรื่องเงินเดือนของคนในทีมควรเอามาพิจารณาอย่างสำคัญมากขนาดที่ว่าเอามาใช้กดเงินเดือน offered candidate นะครับ)

แต่ส่วนตัวผมแฮปปี้กับที่เค้าเสนอมาไหม ก็แฮปปี้นะครับ เพราะเลขที่ถูกเสนอมาก็คือได้เพิ่มจากที่เก่าราวๆ 20เปอร์ บวกกับเบเนฟิตอันอื่นที่น่าสนใจกว่า 

ในตอนนั้นกำลังวุ่นๆอยู่ก็เลยเผลอตอบรับไป 

แต่พอกลับมาถึงคอนโด มานั่งคิดอีกทีเริ่มเสียใจละว่าที่ตอบรับไปในเรทที่เค้า offer มา และก็อยากจะกลับไปคุยผ่านโทรศัพท์อีกครั้งว่าผมขอในเรทที่เรียกไป (เผื่อเค้าจะใช้มุขพบกันครึ่งทาง ซึ่งผมก็ยังแฮปปี้กับเลข 65อยู่)

ผมเลยสงสัยว่าในฐานะแคนดิเดทที่ถูกรับเลือก แล้วเผลอตกลงรับออฟเฟอร์ไปแล้วกับHRผ่านโทรศัพท์ ในฐานะแคนดิเดตเรายังสามารถโทรไปหาHRเพื่อต่อรองได้อีกไหมครับ ถ้ามองในมุมผลประโยชน์และมารยาทที่ใช้กันในสังคม 

ขอบคุณครับ