วันนี้เรามาแชร์ประสบการณ์ งดนมมื้อดึก ฝึกลูกนอนยาวค่ะเราฝึกลูกนอนยาวมาตั้งแต่ 8 เดือน จนสำเร็จเมื่อตอน 1ขวบ2เดือน
เคสลูกเรา เราลองผิดลองถูกจนสำเร็จจนได้ เลยอยากมาแชร์เผื่อเป็นประโยชน์ให้แม่ๆท่านอื่นๆจ้าา
พื้นฐาน เราเป็นพวกเจ้าทฤษฎี อ่านเยอะฟังเยอะ ศึกษาเยอะ มีคุณหมอที่ปรึกษาแยะ และคิดว่าคงเหมือนคุณแม่หลายๆท่านที่เห็นความสำคัญของการนอนยาว ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันฟังผุ นอนไม่พอ growth hormone ไม่หลั่งเต็มที่ หรือแม้กระทั่งคุณภาพการนอนของคุณแม่เอง ปกติลูกชายเราจะตื่น 3-4ครั้งต่อคืนมาตลอดตั้งแต่เล็กจนวันที่ฝึกสำเร็จ
แต่เมื่อถึงเวลาเอาเข้าจริง เรายอมแพ้เจ้าตัวเล็กทุ๊กกครั้งไป...สำหรับตัวเราเองเหตุผลที่ไม่สำเร็จในครั้งแรกๆคือ สงสาร กลัวลูกมีปม กลัวพัฒนาการถดถอย กลัวลูกเจ็บ(ลูกเราจะเรียกร้องความสนใจตั้งแต่เล็กเลยค่ะด้วยการขยี้ตาแรงๆ บี้จมูกแรงๆ โตขึ้นเอาหน้าก้มขโลกฟูก) โอ้ยสารพัด ตามประสาแม่เจ้าทฤษฎี
เราพยายาม 5 รอบด้วยวิธีที่ต่างกันจนสำเร็จ ซึ่งแต่ละครั้งละเปลี่ยนวิธีไปเรื่อยๆจนค้นพบว่าวิธีสุดท้ายเวิร์คสุดและแอบเซ็งว่าทำไมไม่ใช้วิธีนี้แต่แรก...ก็นะ กว่าจะลองผิดลองถูก
บอกก่อนนะคะว่าคุณแม่บางท่านมีลูกเป็นอภิชาติบุตรนอนยาวได้เองหลัง3 เดือน เราบอกตรงๆค่ะว่าอิจฉาจริงๆ เพราะเคยถามคุณหมอว่า เด็กทุกคนเป็นแบบลูกเราหรือไม่ที่มักจะตื่นกลางดึกบ่อยๆ คำตอบคือ เด็ก 80% นอนยาวได้เองเมื่ออายุมากขึ้น และมีเด็ก 20% ที่ไม่สามารถแบบลูกคุณแม่...เราตกใจคะ ลูกเราอยู่ในกลุ่ม20% ว่าแต่ทำไมถามเพื่อนรอบข้าง 10 คน นอนยาวเองได้แค่สอง แต่อีก8 เจอปัญหาเดียวกัน จึงคิดว่าตัวเลขคงไม่สำคัญ สำคัญที่ว่าเมื่อเขานอนยาวไม่ได้ก็ฝึกกันไปจ้าา
เกริ่นมาซะยาวขอเล่าเลยนะ
Round1 เมื่ออายุ 8 เดือน
ตอนนั้นอ่านหนังสือพบว่ายิ่งฝึกเร็วยิ่งดี ลูกประมาณ 8 เดือน ภารกิจจึงเริ่มต้น ต้องบอกก่อนว่าลูกชายติดขยี้ตาและขยี้จมูกเวลาหงุดหงิดและเป็นเด็กแรงเยอะ มือเขาจะแปะตาบ้างจมูกบ้างด้วยความรุนแรงตามสัญชาติญาณของเขา แรงจนหน้าตาแดงกร่ำไปหมด และเมื่อถึงคืนนั้นเริ่มต้น คืนแรก ลูกตื่นเอ๊อะแอะเอานม เราก็ไม่ให้ ใจแข็ง เป็นไปตามคาด เขาทุบหน้าขยี้ตาค่ะ เราก็ดึงมือออก(ตามคำแนะนำของหมอ) ยิ่งดึงเจ้าตัวเล็กยิ่งร้อง และสุดท้าย สงสารค่ะ เพราะมือไม้เขาปัดโดนหน้าตัวเองบักๆๆหลายรอบ จนแดงไปหมด จบด้วยการเสนอเต้านมให้เขาไป ... รอบแรกแม่แพ้ราบคาบ และคิดว่าถอดใจละจะอดเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นละกัน
Round2 ประมาณ 10 เดือน ถูกบิ้วท์มาจากบทความในเนตว่าเดี๋ยวฟันผุนะ และถ้าครบขวบแล้วจะฝึกยาก จัดไปค่ะ หาข้อมูลเพิ่มขึ้น อ้ออ ต้องอุ้มเดิน (ตามคำแนะนำของคุณหมออีกท่าน) และกล่อมจนเขาหลับไป ฟังดูดีใช่มั้ยคะ เราเตรียมพร้อมค่ะ ยอมอดนอน จนกว่าจะสำเร็จให้ได้ และแล้วก็ถึงวันปฏิบัติการ ลูกร้องขอเต้านมตามปกติคะ เราก้อุ้มโอ๋แล้วพูดว่า"แม่อยู่นี่นะ"ตามสคริปที่อ่านมา แน่นอนคะ เจ้าตัวเล็กดิ้นพลาดๆอุ้มก็ดิ้นจนแม่ก็หวาดเสียวจะหลุดมือเพราะตัวเองก็ง่วงมาก แต่ก็ทนคะ คืนที่ 1 ผ่านไปด้วยการอุ้มกล่อม 3 รอบ กล่อมรอบละ 30นาทีถึง 1 ชั่วโมง คืนที่2 ลูกร้องหนักกว่าเดิมคะ คราวนี้ร้องจนอาเจียน สุดท้ายวุ่นกว่าเดิม ต้องมานั่งเช็ดอวกลูกกลางดึก แม่จึงนำเสนอเต้านมให้เจ้าตัวเล็กตามเคย...ความพ่ายแพ้ครั้งที่ 2
Round3 น้องอายุ 11 เดือน แพ้มาสองรอบ ก็นำเรื่องไปปรึกษาคุณหมออีกท่าน คราวนี้ท่านแนะนำว่า แม่นอนอยู่ด้วยไม่สำเร็จหรอกเขาจะได้กลิ่นน้ำนมและตื่นมากินต้องแยกแม่ลูก ภารกิจจึงเริ่มต้นขึ้นด้วยการขอความช่วยเหลือคุณยาย คุณยายเห็นดีเห็นงาม และเหมือนหนังฉายซ้ำแต่เปลี่ยนผู้เล่น เจ้าตัวเล็กยังคงตื่นคืนละ 3 รอบ และคุณยายก็อุ้มกล่อมทั้งสามรอบแถมด้วยนมชงใส่ขวดให้ดูดแทนเต้า จนเข้าคืนที่ 4 คุณยายบอกว่าไม่ไหวแล้ว ยอมแพ้...รอบนี้ก็จบด้วยธงขาวเช่นเดิม แถมหลังจากแม่กลับมานอนด้วย คราวนี้ตื่นทุกชั่วโมงจ้าาา ไปเกือบสัปดาห์ แม่กลับมาแล้วนิเน้อะ ต้องเอาให้หายอยาก
Round4 น้องอายุ 1 ขวบ 1 เดือน ด้วยความพ่ายแพ้ทั้ง 3 รอบเราสองคน แม่และยายก็มาวางแผนกันใหม่ โดยการลด ละ เลิก ค่อยเป็นค่อยไปดีกว่าโดยเริ่มจากให้ลดปริมาณนมที่ทานจน ท้องเขาปรับจนไม่หิว แล้วซักระยะก็ค่อยๆละนม เลิกเต้าไปในที่สุด ...การปฏิบัติการเริ่มต้น แม่จึงให้ลูกดูดเต้าแค่ข้างเดียวทั้งคืน รอบแรกยังมีนม รอบสองและสามคงแค่ดูดเอามันเพราะนมน้อยมาก แต่ถึงนมไม่มีลูกก็ดูด และหลับไป แม่กระหยิ่มยิ้มย่อง รอบนี้
สำเร็จแน่ๆ ให้ดูดเต้าเดียวไปประมาณ 1 สัปดาห์ จึงวางแผนปฏิบัติการ โดยจะไม่ให้เต้าและใช้วิธีตบก้นเมื่อลูกตื่น(ตามคำแนะนำของเพื่อนที่ใช้วิธีนี้สำเร็จ) ผลคือ ดิ้นพลาดๆ แม่อุ้มกล่อมเข้าไปกอด และพูดว่าแม่อยู่นี่น้าา ตามทฤษฎีเป๊ะ...ผลคือ ลูกดิ้นพลาดๆ ขยี้ตา ทุบจมูกตัวเองด้วยความหงุดหงิดและจบด้วยอาเจียนคะ...ตามระเบียบ ก็ต้องมาเช็ดอาเจียนกันกลางดึกอีกครั้ง
พอมีโอกาสไปฉีดวัคซีน จึงเอาเรื่องไปปรึกษาคุณหมอเรื่องลูกร้องจนอาเจียน หมอบอกว่า ออกมาหมดก็กินใหม่ซิ...เขารู้ว่าถ้าเขาอาเจียนแล้วชนะเรา เขาก็ทำไปเรื่อยๆแบบนี้แหละ...ถึงบางอ้อคะว่า การอาเจียนมันมาจากการจงใจหรือเนี่ยะ...
และแล้ววันแห่งการไขปริศนาของเคล็ดลับแห่งชัยชนะเจ้าตัวเล็กก็มาถึง วันหนึ่งเราได้อ่านบทความของอาจารย์ประเสริฐผู้โด่งดัง ไปสะดุดการแก้พฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์ของลูกด้วยการ "เพิกเฉย" ด้วยการตีความของตัวเอง จึงคิดว่าเอาล่ะการไม่แสดงอาการว่าเราโอ๋ ตีเนียนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอาจจะเป็นอาวุธแห่งชัยชนะของเราบ้างละทีนี้ ปฏิบัติการครั้งนี้จึงเกิดขึ้น
Round5 ด้วยความที่เขาได้เต้าเดียวมานานจนแม่มั่นใจแล้วว่าเจ้าตัวเล็กไม่หิวหรอก เขาแค่ตื่นมาเช็คชื่อตามความเคยชิน ปฏิบัติการครั้งนี้จึงค่อนข้างราบเรียบ และน่าประหลาดใจ
+คืนแรก พอเขาตื่นมาเช็คชื่อ เราตีเนียนคะ แกล้งหลับ ให้เขารู้ว่าเรายังอยู่ตรงนี้แต่เราแค่ไม่ตื่นมาอุ้มโอ๋เขาให้กระโตกกระตากเหมือนเคย เขาเริ่มโวยวายคะ ขยี้ตา ปัดจมูกแรงๆตามเคย เราอดทนค่ะ เผยอตาแอบดู เขาโวยวาย สะบัดมือสะบัดแข้งขา ยกสะโพกตีขาคู่ทิ้งลงเตียงดังๆปลุกแม่ เอาหัวมาโขลกหน้าแม่ แม่ก็ยังหลับ เขาทำแบบนี้วนไปเรื่อยๆ ไปประมาณ 20 นาที การประท้วงของเขาก้เพลาลง เขาเริ่มเอนตัวลงกลิ้งๆอยู่ประมาณ 5 นาทีและหลับไปค่ะ...รอบสองเขาตื่นมาทำเช่นเดิมค่ะ แต่รอบนี้สั้นกว่ารอบแรกนิดหน่อย และเขาก็เอนตัวลงกลิ้งๆและหลับไปเองค่ะ...ที่น่าแปลกใจคือ เช้าตื่นขึ้นมา จากที่เราเคยกลัวว่าเขาจะพัฒนาการถดถอยหรืองอนเรา กลับเป็นว่าเราร่าเริงมาก อ้อนแม่ปกติ จึงเริ่มตาสว่างว่าที่ผ่านมาเราคงคิดไปเอง มันไม่ได้มีผลทางจิตใจกับลูกขนาดนั้นนะ เอาจริงๆแล้ว
+คืนสอง เราก็แกล้งหลับเหมือนเดิมค่ะ แต่ที่น่าประหลาดใจมากคือ คืนที่สอง เขาไม่ตื่นนั่งร้องโวยวายแล้ว อย่างมากคือนอนอิ๊อ๊ะ พลิกข้างเอามือควานเช็คว่าแม่อยู่มั้ย แล้วก็กลิ้งๆไปทั่วเตียง แล้วก็หลับเอง นอนจนถึง 6.00 เช้าค่ะ เราก็จะให้นมเขา งงมากๆค่ะ แค่คืนที่สองเข้าที่แล้ว
และเราทำแบบเดิมไปเรื่อยๆค่ะ วันที่ สาม และ สี่ หรือบางวันอาจมีตื่นมาร้องโวยวายตอนประมาณตีสี่บ้าง น่าจะเพราะหิวจริงๆ แต่ก็ไม่ต้องจบด้วยการให้นมเต้านะคะ แค่กอดๆตบก้นๆก็หลับต่อค่ะ
และวันแห่งชัยชนะของเราก็มาถึง พร้อมกับการนอนที่ยาวนานขึ้นในค่ำคืนทั้งแม่และลูก เย่ๆๆ
สรุปนะคะ
1. แนะนำให้ค่อยๆลดปริมาณนมค่ะ เริ่มจากให้ดูดนมก่อนนอนจนอิ่มเลยค่ะ จากนั้นระหว่างคืนให้เขาดูดแค่ข้างเดียวคะ ให้มีน้อยบ้างหรือไม่มีเลยก็ดี คุณแม่นมเยอะปั๊มออกมาก่อนเลยคะ เป้าหมายคือให้ท้องเขาค่อยๆปรับตัวไม่หิวตอนกลางคืนค่ะ
2. เมื่อคุณแม่คิดว่าถึงเวลาที่เหมาะสมแล้วหรือแน่ใจแล้วว่าเขาแค่ตื่นมาเช็คชื่อ ไม่ได้หิว ก็เริ่มปฏิบัติการค่ะ โดยการแกล้งหลับ ถ้าลูกพอฟังรู้บ้าง เมื่อดูดเสร็จอาจบอกว่า ลูกดูดให้อิ่มนะคะ คืนหนูหนูนอนยาวๆเลยแม่นมหมดแล้ว เดียวเช้าแม่ให้ลูกดูดอิ่มๆเลยนะคะ (ลูกเรา1ปี2เดือน เราพูดทุกครั้ง ว่าเขาน่าจะรู้เรื่องบ้างแหละ แต่เป็นการสื่อสารให้เขารู้ว่าเรากำลังทำอะไร) ระหว่างคืนให้แกล้งหลับค่ะ แอบลืมตาดูได้ ถ้าเริ่มทำร้ายตัวเองจนดูว่าอันตรายมาก ก็ค่อยลุกไม่กระโตกกระตากแล้วเข้าไปดึงมือออก กอด แล้วนอนกอดค่ะ แต่ได้ผลที่สุดคือปล่อยเขาแกล้งหลับไปเลยค่ะ ระยะเวลาทำร้ายตัวเองเรียกร้องความสนใจจะสั้นลงและหายไป ใจแข็งๆไว้นะคะ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เขาน่าจะร้องจนเพลียและลงไปนอนเอง ถึงจุดนี่เขาจะเหนื่อยและไม่ตื่นบ่อยค่ะ
3. คืนต่อๆไปทำเหมือนเดิมค่ะ อาจจะมีอิ๊อ๊ะบ้างไม่ต้องลุก ไม่ต้องพูดนะคะ แค่จับมือเขา กอดเขานอนก็พอค่ะ
4. วิธีนี้เน้นที่การเพิกเฉยค่ะ...คือให้รู้ว่าแม่ยังอยู่นะแต่เราจะไม่แสดงพฤติกรรมให้ลูกรู้ว่าเราสนใจกับการโวยวายหรือตื่นมากลางดึก นานแค่ไหนแล้วแต่เด็กแต่ละคนนะคะ ซักพักเขาจะเลิกไปเองค่ะ
5. เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกันนะคะ ลองปรับใช้ดูค่ะ เพราะของเราปรับมาหลายรอบ ลองทุกวิธีที่มีสอนในเนต แต่ละรอบทำให้เราเรียนรู้ชั้นเชิงของเขาและนำมาปรับจนเจอวิธีที่จัดการเขาได้ เด็กบางคนอาจไม่ยากขนาดลูกเรา คุณแม่โชคดีมากๆเลยค่ะ
ยังไงขอให้สนุกไปกับการเลี้ยงดูเจ้าตัวน้อยไปด้วยกันนะคะ
จุดจบลูกชายสายแข็ง แบ่งปันประสบการณ์ เลิกนมมื้อดึก ลูกนอนยาว ฉบับแม่ใจอ่อน พร้อมบทสรุปวิธีที่ได้ผลที่สุด
เคสลูกเรา เราลองผิดลองถูกจนสำเร็จจนได้ เลยอยากมาแชร์เผื่อเป็นประโยชน์ให้แม่ๆท่านอื่นๆจ้าา
พื้นฐาน เราเป็นพวกเจ้าทฤษฎี อ่านเยอะฟังเยอะ ศึกษาเยอะ มีคุณหมอที่ปรึกษาแยะ และคิดว่าคงเหมือนคุณแม่หลายๆท่านที่เห็นความสำคัญของการนอนยาว ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันฟังผุ นอนไม่พอ growth hormone ไม่หลั่งเต็มที่ หรือแม้กระทั่งคุณภาพการนอนของคุณแม่เอง ปกติลูกชายเราจะตื่น 3-4ครั้งต่อคืนมาตลอดตั้งแต่เล็กจนวันที่ฝึกสำเร็จ
แต่เมื่อถึงเวลาเอาเข้าจริง เรายอมแพ้เจ้าตัวเล็กทุ๊กกครั้งไป...สำหรับตัวเราเองเหตุผลที่ไม่สำเร็จในครั้งแรกๆคือ สงสาร กลัวลูกมีปม กลัวพัฒนาการถดถอย กลัวลูกเจ็บ(ลูกเราจะเรียกร้องความสนใจตั้งแต่เล็กเลยค่ะด้วยการขยี้ตาแรงๆ บี้จมูกแรงๆ โตขึ้นเอาหน้าก้มขโลกฟูก) โอ้ยสารพัด ตามประสาแม่เจ้าทฤษฎี
เราพยายาม 5 รอบด้วยวิธีที่ต่างกันจนสำเร็จ ซึ่งแต่ละครั้งละเปลี่ยนวิธีไปเรื่อยๆจนค้นพบว่าวิธีสุดท้ายเวิร์คสุดและแอบเซ็งว่าทำไมไม่ใช้วิธีนี้แต่แรก...ก็นะ กว่าจะลองผิดลองถูก
บอกก่อนนะคะว่าคุณแม่บางท่านมีลูกเป็นอภิชาติบุตรนอนยาวได้เองหลัง3 เดือน เราบอกตรงๆค่ะว่าอิจฉาจริงๆ เพราะเคยถามคุณหมอว่า เด็กทุกคนเป็นแบบลูกเราหรือไม่ที่มักจะตื่นกลางดึกบ่อยๆ คำตอบคือ เด็ก 80% นอนยาวได้เองเมื่ออายุมากขึ้น และมีเด็ก 20% ที่ไม่สามารถแบบลูกคุณแม่...เราตกใจคะ ลูกเราอยู่ในกลุ่ม20% ว่าแต่ทำไมถามเพื่อนรอบข้าง 10 คน นอนยาวเองได้แค่สอง แต่อีก8 เจอปัญหาเดียวกัน จึงคิดว่าตัวเลขคงไม่สำคัญ สำคัญที่ว่าเมื่อเขานอนยาวไม่ได้ก็ฝึกกันไปจ้าา
เกริ่นมาซะยาวขอเล่าเลยนะ
Round1 เมื่ออายุ 8 เดือน
ตอนนั้นอ่านหนังสือพบว่ายิ่งฝึกเร็วยิ่งดี ลูกประมาณ 8 เดือน ภารกิจจึงเริ่มต้น ต้องบอกก่อนว่าลูกชายติดขยี้ตาและขยี้จมูกเวลาหงุดหงิดและเป็นเด็กแรงเยอะ มือเขาจะแปะตาบ้างจมูกบ้างด้วยความรุนแรงตามสัญชาติญาณของเขา แรงจนหน้าตาแดงกร่ำไปหมด และเมื่อถึงคืนนั้นเริ่มต้น คืนแรก ลูกตื่นเอ๊อะแอะเอานม เราก็ไม่ให้ ใจแข็ง เป็นไปตามคาด เขาทุบหน้าขยี้ตาค่ะ เราก็ดึงมือออก(ตามคำแนะนำของหมอ) ยิ่งดึงเจ้าตัวเล็กยิ่งร้อง และสุดท้าย สงสารค่ะ เพราะมือไม้เขาปัดโดนหน้าตัวเองบักๆๆหลายรอบ จนแดงไปหมด จบด้วยการเสนอเต้านมให้เขาไป ... รอบแรกแม่แพ้ราบคาบ และคิดว่าถอดใจละจะอดเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นละกัน
Round2 ประมาณ 10 เดือน ถูกบิ้วท์มาจากบทความในเนตว่าเดี๋ยวฟันผุนะ และถ้าครบขวบแล้วจะฝึกยาก จัดไปค่ะ หาข้อมูลเพิ่มขึ้น อ้ออ ต้องอุ้มเดิน (ตามคำแนะนำของคุณหมออีกท่าน) และกล่อมจนเขาหลับไป ฟังดูดีใช่มั้ยคะ เราเตรียมพร้อมค่ะ ยอมอดนอน จนกว่าจะสำเร็จให้ได้ และแล้วก็ถึงวันปฏิบัติการ ลูกร้องขอเต้านมตามปกติคะ เราก้อุ้มโอ๋แล้วพูดว่า"แม่อยู่นี่นะ"ตามสคริปที่อ่านมา แน่นอนคะ เจ้าตัวเล็กดิ้นพลาดๆอุ้มก็ดิ้นจนแม่ก็หวาดเสียวจะหลุดมือเพราะตัวเองก็ง่วงมาก แต่ก็ทนคะ คืนที่ 1 ผ่านไปด้วยการอุ้มกล่อม 3 รอบ กล่อมรอบละ 30นาทีถึง 1 ชั่วโมง คืนที่2 ลูกร้องหนักกว่าเดิมคะ คราวนี้ร้องจนอาเจียน สุดท้ายวุ่นกว่าเดิม ต้องมานั่งเช็ดอวกลูกกลางดึก แม่จึงนำเสนอเต้านมให้เจ้าตัวเล็กตามเคย...ความพ่ายแพ้ครั้งที่ 2
Round3 น้องอายุ 11 เดือน แพ้มาสองรอบ ก็นำเรื่องไปปรึกษาคุณหมออีกท่าน คราวนี้ท่านแนะนำว่า แม่นอนอยู่ด้วยไม่สำเร็จหรอกเขาจะได้กลิ่นน้ำนมและตื่นมากินต้องแยกแม่ลูก ภารกิจจึงเริ่มต้นขึ้นด้วยการขอความช่วยเหลือคุณยาย คุณยายเห็นดีเห็นงาม และเหมือนหนังฉายซ้ำแต่เปลี่ยนผู้เล่น เจ้าตัวเล็กยังคงตื่นคืนละ 3 รอบ และคุณยายก็อุ้มกล่อมทั้งสามรอบแถมด้วยนมชงใส่ขวดให้ดูดแทนเต้า จนเข้าคืนที่ 4 คุณยายบอกว่าไม่ไหวแล้ว ยอมแพ้...รอบนี้ก็จบด้วยธงขาวเช่นเดิม แถมหลังจากแม่กลับมานอนด้วย คราวนี้ตื่นทุกชั่วโมงจ้าาา ไปเกือบสัปดาห์ แม่กลับมาแล้วนิเน้อะ ต้องเอาให้หายอยาก
Round4 น้องอายุ 1 ขวบ 1 เดือน ด้วยความพ่ายแพ้ทั้ง 3 รอบเราสองคน แม่และยายก็มาวางแผนกันใหม่ โดยการลด ละ เลิก ค่อยเป็นค่อยไปดีกว่าโดยเริ่มจากให้ลดปริมาณนมที่ทานจน ท้องเขาปรับจนไม่หิว แล้วซักระยะก็ค่อยๆละนม เลิกเต้าไปในที่สุด ...การปฏิบัติการเริ่มต้น แม่จึงให้ลูกดูดเต้าแค่ข้างเดียวทั้งคืน รอบแรกยังมีนม รอบสองและสามคงแค่ดูดเอามันเพราะนมน้อยมาก แต่ถึงนมไม่มีลูกก็ดูด และหลับไป แม่กระหยิ่มยิ้มย่อง รอบนี้
สำเร็จแน่ๆ ให้ดูดเต้าเดียวไปประมาณ 1 สัปดาห์ จึงวางแผนปฏิบัติการ โดยจะไม่ให้เต้าและใช้วิธีตบก้นเมื่อลูกตื่น(ตามคำแนะนำของเพื่อนที่ใช้วิธีนี้สำเร็จ) ผลคือ ดิ้นพลาดๆ แม่อุ้มกล่อมเข้าไปกอด และพูดว่าแม่อยู่นี่น้าา ตามทฤษฎีเป๊ะ...ผลคือ ลูกดิ้นพลาดๆ ขยี้ตา ทุบจมูกตัวเองด้วยความหงุดหงิดและจบด้วยอาเจียนคะ...ตามระเบียบ ก็ต้องมาเช็ดอาเจียนกันกลางดึกอีกครั้ง
พอมีโอกาสไปฉีดวัคซีน จึงเอาเรื่องไปปรึกษาคุณหมอเรื่องลูกร้องจนอาเจียน หมอบอกว่า ออกมาหมดก็กินใหม่ซิ...เขารู้ว่าถ้าเขาอาเจียนแล้วชนะเรา เขาก็ทำไปเรื่อยๆแบบนี้แหละ...ถึงบางอ้อคะว่า การอาเจียนมันมาจากการจงใจหรือเนี่ยะ...
และแล้ววันแห่งการไขปริศนาของเคล็ดลับแห่งชัยชนะเจ้าตัวเล็กก็มาถึง วันหนึ่งเราได้อ่านบทความของอาจารย์ประเสริฐผู้โด่งดัง ไปสะดุดการแก้พฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์ของลูกด้วยการ "เพิกเฉย" ด้วยการตีความของตัวเอง จึงคิดว่าเอาล่ะการไม่แสดงอาการว่าเราโอ๋ ตีเนียนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอาจจะเป็นอาวุธแห่งชัยชนะของเราบ้างละทีนี้ ปฏิบัติการครั้งนี้จึงเกิดขึ้น
Round5 ด้วยความที่เขาได้เต้าเดียวมานานจนแม่มั่นใจแล้วว่าเจ้าตัวเล็กไม่หิวหรอก เขาแค่ตื่นมาเช็คชื่อตามความเคยชิน ปฏิบัติการครั้งนี้จึงค่อนข้างราบเรียบ และน่าประหลาดใจ
+คืนแรก พอเขาตื่นมาเช็คชื่อ เราตีเนียนคะ แกล้งหลับ ให้เขารู้ว่าเรายังอยู่ตรงนี้แต่เราแค่ไม่ตื่นมาอุ้มโอ๋เขาให้กระโตกกระตากเหมือนเคย เขาเริ่มโวยวายคะ ขยี้ตา ปัดจมูกแรงๆตามเคย เราอดทนค่ะ เผยอตาแอบดู เขาโวยวาย สะบัดมือสะบัดแข้งขา ยกสะโพกตีขาคู่ทิ้งลงเตียงดังๆปลุกแม่ เอาหัวมาโขลกหน้าแม่ แม่ก็ยังหลับ เขาทำแบบนี้วนไปเรื่อยๆ ไปประมาณ 20 นาที การประท้วงของเขาก้เพลาลง เขาเริ่มเอนตัวลงกลิ้งๆอยู่ประมาณ 5 นาทีและหลับไปค่ะ...รอบสองเขาตื่นมาทำเช่นเดิมค่ะ แต่รอบนี้สั้นกว่ารอบแรกนิดหน่อย และเขาก็เอนตัวลงกลิ้งๆและหลับไปเองค่ะ...ที่น่าแปลกใจคือ เช้าตื่นขึ้นมา จากที่เราเคยกลัวว่าเขาจะพัฒนาการถดถอยหรืองอนเรา กลับเป็นว่าเราร่าเริงมาก อ้อนแม่ปกติ จึงเริ่มตาสว่างว่าที่ผ่านมาเราคงคิดไปเอง มันไม่ได้มีผลทางจิตใจกับลูกขนาดนั้นนะ เอาจริงๆแล้ว
+คืนสอง เราก็แกล้งหลับเหมือนเดิมค่ะ แต่ที่น่าประหลาดใจมากคือ คืนที่สอง เขาไม่ตื่นนั่งร้องโวยวายแล้ว อย่างมากคือนอนอิ๊อ๊ะ พลิกข้างเอามือควานเช็คว่าแม่อยู่มั้ย แล้วก็กลิ้งๆไปทั่วเตียง แล้วก็หลับเอง นอนจนถึง 6.00 เช้าค่ะ เราก็จะให้นมเขา งงมากๆค่ะ แค่คืนที่สองเข้าที่แล้ว
และเราทำแบบเดิมไปเรื่อยๆค่ะ วันที่ สาม และ สี่ หรือบางวันอาจมีตื่นมาร้องโวยวายตอนประมาณตีสี่บ้าง น่าจะเพราะหิวจริงๆ แต่ก็ไม่ต้องจบด้วยการให้นมเต้านะคะ แค่กอดๆตบก้นๆก็หลับต่อค่ะ
และวันแห่งชัยชนะของเราก็มาถึง พร้อมกับการนอนที่ยาวนานขึ้นในค่ำคืนทั้งแม่และลูก เย่ๆๆ
สรุปนะคะ
1. แนะนำให้ค่อยๆลดปริมาณนมค่ะ เริ่มจากให้ดูดนมก่อนนอนจนอิ่มเลยค่ะ จากนั้นระหว่างคืนให้เขาดูดแค่ข้างเดียวคะ ให้มีน้อยบ้างหรือไม่มีเลยก็ดี คุณแม่นมเยอะปั๊มออกมาก่อนเลยคะ เป้าหมายคือให้ท้องเขาค่อยๆปรับตัวไม่หิวตอนกลางคืนค่ะ
2. เมื่อคุณแม่คิดว่าถึงเวลาที่เหมาะสมแล้วหรือแน่ใจแล้วว่าเขาแค่ตื่นมาเช็คชื่อ ไม่ได้หิว ก็เริ่มปฏิบัติการค่ะ โดยการแกล้งหลับ ถ้าลูกพอฟังรู้บ้าง เมื่อดูดเสร็จอาจบอกว่า ลูกดูดให้อิ่มนะคะ คืนหนูหนูนอนยาวๆเลยแม่นมหมดแล้ว เดียวเช้าแม่ให้ลูกดูดอิ่มๆเลยนะคะ (ลูกเรา1ปี2เดือน เราพูดทุกครั้ง ว่าเขาน่าจะรู้เรื่องบ้างแหละ แต่เป็นการสื่อสารให้เขารู้ว่าเรากำลังทำอะไร) ระหว่างคืนให้แกล้งหลับค่ะ แอบลืมตาดูได้ ถ้าเริ่มทำร้ายตัวเองจนดูว่าอันตรายมาก ก็ค่อยลุกไม่กระโตกกระตากแล้วเข้าไปดึงมือออก กอด แล้วนอนกอดค่ะ แต่ได้ผลที่สุดคือปล่อยเขาแกล้งหลับไปเลยค่ะ ระยะเวลาทำร้ายตัวเองเรียกร้องความสนใจจะสั้นลงและหายไป ใจแข็งๆไว้นะคะ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เขาน่าจะร้องจนเพลียและลงไปนอนเอง ถึงจุดนี่เขาจะเหนื่อยและไม่ตื่นบ่อยค่ะ
3. คืนต่อๆไปทำเหมือนเดิมค่ะ อาจจะมีอิ๊อ๊ะบ้างไม่ต้องลุก ไม่ต้องพูดนะคะ แค่จับมือเขา กอดเขานอนก็พอค่ะ
4. วิธีนี้เน้นที่การเพิกเฉยค่ะ...คือให้รู้ว่าแม่ยังอยู่นะแต่เราจะไม่แสดงพฤติกรรมให้ลูกรู้ว่าเราสนใจกับการโวยวายหรือตื่นมากลางดึก นานแค่ไหนแล้วแต่เด็กแต่ละคนนะคะ ซักพักเขาจะเลิกไปเองค่ะ
5. เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกันนะคะ ลองปรับใช้ดูค่ะ เพราะของเราปรับมาหลายรอบ ลองทุกวิธีที่มีสอนในเนต แต่ละรอบทำให้เราเรียนรู้ชั้นเชิงของเขาและนำมาปรับจนเจอวิธีที่จัดการเขาได้ เด็กบางคนอาจไม่ยากขนาดลูกเรา คุณแม่โชคดีมากๆเลยค่ะ
ยังไงขอให้สนุกไปกับการเลี้ยงดูเจ้าตัวน้อยไปด้วยกันนะคะ