ว่าด้วย ผู้อนิมิตตวิหารี

กระทู้คำถาม
โมคคัลลานะ !  ก็ มิได้แสดงบุคคลที่เจ็ดอันเป็น อนิมิตตวิหารี
(ผู้อยู่ด้วยวิหารธรรมอันไม่มีนิมิต) แก่เธอดอกหรือ ? 
 “ข้าแต่พระผู้มีพระภาค !  บัดนี้เป็นกาลสมควรที่พระผู้มีพระภาค
จะทรงแสดงซึ่งบุคคลที่ 7 ผู้เป็นอนิมิตตวิหารี ; 
ภิกษุทั้งหลายได้ฟังจากพระผู้มีพระภาคแล้ว  จักทรงจำไว้”. 

โมคคัลลานะ !  ภิกษุในกรณีนี้ เข้าถึงซึ่งเจโตสมาธิอันไม่มีนิมิต
เพราะไม่กระทำไว้ในใจซึ่งนิมิตทั้งปวง แล้วแลอยู่. เทวดาเหล่านั้น ถึง
ย่อมรู้จักภิกษุนั้นอย่างนี้ว่า “ท่านผู้มีอายุนี้ เข้าถึงเจโตสมาธิอันไม่มีนิมิต
เพราะไม่ทำไว้ในใจซึ่งนิมิตทั้งหลาย แล้วแลอยู่ ; เป็นที่เชื่อได้ว่า
ท่านผู้มีอายุนี้ เมื่อเสพเสนาสนะที่สมควร คบกัลยาณมิตร บ่มอินทรีย์ทั้งหลายอยู้
ก็จะกระทำให้แจ้งซึ่งปริโยสานแห่งพรหมจรรย์นั้น  อันไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า
อันเป็นประโยชน์ที่ประสงค์ของกุลบุตรผูออกบวชจากเรือนเป็นผู้ไม่มีเรือน(เช่น บุคร ภรรยาสามี เป็นต้น)
อยู่โดยชอบ, ได้ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง  ในทิฏฐธรรมนี้  เข้าถึงแล้วอยู่”  ดังนี้. 
 
   - สตฺตก. อํ. ๒๓/๗๙/๕๓. 

เมื่อเรายังไม่พบญาณ  ก็ได้แล่นท่องเที่ยวไปในสงสาร(หลงทาง)  เป็นอเนกชาติ,  .......
แสวงหาอยู่ซึ่งนายช่างปลูกเรือน  คือตัณหา  ผู้สร้างภพ, 
การเกิดทุกคราวเป็นทุกข์ร่ำไป. 

นายช่างผู้ปลูกเรือนเอ๋ย !  ฉันรู้จักแกเสียแล้ว ;  เจ้าจะทำเรือน
ให้เราไม่ได้อีกต่อไป.  โครงเรือนทั้งหมดของเจ้า เราหักเสียแล้ว; 
ยอดเรือน(อวิชชา)เราก็รื้อเสียแล้ว.  จิตของเราถึงแล้ว  (นิพพาน)
ซึ่งสภาพที่อะไรปรุงแต่งไม่ได้อีกต่อไป  เพราะถึงความสิ้นไปแห่งตัณหาเสียแล้ว. 
 (ความรู้สึกในใจของผู้ชนะตัณหาได้ )
   - ธ. ขุ. ๒๕/๓๕/๒๑. 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่