🎒🎒🎒มาลาริน/มะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูก..ย้อนรอยความเคลื่อนไหว “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ประกาศทำ “บลายด์ทรัสต์” (Blind Trus)

ย้อนรอย “ธนาธร” แถลงทำ “บลายด์ทรัสต์” แต่ไม่ได้ทำ “ปิยบุตร” อ้างไม่ได้เป็น ส.ส. เลยไม่โอน



ย้อยรอยความเคลื่อนไหว “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ประกาศทำ “บลายด์ทรัสต์” (Blind Trust) อ้างสร้างมาตรฐานจริยธรรมทางการเมือง แต่ปรากฏว่าไม่ได้ทำ มีแต่ของภรรยา “ปิยบุตร” อ้างถูกสั่งเบรกทำหน้าที่ ส.ส.เลยไม่มีอำนาจ ถ้าได้เป็น ส.ส.เมื่อไหร่ถึงค่อยทำ

จากกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประกาศบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ ส.ส. เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยพบว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ มีรายได้รวม 188,606,720 บาท มีรายจ่ายรวม 66 ล้านบาท มีทรัพย์สินรวม 5,628,118,852.01 บาท หนี้สินรวม 683,303.45 บาท ทำให้นายธนาธรมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 5,631,852,962.75 บาท 

อ่านประกอบ : คุ้ย 5 พันล้าน “ธนาธร” กินปันผล-ดอกเบี้ยกว่า 170 ล้าน ให้กู้พรรค 2 สัญญา 191.2 ล้าน

เรื่องนี้กลายเป็นที่จับตามองของฝ่ายการเมือง เนื่องจากในรายการ “เงินให้กู้ยืม” พบว่า นายธนาธรให้กู้แก่พรรคอนาคตใหม่ 2 ครั้ง ครั้งแรกวันที่ 2 ม.ค. 2562 จำนวน 161.20 ล้านบาท โดยพรรคอนาคตใหม่ชำระหนี้บางส่วนให้แก่นายธนาธรแล้ว ครั้งที่สองวันที่ 11 เม.ย. 2562 จำนวน 30 ล้านบาท โดยพรรคอนาคตใหม่เพิ่งได้รับเงินกู้มาจากนายธนาธรแล้วจำนวนหนึ่ง ทำให้ถูกนำมาเปรียบเทียบกับช่วงที่นายธนาธรกล่าวที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ว่าพรรคอนาคตใหม่เป็นหนี้ตนอยู่จำนวน 110 ล้านบาท เนื่องจากระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งพรรคไม่สามารถระดมทุนหาเงินได้ทันเวลาสำหรับการหาเสียง 

รวมทั้ง น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ชี้แจงกรณีนี้ว่านายธนาธรปล่อยเงินกู้ให้แก่พรรคอนาคตใหม่ มีเพดานวงเงินสูงสุด 250 ล้านบาท แต่การดำเนินกิจกรรมจนถึงวันเลือกตั้งพรรคกู้ไปแล้วประมาณ 90 ล้านบาท และจนถึงขณะนี้มีการกู้เพิ่มอีกนิดหน่อยเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายของพรรค ตัวเลขจึงอยู่ที่ 110 ล้านบาท โดยยืนยันว่าการกู้เงินครั้งนี้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารพรรคแล้วและพรรคจะจ่ายเงินคืนนายธนาธรทั้งหมด ทั้งที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย

พรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 66 กำหนดไว้ว่า ไม่สามารถบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่พรรคการเมืองเกิน 10 ล้านบาทต่อปี ขณะนี้เรื่องดังกล่าวอยู่ในระหว่างการพิจารณาจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
นอกจากนี้ยังพบว่า นายธนาธรมีทรัพย์สินทั้งมีบัญชีเงินฝากธนาคาร 16 บัญชี มีเงินลงทุนรวม 42 บัญชี แบ่งเป็นกองทุนรวม 16 บัญชี บัญชีหุ้น บัญชีอนุพันธุ์ หุ้นบริษัท ไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัส
ทรี จำกัด 72,000 หุ้น มูลค่า 2,339,806,720 บาท หุ้นบริษัท เอช เอส เอช จำกัด 1 หุ้น มูลค่า 2,191.07 บาท หุ้นบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด 263,200 หุ้น มูลค่า 12,972,238.25 บาท รวมทั้งถือหุ้นในบริษัท The One OC Corporation สปป.ลาว 70% มูลค่า 20 ล้านบาท และหุ้นบริษัท TS Rubber Service สปป.ลาว 1% มูลค่า 70,000 บาท ทำให้เป็นที่น่าสังเกตว่า ก่อนหน้านี้เมื่อ 18 มี.ค. นายธนาธรเคยแถลงจัดการทรัพย์สินในบลายด์ ไพรเวท ฟันด์ (Blind Private Fund) โดยมอบทรัพย์สินให้บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน ภัทร จำกัด เป็นผู้บริหารจัดการ เรียกว่าการทำบลายด์ ทรัสต์ (Blind Trust) อ้างว่าเพื่อสร้างมาตรฐานจริยธรรมทางการเมือง แต่ไม่ได้ดำเนินการตามที่ระบุไว้

ทั้งนี้ สำนักข่าวอิศรารายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูลทรัพย์สินในส่วนของเงินลงทุนของนายธนาธร ที่แจ้งต่อ ป.ป.ช.นั้น พบว่ามูลค่า 3,014,693,457 บาท ส่วนนางรวิพรรณแจ้งว่า มีมูลค่า 192,855,208 บาท รวมทั้งคู่มีรายการเงินลงทุนทั้งสิ้น 3,207,548,665 บาท หรือเกินครึ่งของมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดของนายธนาธรและนางรวิพรรณ ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนภัทร จำกัด (มหาชน) ที่นายธนาธรเคยโชว์หนังสือบันทึกตกลงการทำ Blind Trust นั้น พบเพียงว่า ได้ทำหนังสือรับรองให้นางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ เพื่อแนบเป็นเอกสารประกอบแก่คณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2562 ส่วนบริษัทหลักทรัพย์โนมูระฯ ทำหนังสือรับรองคำขอของนางรวิพรรณ เพื่อยืนยันหลักทรัพย์ที่เหลืออยู่กับบริษัท ยื่นประกอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินแก่ ป.ป.ช. แต่ไม่ปรากฏหนังสือของนายธนาธรชี้แจงต่อประธานกรรมการ ป.ป.ช. 
อ่านประกอบ : “บลายด์ทรัสต์”ส่อแหกตา? ไม่เห็น“ธนาธร”แจ้ง ป.ป.ช. “ภัทรฯ”แค่จัดการหุ้นให้เมีย 24 ล้าน

ต่อมา นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวที่จังหวัดฉะเชิงเทราเมื่อวันที่ 22 ก.ย.ว่า การทำบลายด์ทรัสต์เป็นความประสงค์ของนายธนาธรเอง ไม่มีข้อกฎหมายใดกำหนด แต่นายธนาธรต้องการสร้างมาตราฐานความโปร่งใสที่นักธุรกิจผันตัวเองมาเล่นการเมือง เมื่อมาดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้วจะไม่ใช่ประโยชน์ในทางไม่ชอบกับธุรกิจตนเอง และสิ่งที่นายธนาธรตกลงกับบริษัทแห่งหนึ่งเพื่อจะทำบลายด์ทรัสต์ก็ได้ดำเนินการไปแล้ว เพียงแต่ว่าตอนนี้นายธนาธรได้เป็น ส.ส.ที่ยังไม่ได้ใช้อำนาจหน้าที่ของ ส.ส. เนื่องจากถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว ถ้าวันใดศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้อง และให้นายธนาธรปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ตอนนั้นก็จะมีอำนาจในการเป็น ส.ส. และทำหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติ เมื่อนั้นนายธนาธรก็โอนทรัพย์สินให้กับบลายด์ทรัสต์
MGR Online ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 18 มี.ค. ในช่วงที่ยังไม่มีการเลือกตั้ง ส.ส. นายธนาธรแถลงข่าวการบริหารจัดการทรัพย์สินของหลังการเข้าสู่ตำแหน่งทางการเมือง ว่าได้บันทึกข้อตกลงร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนส่วนบุคคล ให้เข้ามากำกับดูแลทรัพย์สินส่วนใหญ่ของตนที่เป็นหุ้นในบริษัทมหาชน ซึ่งวิธีการนี้เรียกว่า Blind trust หรือการทำให้ตนเองไม่เข้าไปมีส่วนยุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สิน เพื่อแสดงออกถึงความโปร่งใสและลบข้อเคลือบแคลงใจของสาธารณะ ที่เข็ดหลาบกับการที่นักธุรกิจเข้ามาทำงานการเมืองแล้วเอื้อประโยชน์ให้ตัวเอง โดยตนมีความตั้งใจสร้างมาตรฐานทางการเมืองใหม่ให้เทียบเท่ากับนานาประเทศ 

ทั้งนี้ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 184 (2) ระบุว่า ผู้ที่จะดำรงตำแหน่ง ส.ส. และรัฐมนตรี จะต้องไม่เป็นคู่สัญญากับรัฐ หน่วยงานราชการ ทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมทั้งให้โอนทรัพย์สินไปยังบริษัทจัดการกองทุนเท่านั้น แต่ในกฎหมายยังไม่ระบุชัดเจนให้เจ้าของทรัพย์สินไม่มีสิทธิ์มองเห็นทรัพย์สินของตนเอง ตนต้องการจะให้เป็นมาตรฐานใหม่ที่มากกว่ารัฐธรรมนูญกำหนด จึงมอบหมายให้ บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน ภัทร จำกัด เข้ามาบริหารจัดการแทน โดยที่ตนไม่มีสิทธิรู้เห็นและไม่สามารถสั่งได้ พร้อมยืนยันว่าตนเองไม่ได้มีความสัมพันธ์เป็นการส่วนตัวกับบริษัทดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่เลือกบริษัทดังกล่าว เพราะความไว้ใจและยอมรับในความโปร่งใสของบริษัท ส่วนบุคคลที่สามที่จะเข้ามากำกับดูแลทางการเงินนั้น ตนเองยังไม่ระบุชัดเจนว่าเป็นธนาคารใด
โดยทรัพย์สินของตนมีหลายรูปแบบ ส่วนใหญ่จะนำเข้า Blind trust กับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนภัทร ทั้งหมดคือ หุ้นในบริษัทมหาชนหรือที่ดิน เหลือเก็บไว้ในนามส่วนตัวเล็กน้อย คือ บ้าน รถที่ใช้ในชีวิตประจำวัน การโอนทั้งหมดจะเสร็จในปลายเดือน พ.ค.ซึ่งจะเป็นมาตรฐานใหม่ที่ทำ Blind trust ด้วยความสมัครใจ ไม่เคยมีนักการเมืองคนไหนทำมาก่อน และจะมองเห็นทรัพย์สินของตนอีกทีเมื่อเลิกทำงานการเมืองและต้องรออีก 3 ปี จึงจะได้กรรมสิทธิ์ในกองทุนกลับมาบริหารเอง 

ส่วนกลุ่มบริษัท ไทยซัมมิท อยู่ในกลุ่มที่เปิดเสรี และไม่เคยเข้าไปเป็นคู่สัญญารายใหญ่กับรัฐ รายได้เกือบ 100% มาจากบริษัทชั้นนำในต่างประเทศ ไม่เกี่ยวข้องหรือมีความสัมพันธ์กับการทำงานการเมืองของตน ตั้งแต่ตนลาออกเมื่อปีที่แล้ว ก็ไม่เคยเข้าไปแทรกแซงการทำงานของผู้บริหารชุดใหม่อีกเลย หากในอนาคตไทยซัมมิทจะเป็นคู่สัญญากับภาครัฐ ก็อยากให้สื่อช่วยกันตรวจสอบ แต่ตนไม่ได้อยู่ไทยซัมมิทแล้ว คงพูดแทนไทยซัมมิทไม่ได้

อ่านประกอบ : “ธนาธร” แจงยิบโอนหุ้นเข้ากองทุนไม่รู้เห็นอีก โวทำมากกว่า รธน.บอก ส่วนแม่เตรียมขายหุ้นมติชนเร็วๆ นี้

นอกจากนี้ นายธนาธรยังโพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ “จะสร้างการเมืองที่ดีได้นั้นต้องเริ่มที่ตัวเองก่อน” ระบุว่า “อย่าคิดว่านักธุรกิจที่มาทำงานการเมืองจะเข้ามากอบโกยผลประโยชน์หรือเข้ามาดำเนินนโยบายที่เอื้อประโยชน์ต่อตนเองเหมือนกันทุกคน ดังนั้นเมื่อผมบอกว่าลาออกแล้วก็คือลาออกจริงๆ ผมก็ยึดมั่นในเกียรติภูมิของตนเองเหมือนกันว่าจะไม่ข้ามเส้นระหว่างงานการเมืองกับธุรกิจ ผมมีความฝันที่มันใหญ่กว่านั้น ต่อให้ผมรวยขึ้นอีกพันล้าน มันก็ไม่คุ้มกับความฝันที่ผมต้องเสียไป

ผมตัดสินใจทำเช่นนี้เพราะต้องการสร้างมาตรฐานการทำการเมืองใหม่ ผมว่าข้อดีอันดับแรกคือไม่ต้องวอกแวกไปกับการจัดการทรัพย์สินของตัวเอง ทำให้เราทุ่มเทพละกำลังและเวลาของเราในการทำงานรับใช้ประชาชนได้อย่างเต็มที่ ประการที่สอง มันแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่ผลักดันให้พวกเรามาทำงานการเมืองก็เพื่อทำให้สังคมดีขึ้น ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แม้จะมีขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนดให้เราทำ แต่สิ่งที่เราจะทำให้มากกว่านั้นคือสร้างมาตรฐานใหม่ ยกระดับความโปร่งใส สร้างมาตรฐานการดูแลผลประโยชน์ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองให้ไปไกลกว่ากฎหมาย หวังว่าวันนี้จะเป็นการยกระดับมาตรฐานการเมืองไทยไปอีกขั้น”



https://mgronline.com/politics/detail/9620000091631

กลายเป็นคนพูดไม่อยู่กับร่องกับรอยไปแล้ว

แก้ตัวพัลวันจนมะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูก

ถ้าจะยุบก็ยุบไปเถอะค่ะ  นกม.อย่างนี้มีเล่ห์เหลี่ยมเกินจะทน

ประชาชนที่รู้ทันมีเยอะนะคะ ท่านกกต.

จะให้ทนนกม.แบบนี้ไปนานแค่ไหนคะ...?

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่