สวัสดีคะ
มาหัดรีวิวครั้งแรก หลังจากที่ผ่านมาได้แต่เขียนแต่ไม่เคยจบสักที
วันนี้จะมาขิรีวิวการขอวีซ่าอเมริกาที่ใครๆก็บอกว่ายากนักอยากหนา
หลังจากที่คุยกันแล้วว่าปีหน้าเราจะไปอเมริกากันก้อหาข้อมูลูลการของีซ่ากันเลยคะ
แนะนำให้เข้าไปศึกษาจากเวบของสถานฑูตอย่างละเอียดก่อนนะคะ https://th.usambassy.gov

การขอวีซ่าไปท่องเที่ยวจะขอเป็นวีซ่าแบบ -วีซ่าชั่วคราว- นะคะ

ขั้นตอนที่ 1: เข้าไปที่เว็บไซต์ www.ustraveldocs.com/th 
ศึกษารายละเอียดเบื้องต้นเกี่ยวกับวิธีการยื่นคำร้องขอวีซ่าและข้อกำหนด
เกี่วกับวีซ่าแต่ละประเภท เลือก ประเภทของวีซ่าชั่วคราว ที่หน้าเว็บเพื่อศึกษาข้อมูลของวีซ่าแต่ละประเภท

ขั้นตอน 2: กรอกแบบคำร้องขอวีซ่าชั่วคราว (DS-160)
กรอกแบบคำร้องขอวีซ่าที่ https://ceac.state.gov/genniv/ และพิมพ์ใบยืนยันแบบฟอร์ม DS-160
(แนะนำให้กรอกทุกอย่างตามจริงนะคะ ง่ายต่อการสัมภาษณ์ที่สุด และก้อเป็นข้อมูลที่ตรงไปตรงมา)

ขั้นตอนที่ 3: สร้างโปรไฟล์ส่วนตัว
สร้างโปรไฟล์ส่วนตัวบนเว็บไซต์ www.ustraveldocs.com/th กรอกข้อมูลประวัติส่วนตัวให้ครบถ้วน 
จากนั้นเลือกประเภทและที่อยู่ในการจัดส่งเล่มหนังสือเดินทางคืน
(จะต้องมี e mail ของ Gmail หรือ google ด้วยนะคะ ขอเราตอรแรกมี Hotmail ก้อพยายามเข้า แต่ไม่ผ่าน)

ขั้นตอนที่ 4: ชำระค่าธรรมเนียมการยื่นคำร้องขอวีซ่า/การสมัครวีซ่า
ชำระค่าธรรมเนียมการยื่นคำร้องขอวีซ่าซึ่งขอคืนเงินไม่ได้ (ในสกุลเงินท้องถิ่น) โดยการโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ (EFT) 
หรือ ชำระเป็นเงินสดได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา โดยผู้สมัครต้องพิมพ์ใบชำระค่าธรรมเนียม CGI 
เพื่อนำไปชำระค่าธรรมเนียมที่ธนาคาร

ขั้นตอนที่ 5: ทำนัดสัมภาษณ์
เมื่อชำระค่าธรรมเนียมเรียบร้อย ผู้สมัครจะสามารถนัดวันสัมภาษณ์ได้หลัง 12.00 น. ของวันทำการถัดไป 
(ในกรณีที่ชำระด้วยเงินสด) หรือหลัง 14.00 น. ของอีก 2 วันทำการถัดไป (หากชำระโดยการโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์)

ขั้นตอนที่ 6: เดินทางมาสัมภาษณ์วีซ่าที่สถานทูตฯ
ผู้สมัครจะต้องนำใบยืนยันแบบฟอร์ม DS-160 ใบยืนยันการนัดหมาย หนังสือเดินทาง (ทั้งเล่มเก่าและปัจจุบัน) รูปถ่ายสี ขนาด2×2 พื้นหลังสีขาวที่ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน และเอกสารที่เกี่ยวข้องมาด้วย(รูปถ่าที่ตรงกับ  DS-160 นะคะ)

ซึ่งการรีวิวครั้งนี้จะขอรีวิวตอนเดินทางไปสัมภาษณ์เลยนะคะ เนื่องจากขั้นตอนอื่นๆมีคนรีวิวไว้เยอะและละเอียดมากแล้ว(เราก้อไปดแอบดูการสมัคร
ที่ของท่านอื่นมาเหมือนกันคะ

………………………………………
เรานัดวันไปสัมภาษณ์เป็นช่วงเช้า 08.10 am ของวันที่ 11 October 2019 คือเช้ามาก และเลือกสัมภาษณ์เป็นครอบครัว 
มีเรา สามี และลูก ขวบครึ่ง (กงสุลใจดีมาก เล่นกับลูกทุกช่องเลย) จิงๆรึว่าผ่านเพราะมีเด็กไปด้วย
ด้วยบ้านอยู่ไกลจากสถานฑูตหน่อยเลยออกจากบ้านตั้งแต่เช้าไปจอดรถที่อาคารสินธร ด้วยหนีรถติดวันศุกร์ ฝนตกด้วยแระคะ ถึงที่จอดรถ 6.00 am 
เอาไงดีลูกก้อยังไม่ตื่น เลยให้สามีไปสำรวจสิว่ามีห้องน้ำหรือป่าว เดินกลับพร้อมบอกว่ามี ห้องน้ำ ห้องพักและมีร้านกาแฟเยอะแยะเลย
พาลูกไปล้างหน้า แปลงฟันมเปลี่ยนชุดและนั่งเล่นที่ห้องพักแป๊บ ฝนซาลงมาก้อเลยชวนกันไปนั่งร้านสตาบัคแสตมป์บัตรจอดรถได้ฟรีอีก 2 ช่วโมงด้วย
นั่งเล่นไปเรื่อยๆจน 7.30 am มองไปฝั่งตรงข้ามเริ่มเห็นคนต่อคิวเข้าสถานฑูตเยอะแล้วเลยช่วยกันไปต่อคิว และตอนนั้นฝนก็เริ่มหยุดตรงละคะ(ลืมบอกว่าร้านสตาบัคอยู่ฝั่งตรงเยื่องๆทางเข้าสถาฑูตเลยมคือดีดี๊ )

จากนั้นก้อพากันมาต่อคิวซึ่งเอกสารก็เตรียมไว้ครบหมดแล้ว
แป๊บเดียวเองคะ ก้อมีน้องเจ้าหน้าที่ตรวจเอกสาร ให้บัตร สำหรับฝากของซึ่งฝากโทสับได้1เครื่องต่อคน ถ้ามีโทสับมากกว่า1เครื่อง พาวเวอร์แบงค์ และอื่นๆ บราๆๆๆๆ เค้าจะไล่ไปฝากที่อื่น แนะนำถ้ามีนอกเหนือจากโทสับและเป๋าตังค์ ไม่ต้องเอาไปนะคะ เสียเวลามาต่อใหม่อีก
ฝากของเสร็จ ตรวจร่างกาย ก้อจะให้เดินเข้าไปข้างใน ซึ่งเราไม่ได้เอาอะไรไปเลยนอกจากเอกสาร
ก่อนเข้าไปสัมพาดจะมีเคาเตอร์ ติด track ไปรษณีย์ ไว้ให้ก่อนที่หน้าเล่ม กรณีสัมภาษณ์ทางสถาฑูตจะส่งเอกสารกลับมาที่บ้าน
ซึ่งตรงขั้นตอนนี้เหมือนเค้าจะเรียกที่ละ 10 คิวเพื่อส่งคนเข้าห้องไปสัมภาษณ์ด้วยคะ ตรงนี้เรารอนานนิดหน่อยประมาณ 45 นาทีได้ก่อนจะได้เรียกไปรับ track และเข้าไปยืมต่อคิวในห้องสัมภาษณ์ เนื่องจากมาเร็วด้วยแระคะ แต่ก็ไม่ถือว่าช้าอะไรมาก

พอเข้าไปในห้องสัมภาษณ์ OMG คิวในนั้นก้อยาวเลยทีเดียว แต่ก้อต้องไปเข้าคิวต่อแถวอีกไปเรื่อยๆ
ประมาณ30นาที ถึงคิวเรียกตรวจเอกสาร ตรงนี้จะเป็นเจ้าหน้าที่คนไทย ก็จะถามเยอะหน่อย แต่ไม่ได้ยากอะไร
และ ทำ fingers scan และเดินไปอีก1ช่องเพื่อยืนยันลายนิวมือก้อจะทำ finger scan เหมือนกันคะ

และก้อทีนี้มาถึงจุดสำคัญคือมาต่อคิวเพื่อสัมภาษณ์ ต่ออีกพักใหญ่เลย แต่ก้อแอบสงสาร หลายๆคนก้อไม่ผ่านเราก้อแอบใจเหี่ยวละนะ
คือไม่อยากสวดมนต์ว่าไม่อยากได้ช่องไหนเพราะช่องที่ไม่ได้อยากจะได้ทันที55555 พอถึงคิวเราแล้ว