เบื่อตากับยายที่บ้านมาก
เราจะดูเป็นหลานที่อกตัญญูไหม เพราะตอนเขาอยู่บ้านเราแทบไม่มีความสุขเลยอ่ะ เวลาเขาไม่อยู่บ้านะ เราโคตรมีความสุขเลย เป็นตัวของตัวเองสุดๆ
มันมีเหตุผลนะคะที่ทำให้เราคิดแบบนี้
คือ ตายายเราเขาไม่ใช่ตายายเราแท้ๆ แม่เราเป็นลูกของน้องชายยาย งงไหม ไม่งงเนาะ น้องชายยายเราเสียไป ยายเลยเลี้ยงแม่มาแทน (ยายแท้ๆตอนนั้นไม่พร้อมมีลูก เลยเลี้ยงแม่เราไม่ไหว)
ตั้งแต่แม่เราเด็กๆ แม่เราเล่าให้ฟังว่า ตากับยายแทบไม่เลี้ยงแม่เลย เป็นย่าที่เลี้ยงแม่เรามาจนโตแม่เราทำอะไรด้วยตัวเองตั้งแต่เด็ก ทำกับข้าว ล้างจาน เช็ดบ้านถูบ้านดูแลย่า ส่วนยายไม่ทำอะไรเลย ทำผมสวยตลอด กินหรูอยู่แพง ประมาณนี้ ส่วนตาทำงานรับราชการ ไม่ค่อยอยู่บ้าน แม่เราบอกตอนนั้นตาดุมาก แม่ไม่กล้าเถียงตาสักคำ เขาชอบเสียงแข็งและมองตาขใส่
มาปัจจุบันนะคะ
เราตอนเด็ก เวลาพ่อแม่พูดอะไรกันในบ้าน ตากับยายเราจะไม่สบายใจแล้วเรียกเราไปหา ถามว่าพ่อแม่เราว่า อะไรเขารึป่าวให้ เราเล่าาให้ฟังหน่อย แต่คือพ่อแม่เราไม่เคยพูดถึงเขาเลย คือเขาคิดไปเองน่ะค่ะ เราก็เลยบอกเขาไปตรงๆว่า พ่อแม่ไม่ได้พูดอะไร คุยเรื่องงานเฉยๆ บ่นนู้นคุยนี้ไปเรื่อย
แต่เขาก็ยังพูดอีกว่าแบบ ไม่ได้นินทาอะไรจริงๆใช่ไหม (ในใจเราแบบต้องการอะไรจากตรู )
ทุกครั้งเวลาเขาเรียกเราไม่อยากไปหาเลยค่ะ
เราไม่เป็นตัวของตัวเองเลย จะวิ่งจะกระโดด
เสียงดัง กินข้าวดัง เขี้ยวแจ๊บๆ วางช้อนแรง พูด คำว่า ว่ะ ไม่ได้ คือไม่ได้ทุกอย่างเลยค่ะ เหมือนอยู่ รร สอนมารยาทไทย
แล้วเขาก็ชอบน้อยใจว่าทำไมไม่ชอบอยู่กับตากับยาย มากับตากับยายก็ได้หนิ อะไรอย่างงี้ อยากจะบอกไปมากว่าอึดอัด เพราะเราอยู่กับพ่อแม่ เราแกล้งเราหยอกเราเถียงเรากวนตีนเขาได้
แต่กลับเขาเราเถียงไม่ได้สักแอะ แค่ยืนกินซุปไม่ตักใส่ชามยังโดนด่าเหมือนไปฆ่าใครตาย
พอยิ่งโตเราก็เริ่มต่อต้านเขาหนักขึ้น บางทีเขาพูดบางเรื่องจนเราทนไม่ได้ สมมตินะคะ เรานั่งเล่นคอมอยู่ เขาจะยื่นพูดยาวเป็นชั่วโมง เราเงียบอย่างเดียว แต่เขาชอบวกไปวนมา แล้วเอาเรื่องนู้นเรื่องนี้มารวม แบบ "โตไม่มีงานทำแล้วมั้ง มัวแต่เล่นอยู่อย่างงี้ หนูก็คงต้องแบมือขอตังค์พ่อแม่ไปจนโตและ พ่อแม่เราก็เหมือนกัน ไม่สนไม่ห้าม มันแย่แล้วอย่างงี้ มันเป็นอะไรไปแล้วเนี่ย ห้ะ" แล้วก็วกอยู่อย่างงี้เป็นชั่วโมง บ้างคำเขาพูดคือเราโกรธน่ะ เราเลยเถียงกลับไปบ้าง แต่ไม่เคยหยาบ ไม่เคยเสียงดัง ไม่เคยโยนข้าวของ
เขาฟังนะคะ แต่ไม่เคยคิดว่าตัวเองผิดเลย ไม่เคยขอโทษไม่เคยง้อ เราก็ไม่เคยน้อยใจให้เขามาง้อเหมือนกัน เพราะเราไม่สนไม่แคร์เขาอยู่แล้ว เรียกว่ามองเขาเป็นธาตอากาศในบ้านเลยก็ว่าได้ เขาเจ็บเขาป่วย เราไม่รู้สึกอะไรเลย เช็ดตัวให้ ฉีดยา(เบาหวาน)ให้ ทำแผลให้ แต่หน้านิ่งค่ะ ไม่มีความรู้สึกสงสารใดๆทั้งสิ้น ดูแลเพราะหน้าที่อย่างเดียว บอกเลยว่าเราดูเลวมาก
แต่ตอนที่เขาด่าเราก็เกินเรื่องไปมากจนเราทนไม่ไหวอ่ะ เราบอกเลยไม่ต้องมายุ่ง (จำไม่ได้ว่าพูดอะไรแต่น่าจะประมาณนี้เพราะมันนานมากแล้ว) คือไม่คุยกันเป็นปีเลยค่ะ แต่บอกเลยโคตรดีอ่ะ เขาไม่เรียกเราแล้วสบายใจ จนถึงตอนนี้ คุยน้อยกว่าตอนเด็กไปมาก เราก็รู้สึกดีมากที่มันยังเป็นแบบนี้ ให้เขารู้ว่าเราอึดอัดกับเขามาก ตอนนี้เราหนีเขาตลอด เลี่ยงได้คือเลี่ยง เขาอยู่ในครัวทำกับข้าว เราหิวข้าวมากแต่เขาทำอยู่ เราต้มมาม่าเลยค่ะ เขาอยู่หน้าบ้านเราไม่เดินออกจากบ้านเลยค่ะ เขาทำอะไรตรงไหนเราไม่เดินไปแถวนั้นเลย เรียกได้ว่าขอไม่เจอหน้า ไม่อยากให้มองไม่อยากให้พูดด้วย เพราะทุกคำพูดของเขา ถ้าเราพูดผิดหูเขาไปนิดโดนเทศยาว บางอย่างที่เราเถียงแม่กลับไปได้ แต่เราเถียงเขาไม่ได้มันจะทำให้เราอึดอัดค่ะ สุดท้ายก็เลยต้องทำอย่างงี้
ตอนหนึ่งตาเคยเอาเข็มขัดเราไปติดกาวกับห่วงของเข็มขัด แต่คือมันต้องเลื่อนไปมาตามเอวอยู่แล้วไง ตอนนั้นโกรธมากเพราะตอนเช้ารีบ แต่ดีที่กาวมันดึงง่าย กลับบ้านมาเราก็ถามเขาติดกาวทำไม เขาก็บอกเดี๋ยวห่วงมันหาย (แต่ละวันเอวเราเดี๋ยวใหญ่เดี๋ยวเล็ก เป็นคนอ้วนง่ายผอมง่าย)นั้นแหละค่ะ งงตรรกะเขามาก แต่ตอนนั้นมันเย็นแล้ว เราไม่ได้โกรธแล้ว แค่ถามเฉยๆ
เอาจริงๆเราเป็นคนหัวร้อนง่ายมาก ไม่น่าเชื่อเลยคะว่าทนอยู่กับเขาจนโตได้ ในหัวนี้คิดซื้อบ้านตลอดเวลา อยากโตเร็วอยากออกจากบ้านนี้ พ่อแม่เราเคยจะซื้อวิลล่าอยู่ เขาไม่ให้ไป ไอตอนแรกเราไม่รู้เรื่องนี้ นึกว่าพ่อแม่ไม่มีเงินซื้อบ้าน ก็แบบอยู่ไปก็ทรมาน รั้งไว้ทำไม ถ้าเขาเปิดกว้างมากกว่านี้เราอยู่กับเขาได้น่ะแต่นี้นิดๆหน่อยๆก็ไม่ได้ ทุกอย่างคือเขาต้องถูก เขาไม่เคยผิด เขาใช้ซัมซุง เล่นไลน์ เล่นยูทูป เล่นเกม แต่มันไม่ได้ทำให้เขาเปิดกว้างเลยค่ะ ยังเป็นเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ น่ารำคาญมากกว่าเดิม เปิดนู้นนี้เสียงดัง มือถือเล่นไม่ได้มาถามอยู่ตลอด คือเรารำคาญค่ะ
เรื่องด่า
เวลาเขาด่าเรา เราทนได้น่ะ(อย่าเรียกว่าชิน เรียกว่าต้องกัดฟันทน) แต่ตอนที่ด่ามันเป็นคำที่แรงมากๆ จริงๆคือไม่เจ็บหรอก แต่มันโกรธที่บางคำมันไม่เกี่ยวกับเรื่องที่เราทำผิดเลยสักกะนิดเดียว
สมมติน่ะ เหมือนเรา เผลอเหยีบเท้าเพื่อน แล้วเพื่อด่ากลับมาว่า ไปตายซะ พ่อตาย สันดานหมา ไรงี้ โกรธป่ะ ตายายเราก็ประมาณนี้ เขาด่าได้เป็นชั่วโมง และคนที่ทนไม่ได้ที่สุดจนต้องพูดอะไรไปเป็นเราเสมอ เราหัวร้อนที่สุดในบ้าน เราเป็นคนไม่ชอบอยู่ในกรอบอยู่แล้ว เราเป็นคนเดียวในบ้านที่ทำให้เขาเริ่มรู้ตัวว่าทำเกินไปน่ะบางครั้ง
ขอเล่าวีรกรรมเขาต่อ ตอนนั้นพี่เรากำลังจะไปเรียน ตื่นสายจะรีบไป แต่ยายกับตาเขาทำสุกี้ โดยที่ไม่ได้บอกใครน่ะทำกันอยู่สองคน เรายังไม่รู้เลย แล้วพอเขาจัดอะไรเสร็จบอกให้พี่เราไปกิน แต่คือพี่เราจะรีบไป มอ. พี่เราเลยบอกไม่กินครับรีบไปมอ. ยายก็ยังยื้อ พี่เราก็บอกรีบไปมอ ยายโกรธพี่เราเลย ถามพี่เรา "อ้าว ทำไมอ่ะ กินสุกี้แค่นี้ไม่ได้เหรอ เตรียมไว้ให้แล้ว นี้เห็นยายเป็นอะไร เดี๋ยวนี้เป็นอย่างงี้หรอ ไม่เห็นหัวกันแล้ว" คือไม่ได้บอกอะไรเลยเขาเตรียมเองเออเอง พอคนไม่กินของเขาแล้วมาโกรธ พี่เราก็บอกอยู่ว่ารีบไปมอ ตอนนั้นคือพี่เราอยากเถียงมากน่ะ แต่เขายังเก็บอารมณ์อยู่ เป็นคนอื่นพี่เราซัดหน้าไปแล้ว แต่รู้เลยว่าตอนนั้นพี่เราฟิวขาดมาก ดีที่แฟนพี่อยู่ด้วยเลยเคลียให้ อยู่บ้านเหมือนสงครามเย็นเลยอะค่ะบ้านเราไม่เคยทะเลาะกันเสียงดัง แต่แต่ละคำคือมันน่าโมโห มันจะด่ากลับก็ไม่ได้ทั้งชีวิตไม่เคยหยาบกับเขาเลยซักครั้ง มันโคตรอึดอัด เหมือนอยู่กับระเบิดเวลาเลย ที่เลี่ยงเขาตลอดเพราะกลัวทะเลาะเรายิ่งขี้หงุดหงิดง่ายอยู่ด้วย แม่เราบอกเสมอว่าอย่าไปเถียงเขาเลยเขาแก่แล้ว ทนๆไปเถอะ เขารักหนูแหละ รู้แหละว่ารัก แต่การกระทำเขามันไม่น่ารักเลย เขาซื้อของให้เราน่ะ แต่ซื้อที พูดประมาณสามสิบรอบ สมมติซื้อ นาฬิกาให้ ทวงบุญคุณตลอด "เนี่ยซื้อนาฬิกาให้อย่างู้นอย่างงี้ หนูเนี่ยหัดทำดีกับตาบ้าง " เออ คือพ่อแม่ซื้ออะไรให้เรามากมายยังไม่เคยทวงบุญคุณเลย มันโคตรน่ารำคาญอ่ะ ที่สำคัญเราไม่เคยขอด้วยเขาอยากซื้อให้เองถ้าไม่ยอมให้เขาซื้อคือโกรธ น้อยใจ งอน พอเราได้ของก็จะพูดไปทั่ว ว่าซื้อนุ้นนี้ให้ ทวงบุญคุณตลอด
ทำไงดีค่ะ เราอึดอัดมาก ถ้าจะให้เราวีรกรรมตากับยายเราน่ะ เล่าสามปีก็ไม่หมดมันเยอะมากจริงๆ มีเรื่องที่น่าหงุดหงิดกว่านี้อีกเยอะ ที่สำคัญชอบคิดว่าตัวเองเป็นคนสำคัญทุกคนต้องเคารพเขา เขาพูดอะไรก็ได้เขาเป็นผู้ใหญ่ เสียงดังอะไรก็ได้ ชอบทำเป็นสนิทสนมกับลูกหลานเอาเรื่องเก่าๆสมัยพ่อขุนรามมาเล่าว่าอุ้มตอนเด็กๆอะไรอย่างงี้ เหมือนเป็นตาที่ หลานรักมาก อยู่ต่อหน้าคนอื่น ว่าเราเสียๆหายๆ ทำตัวเหมือนคนขี้เกรงใจ แต่คนอื่นเขาดูออกแหละ ที่ญาติเราไม่เคยว่าเขาเพราะรู้นิสัยเขานั้นแหละ และอีกอย่างที่ญาติๆเราต้องเข้าหาเขาเพราะ เขาสองคนเก็บเงินเก่งมากมีเงินเยอะมาก แม่เราเป็นลูกน้องชายเขาแท้ๆ ยืมเงินยังต้องผ่อนทุกเดือน มีดอกเบี้ยด้วย
สำหรับเรารู้สึกไม่โอเค เพราะถ้าเป็นหลานเราน่ะ จะจ่ายคืนตอนไหนก็ได้ แต่นี่เขากลัวแม่เราไม่ยอมจ่าย(ทั้งๆที่อยู่บ้านเดียวกัน) ทำหนังสือสัญญาเลยค่ะ คือยังไงอ่ะ สำหรับเรามันดู เขางกมากอ่ะ ตายไปเขาก็ใช้ไม่หมดอ่ะ ฝากเงินให้เราปีละ1000 ตอนหลังปีละ500 ปีน่ะไม่ใช่เดือน อันนี้เราไม่ว่าอะไรหรอกจะให้ไม่ให้ก็ไม่เป็นไร แต่คือเขาฝากให้เองตั้งแต่เราทารกแล้วมาทวงบุญคุณ บอก"เนี่ยฝากเงินให้น่ะ หนูก็ทำตัวดีๆหน่อย"และก็ นู่นนั้นนี้ บลาๆไม่จบไม่สิ้น ถ้าบอกว่าไม่ต้องการ โดนด่าร้อยเปอร์เซ็นต์
ทำไงดีอ่ะ เกิดมาพ่อแม่เราอบอุ่นและสอนเราดีมาก แม่เราที่โตมากับตายาย เขาเข้าใจเรามาก เขาเลยเลี้ยงเราให้เป็นอิสระมากๆ
ตอนนี้รู้สึกบ้านเรามีสองขั้วอ่ะ ฝั่งหนึ่งอยู่แล้วมีความสุข อีกฝั่งหนึ่งเดินไปหาที่ไร อึดอัดจนหายใจไม่ออกทุกที (เป็นคนถ้าอึดอัดแล้วจะชอบกลั้นหายใจ หายใจไม่ค่อยออก นิ่งเป็นโรบอทเลย) ทำไงดีคะ ไม่อยากอยู่บ้านนี้แล้ว
ตอนนี้เราอายุ 17 ถึงเรายังเด็กแต่เราคิดทบทวนกับตัวเองตลอด 17ปี ว่าทำไมถึงไม่ผูกพันกับเขาสักที เราก็ได้คำตอบ ก็คือเรารักอิสระไม่ชอบให้ใครมาบังคับมายุ่ง แต่คนอย่างเราต้องติดอยู่อย่างงี้เพราะไปไหนไม่ได้ กว่าจะโตเราคงอกแตกตายพอดี อยากพูดออกไปกับเขาประโยคหนึ่งว่า "รีบๆ ออกไปจากชีวิตหนูสักที หนูรำคาญ"
เอาง่ายๆคือรีบๆลาโลกเถอะค่ะ เราคิดถึงภาพงานศพเขาเลยด้วยซ้ำ เราคิดว่า "ตอนนั้นฉันจะร้องไห้ไม่น่ะ" โคตรเป็นหลานเลวเลยอ่ะค่ะ ทำไงดี หยุดคิดอย่างงี้ไม่ได้เลย พยายามห้ามอารมณ์ตัวเองหลายครั้งแล้ว...
เกลียดตากับยายตัวเองมากกกกก
เราจะดูเป็นหลานที่อกตัญญูไหม เพราะตอนเขาอยู่บ้านเราแทบไม่มีความสุขเลยอ่ะ เวลาเขาไม่อยู่บ้านะ เราโคตรมีความสุขเลย เป็นตัวของตัวเองสุดๆ
มันมีเหตุผลนะคะที่ทำให้เราคิดแบบนี้
คือ ตายายเราเขาไม่ใช่ตายายเราแท้ๆ แม่เราเป็นลูกของน้องชายยาย งงไหม ไม่งงเนาะ น้องชายยายเราเสียไป ยายเลยเลี้ยงแม่มาแทน (ยายแท้ๆตอนนั้นไม่พร้อมมีลูก เลยเลี้ยงแม่เราไม่ไหว)
ตั้งแต่แม่เราเด็กๆ แม่เราเล่าให้ฟังว่า ตากับยายแทบไม่เลี้ยงแม่เลย เป็นย่าที่เลี้ยงแม่เรามาจนโตแม่เราทำอะไรด้วยตัวเองตั้งแต่เด็ก ทำกับข้าว ล้างจาน เช็ดบ้านถูบ้านดูแลย่า ส่วนยายไม่ทำอะไรเลย ทำผมสวยตลอด กินหรูอยู่แพง ประมาณนี้ ส่วนตาทำงานรับราชการ ไม่ค่อยอยู่บ้าน แม่เราบอกตอนนั้นตาดุมาก แม่ไม่กล้าเถียงตาสักคำ เขาชอบเสียงแข็งและมองตาขใส่
มาปัจจุบันนะคะ
เราตอนเด็ก เวลาพ่อแม่พูดอะไรกันในบ้าน ตากับยายเราจะไม่สบายใจแล้วเรียกเราไปหา ถามว่าพ่อแม่เราว่า อะไรเขารึป่าวให้ เราเล่าาให้ฟังหน่อย แต่คือพ่อแม่เราไม่เคยพูดถึงเขาเลย คือเขาคิดไปเองน่ะค่ะ เราก็เลยบอกเขาไปตรงๆว่า พ่อแม่ไม่ได้พูดอะไร คุยเรื่องงานเฉยๆ บ่นนู้นคุยนี้ไปเรื่อย
แต่เขาก็ยังพูดอีกว่าแบบ ไม่ได้นินทาอะไรจริงๆใช่ไหม (ในใจเราแบบต้องการอะไรจากตรู )
ทุกครั้งเวลาเขาเรียกเราไม่อยากไปหาเลยค่ะ
เราไม่เป็นตัวของตัวเองเลย จะวิ่งจะกระโดด
เสียงดัง กินข้าวดัง เขี้ยวแจ๊บๆ วางช้อนแรง พูด คำว่า ว่ะ ไม่ได้ คือไม่ได้ทุกอย่างเลยค่ะ เหมือนอยู่ รร สอนมารยาทไทย
แล้วเขาก็ชอบน้อยใจว่าทำไมไม่ชอบอยู่กับตากับยาย มากับตากับยายก็ได้หนิ อะไรอย่างงี้ อยากจะบอกไปมากว่าอึดอัด เพราะเราอยู่กับพ่อแม่ เราแกล้งเราหยอกเราเถียงเรากวนตีนเขาได้
แต่กลับเขาเราเถียงไม่ได้สักแอะ แค่ยืนกินซุปไม่ตักใส่ชามยังโดนด่าเหมือนไปฆ่าใครตาย
พอยิ่งโตเราก็เริ่มต่อต้านเขาหนักขึ้น บางทีเขาพูดบางเรื่องจนเราทนไม่ได้ สมมตินะคะ เรานั่งเล่นคอมอยู่ เขาจะยื่นพูดยาวเป็นชั่วโมง เราเงียบอย่างเดียว แต่เขาชอบวกไปวนมา แล้วเอาเรื่องนู้นเรื่องนี้มารวม แบบ "โตไม่มีงานทำแล้วมั้ง มัวแต่เล่นอยู่อย่างงี้ หนูก็คงต้องแบมือขอตังค์พ่อแม่ไปจนโตและ พ่อแม่เราก็เหมือนกัน ไม่สนไม่ห้าม มันแย่แล้วอย่างงี้ มันเป็นอะไรไปแล้วเนี่ย ห้ะ" แล้วก็วกอยู่อย่างงี้เป็นชั่วโมง บ้างคำเขาพูดคือเราโกรธน่ะ เราเลยเถียงกลับไปบ้าง แต่ไม่เคยหยาบ ไม่เคยเสียงดัง ไม่เคยโยนข้าวของ
เขาฟังนะคะ แต่ไม่เคยคิดว่าตัวเองผิดเลย ไม่เคยขอโทษไม่เคยง้อ เราก็ไม่เคยน้อยใจให้เขามาง้อเหมือนกัน เพราะเราไม่สนไม่แคร์เขาอยู่แล้ว เรียกว่ามองเขาเป็นธาตอากาศในบ้านเลยก็ว่าได้ เขาเจ็บเขาป่วย เราไม่รู้สึกอะไรเลย เช็ดตัวให้ ฉีดยา(เบาหวาน)ให้ ทำแผลให้ แต่หน้านิ่งค่ะ ไม่มีความรู้สึกสงสารใดๆทั้งสิ้น ดูแลเพราะหน้าที่อย่างเดียว บอกเลยว่าเราดูเลวมาก
แต่ตอนที่เขาด่าเราก็เกินเรื่องไปมากจนเราทนไม่ไหวอ่ะ เราบอกเลยไม่ต้องมายุ่ง (จำไม่ได้ว่าพูดอะไรแต่น่าจะประมาณนี้เพราะมันนานมากแล้ว) คือไม่คุยกันเป็นปีเลยค่ะ แต่บอกเลยโคตรดีอ่ะ เขาไม่เรียกเราแล้วสบายใจ จนถึงตอนนี้ คุยน้อยกว่าตอนเด็กไปมาก เราก็รู้สึกดีมากที่มันยังเป็นแบบนี้ ให้เขารู้ว่าเราอึดอัดกับเขามาก ตอนนี้เราหนีเขาตลอด เลี่ยงได้คือเลี่ยง เขาอยู่ในครัวทำกับข้าว เราหิวข้าวมากแต่เขาทำอยู่ เราต้มมาม่าเลยค่ะ เขาอยู่หน้าบ้านเราไม่เดินออกจากบ้านเลยค่ะ เขาทำอะไรตรงไหนเราไม่เดินไปแถวนั้นเลย เรียกได้ว่าขอไม่เจอหน้า ไม่อยากให้มองไม่อยากให้พูดด้วย เพราะทุกคำพูดของเขา ถ้าเราพูดผิดหูเขาไปนิดโดนเทศยาว บางอย่างที่เราเถียงแม่กลับไปได้ แต่เราเถียงเขาไม่ได้มันจะทำให้เราอึดอัดค่ะ สุดท้ายก็เลยต้องทำอย่างงี้
ตอนหนึ่งตาเคยเอาเข็มขัดเราไปติดกาวกับห่วงของเข็มขัด แต่คือมันต้องเลื่อนไปมาตามเอวอยู่แล้วไง ตอนนั้นโกรธมากเพราะตอนเช้ารีบ แต่ดีที่กาวมันดึงง่าย กลับบ้านมาเราก็ถามเขาติดกาวทำไม เขาก็บอกเดี๋ยวห่วงมันหาย (แต่ละวันเอวเราเดี๋ยวใหญ่เดี๋ยวเล็ก เป็นคนอ้วนง่ายผอมง่าย)นั้นแหละค่ะ งงตรรกะเขามาก แต่ตอนนั้นมันเย็นแล้ว เราไม่ได้โกรธแล้ว แค่ถามเฉยๆ
เอาจริงๆเราเป็นคนหัวร้อนง่ายมาก ไม่น่าเชื่อเลยคะว่าทนอยู่กับเขาจนโตได้ ในหัวนี้คิดซื้อบ้านตลอดเวลา อยากโตเร็วอยากออกจากบ้านนี้ พ่อแม่เราเคยจะซื้อวิลล่าอยู่ เขาไม่ให้ไป ไอตอนแรกเราไม่รู้เรื่องนี้ นึกว่าพ่อแม่ไม่มีเงินซื้อบ้าน ก็แบบอยู่ไปก็ทรมาน รั้งไว้ทำไม ถ้าเขาเปิดกว้างมากกว่านี้เราอยู่กับเขาได้น่ะแต่นี้นิดๆหน่อยๆก็ไม่ได้ ทุกอย่างคือเขาต้องถูก เขาไม่เคยผิด เขาใช้ซัมซุง เล่นไลน์ เล่นยูทูป เล่นเกม แต่มันไม่ได้ทำให้เขาเปิดกว้างเลยค่ะ ยังเป็นเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ น่ารำคาญมากกว่าเดิม เปิดนู้นนี้เสียงดัง มือถือเล่นไม่ได้มาถามอยู่ตลอด คือเรารำคาญค่ะ
เรื่องด่า
เวลาเขาด่าเรา เราทนได้น่ะ(อย่าเรียกว่าชิน เรียกว่าต้องกัดฟันทน) แต่ตอนที่ด่ามันเป็นคำที่แรงมากๆ จริงๆคือไม่เจ็บหรอก แต่มันโกรธที่บางคำมันไม่เกี่ยวกับเรื่องที่เราทำผิดเลยสักกะนิดเดียว
สมมติน่ะ เหมือนเรา เผลอเหยีบเท้าเพื่อน แล้วเพื่อด่ากลับมาว่า ไปตายซะ พ่อตาย สันดานหมา ไรงี้ โกรธป่ะ ตายายเราก็ประมาณนี้ เขาด่าได้เป็นชั่วโมง และคนที่ทนไม่ได้ที่สุดจนต้องพูดอะไรไปเป็นเราเสมอ เราหัวร้อนที่สุดในบ้าน เราเป็นคนไม่ชอบอยู่ในกรอบอยู่แล้ว เราเป็นคนเดียวในบ้านที่ทำให้เขาเริ่มรู้ตัวว่าทำเกินไปน่ะบางครั้ง
ขอเล่าวีรกรรมเขาต่อ ตอนนั้นพี่เรากำลังจะไปเรียน ตื่นสายจะรีบไป แต่ยายกับตาเขาทำสุกี้ โดยที่ไม่ได้บอกใครน่ะทำกันอยู่สองคน เรายังไม่รู้เลย แล้วพอเขาจัดอะไรเสร็จบอกให้พี่เราไปกิน แต่คือพี่เราจะรีบไป มอ. พี่เราเลยบอกไม่กินครับรีบไปมอ. ยายก็ยังยื้อ พี่เราก็บอกรีบไปมอ ยายโกรธพี่เราเลย ถามพี่เรา "อ้าว ทำไมอ่ะ กินสุกี้แค่นี้ไม่ได้เหรอ เตรียมไว้ให้แล้ว นี้เห็นยายเป็นอะไร เดี๋ยวนี้เป็นอย่างงี้หรอ ไม่เห็นหัวกันแล้ว" คือไม่ได้บอกอะไรเลยเขาเตรียมเองเออเอง พอคนไม่กินของเขาแล้วมาโกรธ พี่เราก็บอกอยู่ว่ารีบไปมอ ตอนนั้นคือพี่เราอยากเถียงมากน่ะ แต่เขายังเก็บอารมณ์อยู่ เป็นคนอื่นพี่เราซัดหน้าไปแล้ว แต่รู้เลยว่าตอนนั้นพี่เราฟิวขาดมาก ดีที่แฟนพี่อยู่ด้วยเลยเคลียให้ อยู่บ้านเหมือนสงครามเย็นเลยอะค่ะบ้านเราไม่เคยทะเลาะกันเสียงดัง แต่แต่ละคำคือมันน่าโมโห มันจะด่ากลับก็ไม่ได้ทั้งชีวิตไม่เคยหยาบกับเขาเลยซักครั้ง มันโคตรอึดอัด เหมือนอยู่กับระเบิดเวลาเลย ที่เลี่ยงเขาตลอดเพราะกลัวทะเลาะเรายิ่งขี้หงุดหงิดง่ายอยู่ด้วย แม่เราบอกเสมอว่าอย่าไปเถียงเขาเลยเขาแก่แล้ว ทนๆไปเถอะ เขารักหนูแหละ รู้แหละว่ารัก แต่การกระทำเขามันไม่น่ารักเลย เขาซื้อของให้เราน่ะ แต่ซื้อที พูดประมาณสามสิบรอบ สมมติซื้อ นาฬิกาให้ ทวงบุญคุณตลอด "เนี่ยซื้อนาฬิกาให้อย่างู้นอย่างงี้ หนูเนี่ยหัดทำดีกับตาบ้าง " เออ คือพ่อแม่ซื้ออะไรให้เรามากมายยังไม่เคยทวงบุญคุณเลย มันโคตรน่ารำคาญอ่ะ ที่สำคัญเราไม่เคยขอด้วยเขาอยากซื้อให้เองถ้าไม่ยอมให้เขาซื้อคือโกรธ น้อยใจ งอน พอเราได้ของก็จะพูดไปทั่ว ว่าซื้อนุ้นนี้ให้ ทวงบุญคุณตลอด
ทำไงดีค่ะ เราอึดอัดมาก ถ้าจะให้เราวีรกรรมตากับยายเราน่ะ เล่าสามปีก็ไม่หมดมันเยอะมากจริงๆ มีเรื่องที่น่าหงุดหงิดกว่านี้อีกเยอะ ที่สำคัญชอบคิดว่าตัวเองเป็นคนสำคัญทุกคนต้องเคารพเขา เขาพูดอะไรก็ได้เขาเป็นผู้ใหญ่ เสียงดังอะไรก็ได้ ชอบทำเป็นสนิทสนมกับลูกหลานเอาเรื่องเก่าๆสมัยพ่อขุนรามมาเล่าว่าอุ้มตอนเด็กๆอะไรอย่างงี้ เหมือนเป็นตาที่ หลานรักมาก อยู่ต่อหน้าคนอื่น ว่าเราเสียๆหายๆ ทำตัวเหมือนคนขี้เกรงใจ แต่คนอื่นเขาดูออกแหละ ที่ญาติเราไม่เคยว่าเขาเพราะรู้นิสัยเขานั้นแหละ และอีกอย่างที่ญาติๆเราต้องเข้าหาเขาเพราะ เขาสองคนเก็บเงินเก่งมากมีเงินเยอะมาก แม่เราเป็นลูกน้องชายเขาแท้ๆ ยืมเงินยังต้องผ่อนทุกเดือน มีดอกเบี้ยด้วย
สำหรับเรารู้สึกไม่โอเค เพราะถ้าเป็นหลานเราน่ะ จะจ่ายคืนตอนไหนก็ได้ แต่นี่เขากลัวแม่เราไม่ยอมจ่าย(ทั้งๆที่อยู่บ้านเดียวกัน) ทำหนังสือสัญญาเลยค่ะ คือยังไงอ่ะ สำหรับเรามันดู เขางกมากอ่ะ ตายไปเขาก็ใช้ไม่หมดอ่ะ ฝากเงินให้เราปีละ1000 ตอนหลังปีละ500 ปีน่ะไม่ใช่เดือน อันนี้เราไม่ว่าอะไรหรอกจะให้ไม่ให้ก็ไม่เป็นไร แต่คือเขาฝากให้เองตั้งแต่เราทารกแล้วมาทวงบุญคุณ บอก"เนี่ยฝากเงินให้น่ะ หนูก็ทำตัวดีๆหน่อย"และก็ นู่นนั้นนี้ บลาๆไม่จบไม่สิ้น ถ้าบอกว่าไม่ต้องการ โดนด่าร้อยเปอร์เซ็นต์
ทำไงดีอ่ะ เกิดมาพ่อแม่เราอบอุ่นและสอนเราดีมาก แม่เราที่โตมากับตายาย เขาเข้าใจเรามาก เขาเลยเลี้ยงเราให้เป็นอิสระมากๆ
ตอนนี้รู้สึกบ้านเรามีสองขั้วอ่ะ ฝั่งหนึ่งอยู่แล้วมีความสุข อีกฝั่งหนึ่งเดินไปหาที่ไร อึดอัดจนหายใจไม่ออกทุกที (เป็นคนถ้าอึดอัดแล้วจะชอบกลั้นหายใจ หายใจไม่ค่อยออก นิ่งเป็นโรบอทเลย) ทำไงดีคะ ไม่อยากอยู่บ้านนี้แล้ว
ตอนนี้เราอายุ 17 ถึงเรายังเด็กแต่เราคิดทบทวนกับตัวเองตลอด 17ปี ว่าทำไมถึงไม่ผูกพันกับเขาสักที เราก็ได้คำตอบ ก็คือเรารักอิสระไม่ชอบให้ใครมาบังคับมายุ่ง แต่คนอย่างเราต้องติดอยู่อย่างงี้เพราะไปไหนไม่ได้ กว่าจะโตเราคงอกแตกตายพอดี อยากพูดออกไปกับเขาประโยคหนึ่งว่า "รีบๆ ออกไปจากชีวิตหนูสักที หนูรำคาญ"
เอาง่ายๆคือรีบๆลาโลกเถอะค่ะ เราคิดถึงภาพงานศพเขาเลยด้วยซ้ำ เราคิดว่า "ตอนนั้นฉันจะร้องไห้ไม่น่ะ" โคตรเป็นหลานเลวเลยอ่ะค่ะ ทำไงดี หยุดคิดอย่างงี้ไม่ได้เลย พยายามห้ามอารมณ์ตัวเองหลายครั้งแล้ว...