JJNY : 4in1 ส.ส.อีสานพท.โต้ข่าวไล่หญิงหน่อย/ธนาธรอัดงบกลาโหม'ลับลวงพราง'/ร้องถูก"ทวี"ฮุบที่/สมคิดเหนื่อยโซเชียลโจมตีศก.

'ส.ส.อีสานเพื่อไทย' โต้ข่าวไล่ 'หญิงหน่อย' หวังดิสเครดิต ทำลายความน่าเชื่อถือพรรค
https://www.matichon.co.th/politics/news_1777443

ไล่หญิงหน่อย-เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม เขต 4 พรรคเพื่อไทย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากกรณีมีข่าวเกี่ยวกับ เผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียล เกี่ยวกับปัญหา ส.ส.ภาคอีสาน จำนวน 60 คน ไม่พอใจการทำหน้าที่ของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย  (พท.) พร้อมระบุว่า มีการแทรกแซงก้าวก่ายการทำงานในพรรค ทำให้ผู้บริหารพรรค นำโดย นายประยุทธ ศิริพาณิชย์  ประธานภาคอีสานพรรคเพื่อไทย นำกลุ่ม ส.ส.ดังกล่าว ไปพบนายทักษิณ ชินวัตร ที่เมืองดูไบ เพื่อหารือแก้ไขปัญหาขับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ออกจากตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ตนจึงได้หารือกับทางผู้บริหารพรรค พูดคุยกับส.ส.อีสาน ตามที่เป็นข่าว จนกระทั่งได้ข้อสรุปว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นเพียงแค่กระแสข่าวลือ เชื่อว่ามีขบวนการดิสเครดิตทางการเมืองกับพรรคเพื่อไทย 

เนื่องจากปัจจุบัน ส.ส.อีสาน รวมถึงผู้บริหารพรรค ยังรักให้เกียรติ เคารพการทำงานของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ เนื่องจากเป็นบุคคลสำคัญของพรรคที่มีการต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับบรรดาส.ส.ในพรรค มาตลอดโดยเฉพาะ ส.ส.อีสาน ยังคงให้การสนับสนุน และยังมีการต่อสู้ไม่ว่าการเลือกตั้ง ครั้งต่อไป ยังคงให้การสนับสนุน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี และเชื่อมั่นว่า คนอีสาน ยังรักยังสนับสนุนคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ รวมถึงพรรคเพื่อไทย ซึ่งในการเลือกตั้งที่ผ่านมา ท่ายังได้ ทุ่มเทแรงกายแรงใจ ทำงานให้กับพรรคมาเต็มที่

นายชวลิต กล่าวว่า ส่วนสถานการณ์ปัจจุบัน มีการเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดขอนแก่น คุณหญิงสุดารัตน์ ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ ยังทำงานร่วมวางแผน วางยุทธศาสตร์การทำงานร่วมกับนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค อย่างเข้มแข็งเช่นเคย ไม่มีทีท่าว่ามีความขัดแย้งเกิดขึ้นตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ยืนยันว่าการปล่อยข่าวดังกล่าวเป็นเพียงการสร้างกระแส หวังดิสเครดิตทางการเมืองกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีขบวนการเหล่านี้อยู่เบื้องหลัง ส่วนหนึ่งอาจจะหวังเพื่อกลบเกลื่อนกระแสการเมือง เกี่ยวกับพรรคฝ่ายรัฐบาลที่มีปัญหาเรื่องสภาล่ม ถึง 2 ครั้ง

“ซึ่งในฐานะของ ส.ส.อีสานของพรรคเพื่อไทยด้วยคนหนึ่ง ขอยืนยันว่าข่าว ส.ส.อีสานเคลื่อนไหวขับไล่คุณหญิงสุดารัตน์ ฯ ไม่เป็นความจริง และเชื่อมั่นว่าการปล่อยกระแสข่าวการเมืองลักษณะนี้ไม่ได้ทำให้พรรคเพื่อไทยเกิดปัญหาขัดแย้งภายใน หรือลดความเชื่อถือจากประชาชนแน่นอน เพราะพรรคเพื่อไทย หัวใจคือประชาชน และหากมีการเลือกตั้งอีกสมัยหน้า มั่นใจว่าส.ส.อีสาน และชาวอีสาน ยังพร้อมสนับสนุน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธศาสตร์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี” นายชวลิต กล่าว



'ธนาธร' อัดงบกลาโหม 'ลับลวงพราง' แฉนายพล 81คนรวยมาก ทรัพย์สินกว่า 800ล้านบ.
https://www.matichon.co.th/politics/news_1777308

“ธนาธร” ซัด งบกลาโหม ลับ-ลวง-พราง เพียบ แนะ เปิดประมูลสัมปทาน “มวย-ม้า” ให้โปร่งใส เป็นงง “ผบ.ท.บ.” บอกไม่มีปฏิบัติการ IO แต่เอกสารระบุว่ามีชัดๆ

ธนาธร-เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 1 ธันวาคม ที่พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนค. กล่าวตอนหนึ่งระหว่างบรรยายพิเศษ “ชำแหละงบประมาณกระทรวงกลาโหม” ว่า งบรายจ่ายภาพรวมของปี 2563 มีทั้งหมด 3.2 ล้านล้านบาท โดย 2.7 ล้านล้านบาท มาจากรายได้ของรัฐ อีก 500,000 ล้านบาทที่เหลือมาจากเงินกู้ตามที่รัฐบาลตั้งงบขาดดุลไว้ ซึ่งในจำนวนทั้งหมด กระทรวงกลาโหม (กห.) เป็นงบ 220,000 ล้านบาท ซึ่งเงินในส่วนนี้เราสามารถตรวจสอบได้ แต่มีเงินอีกส่วน ที่เป็นเงินนอกงบประมาณ ที่สำนักงานงบประมาณประจำสภาผู้แทนราษฎร ได้ทำตัวเลขในส่วนนี้มาให้ดู ซึ่งเป็นส่วนที่กมธ.งบฯ ไม่สามารถสั่งตัดได้ และไม่รู้ว่าใครเป็นคนสั่งจ่าย หรือ จะนำไปใช้อย่างไร โดยปี 2561 เงินนอกงบประมาณของกระทรวงกลาโหม  คือ 18,657 ล้านบาท ซึ่งสามารถสร้างรถไฟจากนครปฐมไปประจวบคีรีขันธ์ สามารถนำมาทำสวัสดิการพื้นฐานของประเทศให้ดีขึ้น โดยสามารถให้เด็กทุกคนเดือนละ 300 บาท ต่อเดือน ถ้วนหน้า พอตนพูดไป กองทัพก็ออกมาชี้แจงว่า ต้องใช้โน้นนี่ทันที

นายธนาธร กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญคือ ความโปร่งใสตรวจสอบได้ เราไม่ได้บอกว่าการนำไปใช้ในเรื่องอะไรมันผิด แต่สิ่งสำคัญคือต้องโปร่งใสทั้งขารับ และขาจ่าย ซึ่งจนถึงตอนนี้ไม่มีใครมองเห็น แม้แต่ ส.ส.เอง เงินนอกงบของกระทรวงอื่นเราเห็นมากกว่านี้ ขอดูได้ แต่ของกระทรวงกลาโหมนั้นต่างไป เนื่องจากมีกฎหมายเปิดช่องเอาไว้ ได้แก่ พรบ วินัยการเงินการคลัง พ.ศ. 2561 มาตรา 61(3) กำหนดว่า งบทั้งหมดต้องทำตามข้อกฎหมายกำหนด เว้นแต่ มีกฎหมายเขียนไว้เป็นอย่างอื่นหรือ ได้ทำมีข้อตกลงกับกระทรวงการคลังเป็นอย่างอื่น ซึ่งในส่วนนี้เปิดช่องให้ให้มีสิทธิพิเศษกับกระทรวงการคลัง ซึ่งก็มีแต่ กระทรวงกลาโหม กระทรวงเดียวที่มีข้อตกลงพิเศษตามระเบียบที่เปิดช่องไว้ นอกจากนี้ ในส่วนของข้อบังคับกลาโหมว่าด้วยการเงิน การคลัง พ.ศ. 2555 ระบุไว้ว่า ให้แบ่งเงินนอกงบประมาณเป็น 2 ประเภท โดยเฉพาะประเภทที่ 2 ระบุว่า ถ้าระบบัญชีที่ใช้กันทั่วไปไม่เหมาะสม ให้ปรับระบบบัญชีและระบบตรวจสอบเองได้ด้วย

“คำถามคือ ทำไมความสงสัยของประชาชน ที่ว่าทำไมนายพลในประเทศนี้ถึงมีทรัพย์สินมหาศาล ในส่วนของสนช. 250 คน มีนายพลถึง 81 คน นายพลที่มีทรัพย์สินมากที่สุดมีกว่า 800 ล้านบาท เฉลี่ยทั้ง 81 คน มีเฉลี่ยคนละประมาณ 80 ล้านบาท สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เกิดความสงสัยว่า ทรัพย์สินมากมายเหล่านี้ กับ เงินนอกงบประมาณ มีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่ ทั้งนี้ จากที่ผมได้ถามไปตอนที่ยังไม่ลาออกจากกมธ. ตามที่ทุกคนทราบ ตอนนี้ 4 วันแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้เอกสาร คำตอบแต่อย่างใด ซึ่งสิ่งที่น่าสังเกตุคือ เราจะได้เอกสารคำตอบที่ขอไปเมื่อไร ก็ต้องลองดูกันว่า เราจะได้เห็นข้อมูลนี้หรือไม่” นายธนาธร กล่าว

นายธนาธร กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน สนามมวยลุมพินีและสนามม้าอัศวราชสีมา ที่ จ.นครราชสีมา ก็ยังคงมีข้อสงสัยว่า หน่วยงานเหล่านี้ขึ้นตรงกับ บุคคลหรือนิติบุคคลใดกันแน่ เช่นเดียวกับกรณีการพนัน ซึ่งในสนามมวยมีการพนันหรือไม่ไม่มีใครรู้ แต่สนามม้านั้นมีแน่ๆ ตามกฎหมาย สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ระเบียบ กระทรวงมหาดไทย 2524 บอกว่า ใครจะจัดการพนันม้า ต้องขออนุญาตมท. ทุกเดือน คำถามคือ บุคคลหรือนิติบุคคลใดเป็นคนถือใยอนุญาติในการแข่งม้า ซึ่งเรายังหาไม่เจอ พาตนส่งคนไปที่ถาม ที่สำนักงานจังหวัดนครราชสีมา ก็ไม่ได้รับคำตอบ นอกจากนี้ รายได้ของการเข้าชม หรือการพนันแข่งม้า ไปอยู่ทีใครบ้าง รวมทั้งรายละเอียดอื่นๆ ที่ตนถามกระทรวงกลาโหมไป อย่างไรก็ตาม ทั้งมวยและม้า ตนไม่ได้บอกว่าเราควรยกเลิก แต่สิ่งสำคัญคือ เรื่องนี้เราควรเปิดประมูลอย่างโปร่งใส ในระบบสัมปทาน เพื่อไม่ให้ประชาชนมีข้อกังขา ไม่ต้องมีเงินใต้โต๊ะอะไร หากเราคิดว่ายังต้องมีสิ่งเหล่านี้ ก็เปิดประมูลให้โปร่งใส

นายธนาธร กล่าวว่า นอกจากนี้ กรณีปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร หรือปฏิบัติการไอโอ เคยมีเพจที่เป็นชื่อกองพันทหารที่โจมตีฝ่ายตรงข้ามอย่างเดียว ทั้งคำว่าชังชาติบ้าง เป็นภัยต่อชาติ หรือการปกครองบ้าง เราเลยมีคำถามกับกลาโหมในวันนั้นว่า กระทรวงกลาโหม มีปฏิบัติการไอโอ หรือไม่ ซึ่งในเล่มงบประมาณไม่ได้มีการระบุงบในส่วนนี้ไว้ แต่ในรายละเอียดอื่นๆ เอกสารบางชุด กลับดูเหมือนว่ามีการปฏิบัติการในส่วนนี้ หากมีก็อยากทราบว่า อำนาจในการกำหนดเนื้อหาว่าใครชังชาติ หรือใครเป็นศัตรู อยู่ที่ใคร เพราะถ้าเราดูจากสิ่งที่เกิดขึ้น นี่คือเนื้อหาที่บิดเบือนข้อเท็จจริง และทำให้คนเกลียดชังกัน สิ่งสำคัญก็คือ การมีปฏิบัติการอย่างนี้อยู่ ความเกลียดชังที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้ หมายความว่าเป็นความเกลียดชังที่ถูกสร้างขึ้น สังคมจึงเดินหน้าต่อไปไม่ได้ เพราะมีปฏิบัติการนี้อยู่ อย่างไรก็ตามพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.เอง ชี้แจงกับกมธ.ความมั่นคง กลับบอกว่าไม่มี

“การที่คุณไม่ยอมรับความหลากหลายทางความคิดที่มีอยู่ หากเราเริ่มต้นด้วยความเชื่อว่า ความจริงที่ถูกต้องมีอยู่เพียงอันหนึ่งอันเดียว ฟังแล้วก็น่าขนลุกเหมือนกัน งบของคุณถูกนำไปใช้ให้ประชาชนรู้สึกดีต่อหน่วยงานทหาร ซึ่งนี่เป็นเรื่องตลกมาก” นายธนาธร กล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่