เมื่อหมอบอกว่าลูกฉันเป็นดาวน์ซินโดรม

เมื่อหมอบอกว่าลูกของฉันเป็นดาวน์ซินโดรม

ฉันและสามีแต่งงานกันมาหลายปีมีลูกมาแล้ว2คน ชาย1หญิง1 หลังจากคลอดคนที่สองฉันเลยเลือกวิธีคุมกำเนิดด้วยการใส่ห่วงคุม ระยะเวลาผ่านไปได้10เดือน ฉันตรวจพบว่าตัวเองตั้งครรภ์อีกครั้ง ตอนนั้นกังวล+ดีใจ เลยรีบไปพบแพทย์ เพราะกลัวว่าครรภ์นี้จะผิดปกติ ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี ฉันตั้งครรภ์ในมดลูก ฉันกำลังจะเป็นคุณแม่ลูกสามแล้วคะ ตอนนั้นฉันดีใจมากกกก พอถึงระยะเวลา4เดือน คุณก็พูดเรื่องเดิมคือการตรวจคัดกรองดาวน์ ( 2คนแรกไม่ได้ตรวจ ) คนนี้ก็เช่นกัน ด้วยที่ว่าสามีฉันอายุ28ปี แข็งแรงคะ ส่วนตัวฉันก็27เองเท่านั้น เรา2คนแทบไม่มีความเสี่ยงเลย และอีกอย่างเราคุยกันไว้ว่า ถึงตรวจเจอเราจะทำยังไงได้ จะสั่งฆ่าเค้าหรอ ฉันทำไม่ได้คะ เลยตัดสินใจไม่รู้ดีกว่า จนพอครบ7เดือน มีการซาวด์ครั้งใหญ่ เป็นการซาวด์โดยแพทย์อีกคนที่เช็คระบบสมอง หัวใจ อวัยวะภายในต่างๆ ทุกอย่างดีหมดคะ ยกเว้นฉันมีภาวะรกเกาะต่ำอีกแล้ว(คนที่สองก็เป็นคะ) ในความโชคร้ายก็ยังมีเรื่องดีๆคือรกเกาะต่ำรอบนี้ไม่ได้รุนแรงเท่ารอบก่อนนะคะ ไม่ได้คลุมปากมดลูกทั้งหมด แต่ปิดบางส่วนคะ ทำให้อาจมีเลือดออกก่อนคลอดไม่มากเท่าคนที่สอง ฉันดีใจมากที่ได้ลูกสาวอีกคน เนื่องจากประสบการณ์ที่มีลูกชายคนแรกและลูกสาวคนที่สอง ทำให้ฉันหลงรักเด็กผู้หญิงมากๆ ชอบเรื่องการได้แต่งตัวเค้า เรื่องการที่เค้าจะขี้อ้อนกว่าเด็กผู้ชาย แต่ลูกชายฉันเค้าก็เป็นเด็กขี้อ้อนนะคะ (หลงเหมือนกัน) ฉันนับรอวันที่จะผ่าคลอดเค้าเลยคะ ตอนแรกหมอนัดไว้37สัปดาห์ (25ธค58 ตรงกับคริตมาสพอดี) เนื่องจากรกเกาะต่ำควรรีบผ่าคลอดตอนที่สามารถคลอดได้แล้วให้ไวที่สุดเพราะรอนานไม่ได้เนืองจากอาจเสียเลือดมากคะ จนเข้าเดือน ธค ฉันเริ่มมีเลือดออกจากช่องคลอด ทำให้ฉันเริ่มพักผ่อน นอนมากๆ ไม่ค่อยออกไปไหนไม่เดินเยอะ เพราะต้องนอนพักจริงๆเนื่องจากรกเริ่มลอกตัวแล้วคะ ในทุกๆวันมีเลือดออกกระปริดกระปรอยตลอด แต่พอนอนพักก็หยุดเองได้ ฉันโชคดีที่คุยไลน์หาหมอได้ตลอดเวลา คอยบอกอาการให้หมอทราบ เลยไม่ต้องกังวลมากคะ




จนวันที่13ธค. ฉันเริ่มรู้สึกปวดท้องคล้ายจะคลอด แต่ยังไม่ถี่มากคะ ฉันเลยนอนพัก แต่พอ14ธค เริ่มรู้ตัวว่ามันถี่ขึ้นๆ จึงไปหาหมอที่ รพ ได้นอนรอห้องคลอด จับการแข็งตัวและการดิ้นของลูก ปรากฎว่าท้องยังแข็งไม่ถี่มาก หมอจึงให้กลับบ้านมานอนพักคะ พอตกกลางคืนฉันทรมานมากกกกก. เหมือนจะคลอดให้ได้ ท้องแข็งถี่มากๆ แถมปวดร้าวไปถึงมดลูกเลยคะ ฉันเลยตัดสินใจปลุกสามีตอนตี4 เพื่อให้พาไป รพ เพราะทนไม่ไหวแล้ว พอไปถึง รพ ก็ไปนอนรอห้องฉุกเฉิน มีพยาบาลจากห้องคลอดมาตรวจดิฉัน และพาดิฉันไปนอนรอห้องคลอด รอบนี้ติดเครื่องวัดการดิ้นและการแข็งตัวเช่นเดิมคะ แต่รอบนี้ท้องแข็งทุก5นาทีเลย พยาบาลจึงโทรหาหมอสูติของดิฉัน และหมอก้ตัดสินใจผ่าคลอดวันนี้เลยคะ ตอนเช้า7โมง. ระหว่างนั้นฉันทรมานที่สุดในชีวิตเลยคะ ท้องแข็งตลอดทุก5นาที และทุกครั้งที่ท้องแข็งฉันจะปวดมดลูกมากๆ เหมือนมีอะไรไหลลงมาที่ปากมดลูก



จนพอ7โมงเช้า ทีมหมอมาแล้วคะ พยาบาลจัดการโกนและเจาะสายน้ำเกลือ ฉีดยากระตุ้นปอดเด็ก เพราะดิฉันเพิ่งท้องได้35สัปดาห์กับอีก4วันเท่านั้น ถือว่าก่อนกำหนดเยอะเหมือนกันนะคะ การเข้าห้องคลอดรอบนี้ฉันตื่นเต้นมาก เพราะจะเป็นครั้งแรกที่ฉันมีความรู้สึกตัวตอนหมอทำการผ่าคลอด (2คนแรกโดนรมยาหมดเพราะมีภาวะฉุกเฉินคะ) แต่ท้องนี้ฉันได้บลอคหลังสมใจเนื่องจากรกเกาะต่ำไม่ได้ปิดปากมดลูกทั้งหมด ฉันรู้สึกตัวตลอดตอนหมอทำคลอด ตอนนั้นฉันนึกถึงแต่พ่อแม่ พระพุทธเจ้า วอนขอให้ลูกฉันออกมาแข็งแรงปลอดภัยด้วย เพราะเค้าคลอดก่อนกำหนดคะ สิ่งที่กังวลที่สุดคือน้ำหนักของลูก เพราะวันก่อนยังวัดในอัลตร้าซาวน์ได้แค่1.8โลเองคะ พอหมอทำคลอดเสร็จฉันได้ยินเสียงลูกร้องไห้ดังมาก ฉันน้ำตาไหลเลยคะ สามีรออยู่หน้าห้องคลอด หมอไม่ให้เข้าคะเพราะเคสฉันอาจมีเรื่องฉุกเฉินเกิดขึ้นได้เพราะอาจตกเลือดได้คะ แต่สรุปฉันเสียเลือดน้อยมาก ลูกออกมาได้2.4โล ตอนนั้นน้ำตาไหลออกมาแบบไม่รู้ตัว มันตื้นตันแบบบอกไม่ถูกเลยคะ หมอบอกว่าหัวน้องยาวนะ เพราะลงมาเชิงกรานแล้ว โดนบีบ5555 และออกไม่ได้เพราะติดรกที่เกาะต่ำไว้ และหมอก้ทำหมันให้ฉันต่อ ฉันหลับไปด้วยความเพลียคะ


จนออกมาห้องรอดูอาการ พยาบาลก็หมั่นวัดแล้ววัดอีกทั้งความดัน ไข้ และดูเรื่องการตกเลือดเพราะเคสรกเกาะต่ำต้องระวังมากๆคะ ผลออกคือดิฉันปลอดภัยดี โดนเข็นมารอขึ้นห้องต่อที่ห้องรอคลอด ฉันเจอสามีก็ขอดูรูปลูกเลยคะ ลูกฉันน่ารักมาก หน้าตาเหมือนพี่ๆเค้าเป้ะๆ แบบแฝด3เลยทีเดียว ตอนนั้นฉันดีใจมาก คิดแต่ว่าดีจังลูกเราแข็งแรงนะ ปลอดภัยแล้วเพราะพยาบาลบอกน้องขึ้นไปห้องเนิสแล้ว นี้เลยบอกสามีระหว่างนอนรอห้องพัก ให้แวะไปดูลูกด้วยนะเป็นไงบ้าง จนสามีไปทานข้าวและไปแวะดูลูก และลงมาหาดิฉัน เค้าบอกว่าหมอบอกเค้าว่า ลูกมีออกซิเจนในเลือดต่ำต้องอยู่ในตู้อบก่อนนะ ตอนนั้นฉันไม่ได้กังวลอะไรเพราะคิดว่าเป็นปกติที่เด็กคลอดก่อนกำหนดต้องนอนตู้อบ เหมือนลูกสาวคนที่สองของฉันที่นอน2วันเพราะคลอดตอน36.5วีคได้คะ และฉันก็ถามสามีอีกว่าทีไรอีกมั้ย สามีบอกว่าเดี่ยวหมอเด็กจะมาคุยกับคุนแม่อีกทีตอนขึ้นไปห้องพัก พอบ่าย1 ได้ห้องพักแล้ว ก้ขึ้นไปนอนพักคะ นอนพักสักพักหมอเด็กที่ดูแลลูกดิฉันก้เข้ามาหา หน้าตาหมอไม่สู้ดีเลยคะ


หมอแจ้งว่า น้องมีออกซิเจนในเลือดต่ำ และก็อาจมีภาวะหัวใจรั่วหรือปอดมีปัญหา ต้องขอเช็คอีกที อาจต้องส่งน้องไปเช็คกับอีก รพ ซึ่งเป็นเครือเดียวกับที่ฉันคลอด แต่ที่นั้นมีหมอที่เก่งด้านหัวใจเด็กโดยเฉพาะคะ ตอนนั้นฉันแอบใจเสียว่าเอ้ย ลูกเราเป็นไรเนี่ย . แต่อันนี้ยังไม่พีคนะคะ พีคสุดคือประโยคที่หมอจะบอกฉันกับสามีต่อจากนี้คือ ลูกคุณมีภาวะดาวน์ซินโดรม ตอนนั้นเหมือนโดนฟ้าผ่าที่กลางหัวใจเลยคะ น้ำตาไหลแบบไม่รู้ตัว เลยถามหมอเป็นได้ไงคะ รักษาได้มั้ย เพราะไม่มีความรู้เรืองโรคนี้มาก่อนเลยคะ รู้แต่ว่าคือภาวะปัญญาอ่อน หมอก็บอกว่ารักษาไม่ได้แต่พัฒนาได้ เดี่ยวพรุ่งนี้หมอต้องส่งน้องไปตรวจหัวใจนะ ช่วงเย็นๆ และหมอก็ออกไป ตอนนั้นฉันร้องไห้ฟูมฟาย บ่นกับสามีว่าเราไม่เคยทำไรไม่ดีเลยนะ ทำไมเรืองแบบนี้ถึงเกิดขึ้นกับเรา สามีฉันพูดมาว่าไม่เป็นไรเค้าเกิดมาแล้วเราก้ต้องเลี้ยงเค้าให้ดีที่สุด และทุกอย่างก็เงียบลง ฉันรู้เลยว่าสามีฉันเครียดมากแต่เค้าไม่แสดงออก ส่วนฉันนอนร้องไห้ตลอด อยากให้สิ่งที่หมอมาบอกเป็นเรื่องไม่จริง ทุกคืนที่นอนที่ รพ ฉันร้องไห้ทุกคืน ปั้มนมไปร้องไห้ไป แต่ก้แปลกมากที่น้ำนมมาไวมาก สามารถมีนมไปส่งให้ลูกได้กินที่ห้องเนิสได้ วันที่2 ลูกได้กินนมแม่ล้วนแล้วคะ ฉันดีใจมาก วันที่สองพยาบาลมาถอดสายน้ำเกลือสายฉี่ ฉันเดินไปหาลูกที่ห้องเนิสเลยทันที เพราะอยากเจอลูกมาก พอไปถึงฉันได้สัมผัสเค้า แม้จะอยู่ในตู้อบก็เถอะ ฉันน้ำตาซึม รู้สึกสงสารเค้าที่เกิดมาทำไมถึงต้องมีคำว่าดาวน์ติดตัวมาด้วย ฉันเริ่มสังเกตลูกว่ามีส่วนไหนที่คล้ายเด็กดาวน์ เท่าที่อ่านมา ลูกฉันเข้าข่ายตาเฉียง จมูกแบน(ลูก2คนแรกก็แบนแบบนี้ละคะ) ปากเล็ก และชอบเอาลิ้นแลบออกมาคะนิ้วเท้าหัวแม่โป้งห่างจากนิ้วชี้พอสมควร แต่ตอนนั้นฉันพูดกับลูกตลอดว่าไม่เป็นไรนะ ไม่ว่าหนูจะเป็นอะไรแม่ก็รัก แม่รอเราได้กลับไปอยู่ด้วยกันนะคะ แม่รักหนูมากนะคะ


หลังจากเยี่ยมลูกเอานมไปให้ พอช่วงเย็นฉันนั่งรถ รพ ไปพร้อมกับลูกไปเช็คหัวใจ ผลออกมาว่ามีห้องบนรั่วนิดหน่อย และมีเส้นเลือดหัวใจที่รั่วอีกจุดแต่ยังไม่ชัดต้องฟอลโล่วอัปอีกรอบคะ หมอหัวใจบอกว่าน่าจะปิดเองได้ไม่ต้องกังวล พอกลับมาห้องเนิส หมอเริ่มลดออกซิเจนลูก เพื่อให้เค้าฝึกที่จะหายใจด้วยตัวเองให้มากเพื่อออกมาอยู่นอกตู้อบได้ จนวันที่สี่ลูกได้ออกมาอยู่นอกตู้แล้วและเป็นครั้งแรกที่ดิฉันจะได้อุ้มเค้าและให้นมเค้าแบบเข้าเต้า ฉันตื่นเต้นมากกกกกก ตอนนั้นลูกตัวเล็กมากก2.2โลกว่าเองคะเพราะน้ำหนักน้องลดลงมา แต่โชคดีที่เค้าเปนเด็กทานเก่ง ตื่นมาทานนมทุก2ชมเลยคะ พยาบาลห้องเนิสก็บอกตลอดว่าน้องทานจุนะคะ ดูดนมแรง ขนาดพยาบาลป้อนแก้วน้องยังดูดนมจากแก้วดังจ้วบๆ จนได้เข้าเต้า จริงๆลูกดูดแรงมากเลยคะ แรงกว่าเครื่องปั้มอีก 55555 ฉันน้ำตาซึมเลยตอนเค้าดูดนม ไม่ใช่เพราะเจ็บนะคะแต่ดีใจที่ลูกไม่ได้ปัญหาเรื่องการดูดกลืนคะ แถมขับถ่ายปกติ แต่ลูกยังไม่กลับพร้อมฉันเพราะหมออยากให้ลองอยู่ข้างนอกโดยมีพยาบาลดูแลก่อน ฉันกลับมาบ้านก้ยังมีร้องไห้เรื่องลูกบ้างเพราะด้วยความคิดถึงและกังวลเรื่องอนาคตเค้าต่างๆนาๆ แต่ระหว่างนั้นก้หมั่นปั้มนมให้สามีเอาไปส่งให้ตลอด น้องเลยได้ทานนมแม่ล้วนเลยคะ จริงๆหมอนัดรับน้องหลังจากฉันกลับบ้านอีก1วันแต่พอถึงวันที่จะไปรับพยาบาลโทรมาแจ้งว่าเช้านี้หมอตรวจเจอว่าน้องตัวเหลืองต้องส่องไฟ2วันถึงกลับบ้านได้คะ ฉันเสียใจมากเพราะคิดถึงลูกมากคะ กลางคืนก็ร้องไห้อีกแล้วเพราะคิดถึงลูก+นึกถึงเรื่องดาวน์ด้วยคะยิ่งร้องเยอะไปอีก5555 ช่วงนี้เป็นช่วงที่จิตใจย่ำแย่มากๆนอนร้องไห้กอดสามีทุกคืน พูดคุยถึงแต่เรื่องลูกคนที่สามว่าเราจะทำยังไงกันบ้างจะพาไปพัฒนาที่ไหนเตรียมตัวดูแลยังไง จนครบกำหนดไปรับน้อง ฉันดีใจมากกกไปรับเค้ากลับมาอยู่ด้วยกัน

ลูกของฉันกินนมเก่งเลี้ยงง่าย แถมกล้ามเนื้อดูแข็งแรงมากฉันจับเค้านอนคว่ำเนื่องจากสะดือหลุดไปแล้ว เค้าสามารถพลิกหัวกลับไปมาได้เวลารู้สึกเมื่อยหรืออยากเปลี่ยนข้าง มีออกเสียงนิดหน่อยเวลาเปลี่ยนท่า😂😂😂 ตอนนั้นฉันลืมเรื่องดาวน์ไปเลยเพราะรู้สึกว่าลูกฉันปกติและฉันก็ไม่เคยร้องไห้เรืองนี้อีกเลย พอครบ2วันหมอนัดดูตัวเหลืองอีกรอบ สรุปไม่เหลืองแล้วคะ ลูกฉันทานนมเก่งมากถ่ายทุกวัน ตั้งแต่วันแรกๆที่กลับมาบ้านจะถ่ายเป็นสีเขียวๆเนื่องจากโดนส่องไฟมาจนตอนนี้ถ่ายออกเหลืองสวยงาม วันที่ไปดูอาการตัวเหลืองฉันมีกำลังใจขึ้นมากเพราะหมอบอกว่าหมอคิดว่าน้องเป็นไม่เยอะนะ พัฒนาได้เพราะเค้าดูพัฒนาการดีกล้ามเนื้อไม่อ่อนแรง กินนมได้ ก็ไม่น่าเป็นห่วงแล้ว ทีนี้เหลือติดตามอาการหัวใจอีกรอบและผลไทรอยด์เพราะไทรอยด์นี้จะทำให้เด็กพัฒนาการช้าลง ก็น่าจะหมดแล้ว หลังจากนั้นฉันก็เลี้ยงลูกปกติ ลูกฉันกินนมได้ดีแถมเก่งสะด้วย และหูเค้าก็ดูไม่มีปัญหาเรื่องการได้ยินนะคะเพราะพี่ๆเค้าเล่นเสียงดัง เค้าก้จะสะดุ้งทุกครั้งที่เกิดเสียงดังๆ ส่วนสายตาอันนี้ยังไม่แน่ใจเพราะเค้ายังเล็กมากยังมองไรไม่เห็น


ฉันเริ่มเข้าเพจเกี่ยวกับเด็กดาวน์เพื่อหาข้อมูลว่าจะต้องฝึกลูกยังไง ฝึกที่ไหนและหาอ่านปัญหาต่างๆเพื่อเตรียมตัวรับมือคะ เพื่อนๆในเพจดาวน์นั้นน่ารักมากๆคะ ฉันได้เห็นเด็กๆหลายคนที่หน้าตาไม่เหมือนเด็กดาวน์เลย แต่ก็เป็น บางคนไม่มีโรคติดตัวมาเลย มีแต่คำว่าดาวน์ติดตัวมาเท่านั้น แต่บางคนก็ต้องผ่าตัดหัวใจตั้งแต่ยังเล็กหรือลำไส้กันตั้งแต่ยังเด็กๆ บางคนก็มีหน้าที่การงานได้บางคนก็เข้าเรียน รร. ปกติได้ด้วยคะ ทำให้ฉันมีกำลังใจขึ้นมากว่าลูกฉันสามารถฝึกให้อยู่ร่วมในสังคมปกติได้ และช่วยเหลือตัวเองได้แน่นอน ตอนนี้ฉันกำลังรอผลโคมโซมที่จะออกไม่กี่วันนี้แล้วคะ ฉันตื่นเต้นกับมันมากแต่บอกตรงๆฉันแทบไม่มีหวังเรื่องผลมันจะเป็น+กับครอบครัวฉัน เพราะฉันเชื่อว่าหมอเด็กเค้าเจอเด็กมามากมาย เค้าไม่น่าดูผิดหรอกคะ แต่ฉันกับสามีก็คุยกันตลอดว่าเป็นก็เป็น ยังไงก็รัก เพราะผลโคโมโซมไม่สามารถทำให้ฉันรักเค้าได้น้อยลงเลยคะ 😁🤗 เป็นกำลังใจให้ครอบครัวเราด้วยนะคะ เพราะฉันเชือว่าสวรรค์ตั้งใจส่งเค้ามาให้ฉันจริงๆขนาดใส่ห่วงคุมเค้ายังมาเกิดได้เลยคะอิอิ

ปล อยากให้พ่อแม่ทุกคนที่ตั้งครรภ์ไม่ว่าจะอายุน้อยหรือมาก ควรตรวจคัดกรองดาวน์นะคะ แต่ถ้าทุกคนคิดแบบฉันว่าถึงเป็นก้ไม่ทำร้ายเขาจะตรวจหรือไม่ตรวจก็ได้คะ รู้ก่อนมันก็ดีนะคะได้ตั้งตัวได้ทันคะ ขอบคุนที่อ่านจบนะคะ ผลออกยังไงจะมาแจ้งคะ❤️
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่