********** ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะไม่รู้แจ้ง แทงตลอดธรรม ๔ ประการ เราและพวกเธอจึงเร่ร่อนท่องเที่ยวไปสิ้นกาลนานอย่างนี้

**********
https://84000.org/tipitaka/book/v.php?B=10&A=1888&Z=3915
มหาปรินิพพานสูตร

...

             [๑๐๙] ครั้งนั้น เวลาเช้า พระผู้มีพระภาคทรงนุ่งแล้ว ทรงถือบาตร
และจีวร เสด็จเข้าไปยังเมืองเวสาลีเพื่อบิณฑบาต เสด็จเที่ยวบิณฑบาตในเมือง
เวสาลีแล้ว เวลาปัจฉาภัต เสด็จกลับจากบิณฑบาต ทอดพระเนตรเมืองเวสาลี
เป็นนาคาวโลก แล้วรับสั่งกะท่านพระอานนท์ว่า 

ดูกรอานนท์ การเห็นเมืองเวสาลี
ของตถาคตครั้งนี้ จักเป็นครั้งสุดท้าย มาไปกันเถิดอานนท์ เราจักไปยังบ้านภัณฑคาม 

ท่านพระอานนท์ทูลรับพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคแล้ว ลำดับนั้น
พระผู้มีพระภาคพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่เสด็จถึงบ้านภัณฑคามแล้ว ได้ยินว่า

พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ บ้านภัณฑคามนั้น ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาครับสั่ง
กะภิกษุทั้งหลายว่า 

ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะไม่รู้แจ้ง แทงตลอดธรรม ๔ ประการ
เราและพวกเธอจึงเร่ร่อนท่องเที่ยวไปสิ้นกาลนานอย่างนี้ 

๔ ประการเป็นไฉน

เพราะไม่รู้แจ้งแทงตลอดศีลอันเป็นอริยะ
เราและพวกเธอจึงเร่ร่อนท่องเที่ยวไปสิ้นกาลนาน 

เพราะไม่รู้แจ้งแทงตลอดสมาธิอันเป็นอริยะ ... 

ปัญญาอันเป็นอริยะ ...

วิมุตติอันเป็นอริยะ 

เราและพวกเธอจึงเร่ร่อนท่องเที่ยวไปสิ้นกาลนานอย่างนี้ ฯ


             ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราได้รู้แจ้งแทงตลอดศีลอันเป็นอริยะ

สมาธิอันเป็นอริยะ 

ปัญญาอันเป็นอริยะ 

วิมุตติอันเป็นอริยะแล้ว 

ตัณหาในภพเราถอนเสียแล้ว
ตัณหาอันจะนำไปสู่ภพสิ้นแล้ว 
บัดนี้ภพใหม่ไม่มี ฯ


             พระผู้มีพระภาคผู้สุคตศาสดา ครั้นได้ตรัสไวยากรณภาษิตนี้แล้ว จึงได้
ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า

             [๑๑๐]   ธรรมเหล่านี้ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา และวิมุตติ
                          อันยอดเยี่ยม อันพระโคดมผู้มียศตรัสรู้แล้ว ดังนั้น พระพุทธเจ้า
                          จึงตรัสบอกธรรมแก่ภิกษุทั้งหลาย เพื่อความรู้ยิ่ง
 พระศาสดา
                          ผู้กระทำซึ่งที่สุดแห่งทุกข์ มีพระจักษุ ปรินิพพานแล้ว ฯ
    ...
...

**********

_/\_ _/\_ _/\_

.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่