คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
อายุ 42 ตอนนี้ท้องได้ 23 สัปดาห์ อยู่เมกา เราท้องด้วยวิธี ICSI ตอนประมาณ 12 สัปดาห์ หมอให้ตรวจโครโมโซม โดยการเจาะเลือด NIPF ผลออกมาเป็น Negative ทั้งหมดความเสี่ยงต่ำ ผลเชื่อได้ 99% ตัวเองลองตรวจดูไหมวิธีนี้? ถ้าความเสี่ยงสูงค่อยเจาะน้ำคร่ำ เคยมีคนเจอเสี่ยงสูง 1:3 แล้วเจาะน้ำคร่ำ เด็กก้อไม่ได้เป็นดาวน์ ปรกติดีค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 26
ผล NIPT เราก็บอกว่า Trisomy-21 เช่นกันค่ะ
แต่ผลอัลตราซาวน์ปกติมาก ตอนขอหมอตรวจเลือด หมอยังบอกเลยว่า ตรวจไปเถอะ ปกติ!
แต่ผลออกมาพบว่าลูกเสี่ยงเป็นดาวน์
ตอนเจาะน้ำคร่ำ 16week หมอต้องซาวน์ไปด้วยตอนเจาะ
ทุกอย่างก็ยังปกติ คอไม่หนา จมูกโด่ง
แข็งแรง โตตามเกณฑ์
ยังหวังว่าเราตะเป็นส่วนน้อยๆ ที่ Fault positive
(ผลตรวจว่าเป็น แต่เด็กปกติ)
สุดท้ายผลน้ำคร่ำ ยืนยันตาม NIPT ค่ะ
หมอแนะนำว่า เหมือนเราเจ็บป่วยก็รักษา
อย่าคิดอะไรมาก แต่ละคน แต่ละครอบครัว ไม่เหมือนกัน
ดูความพร้อมของเรา ครอบครัวเรา
เราอยู่กับเค้าตลอดไม่ได้ เราอายุเยอะ เรามีโอกาสสูงที่จะตายก่อนเค้า
แล้วช่วงที่เหลืออยู่ของเค้าล่ะ เราไม่อยากทิ้งภาระให้ใคร
และคงไม่มีใครดูแลลูกเราได้ดีเท่าเราคนที่เป็นแม่ค่ะ
อีกอย่างลูกเราเป็นผู้หญิง มันจะค่อนข้างอันตรายกับเค้าสำหรับสังคมปัจจุบัน
แต่คุณอยู่อเมริกา การดูแล สวัสดิการรัฐ ความพร้อม การยอมรับคนพิการ ดีกว่าไทยมาก ก็ค่อยๆคิดนะคะ
อีกอย่างที่ต้องพิจารณา ลูกที่เกิดมาพร้อมภาวะดาวน์ซินโดรม นอกเหนือจากความบกพร่องทางสมอง จะมีทางร่างกายด้วยนะคะ รุนแรงมากน้อยแตกต่างกัน คาดเดาไม่ได้เลยค่ะ
คิดดีๆ ตัดสินใจดีๆ พื้นฐานให้นึกถึงลูกมากๆ
ขอให้คุณแม่กล้าหาญนะคะ ไม่ว่าจะตัดสินใจแบบไหน
ปล เจาะน้ำคร่ำไม่เจ็บนะคะ ไม่ต้องกังวล ตอนนี้แนะนำว่าค่อยๆคิดให้ถี่ถ้วน ทำใจไว้เผื่อซักหน่อย อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดค่ะ ตัดสินใจอย่างเข้มแข็งเพื่อลูกนะคะ
มีอะไรคุยได้เสมอค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่า
แต่ผลอัลตราซาวน์ปกติมาก ตอนขอหมอตรวจเลือด หมอยังบอกเลยว่า ตรวจไปเถอะ ปกติ!
แต่ผลออกมาพบว่าลูกเสี่ยงเป็นดาวน์
ตอนเจาะน้ำคร่ำ 16week หมอต้องซาวน์ไปด้วยตอนเจาะ
ทุกอย่างก็ยังปกติ คอไม่หนา จมูกโด่ง
แข็งแรง โตตามเกณฑ์
ยังหวังว่าเราตะเป็นส่วนน้อยๆ ที่ Fault positive
(ผลตรวจว่าเป็น แต่เด็กปกติ)
สุดท้ายผลน้ำคร่ำ ยืนยันตาม NIPT ค่ะ
หมอแนะนำว่า เหมือนเราเจ็บป่วยก็รักษา
อย่าคิดอะไรมาก แต่ละคน แต่ละครอบครัว ไม่เหมือนกัน
ดูความพร้อมของเรา ครอบครัวเรา
เราอยู่กับเค้าตลอดไม่ได้ เราอายุเยอะ เรามีโอกาสสูงที่จะตายก่อนเค้า
แล้วช่วงที่เหลืออยู่ของเค้าล่ะ เราไม่อยากทิ้งภาระให้ใคร
และคงไม่มีใครดูแลลูกเราได้ดีเท่าเราคนที่เป็นแม่ค่ะ
อีกอย่างลูกเราเป็นผู้หญิง มันจะค่อนข้างอันตรายกับเค้าสำหรับสังคมปัจจุบัน
แต่คุณอยู่อเมริกา การดูแล สวัสดิการรัฐ ความพร้อม การยอมรับคนพิการ ดีกว่าไทยมาก ก็ค่อยๆคิดนะคะ
อีกอย่างที่ต้องพิจารณา ลูกที่เกิดมาพร้อมภาวะดาวน์ซินโดรม นอกเหนือจากความบกพร่องทางสมอง จะมีทางร่างกายด้วยนะคะ รุนแรงมากน้อยแตกต่างกัน คาดเดาไม่ได้เลยค่ะ
คิดดีๆ ตัดสินใจดีๆ พื้นฐานให้นึกถึงลูกมากๆ
ขอให้คุณแม่กล้าหาญนะคะ ไม่ว่าจะตัดสินใจแบบไหน
ปล เจาะน้ำคร่ำไม่เจ็บนะคะ ไม่ต้องกังวล ตอนนี้แนะนำว่าค่อยๆคิดให้ถี่ถ้วน ทำใจไว้เผื่อซักหน่อย อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดค่ะ ตัดสินใจอย่างเข้มแข็งเพื่อลูกนะคะ
มีอะไรคุยได้เสมอค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่า
ความคิดเห็นที่ 39
1 เลิกเอาคำพูดของคน pantip ไปคิดมากกว่าคำแนะนำจากหมอ ฟังไปอานไปคิดมากกว่าเดิม
2 รอผลตรวจน้ำคร่ำ แค่นั้น อย่าฟุ้งซ่าน
3 รูป อัลตราซาว มันถ่ายมางั้นๆ เวลาดูจริงๆ มันต้องหมอคนทำดู การเลื่อนโพรบ ไปตำแหน่งต่างๆ มันมีอะไรมากกว่าภาพนิ่ง 1 ภาพ
4 นอน รอวันผลน้ำคร่ำมาถึง
ไม่ต้องคิดอะไรมาก
เป็น ก็เอาออก
ไม่เป็นก็ ฉลองงงง
มีอยู่ 2 คำตอบ
หรือ 3 รักมากอยากเลี้ยง ก็เตรียมตัวรับภาระหนัก ลาออกจากงาน ทนดูลูกทรมานทุกวัน ทนที่ตัวเองก็ต้องทรมาน ญาติครอบครับก็ลำบากไปด้วย
เอาออกได้ตอนที่ เอาออกได้ ดีกว่าเค้าโตมากแล้ว จนมีชีวิตเองได้แล้ว หมอเค้าก็ไม่เอาออกให้เด้อ
2 รอผลตรวจน้ำคร่ำ แค่นั้น อย่าฟุ้งซ่าน
3 รูป อัลตราซาว มันถ่ายมางั้นๆ เวลาดูจริงๆ มันต้องหมอคนทำดู การเลื่อนโพรบ ไปตำแหน่งต่างๆ มันมีอะไรมากกว่าภาพนิ่ง 1 ภาพ
4 นอน รอวันผลน้ำคร่ำมาถึง
ไม่ต้องคิดอะไรมาก
เป็น ก็เอาออก
ไม่เป็นก็ ฉลองงงง
มีอยู่ 2 คำตอบ
หรือ 3 รักมากอยากเลี้ยง ก็เตรียมตัวรับภาระหนัก ลาออกจากงาน ทนดูลูกทรมานทุกวัน ทนที่ตัวเองก็ต้องทรมาน ญาติครอบครับก็ลำบากไปด้วย
เอาออกได้ตอนที่ เอาออกได้ ดีกว่าเค้าโตมากแล้ว จนมีชีวิตเองได้แล้ว หมอเค้าก็ไม่เอาออกให้เด้อ
แสดงความคิดเห็น
ผลตรวจเลือด ออกมาว่าลูกในท้องมีโอกาสเป็น down's syndrome 85-90%
ตั้งครรภ์ครั้งแรก อายุ 25-26 ได้ลูกสาวปกติดีทุกอย่างตอนนี้อายุ 15 แล้วคะ แล้วเราแต่งงานใหม่ และอาศัยอยู่ที่อเมริกา มีเรื่องกลุ้มใจเพราะหลังแต่งงานสามีอยากมีลูก แต่เราอายุมากแล้วก็เลยไปหาหมอเพื่อเตรียมความพร้อม และเรามีโรคประจำตัวคือเบาหวาน ตอนก่อนตั้งครรภ์ได้ปรึกษาหมอเฉพาะทางต่อมไร้ท่อ และ หมอสูติ เพื่อให้แน่ใจว่าควบคุมระดับน้ำตาลได้และปลอดภัย เมื่อแน่ใจคุมระดับน้ำตาล A1C ออกมาได้ 6.1 ก็ปลอดภัย
จึงเริ่มปฎิบัติ
การตั้งท้องครั้งที่ 1 ประมาณเดือนมกราคม 2019 จึงนัดฝากครรภ์ปกติ ตอน Ultrasound 9 week หมอพบว่า ไม่มีการเต้นของหัวใจเด็ก และเด็กมีการเจริญเติบโตหยุดที่ 6 week 2 day ประกอบกับมีเลือดออกซึมๆทุกวัน หมอจึงสั่งตรวจเลือดให้แน่ใจว่าเด็กเสียแล้วจึงสอบถามว่าจะเลือกทำ D&C คือการขูดมดลูก หรือ ทานยาขับออกมาเราเลือกทานยา และหมอบอกว่า เมื่อ ประจำเดือนมาก็ให้เริ่มใหม่ได้เลยไม่ต้องรอเพราะยิ่งรอนานยิ่งมีความเสี่ยงสูงขึ้น สรุป แท้งตอนเดือนกุมภาพันธ์คะ
การตั้งครรภ์ครั้งที่ 2 ประมาณ เดือน เมษายน 2019 ทำทุกอย่างเหมือนเดิม แต่คราวนี้เราไม่เดิน ไม่ทำไรเลยกลัวว่าจะเป็น เหมือนครั้งที่ผ่านมา และรอบนี้ไม่มีเลือดออกแต่อย่างใด เราก็ไปหาหมอตามปกติ และ Ultrasound ผลออกมาเหมือนเดิม อายุครรภ์ 9 สัปดาห์แต่เด็กหยุดเจริญเติบโตที่ 6 สัปดาห์3 วัน เหมือนเดิม แล้วไม่พบการเต้นของหัวใจ รอบนี้เลือกทานยาเหมือนเดิม แต่ตกเลือดมาก จนต้องรีบไปโรงพยาบาลและหมอต้องทำการขูดมดลูก หมอพูดเหมือนเดิมให้พัก พอประจำเดือนมา และถึงวันไข่ตกก็ให้ปฏิบัติการต่อได้ แต่ถ้าท้องรอบถัดไป หมอจะให้ ฮอร์โมน progesterone เนื่องจากผลตรวจออกมาว่า ทั้งสองการตั้งครรภ์ ร่างกายของเราไม่ทำการผลิตฮอร์โมนดังกล่าว
การตั้งครรภ์ครั้งที่ 3 ประมาณเดือนกรกฎาคม 2019 รอบนี้ฝากครรภ์แต่เนิ่นๆ และตามสัญญาหมอได้ให้ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน สอดช่องคลอด รอบนี้ราบรื่นดีทุกอย่าง ultrasoundครั้งแรก ยังไม่เห็นหัวใจเต้น แต่ตอนนั้น 6 สัปดาห์ หมอบอกว่ายังเล็กเกินไปให้มาใหม่ตอน 8 สัปดาห์ เราก็วนกระวายมากนอนไม่หลับ เพราะกลัวว่าจะเป็นรอบที่ 3 ที่จะต้องเสียลูก แต่พอกลับไปตอน 8 สัปดาห์ อัลตร้าซาวด์ พบการเต้นของหัวใจ แรงมาก 172 ต่อนาที ดีใจจนน้ำตาไหล พัฒนาการลูกปกติทุกอย่าง รวมทั้งตรวจฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนและ hcg ถ้าฮอร์โมนออกมาดีมากการตั้งครรภ์ครั้งแรก ฮอร์โมน hcg มีแค่ 25,xxx IU ตั้งครรภ์ครั้งที่ 2 hcg มีแค่ 96,xxx IU แต่รอบที่ 3 นี้ ปาเข้าไป 225,xxx IU จนล่าสุด เราได้ ไปหาหมอ แผนก การตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงสูง เพราะเราอายุมาก และมีเบาหวานร่วมด้วย หมอจึงสั่งเจาะเลือด เอา 8 หลอด เพื่อตรวจคัดกรองพันธุกรรม ที่นี่เรียก Cell free DNA และเนื่องจากสามารถตรวจเพศได้ เราจึงตรวจไปด้วยเลย 1 อาทิตย์ถัดมา ทางแลป ได้โทรมาเพื่อแจ้งผล เราล้มทั้งยืน เมื่อแจ้งผลมาว่า ลูกมีโอกาส เป็นดาวน์ซินโดรม ได้ 85 ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ แต่เนื่องจาก การที่เราเคยแท้งมาก่อน 2 รอบ อาจจะทำให้รหัสพันธุกรรมที่ยังปนอยู่ในกระแสเลือด ทำให้การตรวจเลือด มีความผิดพลาดได้ หรือ การตั้งครรภ์ครั้งนี้เป็นการตั้งครรภ์แฝด แต่ 1 คนได้เสียไปตั้งแต่ยังไม่เป็นตัวหรือฝ่อไป นี่คือ 2 ข้อสันนิษฐาน ที่หมอได้บอกเราไว้ แต่เพื่อความแน่ใจจะมีการตรวจน้ำคร่ำ หรือ Amnio Test ตอนอายุครรภ์ 16 สัปดาห์ คือวันที่ 23 ตุลาคม 2019 คำถามของหมอ ถามตั้งแต่วันที่โทรมาแจ้งผลเลยว่า ถ้าผลออกมาเป็น ดาวน์ซินโดรม คุณจะทำอย่างไรจะเก็บไว้ หรือยุติการตั้งครรภ์ เราได้แต่ร้องไห้ เพราะการอัลตร้าซาวด์ครั้งล่าสุด ปกติดีทุกอย่าง ลูกมีดั้งจมูก โด่งมาก หัวกระโหลกมาก กระดูกต้นคอ ก็ไม่ปูดออกมา แขนขาก็มีความยาวปกติดี หลังอัลตราซาวด์หมอเขียนรายงานว่าเด็กปกติดีทุกอย่างจากผลอัลตร้าซาวด์ที่ออกมาไม่แสดงให้เห็นถึงภาวะเด็กเป็นดาวน์ซินโดรมแต่อย่างใด ซึ่งต่างจาก ผลของเด็กที่เป็น
ดาวน์ซินโดรมอย่างมาก มันขัดแย้งทุกอย่าง โดยปกติถ้าเด็กเป็นดาวน์ซินโดรมจะไม่มีดั้งจมูก กระดูกต้นคอจะยื่นออกมามาก หัวกะโหลกแบน อีกทั้งแขนและขายาวสั้นกว่าปกติ ทำให้เรา ยังคิดเข้าข้างตัวเองว่า โอกาส 10 ถึง 15 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าสูงมากสำหรับวงการวิทยาศาสตร์
คำถามมีดังนี้
- เพื่อนๆคนไหนที่เคยตรวจเลือดออกมาแล้วพบว่ามีโอกาสเป็นดาวน์ซินโดรมแต่พอตรวจน้ำคร่ำผลออกมาว่าไม่เป็นบ้างหรือเปล่าคะ
- ผลการตรวจเลือด เพื่อค้นหาความผิดปกติด้านพันธุกรรมมีความชัดเจนถูกต้องแม่นยำมากแค่ไหนคะ
เพื่อนคนไหนมีคำแนะนำยังไง เรารบกวนขอประสบการณ์ ให้เราด้วยคะ ตอนนี้ถึงแม้ความหวังเรามีน้อยแต่เราก็ยังไม่หมดหวัง ตั้งหน้าตั้งตารอให้ถึงวันที่ 23 ไวๆ ตอนนี้ทำใจถ้าผลออกมาว่าเป็นเราจะตั้งตัวรับมันยังไง ขอบพระคุณทุกๆความเห็นล่วงหน้านะคะ เราอยู่อเมริกาตัวคนเดียวไม่มีญาติพี่น้องที่นี่ ไม่อยากโทรหาที่บ้านบ่อยๆกลัวแม่พ่อไม่สบายใจแต่ทางบ้านก็ทราบแล้วนะคะ มแต่บอกว่าให้รอผลตรวจน้ำคร่ำก่อนอย่าเพิ่งกังวลแต่มันทำใจลำบากมากๆคะ