เกริ่นก่อน ต้องบอกก่อนว่าตัวเองไม่ได้ขายเครื่องฟอกอากาศยี่ห้อใดทั้งสิ้น จึงไม่ต้องทักหลังไมค์เพื่อเข้ามาซื้อนะครับ 555
รีวิวนี้จะเป็นรีวิวจริงที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง ไม่มี Sponsor จากบริษัทใดๆทั้งสิ้น รับประกัน แต่ต้องการแชร์สิ่งที่ศึกษาผลิตภัณฑ์และนำมาสรุป สำหรับคนที่ไม่มีเวลาหาข้อมูลว่า การเลือกเครื่องฟอกอากาศ ดูที่อะไรบ้าง โดยจะสรุปเลยนะครับ ให้ดู 3 ข้อนี้
1. ความเร็วที่ทำให้อากาศบริสุทธิ์ หรือ CADR ส่วนใหญ่จะใช้หน่วย cfm หรือ ลบ.ฟุต / นาที (ตัวเลขยิ่งมากยิ่งดี) เป็นค่าที่ไว้บอกว่า ใช้เวลานานเท่าไรเพื่อให้อากาศบริสุทธิ์หลังเครื่องทำงาน
2. ความละเอียดการกรองว่ากรองได้ละเอียดระดับกี่ไมครอน โดย Pm 2.5 คือ ฝู่น 2.5 ไมครอนนั่นเอง แต่ว่าจริงๆแล้วนั้นอนุภาคที่ขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนก็ยิ่งอันตราย ดังนั้นเราควรเลือกยิ่งฟอกละเอียดได้เท่าไรยิ่งดี ( ตัวเลขยิ่งน้อยยิ่งดี ) มาดูว่าอนุภาคขนาดเล็ก แต่ละขนาด ส่งผลต่ออวัยวะเราที่ส่วนไหนบ้าง
กดดูรูปประกอบ
https://imgur.com/MCYEZ5X
3. ได้รับมาตราฐานจากที่ไหน HEPA ไหม และที่ ได้รับมาตราฐาน ได้ระดับกี่ไมครอน (ยิ่งเล็กยิ่งดี)
เทียบ Spec ความสามารถเครื่องกรองอากาศ ให้กันเห็นๆ ที่คนจะซื้อเครื่องฟอกอากาศควรดู ดังนี้
1. IQAir เครื่องฟอกอากาศ รุ่น HealthPro 250 จัดเป็นตัวโหด
เครื่องฟอกอากาศ IQAir คุณภาพสูงจากสวิสเซอร์แลนด์ เครื่องฟอกอากาศเทคโนโลยี HyperHEPA สามารถกรองอนุภาคที่มีขนาดเล็กมากๆได้เล็กกว่า 0.003 ไมครอน ใช้กับพื้นที่ห้องได้ถึง 75 ตารางเมตร - 104.5 ตารางเมตร
(The CADR of IQAir HealthPro Plus is 300 cfm overall. With the New Edition fan, IQAir HealthPro Plus can deliver up to 41% more clean air. This CADR rating can be as high as 776 cfm, but only in the standard conditions.)
โหดจริงๆ กับยี่ห้อนี้
เผื่อใครสนใจอ่านเพิ่มเติมยี่ห้อนี้ :
https://breathequality.com/iqair-healthpro-plus-review/#a4
กดดูรูปประกอบ
https://imgur.com/a2Frmvr
จากรูปจะมีคำอธิบายว่า ทำไมยี่ห้ออื่นไม่พูดถึงการกรองแบบ Ultrafine เพราะว่า อนุภาค Ultrafine ทำให้ยี่ห้อนั้นๆด้อยความสามารถไปเลยทีเดียว
2. ตัวโหด Atmosphere sky ของ Amway
CADR หรืออัตราที่ทำให้อากาศบริสุทธิ์ สูงถึง 300 ลบ.ฟุต / นาที และความละเอียดการกรองมาตราฐาน HEPA ทำได้สูงมาก สูงถึง 0.0024 ไมครอน ทำให้กรองอนุภาคได้มากถึง 327 ชนิด
3. Xiaomi Mi Air Purifier Pro ตัวนี้ฮิตกันเพราะราคาถูก แต่มาตราฐาน Hepa ที่ 0.3 ไมครอน ( ยิ่งเล็กยิ่งดี ) ซึ่งยังไม่สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กและ Virus ได้
4. Dyson Pure Cool™ purifying tower fan TP04
มาตราฐาน HEPA ที่ 0.1 ไมครอน ( ยิ่งเล็กยิ่งดี )
5. BWELL เครื่องฟอกอากาศ (60 ตร.ม.) รุ่น PM1330 (แผ่นกรอง HEPA: ดักจับฝุ่นละอองได้ 99.97% ที่มีขนาดเล็กถึง 0.01 ไมครอน เช่น ฝุ่น ละอองเกสร เชื้อรา สะเก็ดผิวหนังสัตว์ ไรฝุ่น สารก่อภูมิแพ้จากแมลงสาบ และสารก่อภูมิแพ้อื่นๆ)
6. Unicity Bios Life Air (แผ่นกรองฟิลทรีตท์ รุ่นคุณภาพสูงนี้สามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็กๆ ได้ถึง 0.01 ไมครอน สามารถดักจับฝุ่นละลองชนิดต่างๆ เชื้อรา แบคทีเรีย และเชื้อไวรัสบางชนิดที่อยู่ในอากาศได้ละเอียดมากถึง 99%)
ถึงแม้ว่าทางการแพทย์จะบอกว่า จมูกและปอดของเราสามารถกรองอากาศได้ แต่ก็ไม่สามารถกรองอากาศที่มีขนาดเล็กกว่า 5 ไมครอนอยู่ดี
ปล. ไม่ได้เป็นคนขายเครื่องฟอกอากาศนะ แต่ออกมารีวิว ในบรรดา 6 ยี่ห้อที่นำมารีวิวนั้น สรุปได้ว่า Xiaomi นั้นด้อยที่สุดเลย ห่วยที่สุด ส่วนใหญ่แบรนด์จีน ใช้ราคาล่อ แต่หมกเม็ดคุณสมบัติ ไม่ได้ออกมาอธิบายถึงความละเอียดแต่ละอนุภาคว่าส่งผลอย่างไรต่อร่างกาย และXiaomi กรองได้แค่ 0.3 เท่านั้น
อย่างน้อยถ้าจะซื้อเลยนะ ควรจะมีกรองละเอียด 0.1 ไมครอน มากสุด และ ซื้อที่กรองได้ละเอียดขึ้นตามกำลังงบของแต่ละคน
ข้อมูลนี้นำเสนอสำหรับเผื่อว่าคนมีกำลังซื้อ แต่แบบชอบของถูก ก็จงระวัง จำไว้ว่า "อะไรที่ถูกมักมี Something เสมอๆ" มันยากมากๆๆๆที่จะเจอของถูกและดีจริงๆ ซึ่งยุคนี้เป็นยุคที่สินค้าออกมามากเหลือเกิน โดยเฉพาะสินค้าจีนที่ทะลักออกมา เพื่อทำราคาถูก แต่ที่ทำราคาถูกได้ มันมีอะไรหลายๆอย่างซ่อนไว้อยู่ เพราะเขารู้ว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่อ่านละเอียดแน่นอน เลือกที่ราคาไว้ก่อน แมกระทั่งคนที่มีกำลังซื้อปัจจุบันก็มีเวลาน้อย จนลืมไปว่า ของถูกและดี มันแทบไม่มีอยู่จริง ถ้าคนมีกำลังก็ซื้อดีๆไปเลยดีกว่าครับ จบกว่า ปลอดภัยกว่า ครบกว่า หมกเม็ดน้อยกว่ามากครับ
รูปประกอบเพิ่มเติมว่าฝุ่นแต่ละอนุภาคหมายถึงอะไรบ้าง
https://imgur.com/1LizKig
https://imgur.com/sd27RWq
https://imgur.com/8H1M48A
**ทั้งนี้มีหลายคนโดนหลอกเกี่ยวกับสินค้าหลายอย่าง เพราะข้อมูลส่วนใหญ่มี Sponsor บ้างข้อมูลจากผู้ขายบ้างแต่ผู้เขียนได้สร้างเพจขึ้นมาเพื่อตีแผ่รีวิวของจริงเท่านั้น ข้อมูลจริง แฉจริงเราจะตีแผ่รีวิวเปรียบเทียบแบบนี้ให้เห็นชัดๆ เพื่อกรองสินค้าไม่ดีไม่ได้เรื่องไม่ควรซื้อออกไป
ฝากเพื่อนๆ กดLike ติดตามด้วยครับ พึ่งสร้างสดๆร้อนๆ **
https://www.facebook.com/ไฮโซเดินดิน-รีวิวทุกส่งอย่างแบบแท้จริงเท่านั้น-118088039592805
สำหรับ คนที่บอกว่า กันให้ตาย ออกไปข้างนอกก็โดนอากาศแย่ๆอยู่ดี อ่านที่นี่ครับ
จะบอกว่าจริงครับ จะฟอกให้สะอาดเอี่ยมในห้อง ออกไปก็เจออากาศแย่ๆอยู่ดี
รักษาสุขภาพแทบตาย สุดท้าย ตายที่รถชนอยู่ดี
คือสิ่งที่กำลังจะสื่อคือ ถ้ามีกำลังและเราก็รู้ว่าของไหนดี ของไหนไม่ดี กำลังพอ เราก็ซื้อ มาปกป้องช่วงเวลาที่เราสามารถปกป้องได้ครับ เราไม่ได้อยู่เกาะปลอดเชื้อนานๆเป็นปี เป็นหลายปี ออกมาเจอเชื้อไม่ได้เลยครับ คนตายจากปอดนี่เยอะมาก
จะบอกว่าช่วงเวลาที่เราอยู่ห้อง ไม่รู้กี่ชั่วโมง ถ้า clean ที่สุดได้มันก็ควรครับ กันไวรัส กันแบคทีเรีย กันภูมิแพ้ กันฝุ่น บางทีมีคนอื่นเป็นหวัดเข้าห้องก็จะได้กันได้ โรงพยาบาลเขาก็ใช้เพื่อการนี้เช่นกัน เขาสั่งทีเป็นร้อยตัว สิ่งที่กำลังจะสื่อคือ "ถ้ากำลังพอ กำลังไหว เราก็แค่ศึกษาเลือกตัวที่ดีที่สุด คนมีกำลังส่วนใหญ่มองข้ามราคาอยู่แล้ว เช่นคนจะซื้อกระเป๋า Hermes เขาไม่สนหรอกครับว่ามันจะราคาเท่าไร ถ้ามันดี มันมี Value เขาก็ซื้อ" เราแค่ป้องกันช่วงเวลาเราอยู่ห้อง เราหลับ เพราะร่างกายเรารับเชื้อ รับฝุ่น มาจากภายนอก จากอากาศมามากเกินพอแล้ว เราก็ควรมีเวลาให้ร่างกายได้ฟื้น ได้ clear ได้สดชื่นบ้าง
ทั้งนี้อย่าเอาของถูกมาบอกว่าทำได้เหมือนของราคาสูง มันต่างกันครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อยู่ที่งบและการจัดสรรงบแต่ละคน กำลังน้อยก็จัดตัวถูกๆหน่อย ก็ยังดีกว่าไม่มี กำลังสง ก็จัดดีๆไปเลยครับ เพ่อสุขภาพ
ทั้งนี้อยู่ที่กำลังของคนจริงๆครับ แต่อย่างประเด็นของ คุณ CORE
https://ppantip.com/topic/32430216 ก็น่าสนใจ แต่ถ้าเอาจริงๆ ถ้ากันได้ ปรกตินัก Marketing ไม่น่าพลาด ปล่อยให้ Brand คู่แข่งใช้แน่ๆ มันต้องมี Something กว่านั้นครับ แต่ก็ถือว่าเป็นประเด็นที่น่าสนใจ
เมื่อมีตัวที่ร้ายกว่า PM2.5 ซะอีก จึงจะขอแชร์ความรู้เครื่องฟอกอากาศหลายๆยี่ห้อไว้ให้เพื่อนๆตัดสินใจก่อนซื้อ คุ้มเวลาอ่าน
รีวิวนี้จะเป็นรีวิวจริงที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง ไม่มี Sponsor จากบริษัทใดๆทั้งสิ้น รับประกัน แต่ต้องการแชร์สิ่งที่ศึกษาผลิตภัณฑ์และนำมาสรุป สำหรับคนที่ไม่มีเวลาหาข้อมูลว่า การเลือกเครื่องฟอกอากาศ ดูที่อะไรบ้าง โดยจะสรุปเลยนะครับ ให้ดู 3 ข้อนี้
1. ความเร็วที่ทำให้อากาศบริสุทธิ์ หรือ CADR ส่วนใหญ่จะใช้หน่วย cfm หรือ ลบ.ฟุต / นาที (ตัวเลขยิ่งมากยิ่งดี) เป็นค่าที่ไว้บอกว่า ใช้เวลานานเท่าไรเพื่อให้อากาศบริสุทธิ์หลังเครื่องทำงาน
2. ความละเอียดการกรองว่ากรองได้ละเอียดระดับกี่ไมครอน โดย Pm 2.5 คือ ฝู่น 2.5 ไมครอนนั่นเอง แต่ว่าจริงๆแล้วนั้นอนุภาคที่ขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนก็ยิ่งอันตราย ดังนั้นเราควรเลือกยิ่งฟอกละเอียดได้เท่าไรยิ่งดี ( ตัวเลขยิ่งน้อยยิ่งดี ) มาดูว่าอนุภาคขนาดเล็ก แต่ละขนาด ส่งผลต่ออวัยวะเราที่ส่วนไหนบ้าง
กดดูรูปประกอบ https://imgur.com/MCYEZ5X
3. ได้รับมาตราฐานจากที่ไหน HEPA ไหม และที่ ได้รับมาตราฐาน ได้ระดับกี่ไมครอน (ยิ่งเล็กยิ่งดี)
เทียบ Spec ความสามารถเครื่องกรองอากาศ ให้กันเห็นๆ ที่คนจะซื้อเครื่องฟอกอากาศควรดู ดังนี้
1. IQAir เครื่องฟอกอากาศ รุ่น HealthPro 250 จัดเป็นตัวโหด
เครื่องฟอกอากาศ IQAir คุณภาพสูงจากสวิสเซอร์แลนด์ เครื่องฟอกอากาศเทคโนโลยี HyperHEPA สามารถกรองอนุภาคที่มีขนาดเล็กมากๆได้เล็กกว่า 0.003 ไมครอน ใช้กับพื้นที่ห้องได้ถึง 75 ตารางเมตร - 104.5 ตารางเมตร
(The CADR of IQAir HealthPro Plus is 300 cfm overall. With the New Edition fan, IQAir HealthPro Plus can deliver up to 41% more clean air. This CADR rating can be as high as 776 cfm, but only in the standard conditions.)
โหดจริงๆ กับยี่ห้อนี้
เผื่อใครสนใจอ่านเพิ่มเติมยี่ห้อนี้ : https://breathequality.com/iqair-healthpro-plus-review/#a4
กดดูรูปประกอบ https://imgur.com/a2Frmvr
จากรูปจะมีคำอธิบายว่า ทำไมยี่ห้ออื่นไม่พูดถึงการกรองแบบ Ultrafine เพราะว่า อนุภาค Ultrafine ทำให้ยี่ห้อนั้นๆด้อยความสามารถไปเลยทีเดียว
2. ตัวโหด Atmosphere sky ของ Amway
CADR หรืออัตราที่ทำให้อากาศบริสุทธิ์ สูงถึง 300 ลบ.ฟุต / นาที และความละเอียดการกรองมาตราฐาน HEPA ทำได้สูงมาก สูงถึง 0.0024 ไมครอน ทำให้กรองอนุภาคได้มากถึง 327 ชนิด
3. Xiaomi Mi Air Purifier Pro ตัวนี้ฮิตกันเพราะราคาถูก แต่มาตราฐาน Hepa ที่ 0.3 ไมครอน ( ยิ่งเล็กยิ่งดี ) ซึ่งยังไม่สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กและ Virus ได้
4. Dyson Pure Cool™ purifying tower fan TP04
มาตราฐาน HEPA ที่ 0.1 ไมครอน ( ยิ่งเล็กยิ่งดี )
5. BWELL เครื่องฟอกอากาศ (60 ตร.ม.) รุ่น PM1330 (แผ่นกรอง HEPA: ดักจับฝุ่นละอองได้ 99.97% ที่มีขนาดเล็กถึง 0.01 ไมครอน เช่น ฝุ่น ละอองเกสร เชื้อรา สะเก็ดผิวหนังสัตว์ ไรฝุ่น สารก่อภูมิแพ้จากแมลงสาบ และสารก่อภูมิแพ้อื่นๆ)
6. Unicity Bios Life Air (แผ่นกรองฟิลทรีตท์ รุ่นคุณภาพสูงนี้สามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็กๆ ได้ถึง 0.01 ไมครอน สามารถดักจับฝุ่นละลองชนิดต่างๆ เชื้อรา แบคทีเรีย และเชื้อไวรัสบางชนิดที่อยู่ในอากาศได้ละเอียดมากถึง 99%)
ถึงแม้ว่าทางการแพทย์จะบอกว่า จมูกและปอดของเราสามารถกรองอากาศได้ แต่ก็ไม่สามารถกรองอากาศที่มีขนาดเล็กกว่า 5 ไมครอนอยู่ดี
ปล. ไม่ได้เป็นคนขายเครื่องฟอกอากาศนะ แต่ออกมารีวิว ในบรรดา 6 ยี่ห้อที่นำมารีวิวนั้น สรุปได้ว่า Xiaomi นั้นด้อยที่สุดเลย ห่วยที่สุด ส่วนใหญ่แบรนด์จีน ใช้ราคาล่อ แต่หมกเม็ดคุณสมบัติ ไม่ได้ออกมาอธิบายถึงความละเอียดแต่ละอนุภาคว่าส่งผลอย่างไรต่อร่างกาย และXiaomi กรองได้แค่ 0.3 เท่านั้น
อย่างน้อยถ้าจะซื้อเลยนะ ควรจะมีกรองละเอียด 0.1 ไมครอน มากสุด และ ซื้อที่กรองได้ละเอียดขึ้นตามกำลังงบของแต่ละคน
ข้อมูลนี้นำเสนอสำหรับเผื่อว่าคนมีกำลังซื้อ แต่แบบชอบของถูก ก็จงระวัง จำไว้ว่า "อะไรที่ถูกมักมี Something เสมอๆ" มันยากมากๆๆๆที่จะเจอของถูกและดีจริงๆ ซึ่งยุคนี้เป็นยุคที่สินค้าออกมามากเหลือเกิน โดยเฉพาะสินค้าจีนที่ทะลักออกมา เพื่อทำราคาถูก แต่ที่ทำราคาถูกได้ มันมีอะไรหลายๆอย่างซ่อนไว้อยู่ เพราะเขารู้ว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่อ่านละเอียดแน่นอน เลือกที่ราคาไว้ก่อน แมกระทั่งคนที่มีกำลังซื้อปัจจุบันก็มีเวลาน้อย จนลืมไปว่า ของถูกและดี มันแทบไม่มีอยู่จริง ถ้าคนมีกำลังก็ซื้อดีๆไปเลยดีกว่าครับ จบกว่า ปลอดภัยกว่า ครบกว่า หมกเม็ดน้อยกว่ามากครับ
รูปประกอบเพิ่มเติมว่าฝุ่นแต่ละอนุภาคหมายถึงอะไรบ้าง
https://imgur.com/1LizKig
https://imgur.com/sd27RWq
https://imgur.com/8H1M48A
**ทั้งนี้มีหลายคนโดนหลอกเกี่ยวกับสินค้าหลายอย่าง เพราะข้อมูลส่วนใหญ่มี Sponsor บ้างข้อมูลจากผู้ขายบ้างแต่ผู้เขียนได้สร้างเพจขึ้นมาเพื่อตีแผ่รีวิวของจริงเท่านั้น ข้อมูลจริง แฉจริงเราจะตีแผ่รีวิวเปรียบเทียบแบบนี้ให้เห็นชัดๆ เพื่อกรองสินค้าไม่ดีไม่ได้เรื่องไม่ควรซื้อออกไป
ฝากเพื่อนๆ กดLike ติดตามด้วยครับ พึ่งสร้างสดๆร้อนๆ **
https://www.facebook.com/ไฮโซเดินดิน-รีวิวทุกส่งอย่างแบบแท้จริงเท่านั้น-118088039592805
สำหรับ คนที่บอกว่า กันให้ตาย ออกไปข้างนอกก็โดนอากาศแย่ๆอยู่ดี อ่านที่นี่ครับ
จะบอกว่าจริงครับ จะฟอกให้สะอาดเอี่ยมในห้อง ออกไปก็เจออากาศแย่ๆอยู่ดี
รักษาสุขภาพแทบตาย สุดท้าย ตายที่รถชนอยู่ดี
คือสิ่งที่กำลังจะสื่อคือ ถ้ามีกำลังและเราก็รู้ว่าของไหนดี ของไหนไม่ดี กำลังพอ เราก็ซื้อ มาปกป้องช่วงเวลาที่เราสามารถปกป้องได้ครับ เราไม่ได้อยู่เกาะปลอดเชื้อนานๆเป็นปี เป็นหลายปี ออกมาเจอเชื้อไม่ได้เลยครับ คนตายจากปอดนี่เยอะมาก
จะบอกว่าช่วงเวลาที่เราอยู่ห้อง ไม่รู้กี่ชั่วโมง ถ้า clean ที่สุดได้มันก็ควรครับ กันไวรัส กันแบคทีเรีย กันภูมิแพ้ กันฝุ่น บางทีมีคนอื่นเป็นหวัดเข้าห้องก็จะได้กันได้ โรงพยาบาลเขาก็ใช้เพื่อการนี้เช่นกัน เขาสั่งทีเป็นร้อยตัว สิ่งที่กำลังจะสื่อคือ "ถ้ากำลังพอ กำลังไหว เราก็แค่ศึกษาเลือกตัวที่ดีที่สุด คนมีกำลังส่วนใหญ่มองข้ามราคาอยู่แล้ว เช่นคนจะซื้อกระเป๋า Hermes เขาไม่สนหรอกครับว่ามันจะราคาเท่าไร ถ้ามันดี มันมี Value เขาก็ซื้อ" เราแค่ป้องกันช่วงเวลาเราอยู่ห้อง เราหลับ เพราะร่างกายเรารับเชื้อ รับฝุ่น มาจากภายนอก จากอากาศมามากเกินพอแล้ว เราก็ควรมีเวลาให้ร่างกายได้ฟื้น ได้ clear ได้สดชื่นบ้าง
ทั้งนี้อย่าเอาของถูกมาบอกว่าทำได้เหมือนของราคาสูง มันต่างกันครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อยู่ที่งบและการจัดสรรงบแต่ละคน กำลังน้อยก็จัดตัวถูกๆหน่อย ก็ยังดีกว่าไม่มี กำลังสง ก็จัดดีๆไปเลยครับ เพ่อสุขภาพ
ทั้งนี้อยู่ที่กำลังของคนจริงๆครับ แต่อย่างประเด็นของ คุณ CORE https://ppantip.com/topic/32430216 ก็น่าสนใจ แต่ถ้าเอาจริงๆ ถ้ากันได้ ปรกตินัก Marketing ไม่น่าพลาด ปล่อยให้ Brand คู่แข่งใช้แน่ๆ มันต้องมี Something กว่านั้นครับ แต่ก็ถือว่าเป็นประเด็นที่น่าสนใจ