วิธีสร้างกุศลส่งให้เจ้ากรรมนายเวร
ในการสร้างกุศลเพื่อส่งกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร ในที่นี้จะยกกรณีตัวอย่างการทำบุญสังฆทาน เพื่อส่งกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร มีขั้นตอนและวิธีการดังนี้
๑. ให้จัดซื้อเตรียมสังฆทาน เพื่อจะไปถวายพระภิกษุสงฆ์ กี่รูปก็แล้วแต่จิตศรัทธาของเรา เมื่อเราไปอยู่ต่อหน้าพระสงฆ์แล้ว ให้จับสังฆทานทูนเหนือหัว แต่ถ้าใหญ่หรือมากเกินไปก็มีสิ่งของวัตถุตัวแทนก็ได้ หรือจะใช้วิธีจับแตะกับพื้นก็ได้
ต่อจากนั้นให้เราตั้งฐานจิต ขอสำนึกผิดที่เราได้ล่วงเกินต่อเจ้ากรรมนายเวร สายไหนเรื่องอะไรก็ตั้งฐานจิตบอกกล่าวสำนึกผิด ขอขมากรรมต่อเจ้ากรรมนายเวร ดังนี้
"ข้าพเจ้าขอสำนึกผิดที่ได้ทำอกุศลกรรม (บอกชื่อกรรมชั่ว เช่น ประทุษร้าย ให้ร้าย กล่าวร้าย กล่าวหา ทรมานผู้อื่น) ให้เกิดความทุกข์ ความเดือดร้อน
ข้าพเจ้าได้ทำกรรมไม่ว่าทางร่างกายหรือจิตใจ ทางตรงหรือทางอ้อม ทั้งที่รู้ตัวหรือไม่รู้ตัว ที่ระลึกได้และระลึกไม่ได้ ชาตินี้หรืออดีตชาติ ด้วยกาย วาจา ใจ ต่อผู้อื่น คนอื่นหรือแม้แต่สัตว์ และสัตว์โลก ทุกสิ่งที่เป็นบาปกรรมตรงนี้ พฤติกรรมเช่นนี้
บัดนี้ ข้าพเจ้าขอสำนึกผิดในพฤติกรรมที่กล่าวมานี้ ขอขมา และขออโหสิกรรม ข้าพเจ้าขอตั้งปณิธานว่า จะไม่ทำพฤติกรรมเช่นนี้อีกต่อไป จะมีเมตตา กรุณา มุฑิตาในการช่วยเหลือผู้อื่น เอื้อ-เกื้อ-กันต่อทุกสรรพสิ่ง
และอดีตและปัจจุบันนี้ ใครมาประทุษร้าย ให้ร้าย กล่าวร้าย กล่าวหา ให้ข้าพเจ้าเกิดความทุกข์ ความเดือดร้อนทั้งกายและจิตใจ กรรมเช่นนี้ ข้าพเจ้าขอรับการขมาและอโหสิกรรมให้ จะไม่อาฆาต พยาบาท จองเวรอีกต่อไป และขอไถ่ถอนสิ่งที่จองเวร อาฆาต พยาบาทต่างๆ คืนสู่ธรรม
ข้าพเจ้าขอตั้งปณิธานว่า จะไม่ทำพฤติกรรมเช่นนี้อีกต่อไป และตั้งปณิธานจะเจริญพรหมวิหาร ๔ เมตตา กรุณา มุฑิตา อุเบกขา มีอกเขา-อกเรา เอื้อ-เกื้อ-กัน ให้อภัย ไม่ถือสา
ขออัญเชิญบารมีพระแม่ธรณี โปรดมาเป็นประจักษ์พยาน ได้เคลียร์วิบากกรรม ได้แก้ไขวิบากกรรม ขอทุกส่วนที่เป็นวิบากกรรม ได้เคลียร์วิบากกรรม แก้ไขกรรมเกิดสันติสุข"
๒. จากนั้น ให้เรานำสังฆทานไปถวายยังพระภิกษุสงฆ์ แล้วตั้งฐานจิตอธิษฐานว่า
""ข้าพเจ้าขอตั้งฐานจิตเจตนาว่าทำบุญกุศล เพื่อสืบทอดพระศาสนา เจริญบุญกุศลในธรรม จรรโลงคุณงามความดี พระที่อยู่ต่อหน้าข้าพเจ้า เป็นตัวแทนของพระสงฆ์ ผู้ที่ศึกษาปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า รู้ซึ้งประจักษ์แจ้งแล้ว นำธรรมนั้นมาถ่ายทอดแก่ประชาชน ชาวโลก และสัตว์โลกทุกชั้นภูมิ"
๓. แล้วเราก็นำสิ่งของไปประเคนถวายพระภิกษุสงฆ์
๔. รับพร แล้วเราเตรียมกรวดน้ำ เมื่อพระสวดให้พรขึ้น " ยะถา วาริวะหา ปูรา ปะริปูเรนติ สาคะรัง
พอสวดให้พรตรงที่ว่า เอวะเมวะ อิโต ทินนังฯ เป็นต้นไปก็ให้เราตั้งฐานจิตกรวดน้ำส่งกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร ให้ตั้งฐานจิตกล่าวว่า
"ขอส่งกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร (ชื่อกรรมอะไร....) ที่มาส่งผล ณ ปัจจุบันนี้ ขอโปรดเมตตารับและอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน
ด้วยแรงแห่งกุศลนี้ขอเจ้ากรรมนายเวรจงไปสู่สุคติ สุขสันติ สันติสุขเทอญ สาธุ ๛
เมื่อกรวดน้ำเสร็จ เราก็นำน้ำนั้นไปเทใส่ต้นไม้คืนสู่ธรรม (ไม่ใช้คำว่าเททิ้ง)
เป็นอันเสร็จพิธี
^_^ ..._/\_... ^_^
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกกล่าวมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต
วิธีสร้างกุศลส่งให้เจ้ากรรมนายเวร
ในการสร้างกุศลเพื่อส่งกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร ในที่นี้จะยกกรณีตัวอย่างการทำบุญสังฆทาน เพื่อส่งกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร มีขั้นตอนและวิธีการดังนี้
๑. ให้จัดซื้อเตรียมสังฆทาน เพื่อจะไปถวายพระภิกษุสงฆ์ กี่รูปก็แล้วแต่จิตศรัทธาของเรา เมื่อเราไปอยู่ต่อหน้าพระสงฆ์แล้ว ให้จับสังฆทานทูนเหนือหัว แต่ถ้าใหญ่หรือมากเกินไปก็มีสิ่งของวัตถุตัวแทนก็ได้ หรือจะใช้วิธีจับแตะกับพื้นก็ได้
ต่อจากนั้นให้เราตั้งฐานจิต ขอสำนึกผิดที่เราได้ล่วงเกินต่อเจ้ากรรมนายเวร สายไหนเรื่องอะไรก็ตั้งฐานจิตบอกกล่าวสำนึกผิด ขอขมากรรมต่อเจ้ากรรมนายเวร ดังนี้
"ข้าพเจ้าขอสำนึกผิดที่ได้ทำอกุศลกรรม (บอกชื่อกรรมชั่ว เช่น ประทุษร้าย ให้ร้าย กล่าวร้าย กล่าวหา ทรมานผู้อื่น) ให้เกิดความทุกข์ ความเดือดร้อน
ข้าพเจ้าได้ทำกรรมไม่ว่าทางร่างกายหรือจิตใจ ทางตรงหรือทางอ้อม ทั้งที่รู้ตัวหรือไม่รู้ตัว ที่ระลึกได้และระลึกไม่ได้ ชาตินี้หรืออดีตชาติ ด้วยกาย วาจา ใจ ต่อผู้อื่น คนอื่นหรือแม้แต่สัตว์ และสัตว์โลก ทุกสิ่งที่เป็นบาปกรรมตรงนี้ พฤติกรรมเช่นนี้
บัดนี้ ข้าพเจ้าขอสำนึกผิดในพฤติกรรมที่กล่าวมานี้ ขอขมา และขออโหสิกรรม ข้าพเจ้าขอตั้งปณิธานว่า จะไม่ทำพฤติกรรมเช่นนี้อีกต่อไป จะมีเมตตา กรุณา มุฑิตาในการช่วยเหลือผู้อื่น เอื้อ-เกื้อ-กันต่อทุกสรรพสิ่ง
และอดีตและปัจจุบันนี้ ใครมาประทุษร้าย ให้ร้าย กล่าวร้าย กล่าวหา ให้ข้าพเจ้าเกิดความทุกข์ ความเดือดร้อนทั้งกายและจิตใจ กรรมเช่นนี้ ข้าพเจ้าขอรับการขมาและอโหสิกรรมให้ จะไม่อาฆาต พยาบาท จองเวรอีกต่อไป และขอไถ่ถอนสิ่งที่จองเวร อาฆาต พยาบาทต่างๆ คืนสู่ธรรม
ข้าพเจ้าขอตั้งปณิธานว่า จะไม่ทำพฤติกรรมเช่นนี้อีกต่อไป และตั้งปณิธานจะเจริญพรหมวิหาร ๔ เมตตา กรุณา มุฑิตา อุเบกขา มีอกเขา-อกเรา เอื้อ-เกื้อ-กัน ให้อภัย ไม่ถือสา
ขออัญเชิญบารมีพระแม่ธรณี โปรดมาเป็นประจักษ์พยาน ได้เคลียร์วิบากกรรม ได้แก้ไขวิบากกรรม ขอทุกส่วนที่เป็นวิบากกรรม ได้เคลียร์วิบากกรรม แก้ไขกรรมเกิดสันติสุข"
๒. จากนั้น ให้เรานำสังฆทานไปถวายยังพระภิกษุสงฆ์ แล้วตั้งฐานจิตอธิษฐานว่า
""ข้าพเจ้าขอตั้งฐานจิตเจตนาว่าทำบุญกุศล เพื่อสืบทอดพระศาสนา เจริญบุญกุศลในธรรม จรรโลงคุณงามความดี พระที่อยู่ต่อหน้าข้าพเจ้า เป็นตัวแทนของพระสงฆ์ ผู้ที่ศึกษาปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า รู้ซึ้งประจักษ์แจ้งแล้ว นำธรรมนั้นมาถ่ายทอดแก่ประชาชน ชาวโลก และสัตว์โลกทุกชั้นภูมิ"
๓. แล้วเราก็นำสิ่งของไปประเคนถวายพระภิกษุสงฆ์
๔. รับพร แล้วเราเตรียมกรวดน้ำ เมื่อพระสวดให้พรขึ้น " ยะถา วาริวะหา ปูรา ปะริปูเรนติ สาคะรัง
พอสวดให้พรตรงที่ว่า เอวะเมวะ อิโต ทินนังฯ เป็นต้นไปก็ให้เราตั้งฐานจิตกรวดน้ำส่งกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร ให้ตั้งฐานจิตกล่าวว่า
"ขอส่งกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร (ชื่อกรรมอะไร....) ที่มาส่งผล ณ ปัจจุบันนี้ ขอโปรดเมตตารับและอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน
ด้วยแรงแห่งกุศลนี้ขอเจ้ากรรมนายเวรจงไปสู่สุคติ สุขสันติ สันติสุขเทอญ สาธุ ๛
เมื่อกรวดน้ำเสร็จ เราก็นำน้ำนั้นไปเทใส่ต้นไม้คืนสู่ธรรม (ไม่ใช้คำว่าเททิ้ง)
เป็นอันเสร็จพิธี
^_^ ..._/\_... ^_^
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกกล่าวมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต