[By Travelling As A Couple] : สัมภาษณ์ US Visa &สมัครผ่านไปรษณีย์


ต่อจากกระทู้ที่แล้ว [By Travelling As A Couple] : มากรอก Visa US กัน https://ppantip.com/topic/39489597 และ [By Travelling As A Couple] : ขั้นตอนการจ่ายเงิน US Visa https://ppantip.com/topic/39489695

หลังจากชำระเงินเรียบร้อย ก็มาถึงขั้นตอนการนัดสัมภาษณ์กับทางสถานฑูตอเมริกา ส่วนเด็กที่อายุต่ำกว่า 14 ปี หรือว่าผู้ใหญ่ที่อายุมากกว่า 80 ปี แต่ต้องเข้าเงื่อนไขที่สถานฑูตกำหนด ก็มีอีกวิธีนึง คือสามารถยื่นขอวีซ่าทางไปรษณีย์

นัดสัมภาษณ์กับทางสถานฑูตอเมริกา
ก่อนจะนัดสัมภาษณ์วีซ่าแนะนำว่าให้วางแผนดีๆ เรามีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงวันเวลาการไปสัมภาษณ์ได้ทั้งหมด 3 ครั้ง โดยที่ไม่ต้องชำระเงินใหม่ ถ้าเกินกว่านั้นจ่ายตังค์ใหม่จ้า

เอกสารที่ใช้สำหรับนัดสัมภาษณ์ (อันนี้ตามเวปของสถานฑูต)
-  หนังสือเดินทางที่มีอายุการใช้งานคงเหลืออย่างน้อย 6 เดือน
-  ใบเสร็จรับเงินค่าธรรมเนียมในการยื่นวีซ่า ใครไปจ่ายที่ธนาคารก็ Pay in Slip ที่จ่ายนั้นแหละ
-  หน้ายืนยันแบบฟอร์ม DS-160


ใบยืนยันนัดสัมภาษณ์


รูปถ่ายสำหรับทำวีซ่า 2×2 นิ้ว 1 ใบ พื้นหลังสีขาว

เอกสารเพิ่มเติมสำหรับคนที่ขอวีซ่าท่องเที่ยว B1/B2

หลักฐานทางการเงินสำหรับการเดินทาง เช่น Bank statement ย้อนหลัง 6 เดือน หรือไม่ก็ Bank Guarantee
แผนการเดินทางระหว่างที่จะไปเที่ยวอเมริกา ต้องเตรียมตัวอธิบายได้ถ้าเค้าถามหรือสัมภาษณ์

วันสัมภาษณ์

ไปก่อนเวลานัดประมาณ 15 นาที แนะนำว่าให้ใช้บริการรถสาธารณะสะดวกที่สุด นั่งรถใต้ดินลงสถานีลุมพินี แล้วเดินมา เพราะว่าแถวนั้นไม่ค่อยมีที่จอดรถ
ไม่ควรพกกระเป๋าใบใหญ่ไป เพราะที่สถานฑูตให้เอาเข้าแค่กระเป๋าเอกสารที่จำเป็นสำหรับการขอวีซ่าเท่านั้น โทรศัพท์ก็ต้องฝากไว้ด้านหน้า
พอไปถึงด้านหน้าสถานฑูต จะมีพนักงานของสถานฑูตมาตรวจเอกสารเบื้องต้นของเราก่อน หลังจากนั้นจะผ่านการตรวจด้านความปลอดภัย สแกนกระเป๋า รวมถึงฝากโทรศัพท์มือถือเอาไว้ด้านหน้า เข้าไปด้านในแล้วจะมีการเรียกตรวจเอกสารอีกรอบ แต่จะเรียกเป็นรอบๆ ตามเวลาที่นัดไว้ หลังจากนั้นจะเรียกเข้าไปด้านในเพื่อเตรียมรอสัมภาษณ์และสแกนนิ้ว

เข้ามาด้านในอาคารจะเริ่มจากขั้นตอนการสแกนนิ้วก่อน มีสัมภาษณ์เล็กน้อย ของเราถามเกี่ยวกับรูปถ่าย ว่าเราถ่ายไว้นานแค่ไหน เกิน 6 เดือนไหม
วันที่เราไป ช่องที่สัมภาษณ์เปิด 3 ช่อง มีคนต่างชาติ 2 ช่อง ไทย 1 ช่อง มีความยากง่ายในการสัมภาษณ์ไม่เหมือนกัน บางช่องสัมภาษณ์นานมากกกก มากจนแบบว่า อย่าให้เราได้เข้าช่องนี้เลย

มีคนนึงเค้ามาขอวีซ่า ได้ยินว่าไป Business trip ไปทำงาน เจ้าหน้าที่เค้าถามว่าทำงานบริษัทอะไร แล้วไป business trip นี่ประชุมเรื่องอะไร แล้วบริษัททำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร ไปนานกี่วัน หลังจากนั้นไปไหนต่อ แล้วพักที่ไหน ……. ยาวมาก คนนี้ใช้เวลาสัมภาษณ์ประมาณ 20 นาที

อีกคนนึง สัมภาษณ์วีซ่าท่องเที่ยวพนักงานถาม แต่อาจจะตอบแบบตะกุกตะกัก เค้าถามเกี่ยวกับการเดินทางก็ตอบไม่ค่อยได้ สัมภาษณ์นานอยู่เหมือนกัน สุดท้ายเจ้าหน้าที่คืนหนังสือเดินทางเลย แปลว่าไม่ผ่าน

พอมาถึงตาเรา แจ๊คพอตจ้า ได้ช่องต่างชาติ ที่ค่อนข้างถามเยอะ แต่พอเจอจริงๆ ก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด คำถามที่เค้าถามคือ
-  ไปอเมริการทำอะไร : เราก็บอกว่าไป Business trip ไปประชุมก่อน แล้วแฟนก็ตามไปเที่ยวกันต่อที่ San Francisco
-  ทำงานบริษัทอะไร แล้วแฟนทำงานบริษัทอะไร : ก็ตอบไปตามความจริง เราทำงานบริษัทอเมริกัน เค้าก็บอกโอเคๆ
-  ไปกี่วัน : เราไป 20 วันรวม Business trip กับท่องเที่ยว ส่วนแฟนไป 10 วัน
-  เดินทางเมื่อไหร่

ถามแค่นี้ก็ขอหนังสือเดือนทางไปเลย ไม่ขอเอกสารอะไรเพิ่มเติม รวมระยะเวลาในการสัมภาษณ์ของเราไม่เกิน 5 นาทีก็เสร็จ สรุปรวมตั้งแต่เข้าสถานฑูตมาจนถึงเสร็จไม่เกิน 45 นาที

สัมภาษณ์วันพฤหัสเช้า วันศุกร์เย็นหนังสือเดินทางส่งถึงบ้านเลยจ้า เร็วถึงเร็วมากที่สุด เร็วจนตกใจเลย ว่าอ้าว ได้แล้วเหรอ

จบไปสำหรับการขอวีซ่าผ่านการสัมภาษณ์กับทางสถานฑูต หลังจากนั้นเราก็คิดว่าเอ๊ะ เราควรขอวีซ่าไว้ให้ลูกไว้เลยดีกว่า เพราะว่าเผื่ออนาคตจะไปเที่ยวอเมริกาจะได้แค่จองตั๋วเครื่องบิน แล้วไปเลย สะดวกดี แล้วบังเอิญไปอ่านเจอ การขอวีซ่าทางไปรษณีย์สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปี และผู้สูงอายุที่อายุมากกว่า 80 ปี

คุณสมบัติสำหรับคนที่สามารถยื่นวีซ่าทางไปรษณีย์ได้

คุณสมบัติข้อแรกเลย คือ ผู้สมัครที่มีอายุ 80 ปีขึ้นไป หรือ เด็กที่อายุต่ำกว่า 14 ปี

ต้องตอบคำถามด้านล่างว่า ใช่ ” Yes” ทั้งหมดนี้ถึงจะยื่นขอวีซ่าทางไปรษณีย์ได้
-  วีซ่าที่ที่สมัครต้องเป็นวีซ่าธุรกิจ วีซ่าท่องเที่ยว (ฺB1/B2)
-  มีสัญชาติไทย หรือว่าอาศัยในประเทศไทย
-  อยู่ในประเทศไทยขณะที่สมัคร
-  ไม่ได้เกิด หรือถือหนังสือเดินทางของประเทศคิวบา เกาหลีเหนือ ซีเรีย ซูดาน หรือ อิรัก
-  ตอบ “ไม่” (No) ในส่วนของคำถามเกี่ยวกับความปลอดภัยและประวัติ (Security and Background) ในแบบฟอร์ม DS-160 ทุกข้อ
-  ไม่เคยถูกปฏิเสธการเดินทางเข้าอเมริกา
-  ไม่เคยถูกปฏิเสธวีซ่าอเมริกา ภายใน 5 ปี
-  เคยถูกปฏิเสธวีซ่าอเมริกา แต่ภายหลังได้รับการอนุมัติวีซ่า และเป็นวีซ่าชนิดเดียวกับ กับที่กำลังยื่นต่ออายุ

คุณสมบัติเพิ่มเติมสำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่า 14 ปี
-  พ่อหรือแม่ของเด็ก หรือว่าผู้ปกครองตามกฎหมายอย่างน้อย 1 คน จะต้องมีวีซ่าเข้าประเทศอเมริกา ประเภท ธุรกิจ วีซ่าท่องเที่ยว (ฺB1/B2) ที่ใช้งานได้อยู่แล้ว
-  ทั้งพ่อและแม่ของเด็ก และผู้ปกครองตามกฎหมายจะต้องไม่ได้เป็นผู้พำนักถาวรในอเมริกา พูดง่ายๆ คือ ไม่ได้ถือ กรีนการ์ด

ถ้าตอบ ใช่ “Yes” ตามข้อด้านบนทั้งหมด ก็สามารถที่จะยื่นขอวีซ่าผ่านทางไปรษณีย์ได้

วิธีการในการสมัครวีซ่าสามารถทำได้เหมือนการสมัครแบบสัมภาษณ์ทุกอย่าง จนถึงขั้นตอนการจ่ายเงิน หลังจากจ่ายเงินเสร็จแล้ว แทนที่จะนัดสัมภาษณ์ เราก็ Log in เข้าไปเหมือนกัน แต่ให้เลือก “การยื่นขอวีซ่าทางไปรษณีย์สำหรับเด็กและผู้สูงอายุ” ที่บนเมนูด้านซ้ายมือ ระบบจะเริ่มต้นการยื่นการวีซ่าทางไปรษณีย์ และกำหนดวันยื่นเอกาสารให้

สิ่งที่เราจะต้องกรอก คือ
-  หมายเลขหนังสือเดินทาง
-  หมายเลขใบเสร็จรับชำระค่าธรรมเนียมวีซ่า
-  หมายเลขบาร์โค้ด 10 หลักที่ระบุไว้บนหน้ายืนยันแบบฟอร์ม DS-160

เอกสารที่ต้องใช้แนบในการยื่นขอวีซ่าทางไปรษณีย์

-  หนังสือเดินทาง : ที่ต้องมีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้าเพื่อติดหน้าวีซ่า และหนังสือเดินทางต้องมีอายุอย่างน้อย 6 เดือน
-  แบบฟอร์ม DS-160 ที่มีแถบบาร์โค้ด ซึ่งกรอกข้อมูลครบถ้วนและได้ทำการกดยืนยันออนไลน์แล้ว
-  รูปถ่ายสี 2 รูป ขนาด 2×2 นิ้ว พื้นหลังสีขาว ไม่สวมแว่นตา ไม่ใส่คอนแทคเลนส์สี และรูปถ่ายอายุไม่เกิน 6 เดือน
-  ใบยืนยันการขอวีซ่าทางไปรษณีย์ ที่มีหมายเลข UID และQR โค้ด (The Interview Waiver Confirmation Letter with UID and QR code)
-  หลักฐานยืนยันการชำระค่าธรรมเนียมในการยื่นคำร้องขอวีซ่า

เพิ่มเติมสำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 14 ปี
-  สำเนาใบสูติบัตร
-  สำเนาวีซ่า วีซ่า B1/B2 (ท่องเที่ยว) ของพ่อหรือแม่ ที่ยังไม่หมดอายุในขณะที่ทำการยื่นขอวีซ่ามาด้วย

เตรียมเอกสารแล้วขั้นตอนสุดท้ายในการยื่นขอวีซ่าทางไปรษณีย์ สามารถเช็ค สำนักงานไปรษณีย์ไทย ได้ตาม Link นี้  https://www.ustraveldocs.com/th_th/th-loc-documentdropoff.asp

ของเราไปที่ไปรษณีย์อ่อนนุช ไม่ต้องซื้อซอง เดินไปถามเจ้าหน้าที่ที่ไปรษณีย์ได้เลย เค้าจะมีซองเตรียมไว้ให้ พร้อมทั้งกระดาษที่จ่าหน้าซองถึงสถานฑูตได้เลย ไม่ต้องเสียค่าส่ง

ในเวปจะบอกว่าจะใช้เวลาในการขอวีซ่าทางไปรษณีย์ประมาณ 10 วัน แต่ของเราใช้เวลาจริงๆ ประมาณ 4 วันก็ได้มาแล้ว

ในเอกสารการยื่นไปรษณีย์เค้าจะบอกเลย ว่า ไม่ต้องยื่นเอกสารเกิน เค้าบอกว่าให้ยื่นเอกสารเท่าไหร่ให้ยื่นเท่านั้น เพราะฉะนั้นไม่ต้องเผื่อไปจ้า เอาที่เค้าขอพอ

จบแล้วสำหรับขั้นตอนการขอวีซ่าอเมริกา เราว่าการขอวีซ่าอเมริกาไม่ได้ยากอย่างที่คิด สามารถทำเองได้สบายๆ เตรียมตัวไปให้พร้อม ด่านที่สำคัญจริงๆ สำหรับวีซ่าอเมริกาเราว่าคือการสัมภาษณ์ ถ้าเราตอบตามความตามความเป็นจริง เตรียมตัวเรื่องแผนการเดินทางไปให้พร้อมว่าเราจะไปไหน ยังไงบ้าง แค่นี้ก็สามารถได้วีซ่าไม่ยากเลย

ที่นี่ดีอย่าง ถ้าเค้าเก็บหนังสือเดินทางไว้ โอกาสที่ได้คือ 99% เลย แต่ถ้าไม่ได้เค้าจะคืนหนังสือเดินทางวันที่ไปสัมภาษณ์เลย ไม่ต้องลุ้นให้วุ่นวาย วีซ่าที่ได้ก็ 10 ปี ถือว่านานมาก ถ้าหารค่าวีซ่าออกมาก็ตกปีละ 500 กว่าบาทเอง

สามารถติดตามพูดคุยกับเราได้ทางช่องทางต่างๆ ดังนี้
Facebook : https://www.facebook.com/TravellingAsACouple
Website :  https://travelling-as-a-couple.com/
Instagram : Travelling As A Couple

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่