สวัสดีค่ะ
วันนี้จะมาเเชร์ประสบการณ์การไป เมืองนอกค่ะ คือ ได้มีโอกาสไป นอก คือ ไปเรียนภาษา ค่ะ 4 ปี ที่ ออสเตเลีย จังหวัด เพิทธ์นะ 55 มันคือ จังหวัดใช่ไหม ? คือบอกเลยนะว่า เป็นคนชอบเรียนมาก เรียนทุกอย่าง เเต่เป็นคนขี้เกียจเรียนมากกก อย่า เพิ่งงง เลยค่ะ คือว่า เรียน ภาษา ญี่ปุ่น อังกฤษ ทำเล็บ เพ้นเล็บ ทำผม เรียนนวด เรียนตัดเย็บ เรียนออกเเบบ เรียน ทำขนม เรียนทำดอกไม้ เรียนทำกระเป๋า 5555 เเต่ จะบอกว่า เรียนไปลงเรียนเเต่ไม่เคยเข้าครบทุกคาบเรียนนะ ไปสาย บ้าง โดดบ้าง . เกริ่นมาซะยาว ใครคิดว่าไปเรียน นอก โก้ หรูหรา เทห์ จะตาย หมาเห่า หมาหอน ดูไว้นะ กรรกร สุด ๆ เข้าเรื่องเลยนะ วันเเรกที่ไปถึงออสเตเลีย ด้วยความมั่นใจเต็มที่ ฉัน จะได้ภาษา กับเงินกลับบ้าน จึงมุ่งหน้าไปเรียนจ้า . เเต่ด้วยความรักเรียนนั้น มีอุปสรรค มากเหลือเกิน เรียนได้ 1 อาทิตย์นั้น เจ้ากรรม ดันได้งานพิเศษทำ คือขายอาหาร ที่ ฟู๊ดคอร์ด ค่ะ ตักอาหารขาย จะรอทำไม ในเมื่อ ได้ตัง ก้อโดดเรียนสิค่ะ เเต่ไม่สามารถทำเเบบนั้นได้ จึงไปสลับเวลาเรียน จาก 9 โมง ถึง บ่าย 2 เป็น 5 โมงเย็น ถึง 2 ทุ่ม ทีเเรกนึกว่าสบาย 555 หลังเลิกงาน 4 โมงเย็นต้องนั่งรถกลับมาบ้าน อาบน้ำสิค่ะ จะไปเรียนเเบบนั้นได้หรอ เหม็น สิค่ะ จะบอกยังไงดี ไอ้เพื่อนร่วมห้องเรียนก็นะ มี ยุโรป 1 ญี่ปุ่น 2 เกาหลี 3 ที่เหลือ อินเดียจ้าาาาา
ถ้าจะให้ รวมกลิ่นตัว เพื่อน กับเสื้อผ้าเหม็นๆของเรานะ ตายๆๆๆ สรุปต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไปเรียนดีที่สุดเพื่อไม่เป็นการทำร้ายคนอื่น รวมๆ เเล้วรีบกลับมาบ้านอาบน้ำไปเรียน ชม กว่า ๆ ถึงห้องเรียน 6.30 ทุกวันค่ะ
บางวันมี Friday night โดดจ้าไปชอบปิ้ง ค่ะ สนุก จะตายเนอะ 5555 ชอบมากเลย ไปเดิน ฮาเบอร์ทาว * Harber town มันจะลดราคา เสื้อผ้า เเบรด์ นี่นั้น ยิ่ง ยิ่ง Mid year sales นี่ เงินที่เก็บมาทั้งหมด ซื้อเยอะมากเสื้อผ้า Cotton on ตอนนี้ ที่บ้านเราเอามาขาย ที่ เมกะ นะ สมัยเก่า ซื้อเอาไว้ เเบบทำงานใช้ได้ครั้งเดียวทิ้งเลย เพราะว่า ราคาถูกสุดๆ เห็นสนุกสนานเเบบนี้นะ เเต่อย่าคิดว่า ชีวิตมันจะเรียบง่ายนะ มาต่อวีรกรรม กันค่ะ
# เเต่บอกก่อนนะ เราทำงานนี่ขยันสุด ๆๆ เลยนะ มีงานไร ยอมโดนเรียนไปทำงานดีกว่า ก็นะ เป็นคนที่รักเรียนเเต่ขี้เกียจนี่เนอะ
ปล .งานหนักสุด ๆๆ ยกลังน้ำขวดเเบบบ้านเราค่ะ เกิดมา ครกหิน กระทะที่บ้านยังหนักเลย เเต่นี่นะ ไปออส ทำให้เรากลายเป็นหญิงเเกร่ง สุด ยกกระทะมือเดียวได้ด้วย (คือเเขนซ้าย เคยเข้าเฝือกนะ เพราะเป็นคนเรียนบร้อยมาก ปีนป่ายไปทั่ว นะค่ะ อิอิ ) เเต่นะเรานี่ ยกข้าวสารได้เลย วันๆหนึ่งยกลังน้ำ 5 ลัง ไรนี้ เเบบขวดเเก้วเเป๊ปซี่ บ้านเรานะ 555 กรรมกร สุด เเต่มีเรื่อง ฮา มากกกก ที่มันหนักอกหนักใจกว่าการเป็นกรรมกร เเบกของอีก คือ ที่คิดว่า อายจนไม่อายเเล้ว คือ เข็นผักคะ ถ้าใครนึกภาพไม่ออก ให้นึกถึง ตลาดสด ที่มีรถเข็น สองล้อเเละมีเข่ง 1อัน ใส่ผักเต็มไปหมด ..
ยัง ยัง นึกไม่ออกใช่ไหม ว่า เข็นผักทำไมอาย มันไม่ใช่ การใส่ บูทยาว เสี้อหนัง พันคอ ไปเดินในสยามนี่ นะ คือ ให้นึกว่า เรา เข็น รถเข็นผัก ใน สยาามสเเคว์ ค่ะ เเต่งตัวเสื้อยืดตัวเหม็นๆ หน้าเยิ้มๆ หัวมัน ฟู หน้า ศพ ค่ะ หน้าศพ เเบบนั้นเลย เเละ สองมือ ลากรถเข็น ที่มีเข่งหนึ่งใบ กลาง สยามพารากอน ไรนี้ นะ คือจะบอกไงดี ร้านที่เราทำมันคือร้านอาหารใต้ห้างนะ ในเมืองค่ะ ในเมืองคือ เเหล่งชอปปิ้ง เเบบ Central ชิดลม บ้านเรานะ เเบบ อย่านะอย่าคือว่ามีทางเดินให้รถเข็นผ่าน ป่าวค่ะ ต่อให้มีทางเดิน ก็อายค่ะ อยู่เมืองไทย ฉันทำงานออฟฟิศนะ เเต่งสวยๆ หน้าเด้งๆ เเต่ไปนั้นฉันคือ คนเข็นผัก ที่จบปริญาตรี นะจ๊ะ * คือ ร้านมันมี 2 สาขา ร้านอาหารไทยค่ะ เจ้าของร้านเป็นเขมร
เเละเเล้วก้อถึง เวลาที่ต้องทำงานนะ นึกออกไหมไปตามห้างที่มีถาดอาหารเยอะนะ ข้าวราดเเกงนะค่ะ ... เราทำหน้าที่ตักอาหารขาย อย่างเดียว คะ่ ตักๆๆๆๆ ถ้าข้างล่างคนขาดก็ต้องไปช่วย หั่นผัก ทอดของ ตักน้ำเเกง .. ที่บอกว่า ตักอย่างเดียว เพราะว่าไร หรอ # เราถอนตังไม่ถูกค่ะ 5555 ก็นะ ให้ เเบง 5 ซื้อ 3.99 4.50 5.50 บางที ซื้อน้ำ 1.99 + 5.50 เออมันเท่าไหรว่ะ คิดไม่ทัน ต้องถอนเท่าไหร่ว่ะ ไอ้น้ำนี่ก็นะ ไม่ 2 เหรียญ เลยนะ 1.99 ๆๆ จะขายทำไม บางขวด 1.60 เหรียญ บวกไปอีก ค่าข้าว 7.5 เหรียญ ' งง ตายไปเลยค่ะ ดูภาพประกอบได้เลย..
เวลาทอนตัง เออ เหรียญนี้กี่ มันมีค่า เท่าไหร่ หันดูอีก กว่าจะบวก กันได้ เอามาลบตังที่ขายได้ ถอนอีก เหรียญอะไรว่ะ ต๊ายๆๆๆ ไม่ต้องขายกันเเล้ว 55555 ( เกิดมา ไม่เคยสอบเลขผ่านสักครั้ง เลย ) เเล้วจะให้ใช้ความสามารถ บวกเลขในใจไวๆได้หรอค่ะ 55 ยากกกกก บอกเลย...
มาเข้าเรื่องเรียนต่อ คือ ตอนนี้ได้งานใหม่เเล้วนะ ทำตอนหลังเลิกเรียน 5 โมง เย็นถึง 4 ทุ่ม ศุกร์ เสาร์ นี่ 5 ทุ่ม เที่ยงคืน เลยจ้า จุดเปลี่ยนตรงนี้ค่ะทำงานเลิก 4 ทุ่มใช่ไหม(ลืมบอก กลับมาเรียน ภาคเช้าเเละค่ะ ) ง่วงสิค่ะ รอไร เหนื่อยสิค่ะ หลังจากเป็นกรรมกรมาทั้งคืน ไม่อยากตื่นสิ ไปเรียน กลายเป้นไปบ้างไม่ไปบ้าง ไปสายบ้าง คราวนี้เเละ ถึงตอน รร เรียกไปคุยจะส่งเรื่องไปตมจบกันสิค่ะ ถูกส่งกลับบ้านเเน่ ๆ ไหนเงินที่จ่ายไปตอนมา ไหน จะอับอาย เเถม ความรู้ก็ไม่มี กลับบ้านไม่ได้นะ ฉันอดทน มากกก เหนื่อยมากเเค่ไหน หน่อย ฉันเสียเงิน ครื่งล้าน เพื่อมานะ อย่านะ จะ ส่งฉันกลับไม่ได้นะ หน่อยๆๆ ร้ายมาก ฉันเหนื่อยเเค่ไหน ** คิดในใจนะ **
สุดท้าย ทำหน้าเศร้า เล่าความเท็จค่ะ พลีซ ได้โปรด เถอะ ฉันไม่ค่อยสบายป่วยนี่นั้น ป่วย ๆๆ เเละป่วย สรุป ไม่มีไรเกิดขึ้น จน จบการเรียน ภาษาที่ยาวนาน 8 เดือนเเต่ อยู่ เเค่ ระดับ Pre intermediate เเต่ พูดได้ Intermediateจึงทำให้ได้ เรียนครอส ต่อไปในระดับ Diploma นี่เเหละ
เริ่มเรียน # Diploma
คือความฝันจุดเริ่มต้นที่ ชีวิต ได้เปลี่ยนไป ของนักเรียน นักเล่น เเบบเราๆๆ ทุกคนจะชอบ เพราะว่า เรียน เเค่ 3 วัน 4 วันที่เหลือ นั้นได้ทำงานจุใจค่ะ ทำไปเลย 10 กะ คือ เราจะเรียกว่า ช่วงเช้า 1 กะ ช่วงเย็น 1 กะ ถ้าวันไหนไม่มีเรียน หรือ เสาร์ - อาทิตย์ ก็ วันละ 2 กะ เงินจ้าเงิน ณ เวลา นั้น อิอิ เรียน ไร เก็บไว้ก่อน เงินมาก่อน เเต่ด้วยความที่สมัยเรียนภาษาไม่ตั้งใจเรียน ทำให้เวลา ในขั้นที่สูงขี้นไป มันยากมาก เพราะว่าศัพท์ เราไม่รู้เลย ภาษา นั้นเขาสอน เเกรม่า หลักเเละพื้นฐาน จนวันนี้ มาทำงานยังนึกเสียดายเลย น่าจะตั้งใจเรียนในเมื่อมีโอกาสเเล้ว มาต่อกันค่ะ
หลังจากได้งานทำเป็นช่วงเย็นเนอะ ทำไงได้ เรียนจบเเล้ว ครอสต่อไป ไหนค่าเรียน ค่าบ้าน ค่านี่นั้น เราไม่ได้บ้านรวยนี่เนอะ ต้องหาเองค่ะ จ่ายเอง ปีหนึ่งก้อ 15, 000 เหรียญ ไหนค่ะบ้านอีก 250 ต่อ สัปดาห์เจ้านายเป็นคนไทย เเกก็น่ารัก ให้ทำงาน 6 วัน 4 โมง - 5ทุ่ม ไหนจะ เสาร์ อาทิตย์ ต้องไปทำงาน ร้านญี่ปุ่นอีก 10 โมง -3 โมงเย็น ออ ลืม บอกไปเรียน Cookery นะทำอาหารค่ะ ดูสิไม่เบื่อเลย กับการทำอาหาร ชอบมากก ..
เเหม เราก็จินตาการนะ ว่า หลังเรียนจบทำอาหารจะทำงานนี่นั้นนนะซื้ออุปกรณ์ เฉพาะ ชุด มีด 25,000 บาท น่าจะนะ เรา ซื้อไป 800 กว่าเหรียญ นะไหนจะ ชุดเชฟ อีกเสื้อกางเกงไอ้ชุดสีขาวๆๆที่เราใส่นะเงินไทยคง 4-5 พันก็ชุดละเกือบ 200 เหรียญนี่ ต้องเข้าครัวปฎิบัตจริงอีกอาทิตย์ละ 2 วัน เเละเเล้วได้เรียนทฤษฎีไปถึงวันที่ต้องลงครัววันเเรกเลยได้ทำอาหาร
น่าสนุกใช่ เเละนี่คุณครูที่สอนเราหล่อไหมอ่ะ เเต่เราไม่ชอบเราชอบตี๋ ๆ ไม่ต้องตาโตจมูกเเบนๆ ไม่ต้องโด่ง 55
มาต่อเลยนะ สนุกมาเเต่เหนื่อยมาก ยืน บ้าบอไร ตั้งเเต่เช้า ยัน 4 โมงเย็น ก้อทำอาหารนี่เนอะ ขอบอกสุดๆ นี่วัน ที่ 1 นะ เเละเเล้ว จุดเปลี่ยนในชีวิตก็มาจนได้ วันที่ 2 กำลังเรียน ๆ ไป เเละภาคภูมิใจกับ ชุดที่สวมใส่ เท่ห์ อะ วันนั้น ตอนเที่ยง มีข่าวไรไม่รู้ เห็น ครู วุ่นวายกัน นี่นั้น ก็เราฟังไม่ออกนี่ อะไรหรอ
ลืมบอกน้องคนนี้เป็นคนไทยที่เรา ปิดหน้าเขา เเละเเล้ว ก็มีประกาศให้ นักเรียนทุกคนหยุดเรียนค่ะ อ๊ะ ++ หยุดทำไม กำลัง ทำน้ำสลัดอยู่นะ ไรนี่ ขัดจังหวะจริงๆๆ เเละเสียงวุ่นวายก็ มีมา ให้นักเรียนกลับบ้านได้ อะไรอ่ะ งง มากก ๆๆ ก็เก็บของกลับบ้านค่ะ วันต่อมาไป รร ตามปกติ
ฮือ ๆๆ รร ปิดเเละ เจ้ง เเละ 5555 กรรม ชุด ตรู อุปกรณ์ การเรียน มีดค่ะ มีดบางอันอันล่ะ เกือบ 300 เหรียญ เรียน สองวัน รร เจ้งได้หรอ มันได้หรอ
ไม่ต้องตกใจ ได้ค่ะ สรุป หยุดเรียนค่ะ รอรัฐบาลหา รร ให้ใหม่ก่อน เเต่บอกเลยนะที่ออส นี่ดีมาก รัฐบาล ช่วยเหลือทุกอย่างพวก เด็ก ดอย ต่างชาติอย่างเราไปเรียน ทำงานที่นั้นได้ เเต่ต้อง เสียภาษีด้วยนะ ก็ ตามเเต่ เงินที่ได้ เราทำงาน เหนื่อย ยาก ไหนค่า บ้าน ค่า กิน ค่าเที่ยว ค่า เทอม เเละยังต้องเสียภาษีด้วย เเต่ สิ้นปีก็ขอคืนได้นะ ส่วน เงินที่รัฐบาลได้ไป ก็เอาไปทำประโยชน์ให้ประเทศ นะ ** คิดเองนะ ** คือ คนที่นั้น ใครไม่ทำงาน รัฐบาลก็ให้เงินทุกอาทิตย์ ค่าบ้าน ค่าใช้จ่ายนะ ..
สรุป เราก็ว่าง ค่ะ ว่างมากกกกก 8เดือน เพื่อ รอ รร ใหม่ก็ทำงานใช้เเรงงานวนไป คราวนี้ ช่วงเช้า พฤหัส,ศุกร์,เสาร ก็ไปทำงานร้านญี่ปุ่น เย็นก็ไปทำงานร้านอาหารไทย นี่เพื่อน ญี่ปุ่น กับเกาหลีของเรา ที่ทำงาน คนซ้าย นี่หล่อมากกกก ใจดีด้วย สเป็คเรา เลย .... อิอิ
ชีวิต ก็ ราบเรียบ ความฝันเป็นจริง ทำงานอย่างเดียว เเต่ยังไม่จบ มีจุดเปลี่ยน ของชีวิต ที่ทำให้เราได้มีโอกาสดี ๆ ตอนกลับมาเมืองไทย เพราะ เมื่อ
ทางรัฐบาลหา รร ให้เรา ซึ่งเรียนทำอาหารเหมือนเดิม เเต่เราคิดว่า ยาก เเละเหนื่อยอ่ะ เรียนอย่างอื่นดีกว่า เราก็เลยต้องทิ้งเงิน จำนวน 10000 เหรียญ ที่จ่ายไป เพราะว่า เราไม่รับการช่วยเหลือ เรียนในรร ทีเขาจัดหาให้ นะ *
ก็ 40 คน อินเดีย ล้วน ๆ เราเป็นคน ไทยเพียงคนเดียวนี่ ฮื่อๆๆ เเกะไทยในหมู่อินเดีย เเต่ ก็มีข้อดี นะ เราฟัง สำเนียง อังกฤษอินเดีย ออก ด้วย อิอิ สรุปเราก็ไปเรียน Marketingจ้าอาจาย์ใจดีมากจำได้เลย ไปเช็คชื่อ เเละโดดอีกตามเคย assisment ที่ทำส่งการลอกเพื่อนเอา เเต่เรามีเพื่อนสนิทคนหนึ่ง เป็นญี่ปุ่นเราก็ลอกเขาทุกครั้งที่ต้องส่ง
คงคิดสิว่า โดดเเบบนี้จะได้ความรู้ยังไงสิ นะ ไม่ได้ค่ะ โง่เหมือนเดิม .จนเราเรียนจบ Marketing
เเต่ความวุ่นวายยังไม่จบ นะ เราไปเรียน Child care #
มา เล่าต่อ เรื่องการทำงาน พาร์ไทม์ และบ้าน AF ที่นั้น ว่าโหดมันฮา เเค่ไหน ยิ่ง ต่างด้าวอย่างเรา ที่ต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเองในต่างเเดน นั้น มันเเสน เหนื่อยยังไง กับตัวเลือกที่ไม่มากนัก ต้องอดทนเเค่ไหน ไหนค่าเทอมที่เเสนเเพง ไหนค่าครองชีพ ค่าเที่ยว ค่าบ้าน อีก สุดท้ายความรู้เเละประสบการณ์ที่ ยิ่งตอนกินข้าว ในถุงขยะสีดำใบใหญ่ๆ
ภาคต่อ ตามนี้ ได้เลยค่ะ
https://ppantip.com/topic/39269293
ครั้งหนึ่งฉันเคยไปนอก ใครว่าสบาย *
วันนี้จะมาเเชร์ประสบการณ์การไป เมืองนอกค่ะ คือ ได้มีโอกาสไป นอก คือ ไปเรียนภาษา ค่ะ 4 ปี ที่ ออสเตเลีย จังหวัด เพิทธ์นะ 55 มันคือ จังหวัดใช่ไหม ? คือบอกเลยนะว่า เป็นคนชอบเรียนมาก เรียนทุกอย่าง เเต่เป็นคนขี้เกียจเรียนมากกก อย่า เพิ่งงง เลยค่ะ คือว่า เรียน ภาษา ญี่ปุ่น อังกฤษ ทำเล็บ เพ้นเล็บ ทำผม เรียนนวด เรียนตัดเย็บ เรียนออกเเบบ เรียน ทำขนม เรียนทำดอกไม้ เรียนทำกระเป๋า 5555 เเต่ จะบอกว่า เรียนไปลงเรียนเเต่ไม่เคยเข้าครบทุกคาบเรียนนะ ไปสาย บ้าง โดดบ้าง . เกริ่นมาซะยาว ใครคิดว่าไปเรียน นอก โก้ หรูหรา เทห์ จะตาย หมาเห่า หมาหอน ดูไว้นะ กรรกร สุด ๆ เข้าเรื่องเลยนะ วันเเรกที่ไปถึงออสเตเลีย ด้วยความมั่นใจเต็มที่ ฉัน จะได้ภาษา กับเงินกลับบ้าน จึงมุ่งหน้าไปเรียนจ้า . เเต่ด้วยความรักเรียนนั้น มีอุปสรรค มากเหลือเกิน เรียนได้ 1 อาทิตย์นั้น เจ้ากรรม ดันได้งานพิเศษทำ คือขายอาหาร ที่ ฟู๊ดคอร์ด ค่ะ ตักอาหารขาย จะรอทำไม ในเมื่อ ได้ตัง ก้อโดดเรียนสิค่ะ เเต่ไม่สามารถทำเเบบนั้นได้ จึงไปสลับเวลาเรียน จาก 9 โมง ถึง บ่าย 2 เป็น 5 โมงเย็น ถึง 2 ทุ่ม ทีเเรกนึกว่าสบาย 555 หลังเลิกงาน 4 โมงเย็นต้องนั่งรถกลับมาบ้าน อาบน้ำสิค่ะ จะไปเรียนเเบบนั้นได้หรอ เหม็น สิค่ะ จะบอกยังไงดี ไอ้เพื่อนร่วมห้องเรียนก็นะ มี ยุโรป 1 ญี่ปุ่น 2 เกาหลี 3 ที่เหลือ อินเดียจ้าาาาา
ถ้าจะให้ รวมกลิ่นตัว เพื่อน กับเสื้อผ้าเหม็นๆของเรานะ ตายๆๆๆ สรุปต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไปเรียนดีที่สุดเพื่อไม่เป็นการทำร้ายคนอื่น รวมๆ เเล้วรีบกลับมาบ้านอาบน้ำไปเรียน ชม กว่า ๆ ถึงห้องเรียน 6.30 ทุกวันค่ะ บางวันมี Friday night โดดจ้าไปชอบปิ้ง ค่ะ สนุก จะตายเนอะ 5555 ชอบมากเลย ไปเดิน ฮาเบอร์ทาว * Harber town มันจะลดราคา เสื้อผ้า เเบรด์ นี่นั้น ยิ่ง ยิ่ง Mid year sales นี่ เงินที่เก็บมาทั้งหมด ซื้อเยอะมากเสื้อผ้า Cotton on ตอนนี้ ที่บ้านเราเอามาขาย ที่ เมกะ นะ สมัยเก่า ซื้อเอาไว้ เเบบทำงานใช้ได้ครั้งเดียวทิ้งเลย เพราะว่า ราคาถูกสุดๆ เห็นสนุกสนานเเบบนี้นะ เเต่อย่าคิดว่า ชีวิตมันจะเรียบง่ายนะ มาต่อวีรกรรม กันค่ะ
# เเต่บอกก่อนนะ เราทำงานนี่ขยันสุด ๆๆ เลยนะ มีงานไร ยอมโดนเรียนไปทำงานดีกว่า ก็นะ เป็นคนที่รักเรียนเเต่ขี้เกียจนี่เนอะ
ปล .งานหนักสุด ๆๆ ยกลังน้ำขวดเเบบบ้านเราค่ะ เกิดมา ครกหิน กระทะที่บ้านยังหนักเลย เเต่นี่นะ ไปออส ทำให้เรากลายเป็นหญิงเเกร่ง สุด ยกกระทะมือเดียวได้ด้วย (คือเเขนซ้าย เคยเข้าเฝือกนะ เพราะเป็นคนเรียนบร้อยมาก ปีนป่ายไปทั่ว นะค่ะ อิอิ ) เเต่นะเรานี่ ยกข้าวสารได้เลย วันๆหนึ่งยกลังน้ำ 5 ลัง ไรนี้ เเบบขวดเเก้วเเป๊ปซี่ บ้านเรานะ 555 กรรมกร สุด เเต่มีเรื่อง ฮา มากกกก ที่มันหนักอกหนักใจกว่าการเป็นกรรมกร เเบกของอีก คือ ที่คิดว่า อายจนไม่อายเเล้ว คือ เข็นผักคะ ถ้าใครนึกภาพไม่ออก ให้นึกถึง ตลาดสด ที่มีรถเข็น สองล้อเเละมีเข่ง 1อัน ใส่ผักเต็มไปหมด .. ยัง ยัง นึกไม่ออกใช่ไหม ว่า เข็นผักทำไมอาย มันไม่ใช่ การใส่ บูทยาว เสี้อหนัง พันคอ ไปเดินในสยามนี่ นะ คือ ให้นึกว่า เรา เข็น รถเข็นผัก ใน สยาามสเเคว์ ค่ะ เเต่งตัวเสื้อยืดตัวเหม็นๆ หน้าเยิ้มๆ หัวมัน ฟู หน้า ศพ ค่ะ หน้าศพ เเบบนั้นเลย เเละ สองมือ ลากรถเข็น ที่มีเข่งหนึ่งใบ กลาง สยามพารากอน ไรนี้ นะ คือจะบอกไงดี ร้านที่เราทำมันคือร้านอาหารใต้ห้างนะ ในเมืองค่ะ ในเมืองคือ เเหล่งชอปปิ้ง เเบบ Central ชิดลม บ้านเรานะ เเบบ อย่านะอย่าคือว่ามีทางเดินให้รถเข็นผ่าน ป่าวค่ะ ต่อให้มีทางเดิน ก็อายค่ะ อยู่เมืองไทย ฉันทำงานออฟฟิศนะ เเต่งสวยๆ หน้าเด้งๆ เเต่ไปนั้นฉันคือ คนเข็นผัก ที่จบปริญาตรี นะจ๊ะ * คือ ร้านมันมี 2 สาขา ร้านอาหารไทยค่ะ เจ้าของร้านเป็นเขมร
เเละเเล้วก้อถึง เวลาที่ต้องทำงานนะ นึกออกไหมไปตามห้างที่มีถาดอาหารเยอะนะ ข้าวราดเเกงนะค่ะ ... เราทำหน้าที่ตักอาหารขาย อย่างเดียว คะ่ ตักๆๆๆๆ ถ้าข้างล่างคนขาดก็ต้องไปช่วย หั่นผัก ทอดของ ตักน้ำเเกง .. ที่บอกว่า ตักอย่างเดียว เพราะว่าไร หรอ # เราถอนตังไม่ถูกค่ะ 5555 ก็นะ ให้ เเบง 5 ซื้อ 3.99 4.50 5.50 บางที ซื้อน้ำ 1.99 + 5.50 เออมันเท่าไหรว่ะ คิดไม่ทัน ต้องถอนเท่าไหร่ว่ะ ไอ้น้ำนี่ก็นะ ไม่ 2 เหรียญ เลยนะ 1.99 ๆๆ จะขายทำไม บางขวด 1.60 เหรียญ บวกไปอีก ค่าข้าว 7.5 เหรียญ ' งง ตายไปเลยค่ะ ดูภาพประกอบได้เลย..
เวลาทอนตัง เออ เหรียญนี้กี่ มันมีค่า เท่าไหร่ หันดูอีก กว่าจะบวก กันได้ เอามาลบตังที่ขายได้ ถอนอีก เหรียญอะไรว่ะ ต๊ายๆๆๆ ไม่ต้องขายกันเเล้ว 55555 ( เกิดมา ไม่เคยสอบเลขผ่านสักครั้ง เลย ) เเล้วจะให้ใช้ความสามารถ บวกเลขในใจไวๆได้หรอค่ะ 55 ยากกกกก บอกเลย...
มาเข้าเรื่องเรียนต่อ คือ ตอนนี้ได้งานใหม่เเล้วนะ ทำตอนหลังเลิกเรียน 5 โมง เย็นถึง 4 ทุ่ม ศุกร์ เสาร์ นี่ 5 ทุ่ม เที่ยงคืน เลยจ้า จุดเปลี่ยนตรงนี้ค่ะทำงานเลิก 4 ทุ่มใช่ไหม(ลืมบอก กลับมาเรียน ภาคเช้าเเละค่ะ ) ง่วงสิค่ะ รอไร เหนื่อยสิค่ะ หลังจากเป็นกรรมกรมาทั้งคืน ไม่อยากตื่นสิ ไปเรียน กลายเป้นไปบ้างไม่ไปบ้าง ไปสายบ้าง คราวนี้เเละ ถึงตอน รร เรียกไปคุยจะส่งเรื่องไปตมจบกันสิค่ะ ถูกส่งกลับบ้านเเน่ ๆ ไหนเงินที่จ่ายไปตอนมา ไหน จะอับอาย เเถม ความรู้ก็ไม่มี กลับบ้านไม่ได้นะ ฉันอดทน มากกก เหนื่อยมากเเค่ไหน หน่อย ฉันเสียเงิน ครื่งล้าน เพื่อมานะ อย่านะ จะ ส่งฉันกลับไม่ได้นะ หน่อยๆๆ ร้ายมาก ฉันเหนื่อยเเค่ไหน ** คิดในใจนะ **
สุดท้าย ทำหน้าเศร้า เล่าความเท็จค่ะ พลีซ ได้โปรด เถอะ ฉันไม่ค่อยสบายป่วยนี่นั้น ป่วย ๆๆ เเละป่วย สรุป ไม่มีไรเกิดขึ้น จน จบการเรียน ภาษาที่ยาวนาน 8 เดือนเเต่ อยู่ เเค่ ระดับ Pre intermediate เเต่ พูดได้ Intermediateจึงทำให้ได้ เรียนครอส ต่อไปในระดับ Diploma นี่เเหละ
เริ่มเรียน # Diploma
คือความฝันจุดเริ่มต้นที่ ชีวิต ได้เปลี่ยนไป ของนักเรียน นักเล่น เเบบเราๆๆ ทุกคนจะชอบ เพราะว่า เรียน เเค่ 3 วัน 4 วันที่เหลือ นั้นได้ทำงานจุใจค่ะ ทำไปเลย 10 กะ คือ เราจะเรียกว่า ช่วงเช้า 1 กะ ช่วงเย็น 1 กะ ถ้าวันไหนไม่มีเรียน หรือ เสาร์ - อาทิตย์ ก็ วันละ 2 กะ เงินจ้าเงิน ณ เวลา นั้น อิอิ เรียน ไร เก็บไว้ก่อน เงินมาก่อน เเต่ด้วยความที่สมัยเรียนภาษาไม่ตั้งใจเรียน ทำให้เวลา ในขั้นที่สูงขี้นไป มันยากมาก เพราะว่าศัพท์ เราไม่รู้เลย ภาษา นั้นเขาสอน เเกรม่า หลักเเละพื้นฐาน จนวันนี้ มาทำงานยังนึกเสียดายเลย น่าจะตั้งใจเรียนในเมื่อมีโอกาสเเล้ว มาต่อกันค่ะ
หลังจากได้งานทำเป็นช่วงเย็นเนอะ ทำไงได้ เรียนจบเเล้ว ครอสต่อไป ไหนค่าเรียน ค่าบ้าน ค่านี่นั้น เราไม่ได้บ้านรวยนี่เนอะ ต้องหาเองค่ะ จ่ายเอง ปีหนึ่งก้อ 15, 000 เหรียญ ไหนค่ะบ้านอีก 250 ต่อ สัปดาห์เจ้านายเป็นคนไทย เเกก็น่ารัก ให้ทำงาน 6 วัน 4 โมง - 5ทุ่ม ไหนจะ เสาร์ อาทิตย์ ต้องไปทำงาน ร้านญี่ปุ่นอีก 10 โมง -3 โมงเย็น ออ ลืม บอกไปเรียน Cookery นะทำอาหารค่ะ ดูสิไม่เบื่อเลย กับการทำอาหาร ชอบมากก ..
เเหม เราก็จินตาการนะ ว่า หลังเรียนจบทำอาหารจะทำงานนี่นั้นนนะซื้ออุปกรณ์ เฉพาะ ชุด มีด 25,000 บาท น่าจะนะ เรา ซื้อไป 800 กว่าเหรียญ นะไหนจะ ชุดเชฟ อีกเสื้อกางเกงไอ้ชุดสีขาวๆๆที่เราใส่นะเงินไทยคง 4-5 พันก็ชุดละเกือบ 200 เหรียญนี่ ต้องเข้าครัวปฎิบัตจริงอีกอาทิตย์ละ 2 วัน เเละเเล้วได้เรียนทฤษฎีไปถึงวันที่ต้องลงครัววันเเรกเลยได้ทำอาหาร
น่าสนุกใช่ เเละนี่คุณครูที่สอนเราหล่อไหมอ่ะ เเต่เราไม่ชอบเราชอบตี๋ ๆ ไม่ต้องตาโตจมูกเเบนๆ ไม่ต้องโด่ง 55มาต่อเลยนะ สนุกมาเเต่เหนื่อยมาก ยืน บ้าบอไร ตั้งเเต่เช้า ยัน 4 โมงเย็น ก้อทำอาหารนี่เนอะ ขอบอกสุดๆ นี่วัน ที่ 1 นะ เเละเเล้ว จุดเปลี่ยนในชีวิตก็มาจนได้ วันที่ 2 กำลังเรียน ๆ ไป เเละภาคภูมิใจกับ ชุดที่สวมใส่ เท่ห์ อะ วันนั้น ตอนเที่ยง มีข่าวไรไม่รู้ เห็น ครู วุ่นวายกัน นี่นั้น ก็เราฟังไม่ออกนี่ อะไรหรอ ลืมบอกน้องคนนี้เป็นคนไทยที่เรา ปิดหน้าเขา เเละเเล้ว ก็มีประกาศให้ นักเรียนทุกคนหยุดเรียนค่ะ อ๊ะ ++ หยุดทำไม กำลัง ทำน้ำสลัดอยู่นะ ไรนี่ ขัดจังหวะจริงๆๆ เเละเสียงวุ่นวายก็ มีมา ให้นักเรียนกลับบ้านได้ อะไรอ่ะ งง มากก ๆๆ ก็เก็บของกลับบ้านค่ะ วันต่อมาไป รร ตามปกติ
ฮือ ๆๆ รร ปิดเเละ เจ้ง เเละ 5555 กรรม ชุด ตรู อุปกรณ์ การเรียน มีดค่ะ มีดบางอันอันล่ะ เกือบ 300 เหรียญ เรียน สองวัน รร เจ้งได้หรอ มันได้หรอ
ไม่ต้องตกใจ ได้ค่ะ สรุป หยุดเรียนค่ะ รอรัฐบาลหา รร ให้ใหม่ก่อน เเต่บอกเลยนะที่ออส นี่ดีมาก รัฐบาล ช่วยเหลือทุกอย่างพวก เด็ก ดอย ต่างชาติอย่างเราไปเรียน ทำงานที่นั้นได้ เเต่ต้อง เสียภาษีด้วยนะ ก็ ตามเเต่ เงินที่ได้ เราทำงาน เหนื่อย ยาก ไหนค่า บ้าน ค่า กิน ค่าเที่ยว ค่า เทอม เเละยังต้องเสียภาษีด้วย เเต่ สิ้นปีก็ขอคืนได้นะ ส่วน เงินที่รัฐบาลได้ไป ก็เอาไปทำประโยชน์ให้ประเทศ นะ ** คิดเองนะ ** คือ คนที่นั้น ใครไม่ทำงาน รัฐบาลก็ให้เงินทุกอาทิตย์ ค่าบ้าน ค่าใช้จ่ายนะ ..
สรุป เราก็ว่าง ค่ะ ว่างมากกกกก 8เดือน เพื่อ รอ รร ใหม่ก็ทำงานใช้เเรงงานวนไป คราวนี้ ช่วงเช้า พฤหัส,ศุกร์,เสาร ก็ไปทำงานร้านญี่ปุ่น เย็นก็ไปทำงานร้านอาหารไทย นี่เพื่อน ญี่ปุ่น กับเกาหลีของเรา ที่ทำงาน คนซ้าย นี่หล่อมากกกก ใจดีด้วย สเป็คเรา เลย .... อิอิ
ชีวิต ก็ ราบเรียบ ความฝันเป็นจริง ทำงานอย่างเดียว เเต่ยังไม่จบ มีจุดเปลี่ยน ของชีวิต ที่ทำให้เราได้มีโอกาสดี ๆ ตอนกลับมาเมืองไทย เพราะ เมื่อ
ทางรัฐบาลหา รร ให้เรา ซึ่งเรียนทำอาหารเหมือนเดิม เเต่เราคิดว่า ยาก เเละเหนื่อยอ่ะ เรียนอย่างอื่นดีกว่า เราก็เลยต้องทิ้งเงิน จำนวน 10000 เหรียญ ที่จ่ายไป เพราะว่า เราไม่รับการช่วยเหลือ เรียนในรร ทีเขาจัดหาให้ นะ *ก็ 40 คน อินเดีย ล้วน ๆ เราเป็นคน ไทยเพียงคนเดียวนี่ ฮื่อๆๆ เเกะไทยในหมู่อินเดีย เเต่ ก็มีข้อดี นะ เราฟัง สำเนียง อังกฤษอินเดีย ออก ด้วย อิอิ สรุปเราก็ไปเรียน Marketingจ้าอาจาย์ใจดีมากจำได้เลย ไปเช็คชื่อ เเละโดดอีกตามเคย assisment ที่ทำส่งการลอกเพื่อนเอา เเต่เรามีเพื่อนสนิทคนหนึ่ง เป็นญี่ปุ่นเราก็ลอกเขาทุกครั้งที่ต้องส่ง
คงคิดสิว่า โดดเเบบนี้จะได้ความรู้ยังไงสิ นะ ไม่ได้ค่ะ โง่เหมือนเดิม .จนเราเรียนจบ Marketing เเต่ความวุ่นวายยังไม่จบ นะ เราไปเรียน Child care #
มา เล่าต่อ เรื่องการทำงาน พาร์ไทม์ และบ้าน AF ที่นั้น ว่าโหดมันฮา เเค่ไหน ยิ่ง ต่างด้าวอย่างเรา ที่ต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเองในต่างเเดน นั้น มันเเสน เหนื่อยยังไง กับตัวเลือกที่ไม่มากนัก ต้องอดทนเเค่ไหน ไหนค่าเทอมที่เเสนเเพง ไหนค่าครองชีพ ค่าเที่ยว ค่าบ้าน อีก สุดท้ายความรู้เเละประสบการณ์ที่ ยิ่งตอนกินข้าว ในถุงขยะสีดำใบใหญ่ๆ
ภาคต่อ ตามนี้ ได้เลยค่ะ https://ppantip.com/topic/39269293