สิ่งที่ควรรู้หากจะเสพ "สามก๊ก" /- รู้ว่าคนสมัยก่อนทรงภูมิปัญญา  /- เข้าใจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

ศึกษาสามก๊ก เข้าใจโลก เข้าใจชีวิต



เห็นหลายๆผู้เชี่ยวชาญที่เผยแพร่ความรู้เรื่อง "สามก๊ก" เนี่ย มักต้องเกริ่นสร้างความเข้าใจให้ผู้ศึกษารู้และเข้าใจสภาพสังคมและผู้คนสมัยนั้นซะก่อน  

ซึ่งผมเห็นว่าถูกต้องครับที่ต้องย้ำให้คนสมัยนี้เข้าใจและมีมโนภาพให้ถูกก่อน เพราะคนสมัยนี้เวลานึกถึงอะไรที่มันโบราณ ก็จะนึกไปถึงความโง่เขลา ความไม่เจริญ  นี่เป็นเพราะการไม่มีความรู้ความเข้าใจในประวัติศาสตร์  

คนสมัยก่อนฉลาดมีปัญญามากนะครับ และสำหรับผมอยากพูดให้ชัดด้วยว่า สติปัญญาของคนสมัยก่อนสูงกว่าคนยุคนี้ คือสมมุติถ้าเขาได้เดินทางข้ามเวลามาอยู่ยุคนี้ มาเรียนรู้เทคโนโลยีเครื่องไม้เครื่องมือ เขาจะเป็นอัจฉริยะที่สามารถพัฒนาโลกนี้ได้อย่างรวดเร็วเลยครับ  แต่สำหรับคนยุคนี้ต่างหากครับที่สติปัญญาด้อยลง เท่าที่ผมประเมินนะ เด็กยุคใหม่นี่เห็นได้ชัด ความรู้ก็ลดลง ไอคิวก็ด้อยลง ความฉลาดก็น้อยลง (ไอคิวกับความฉลาดนี่คนละส่วนกัน) สมัยนี้ร้องเพลงเต้นกันเป็นอย่างเดียวครับ ตัวหนังสือก็อ่านได้ไม่เกิน 3 บรรทัด (นี่ถ้าเป็นสมัยก่อนก็เทียบได้กับชนเผ่าที่ห่างไกลอารยธรรม หมักน้ำเมาแล้วร้องเพลงเต้นในปาร์ตี้รอบกองไฟอย่างเดียว)

ลองดูแค่นักประพันธ์สมัยก่อนอย่าง "หลัว กวั้นจง" ที่แต่งตำราสามก๊กนี่ก็ถือว่าสร้างงานชิ้นสุดยอดจริงๆครับ จริงๆมันมีแค่ข้อมูลประวัติศาสตร์จดหมายเหตุของชีวประวัติและเหตุการณ์เล็กๆน้อยๆ แต่หลัว กวั้นจงสามารถหยิบเอาข้อมูลตรงนั้นมาประดิษฐ์เรียบเรียงในเป็นสุดยอดวรรณกรรม

แล้วมาดูสมัยนี้ แค่แต่งหนังสือ "Harry Potter" ขึ้นมาก็รวยแล้ว เทพสุดๆแล้ว  ซึ่งถ้าเทียบแล้วรายละเอียดและความซับซ้อนของเนื้อหามันต่างกันคนละชั้น (วรรณกรรมที่รายละเอียดเยอะที่สุดในปัจจุบันก็คือชุด "A song of Ice and Fire" ของ G.Martin แต่มันก็จะคือการเอาระบบ Dynasty โบราณมาสร้างจินตนาการเป็นแฟนตาซี ตอนนี้ยังหาทางจบไม่ได้นะครับ ต้องรอลุ้นกัน)



คนยุคนี้ชอบไปมโนภาพว่าคนสมัยก่อน ปัญญาน้อย ฉลาดน้อย เพราะไปดูจากเทคโนโลยี สมัยนี้มีตึกอาคาร มีห้องน้ำห้องส้วม มีไฟฟ้า มีเครื่องยนตร์ พาหนะเลิศล้ำ ไปนอกโลกได้ แต่จริงๆสิ่งเหล่าเนี้ย มันเกิดมาจากการค่อยๆพัฒนา ปีละเล็กละน้อย โดยเอาภูมิปัญญาความรู้ของคนสมัยก่อนมาเป็นรากฐาน เคมี (มาจากคำว่า Chemeia ภาษาอียิปต์โบราณ), คณิตศาสตร์ (ยูคลิด, พีทาโกรัส) แคลคูลัส (อาร์คิมิดีส),   ส่วนยุคเราเป็นยุคที่ไม่ได้ใช้สติปัญญาคิดค้นนะครับ แค่ศึกษาข้อมูลเดิมๆและทำต่อ เหมือนคนซ่อมคอมพิวเตอร์เก่งๆก็ไม่ใช่คนที่ผลิต คนที่ผลิตก็คือดูจากของเดิมและประยุกต์เพิ่มเติม คนเขียนโปรแกรมเก่งๆ ก็คือคนที่ศึกษาจากสิ่งที่มีคนเคยทำไว้แล้ว แล้วก็พัฒนาไปทีละน้อย ..มือถือและเทคโนโลยีต่างๆก็เหมือนกัน ศึกษาของเดิมและค่อยๆต่อยอดทำของใหม่


(ยูคลิด)

(อาร์คิมิดีส)

ส่วนอีกข้อคือคนยุคนี้ไปเข้าใจว่ามนุษย์วิวัฒนาการมาจากสัตว์ แล้วค่อยพัฒนามาจากยุคหิน ก็เลยเกิดมโนว่าคนโบราณคงด้อยปัญญา แต่จริงๆการวิวัฒนาการหมายถึงต้องใช้เวลาหลายล้านปี ไม่มีทางใช้เวลาแค่หลักหมื่นหลักแสนปี ฉะนั้นไม่ใช่ว่าคนยุคพันปี หมื่นปีก่อนสติปัญญาโง่นะครับ



แต่นั่นก็เป็นแค่ทฤษฎีครับ เป็นทฤษฎีที่เกิดมาในสมัยที่เรายังไม่ค้นพบ DNA ซึ่ง DNA เนี่ยเพียงแค่ต่างกัน 0.1 - 0.2 % ก็ถือว่าคนละสปีชีส์แล้ว โอกาสวิวัฒนาการมาเป็นคนนี่แทบไม่มี ดังนั้นเดี๋ยวนี้จึงมีทฤษฎีใหม่ๆเกิดมากมายครับ ว่ามนุษย์เรามีภูมิปัญญาอยู่ชนิดเดียวบนโลกใบนี้ นอกนั้นเป็นเดรัจฉานที่ไม่มีอะไรพัฒนาทั้งที่มีเวลามาเป็นหลายล้านปี จึงมีทฤษฎีว่า DNA เราอาจมาจากดาวอื่นก็เป็นได้  แต่นั่นก็แค่อีกหนึ่งทฤษฎีเท่านั้นเอง ในแง่ของนักวิทยาศาสตร์จะไม่ฟันธงปักหลักเชื่อสรุปอะไรทั้งสิ้น ตราบที่ยังเป็นทฤษฎี



เอาล่ะไม่ต้องไปสนใจครับ แค่ให้จับหลักว่า จะศึกษาสามก๊กต้องรู้ว่าคนในสมัยก่อน ภูมิปัญญาสูง ฉลาดล้ำ ในที่นี้หมายถึงประชากรที่อยู่ในดินแดนที่มีอารยธรรม ได้แก่ ลุ่มแม่น้ำไนล์ (แอฟริกา), ไทกริส-ยูเฟรติส (บาบิโลน-ตะวันออกกลาง), เมดิเตอเรเนียน (กรีก-ยุโรป), สินธุ (เอเซียใต้), ฮวงโหและแยงซี (โลกตะวันออก)  ส่วนถ้าประชากรชนเผ่าแถบป่าเขา  ห่างไกลอารยธรรมนั่นอีกเรื่องครับ

ทีนี้ในอารยธรรมของกลุ่มชนในซีกตะวันออก ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของคนในแถบเรา คือคนไทย (ชนเผ่าไท-ไทใหญ่), พม่า (ส่วนมาก), ลาว, เวียดนาม, เกาหลี, ญี่ปุ่น) เหล่านี้เป็นเชื้อสายที่กระจายออกมาจากประชากรในลุ่มแม่น้ำฮวงโหและแยงซี แต่แหล่งต้นกำเนิดอารยธรรมนั้นเจริญมาก ขอเรียกง่ายๆว่า "จีน" ละกัน จริงๆมันเป็นแค่ชื่อที่ถูกตั้งขึ้นในยุครัฐชาติ คือ "ประเทศ" นี่พึ่งมีในยุคปัจจุบันนี่เอง 

เหมือนสมัยก่อนไม่มีหรอกครับ "ประเทศไทย" มันมีแต่ "อาณาจักร" เช่น สุโขทัย, อ่างทอง, อยุธยา ทำนองนี้ ส่วนถ้าไม่โตมากก็จะเรียก "แคว้น" 

ก็จะมีแคว้นที่ตั้งตนเป็นอิสระ หรือแคว้นที่เป็นเมืองขึ้นของอาณาจักร แล้วบางแคว้นพอโตขึ้นก็สถาปนาเป็นอาณาจักร  อย่างหญิงมุกหญิงจัน สมัยก่อนก็ไม่ใช่ของไทยหรอก ภูเก็ตและแถบอันดามันจะเป็นของแคว้น "ไทรบุรี" แต่พอมาอยู่ภายใต้ "รัตนโกสินทร์" ปัจจุบันยุครัฐชาติก็เลยนับเป็นของไทย  "ล้านนา" นี่ก็ระดับเป็นอาณาจักรที่ล่มไป ปัจจุบันส่วนนึงอยู่ในไทย ส่วนนึงอยู่พม่า ส่วนนึงอยู่ลาว (สมัยก่อน คนเหนือ-คนอีสาน ถูกนับเป็นคนลาวหมด ถือเป็นชนชาตินึงที่อยู่ในล้านนา)

ถ้ายกตัวอย่างในวรรณกรรม Game of thrones ในซีกทวีปเวสเทอรอส  จะมี 6 อาณาจักร กับ 1 แคว้น โดยมีเมืองย่อยๆมากมายใน 7 ก๊กนี้ พอยุค "เอกอน ทาแกเรียน" สามารถพิชิต 6 อาณาจักรได้หมด ยกเว้น "ดอร์น" ซึ่งเป็นแคว้นอิสระ ไม่โตพอจะเป็นอาณาจักร แต่ก็แกร่งพอที่จะสามารถปกป้องตนเองได้



ในประวัติศาสตร์ตะวันออก คือฮวงโหและแยงซี หรือ "จีน" ยุคโบราณก็มีแคว้นที่โตจนเป็นอาณาจักร ก่อตั้งเป็นราชวงศ์ได้ ก็เริ่มจาก "เซี่ย", "ชาง", "โจว", "ฉิน" ต่อมาก็ "ฮั่น" ส่วนจะมีสมัยไหนพิชิตแคว้นได้มากน้อย หรือถูกบางแคว้นแข็งข้อปราบไม่ได้ ยอมปล่อยให้เป็นอิสระก็มี

กว่าจะมาเป็นจีนวันนี้ บางยุคแตกกันเป็นถึง 10 อาณาจักร บางยุคก็ 7 อาณาจักร  ส่วนที่ถูกดึงมาประพันธ์จนเป็นวรรณกรรมที่โด่งดังที่สุดมาถึงตอนนี้ก็คือช่วงยุค 3 อาณาจักร เริ่มตั้งแต่ราชวงศ์ฮั่นกำลังจะล่ม มาถึงยุค 3 ก๊กสถาปนาตนเป็นราชวงศ์ และมาจบที่การพิชิต 3 อาณาจักรสำเร็จ โดยราชวงศ์จิ้น

ก็เป็นเนื้อหาที่สนุกน่าสนใจ เพราะยุคนั้นมีสุดยอดกุนซือเยอะแยะมากมาย วางแผนชิงเหลี่ยมกัน มีนักรบสุดยอดฝีมือหลายต่อหลายคน ด้วยเหตุนี้หลัว กวั้นจง จึงสนใจเอามาแต่งให้เป็นเรื่องราวสนุกสนาน  แต่สุดท้ายมันจบแบบโลกไม่สวยงามหรอกครับ มันคือโลกแห่งความเป็นจริง ทั้ง 3 ฝ่าย "โจ", "เล่า", "ซุน" ที่มีแฟนๆเชียร์กัน สุดท้ายก็ไม่มีใครชนะ กลายเป็นตระกูล "สุมา" ที่คาบไปกิน เลยเป็นเสน่ห์อย่างนึง ที่ทำให้มีเรื่องให้แฟนๆเล่าขาน ถกเถียง แบ่งฝ่าย หรือศึกษาเรียนรู้กลยุทธและแง่คิด มาถึงปัจจุบัน

นี่ก็คล้ายๆ Game of thrones ที่ผู้ประพันธ์ G.Martin ก็จะทำแบบสามก๊ก คือยืนยันมาแล้วว่าจะจบแบบหม่นๆ หวานเล็กๆ แต่โลกไม่สวยงาม ไม่แฮปปี้เอ็นดิ้ง เพราะสุดท้ายแต่ละฝ่ายที่ต่อสู้ฝ่าฟัน ไม่ว่าจะเพื่ออุดมการณ์ หรืออำนาจก็ตาม ก็จะทำไม่สำเร็จ เหมือนที่เราได้เห็นแล้วในซีรีส์ ส่วนคนที่รอดอยู่มีอำนาจก็อาจจะเป็นแค่คนที่มีวาสนา หรือก็คนฉลาดมีไหวพริบเอาตัวรอด

แนวคิดของคนยุคหลังนี่คือจะนิยมความสงบ สันติ ไม่นิยมชื่นชมเรื่องสงคราม และมองเรื่องของยุคอดีตที่มีสงครามสู้รบกันว่าป่าเถื่อนรุนแรง คนยุคนี้จะชอบไปทางบันเทิงเริงรมย์มากกว่า โดยถ้าเราไม่ศึกษาสามก๊กและประวัติศาสตร์ เราก็จะไม่เข้าใจโลก ว่าจริงๆแล้วเนี่ย ทุกวันนี้เราก็ยังอยู่ภายใต้การครอบงำของมหาอำนาจอยู่นะ



ตอนนี้มีอยู่ 4 ก๊กที่ไม่ยอมก้มหัวให้กัน 

1.) "สหรัฐ" อันนี้ส่วนมากทั่วโลกก้มหัวให้ ชี้ซ้ายหัน ชี้ขวากัน
2.) "รัสเซีย" ก็มีบางประเทศที่บอกจะยืนเคียงข้าง หรือผูกพันธมิตร เช่น อิหร่าน ส่วนฟิลิปปินส์ก็กำลังจะโยกมาข้างนี้
3.) "จีน" มีหลายประเทศเริ่มอยากเคียงข้างสนับสนุนและพึ่งพาจีน หนึ่งในนั้นคือรัฐบาลไทย (แต่โดยสถานะคือเดิมๆยังอยู่ภายใต้อิทธิพลก๊กสหรัฐอยู่)
4.) "เกาหลีเหนือ" ไม่ใหญ่พอที่จะเป็นมหาอำนาจเหมือน 3 ก๊กแรก แต่ก็แข็งแกร่งพอที่จะปกป้องตนเองโดยไม่ก้มหัวให้ใคร

ก๊กที่ 2-4 มีอริเดียวกันคือ สหรัฐ ดังนั้นถ้ามีความขัดแย้งขึ้นมา ก๊ก 2-4 จะผูกดองร่วมมือกันชั่วคราว แต่โดยปกติแล้วต่างคนต่างถืออำนาจอิสระ

ทุกวันนี้เป็นยุครัฐชาติ ซึ่งต้องใช้คำว่ามีประมาณ 196 ประเทศ (ขึ้นมาจากเดิม 193) เพราะยังไม่แน่ไม่นอนว่าจะยุบหรือแยกเพิ่มอีก บางประเทศถูกรับรองโดยสหประชาชาติ อย่างปัจจุบันมีประเทศ "ปาเลสไตน์" สหประชาชาติรับรอง แต่อิสราเอลกับสหรัฐไม่ยอมรับ

ถ้าเปรียบเทียบแล้ว 196 ประเทศนี้เหมือนเป็น 196 อาณาจักร และมีอีกประมาณ 8-10 รัฐอิสระที่ยังไม่ถูกยอมรับ โดยประชาคมส่วนใหญ่ เปรียบเสมือนเป็นแคว้นที่กำลังสถาปนาตนเอง  จริงๆเรียกว่ามี 8 เพราะอีก 2 รัฐคือกองทัพที่ไม่ถูกยอมรับ รัฐนึงสถาปนาตัวเป็น "รัฐอิสลาม" อยู่ในอิรักและซีเรีย แต่ถูกทั่วโลกขึ้นบัญชีกลุ่มก่อการร้าย (IS) ส่วนอีกรัฐคือ "เคอร์ดิสถาน" รัฐของชาวเคิร์ด ที่มันกินดินแดนตุรกี ซีเรียไปถึงอิหร่าน ก็เลยถูกประเทศเหล่านี้ขึ้นบัญชีเป็นกบฏแยกดินแดนและก่อการร้าย

ส่วนรัฐหรือแคว้นที่อยากสถาปนาเป็นประเทศก็มีหลายแห่งแต่ยังไม่มีการตั้งรัฐปกครองตนเอง เช่น บาร์เซโลน่า หรือแคว้น "กาตาลัน" ก็ต้องการจะแยกตัวออกจากสเปน เพราะเขาคนละชนชาติและตกอยู่ภายใต้สเปนมานาน ปัจจุบันก็ร่ำรวยเศรษฐกิจดีแต่ต้องไปแบกเลี้ยงดูเมืองอื่นๆในสเปน ประชาชนในแคว้นก็เสียงแตกกัน



ทุกวันนี้เรายังคงอยู่ภายใต้อำนาจของการชิงอำนาจ อยู่ในสงคราม อยู่ในการต่อสู้ มีสิทธิตกอยู่ท่ามกลางระเบิดได้ทุกเมื่อ ถ้าเราไม่ศึกษา เราก็เป็นแค่ประชาชนที่ถูกคนมีอำนาจปกครอง ถูกคอนโทรลวิถีชีวิต ความคิด เขาก็แค่เอาการบันเทิง เพลง หนัง การกีฬาการละเล่นมาทำให้เราเพลิดเพลินยอมรับการอยู่ภายใต้อำนาจของก๊กเขาเท่านั้นเอง

........
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่